“พอก่อนค่ะคุณฤทธิ์ เจ็บจัง” เธอรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยเหลือเกิน เพราะเริงฤทธิ์กระแทกแรงจนเกินไป
“ขอแรง ๆ ได้ไหม ไม่ได้เอาตั้งสองวัน” มีนาหน้าร้อน เมื่อเขาถึงกับนับว่าไม่ได้ร่วมรักกับเธอกี่วัน
สภาพของมีนาหลังเสร็จกิจคือนอนหอบหายใจจนตัวโยน ร่างกายเป็นจ้ำแดงไปหมดเพราะเริงฤทธิ์ใช้งานเธออย่างคุ้มค่า เพื่อทำเวลาให้มากที่สุด
“นี่เงินเอาไว้ใช้นะ” เขาเอาเงินยัดใส่มือเธอ
“ไม่เอาค่ะ มีนไม่ได้ขายตัว”
“แม่เธอยังเอาเลย ทำไมเธอไม่เอาล่ะ”
“มีนไม่เอาค่ะ”
“อย่าขัดใจฉัน ฉันไม่ชอบให้ใครขัดใจ เธอเองก็รู้” เขาเอาแต่ใจและไม่ชอบให้ใครขัดใจ มีนาไม่อยากรับเงินของเขามาจริง ๆ เพราะเธอไม่ได้ขายตัว แต่ถ้าไม่เอาเขาก็จะโมโห อาละวาด โวยวายไม่จบสิ้น แล้วเธอจะโดนเขากระแทกจนจมเตียงต้องคลานหนีจนขาสั่นอีกรอบ เลยจำต้องรับเงินจำนวนนั้นมา
พักหลังมานี้เธอรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น ประจำเดือนก็มาไม่ค่อยปกติ แต่เธอก็กินยาคุมกำเนิดที่มารดาให้กินทุกตอนเย็น คิดว่าตัวเองคงไม่ท้อง เพราะประจำเดือนเคยขาดหายไปสามสี่เดือนตอนอยู่กับยาย อาจเพราะเครียด
ตอนอยู่กับยายเธอก็ต้องปากกัดตีนถีบหาเงินเลี้ยงตัวเองไปด้วย ช่วยยายทำงานงก ๆ กว่าจะเรียนจนจบ
มารดาไม่เคยส่งเสียเลยสักบาท มีแต่โทร. มาขอเงิน ซึ่งยายก็ไม่เคยมีให้ ซึ่งจะโดนด่าว่าแรง ๆ ท่านจะหายไปพักใหญ่ก็มาขออีก มีที่ทางที่ไหนมารดาก็รบเร้าให้ยายเอาไปขายจนเหลือแต่บ้านเก่า ๆ เพียงหลังเดียว ไม่วายก็เอาไปจำนองอีก ตอนนี้โดนยึดไปเรียบร้อยแล้วเธอไม่มีที่อยู่ หลังจากยายตาย เลยต้องย้ายมาอยู่กับมารดาแบบขัดไม่ได้
ยิ่งมาอยู่ด้วยกันก็ยิ่งรู้ว่าท่านไม่ได้รักและหวังดีกับเธอเลย มีแต่คำว่าเงินหรือผลประโยชน์ล้วน ๆ
ที่มีนาไม่อยากรับเงินของเริงฤทธิ์เพราะถึงได้มา มารดาของเธอก็จะมาเอาไปจนหมด ไม่ให้ก็จะโดนตบตีทำร้าย สิ่งเดียวที่จิตราให้เธอคือคลอดเธอออกมา ที่เหลือแทบไม่มีบุญคุณอะไรกับเธอเลย
แม้เริงฤทธิ์จะเอาแต่ใจ แต่เขาก็ดีกับเธอมาก เธอจึงไม่อยากรับเงินจากเขา แค่มีที่อยู่ที่กินเธอก็พอใจแล้ว แต่เขาใจดีมากกว่านั้น เพราะคิดจะส่งเธอให้ได้เรียนต่อด้วย
เขาบอกว่าเรียนมหาวิทยาลัยเปิดก็ได้ อ่านหนังสืออยู่ที่บ้านแล้วค่อยไปสอบเอา
ความใจดีของเริงฤทธิ์มีมากมาย เขาไม่ขี้เหนียวเรื่องเงินทองเรียกว่าพร้อมเปย์เสียด้วยซ้ำ และมักแอบพาเธอไปกินอาหารดี ๆ นอกบ้าน แม้จะต้องแอบคนในบ้านไปตอนที่ต้องไปซื้อของเข้าบ้านก็ตามที เธอมีความสุขที่ได้อยู่กับเขา แม้จะต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ
