หลังเลิกเรียน บ้านของแยมโรล
กด
ไม่กด
ฉันนั่งท่องสองคำนี้ในใจและสมองวนไปมาด้วยความลังเลใจพลางกำโทรศัพท์มือถือแน่น สายตาก็มองจ้องเขม็งที่หน้าโปรโฟล์เฟซบุ๊กของพี่เหมันต์ทำเหมือนกลัวมันจะมลายหายไป
เฮ้อออออ~
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความหนักใจ ไม่กล้ากดแอดเพื่อนพี่เหมันต์ไปเลย กลัวว่าพี่เหมันต์จะไม่รับ เพราะรูปโปรไฟล์ใหม่ที่ให้หมิวแต่งรูปให้แม้จะดีกว่าสภาพจริง แต่ก็ไม่ได้สวยมากพอที่จะทำให้พี่เหมันต์กดรับแบบไม่ต้องฉุกคิด
เฮ้ออออออ~
แต่เอาไงเอากัน ฉันจะลีลาไปทำไม รีบกด ๆ ไปเถอะ พี่เหมันต์จะรับไม่รับก็อีกเรื่องหนึ่ง ค่อยไปลุ้นอีกทีละกัน
กึก!
นิ้วของฉันจิ้มลงที่หน้าจอก่อนจะรีบโยนโทรศัพท์มือถือไปหัวเตียง วิ่งไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนคลุมโปงข่มตานอน รอคอยให้พี่เหมันต์ตอบรับคำขอเป็นเพื่อน แม้จะไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนก็ตาม
หลังข่มตานอนอยู่เกือบชั่วโมง ฉันก็ค่อย ๆ ดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา โดยเสี้ยววินาทีหนึ่งก่อนจะหลับลึก หูได้ยินเสียงแจ้งเตือนเบา ๆ แต่ก็ไม่มีสติลุกขึ้นมาดู
HEMAN THEERAYUT ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของคุณ…
.
เช้าวันต่อมา
“กิ๊ด!”
ฉันอยากจะแหกปากกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นบ้านถ้าไม่เกรงใจแม่ ปิดปากตัวเองแล้วกลิ้งตัวไปมาบนเตียง หัวใจเต้นระรัวด้วยความดีใจ ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง พะ..พี่เหมันต์ ตอบรับคำขอเป็นเพื่อนของฉันแล้ว!!
อ๊ายยยยย
หลังแสดงอาการดีใจอยู่คนเดียวจนหนำใจแล้ว ฉันก็รีบอาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้านมาที่ป้ายรถเมล์ และเดินทางไปโรงเรียนด้วยรถเมล์เหมือนเช่นทุกวัน
พอมาถึงโรงเรียนฉันก็เดินไปซื้อนมกล้วยที่ชอบกินเป็นประจำจากมินิมาร์ทของโรงเรียนมานั่งดื่ม โดยที่ขณะนั่งดูดนมกล้วยสายตาของฉันก็จดจ้องอยู่ที่หน้าโปรไฟล์เฟซบุ๊กของพี่เหมันต์ที่เมื่อก่อนปุ่มกดคือ ‘เพิ่มเป็นเพื่อน’ แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็น ‘เพื่อน’ แล้ว
ฉันยังไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองอยู่ดี หัวใจก็ยังเต้นสั่นรัวไม่หยุด สงสัยรูปโปรไฟล์ที่หมิวแต่งให้จะได้ผลจริง
หลังดูดนมกล้วยอึกสุดท้ายเข้าปาก ฉันก็ลุกเดินไปทิ้งลงถังขยะ ทว่าเสียงเจื้อยแจ้วและกรี๊ดกร๊าดก็ดังขึ้นเรียกสายตาของฉันให้หันมอง เห็นเป็นพี่เหมันต์และพี่คิมหันต์ที่กำลังเดินผ่านมาทางนี้พอดี
พี่เหมันต์ที่สวมแว่นกรอบใสตัดกับใบหน้าหล่อใส พลางเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงหนึ่งข้างทำให้พี่เขาดูน่ารักปนเท่อย่างบอกไม่ถูก รู้แค่ว่ามันทำให้หัวใจของฉันเต้นเร็วและแรงด้วยความตื่นเต้น
