ความลับที่ต้องรักษาด้วยชีวิต1

1612 คำ
“จินเอ๋อร์” พวกเขาหันตามเสียงเรียกอันแหบโหย จึงพบกับหยวนปินที่ร่างกายชุ่มโชกไปด้วยเลือด เข้าใช้ดาบของมู่หยางหย่งเล่อค้ำยันร่างกายไว้ไม่ให้ล้มลงบนพื้น “ท่านพ่อ ท่านแม่จากลูกไปแล้ว ท่านพ่ออย่าทิ้งลูกนะขอรับ อย่าทิ้งลูก” หยวนจินโผเข้ากอดบิดาแน่น เขาร้องเรียกบิดาเสียงแหบแห้งอย่างน่าเวทนา “ท่านอาเขย ผู้ใดทำร้ายท่าน” มู่หยางหย่งเล่อเข้าประคองอาเขยที่บาดเจ็บหนัก “พวกมันเป็นคนของหลู่โหย่วอี้ กระหม่อมตามสืบจนรู้ว่าหลู่หนานอ๋องร่วมมือกับฮ่องเต้แคว้นอู่ พวกมันสืบจนเจอเรา” “ข้าเจอพวกมันกลุ่มหนึ่งที่ริมแม่น้ำ หลบซ่อนอยู่นาน แต่เมื่อข้ากับจินเอ๋อร์ออกมาทุกคนก็ถูกทำร้ายล้มตายกันหมดแล้ว ข้าผิดเองท่านอาเขย ข้าไม่ได้อยู่ดูแลทุกคนที่นี่” “อี้เอ๋อร์ บอกว่าพระองค์ อยู่กับจินเอ๋อร์ที่แม่น้ำ กระหม่อมจึงรีบตามไป แล้วหลอกล่อพวกมัน บัดนี้พวกมันตายหมดแล้ว พระองค์กับจินเอ๋อร์ปลอดภัยแล้ว ขออย่าได้โทษตัวเองเลย จินเอ๋อร์ของพวกเรา คงต้องฝากไว้กับพระองค์แล้ว” “ท่านอาเขยโปรดวางใจ ข้าขอสาบาน ข้ามู่หยางหย่งเล่อจะดูแลและปกป้องหยวนจินด้วยชีวิตของข้า ตราบเท่าที่ข้ายังมีชีวิตอยู่เขาจะเติบโตและมีความสุข ข้าให้สัญญา” “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ ท่านซ่งชีฟงแผงตัวอยู่ในเมืองต้าหยาง ไม่มีที่กบดานแน่นอน ขอประทานอภัย ที่กระหม่อม สืบข่าว ได้เพียงเท่านี้ แฮกๆ” หยวนจินพูดจบก็กระอักเลือดออกมาจำนวนมาก “ท่านอาเขย ไม่เป็นไร ข้าไม่ถือโทษท่าน ท่านอย่าพูดอีกเลยนะ” “ท่านพ่อ ฮื่อๆ ท่านพ่อขอรับ” หยวนจินกอดบิดาร่ำไห้เสียงแหบแห้ง ถึงน้ำตาจะไม่ไหลแต่เขาก็ยังคงไม่หยุดร้องไห้เสียใจ “อย่าร้องไห้จินเอ๋อร์ เจ้าจงจำไว้ว่า พ่อกับแม่รักเจ้า และจะอยู่กับเจ้าเสมอ ลูกรัก จงเชื่อฟังคำพี่เจ้า” หยวนปินเอื้อมมืออันสั่นเทาลูบหัวลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย “ขอรับท่านพ่อ ลูกจะเชื่อฟังพี่ชาย ลูกจะจำคำของท่านพ่อท่านแม่ไว้ ท่านพ่อไม่ต้องห่วง ฮื่อๆ” “ดีแล้วจินเอ๋อร์ ดีแล้ว” พูดจบหยวนปินก็สิ้นลมต่อหน้าบุตรชายของเขา หยวนจินกอดร่างบิดาร่ำไห้ ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้ร่างกายของตนนั้นเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดของบิดามากเพียงใด “ทำความเคารพพ่อเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายเถิด หยวนจิน” หยวนจินก้มลงคำนับหยวนปินบิดาของเขาเป็นครั้งสุดท้าย มู่หยางหย่งเล่ออุ้มร่างของหยวนปินไปวางเคียงข้างองค์หญิงหรูอี้ผู้เป็นภรรยาที่รักของเขา ไม่เคยคิดว่าเวลาที่เขาจะได้อยู่กับท่านอาหญิงจะน้อยนิดถึงเพียงนี้ เขามองบุตรชายเพียงคนเดียวของท่านอาหญิงอย่างสงสาร