คุณหญิงดาวเรืองเริ่มอยู่ติดบ้านอีกครั้งหลังกลับมาจากเที่ยวยุโรปกับเพื่อนฝูงของท่าน ท่านจึงเรียกใช้มีนาเพราะแป้นเอ่ยชมว่ามีนาขยันขันแข็งแถมยังเป็นเด็กดีอีกด้วย
“ไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะเพราะฉันอยู่ไม่ค่อยติดบ้าน” คุณหญิงดาวเรืองมองเด็กสาวที่นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ตรงพื้นอย่างพินิจพิจารณา ผิวพรรณหน้าตา ทรงผม เสื้อผ้าดูดีขึ้นจนผิดหูผิดตา
“ฉันไม่อยู่บ้านนาน เธอดูดีขึ้นนะ” ความเปลี่ยนไปของเด็กสาว ทำให้สังเกตได้ไม่ยาก
ท่านไม่เคยไว้ใจเด็กในบ้านเพราะมีความทรงจำที่ไม่ดี สามีก็นอกใจไปเอาเด็กในบ้านทำเมีย ลูกชายก็เคยพลาดท่าเสียทีให้เด็กในบ้านเพราะแค่จะหวังจับคนรวยเพื่อสูบเงิน ไม่ได้รักจริงเลยแม้แต่น้อย กว่าจะกำจัดออกไปได้ ก็เหมือนปลิงดูดเลือด แต่พอให้เงินไปก้อนหนึ่งก็รีบวิ่งแจ้นออกไปจากชีวิตของเริงฤทธิ์ในทันที คุณหญิงดาวเรืองเห็นแต่พวกหน้าเงิน เห็นแก่เงินทั้งนั้น
แม้ท่านจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่ท่านให้แป้นคอยช่วยดูพฤติกรรมของมีนาอยู่ตลอด ถ้าเข้าใกล้ลูกชายของท่านเมื่อไหร่ก็ให้รีบรายงานในทันที
มีนาก้มงุดไม่กล้ามองสบตาเจ้าของบ้าน เธอรู้ตัวเองดีว่าทำความผิดร้ายแรง แอบไปมีความสัมพันธ์กับเริงฤทธิ์อย่างลึกซึ้ง ถ้าคุณหญิงดาวเรืองรู้เข้าคงเป็นเรื่องใหญ่แน่ ๆ
“เธออ้วนขึ้นหรือเปล่า”
“น้ำหนักขึ้นนิดหน่อยค่ะ” เธอก็รู้ว่าตัวเองอ้วนขึ้น อาจเพราะเธอกินจุมากกว่าแต่ก่อน
“เป็นผู้หญิงน่ะอย่าปล่อยตัวให้มันมากนัก อ้วนฉุน่าเกลียด” คุณหญิงดาวเรืองพูดอย่างเอ็นดู ท่านเห็นว่ามีนาเงียบ ๆ นิ่ง ๆ เป็นคนเรียบร้อยเจียมเนื้อเจียมตัวแตกต่างจากแม่ราวฟ้ากับเหวจึงค่อนข้างเอ็นดูมากกว่าเด็กรับใช้คนก่อน ๆ
ท่านไม่ค่อยชอบจิตราเท่าใดนัก แต่เพราะอีกฝ่ายเคยช่วยเอาไว้ตอนโจรกระชากกระเป๋า เลยมีบุญคุณต่อกัน ถามไถ่กันไปมา เห็นว่าไม่มีงานทำ เลยรับเข้ามาทำงานที่นี่ ถึงจิตราจะไม่ค่อยเรียบร้อยนัก แต่อยู่กันมานานก็ไม่มีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยก็พอไว้ใจได้อยู่ เพราะคนเดี๋ยวนี้ไว้ใจได้ยาก ท่านก็เลยยังให้ทำงานต่อในบ้าน
“ต้นไม้พวกนี้ตัดแต่งเสียหน่อยน่าจะดี ฉันอยากเห็นต้นไม้สวย ๆ” คุณหญิงยกชาขึ้นจิบ พลางเอ่ยสั่งเด็กสาว มีนาจัดการทำตามคำสั่งในทันทีอย่างไม่อิดออด คนสวนลางานกลับบ้านหลายวัน ต้นไม้จึงไม่มีใครตัดแต่งกิ่งให้
มีนาจัดการตัดแต่งกิ่งตามรูปทรงเดิมอย่างกระตือรือร้น แม้ว่าเธอจะเป็นเมียลับ ๆ ของเริงฤทธิ์ แต่เธอก็ยังเจียมเนื้อเจียมตัวว่าเป็นใคร จึงขยันช่วยงานบ้านทุกอย่าง เพราะสำนึกในบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่คุ้มกะลาหัวของเธออยู่
“หยุด! หยุดก่อน” คุณหญิงดาวเรืองชะงักมือที่กำลังยกถ้วยชาขึ้นดื่ม ก่อนจะตวาดออกไปเสียงดังลั่น ทำให้มีนาหัวหดคุกเข่าลงอย่างตกใจ
“มีนทำอะไรให้คุณหญิงไม่พอใจหรือคะ หรือว่ามีนตัดแต่งกิ่งต้นไม้ไม่ถูกใจคุณหญิง” มีนาเอ่ยถามเสียงสั่น
“เธอท้องเหรอ เธอท้องใช่ไหมมีนา” ตอนมีนาขยับตัวไปมา ท่านเห็นว่าเด็กสาวมีหน้าท้องที่นูนออกมา มองสภาพแล้วก็เหมือนจะอ้วนแต่ไม่ใช่ เพราะเคยเป็นแม่คนมาก่อน จึงรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ความอ้วน แต่กำลังท้อง
“ท้อง! ท้องอะไรกันคะ หนูไม่ได้ท้องค่ะ” มีนารู้สึกตกใจ
“ประจำเดือนมาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่” คุณหญิงดาวเรืองคาดคั้นเสียงเข้ม
“อะไรกันคะคุณแม่ เอะอะโวยวายอะไรกัน” รังรองเดินเข้ามาเอ่ยถาม เห็นว่ามีนานั่งหน้าซีดอยู่เบื้องหน้าของมารดาก็รู้สึกว่าต้องมีอะไรแน่ ๆ
“ก็นังมีนน่ะสิมันท้อง”
“คะ” รังรองมองมีนาตาปริบ ๆ นี่พี่ชายของเธอไม่ได้ป้องกันหรือไง ทำไมสะเพร่าแบบนี้นะ
พอเธอถาม ไหนบอกว่าจัดการแล้วยังไงล่ะ
“หนูไม่ได้ท้องนะคะ”
“โกหก ฉันเห็นว่าหน้าท้องแกมันนูนออกมา ไม่ท้องแล้วแกอ้วนอะไรตรงพุง ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบนะ”
“คุณแม่ใจเย็น ๆ ก่อนนะคะ” รังรองนึกสงสารมีนาที่เอาแต่นั่งร้องไห้คุกเข่าตัวสั่นอยู่ตรงพื้นหญ้าเพราะทำอะไรไม่ถูก
“ประจำเดือนแกมาครั้งสุดท้ายวันไหน ฉันถามแกไม่ได้ยินรึไงฮะ หูแตกรึไง” คุณหญิงดาวเรืองกระชากเสียงถาม
“หนูจำไม่ได้ค่ะ ประจำเดือนของหนูมาไม่ค่อยปกติอยู่แล้ว บางเดือนก็ไม่มาค่ะ”
“ยายเริงพี่แกกับเด็กนี่นอนด้วยกันรึเปล่า” ตรงประเด็นจนรังรองอ้าปากค้าง กะพริบตาปริบ ๆ มารดาของเธอถามตรง ๆ เพราะเป็นคนตรง ท่านไม่ชอบให้ใครโกหก เคยจับได้ว่าเด็กในบ้านท้อง สุดท้ายท้องกับบิดา บิดาเฉไฉเลยเลิกรากันไป แล้วบิดาก็เสียชีวิตหลังจากเลิกกับมารดาไปได้ไม่นาน ภาพเหตุการณ์วันนั้นเหมือนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในวันนี้ เมื่อมารดาคาดคั้นและอีกฝ่ายปากแข็ง