ฉันรีบหลบทางให้พี่สองคนนั้นโดยการทำตัวลีบเล็กเหมือนเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตน แอบเงยหน้าขึ้นไปมองพี่เหมันต์เล็กน้อยก็รู้สึกเหมือนพี่เหมันต์ปรายตามามองฉันแวบหนึ่งก่อนจะเดินผ่านเลยไป
แต่เดินไปได้ไม่ไกลพี่สองคนนั้นก็ต้องหยุดเดินและหันไปสนใจรุ่นพี่ผู้หญิงหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังยืนส่งยิ้มหวานพร้อมถือกล่องขนมสองกล่องในมือ
“ขนมค่ะพี่แฝด”
“ซื้อให้ทั้งสองคนเลยเหรอครับ น้องโลภมากนะเนี่ย” พี่เหมันต์หยอกเย้าถามรุ่นพี่คนนั้นไป ทำเอาเธอเลิ่กลั่กยิ้มเจื่อน แต่กระนั้นท่าทางก็ยังดูเขินอายไม่หาย
“นะ..หนูเปล่าโลภนะคะ หนูแค่อยากให้พวกพี่สองคนได้กิน”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่หยอกเล่น ขอบคุณสำหรับขนมนะครับ”
พี่เหมันต์หัวเราะชอบใจ ก่อนจะพูดขอบคุณพร้อมส่งรอยยิ้มสดใสตาหยีให้รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นแล้วก็เดินจากไปพร้อมพี่คิมหันต์ โดยที่รอยยิ้มของเขาตราตรึงอยู่ในใจฉัน
พี่เหมันต์ยิ้มน่ารักจัง...แต่พี่เหมันต์ยิ้มให้รุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้น ไม่ได้ยิ้มให้ฉัน
เฮ้ออออออ
ฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ แล้วเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งมาถึงห้องเรียน เมื่อเห็นเพื่อนสองคนก็ยิ้มร่าแล้วรีบตรงปรี่เข้าไปอวดสิ่งที่เพิ่มกำลังใจในการมาเรียนในวันนี้ของฉัน
“เรามาแล้ว~”
“อ้าวแยมโรล ทำไมวันนี้ตัวดูอารมณ์ดีจัง” ยาหยีเอ่ยถามฉันด้วยสีหน้าประหลาดใจให้ฉันไม่น้อย
“เรามีอะไรมาอวด” ยิ้มกริ่มให้เพื่อนทั้งสองที่เลิกคิ้วถาม ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดให้ดู และพอสองคนได้เห็นก็ดวงตาเบิกกว้างโตและอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“นะ..นี่พี่เขารับแอดตัวจริงเหรอเนี่ย โอเอ็มจี!” หมิวเอามือปิดปากพลางทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“พี่เขามือลั่นรึเปล่าเนี่ย” ยาหยีเอ่ยแซวพลางขำแห้ง ๆ สีหน้ายังดูประหลาดใจไม่หาย
“ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราโคตรดีใจเลยพวกตัว”
“แม้จะไม่ค่อยอยากจะเชื่อ แต่ดีใจกับตัวด้วยนะแยมโรล”
“เหมือนกันนะตัว...ว่าแต่ตัวจะทักพี่เขาไปตอนไหน?”
“ยังไม่รู้เลยอ่ะ” ฉันตอบยาหยีไปเสียงอ่อย
ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะรวบรวมความกล้าและทักไปหาพี่เหมันต์ได้ตอนไหน ตอนนี้ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ จากความกลัวในตอนแรกที่กลัวว่าพี่เหมันต์จะไม่ตอบรับเป็นเพื่อนกลายเป็นกลัวว่าถ้าทักไปแล้วพี่เหมันต์จะไม่ตอบ พี่เหมันต์เขาดังและฮอตมากในโรงเรียน คงมีคนทักไปคุยด้วยเยอะอย่างแน่นอน