คิดถึงอดีตครั้งเมื่อเขาสูญเสียมารดา มีเพียงท่านอาหญิงที่รักและดูแลเขา ตอนนี้ท่านอาหญิงจากไปแล้ว เหลือเพียงบุตรชายเพียงคนเดียวไว้ เขาก็พร้อมที่จะดูแลน้องชายคนนี้แทนท่านอาหญิงอย่างสุดความสามารถ “ข้า มู่หยางหย่งเล่อ ขอสาบานต่อเทพยดาฟ้าดิน ข้าจะต้องเอาเลือดของหลู่โหย่วอี้ เจ้าคนโฉด มาเซ่นสังเวยดวงวิญญาณของทุกคนให้จงได้” มู่หยางหย่งเล่อคุกเข่าคำนับทุกคนที่เสียชีวิต เขาจัดการเผาศพของทุกคน เผาบ้านเรือนทุกหลัง แล้วพาหยวนจินจากมา “ท่านพี่ ท่านสอนข้าใช้สิ่งนี้ได้หรือไม่ขอรับ” หยวนจินชี้ไปที่ดาบของมู่หยางหย่งเล่อ เขาเห็นท่านพ่อของเขาถือดาบเล่มนี้ก่อนเสียชีวิต “เดิมทีพ่อแม่เจ้าไม่อยากให้เจ้าจับดาบฟาดฟันกับใคร แต่พี่เข้าใจเจ้า ในใจเจ้าเจ็บแค้น มีหรือพี่จะไม่รู้” “ท่านพี่จะสอนข้าใช้มันใช่ไหมขอรับ” เด็กชายมองหน้าพี่ชายถามย้ำอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ “ก่อนที่เจ้าจะจับมันเจ้าต้องรู้จักมันก่อน แต่ไม่ใช่ตอนนี้จินเอ๋อร์” “ขอรับ” เด็กชายนอนกอดพี่ชายผู้เป็นญาติคนสุดท้ายของเขาแล้วหลับไป สองพี่น้องเดินทางปะปนกับผู้อพยพจากภัยสงครามเข้าเมืองต้าหยาง มู่หยางหย่งเล่อจับมือเด็กชายเดินเข้าร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง เขาสั่งแป้งทอดสามชิ้นสำหรับเด็กชายและตัวเขาเอง ไม่นานซ่งชีฟงก็ปรากฏตัว “นายท่านในที่สุดท่านก็กลับมา พวกเราตามหาท่านแทบพลิกเมือง ท่านไปอยู่ที่ไหนมา” ชายวัยกลางคนที่เพิ่งเดินมาถึงโค้งคำนับมู่หยางหย่งเล่อด้วยความนอบน้อม และเข้าถามขึ้นทันทีอย่างร้อนใจ “กลับที่พักก่อนแล้วค่อยคุยกันเถิด” เขาพูดพร้อมกับเช็ดปากให้น้องชายเมื่อเห็นว่าหยวนจินกินอาหารหมดแล้ว “ขอรับ” ซ่งชีฟงแม้จะแปลกใจกับท่าทางที่องค์ชายของเขาปฏิบัติต่อเด็กชายแต่ก็เก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจแล้วรีบเดินนำคนทั้งสองกลับที่พัก หยวนจินมองจวนหลังใหญ่ที่เห็นอยู่ตรงหน้า เขากำมือพี่ชายแน่นเมื่อต้องเดินเข้าไปในสถานที่ไม่คุ้นเคยนี้ เมื่อเข้ามาถึงก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นเหล่าชายฉกรรจ์หน้าตาดุดันหลายคนตั้งแถวพร้อมกับก้มลงคำนับ มู่หยางหย่งเล่อทำเพียงยิ้มอ่อนโยนส่งให้เขาเท่านั้น หยวนจินจึงก้าวเดินอีกครั้ง ทั้งคู่เดินผ่านสวนที่สงบร่มเย็นเข้ามาด้านใน แต่ความงดงามเหล่านั้นไม่ได้ดึงความสนใจของเด็กชายอีกแล้ว เขาทำเพียงเดินตามการนำพาของพี่ชายเท่านั้น พี่ชายคือคนที่เขาไว้ใจที่สุด “จินเอ๋อร์ เจ้ากลับไปรอพี่ที่ห้องนะ พี่คุยกับท่านอาจารย์ไม่นานจะรีบตามเจ้าไป” มู่หยางหย่งเล่อหยุดพูดกับหยวนจินที่หน้าห้องห้องหนึ่ง ที่ด้านหลังของพวกเขามีคนหน้าตาดุดันหลายคนยืนอยู่ด้วยท่าทางนอบน้อม “ข้าจะอยู่กับท่านพี่” หยวนจินกำมือพี่ชายแน่นอีกครั้ง ยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมห่างพี่ชายไปไหน “หนูน้อย ไปพักที่ห้องก่อนเถิด ให้นายท่านคุยธุระก่อนนะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งที่หน้าตาดุดันน้อยกว่าใครก้มลงพูดกับหยวนจิน แต่เขากลับทำเพียงเงยหน้ามองพี่ชายเท่านั้น “เอาเถอะ ถ้าเจ้าอยากอยู่กับพี่ เจ้าต้องนั่งเงียบๆ ห้ามเดินไปไหน” หยวนจินทำเพียงพยักหน้าตอบรับเขาเท่านั้น “อยากพูดอะไรก็พูดมาเถิดท่านอาจารย์” มู่หยางหย่งเล่อพูดขึ้นทำลายความเงียบ หลังจากที่เขาและหยวนจินนั่งลง ก็ไม่มีใครพูดอะไรทั้งๆที่แสดงสีหน้าอยากรู้อยากถามทุกคน “เขาคือใครพ่ะย่ะค่ะ” ซ่งชีฟงถามคำถามที่ทุกคนต่างก็ต้องการคำตอบ เหล่าทหารคนสนิทที่เหลืออยู่ห้านายต่างก็มองหน้ามู่หยางหย่งเล่ออย่างรอคอยคำตอบ “เขาคือน้องชายของเรา มู่หยางจิน” หยวนจินมองหน้าพี่ชาย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เหล่าทหารคนสนิทต่างมองหน้ากันอย่างงุนงงกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน “พวกท่านทั้งห้าคนพร้อมตายเพื่อปกปิดความลับนี้ของเราหรือไม่” มู่หยางหย่งเล่อมองหน้าเหล่าทหารคนสนิทกลุ่มสุดท้ายของเขา “กระหม่อมพร้อมยอมตายเพื่อพระองค์” เหล่าทหารคนสนิท ซ่งชีฟง ซ่งเยี่ยนชาง จางหลงซาน เซียวซีเหวิน และเจิ้งเหว่ยอี ต่างก็ก้มลงทำความเคารพเจ้านายเหนือหัวของพวกเขาทันทีที่สิ้นเสียงของมู่หยางหย่งเล่อ “ท่านอาหญิงของเราสิ้นแล้ว” ทุกคนต่างก็มองไปทางหยวนจิน เขาทำเพียงนั่งมองกลับมาด้วยสายตาเย็นชาเท่านั้น ไม่แสดงสีหน้าอาการใดๆให้ใครรู้ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร “องค์หญิงหรูอี้สิ้นแล้ว แล้วท่านองครักษ์หยวนปินเล่า หรือว่า” ซ่งชีฟงมองเด็กชายที่นั่งสงบนิ่งกับองค์ชายของเขาสลับกัน ทั้งคู่ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้แสดงความรู้สึกเหมือนกันไม่มีผิด “ข้า โดนศัตรูไล่ล่าอยู่สามวันสามคืน จินเอ๋อร์และพ่อของเขาช่วยข้าให้รอดพ้นมาได้ ระหว่างรักษาตัวพวกมันก็ตามมาเจอ คนในหมู่บ้านตายสิ้น เหลือเพียงแค่เราสองคน ก่อนสิ้นใจพ่อของจินเอ๋อร์บอกข้าว่าพวกท่านอยู่ที่นี่” มู่หยางหย่งเล่อเล่าเพียงแค่สิ่งที่พวกเขาควรรู้เท่านั้น ไม่ได้บอกรายละเอียดที่ชัดเจนใด หลู่โหย่วอี้คนนั้นทิ้งบทเรียนสำคัญให้เขาไว้ ว่าไม่ควรไว้ใจใคร “ข้าจะวางใจพวกท่านให้ช่วยสอนมู่หยางจินได้หรือไม่” เขามองทหารคนสนิทด้วยสายตาเรียบเฉยอีกครั้ง “กระหม่อมรับบัญชา” เหล่าคนสนิทน้อมรับคำ วันนี้หยวนจินเรียนรู้ได้ว่าทุกคำพูดของพี่ชายที่กล่าวออกมาล้วนเป็นวาจาสิทธิ์ที่ผู้คนเหล่านี้จะต้องทำตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม