ตอนที่ 15 กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
หลังจากที่ปราการและเมษาออกไป ฟ้าใสพาร่างที่ยังไม่ค่อยจะได้สติของมิลิน มานั่งโซฟาด้านล่างของบ้าน ฟ้าใสมองดูมิลิน
ที่พยายามกลั้นความรู้สึกอันเจ็บปวดเอาไว้ ไม่ให้ร้องไห้ออกมา ฟ้าใสได้แต่ถอนหายเฮือกนึง จู่ๆ เสียงกดกริ่งที่หน้าบ้านของมิลินก็ดังขึ้น
“คงจะเป็นพี่ภาคินล่ะมั้ง เดี๋ยวฟ้าใสมานะ” ฟ้าใสพูดกับมิลิน มิลินพยักหน้าให้ฟ้าใสแทนคำตอบ แววตาของมิลินยังไม่คลายความเจ็บปวดลงแม้แต่น้อย ฟ้าใสออกไปเปิดประตูให้ภาคินเข้ามานั่งข้างในเนื่องจากวันนี้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันนิดหน่อย
“พี่นั่งรอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวฟ้าใสไปหยิบกล่องพยาบาลแปบนึง” ฟ้าใสพูดกับภาคิน พร้อมกับมองไปยังร่างของมิลินด้วยความเป็นห่วง
ภาคินปรายหางตามองไปยังร่างมิลิน บาดแผลที่มือนั่นคือออะไร แต่ไม่ได้ถามออกมา ถ้าหากมิลินมีแฟนแล้ว เกิดอะไรขึ้นทำไมมิลินถึงได้เป็นแบบนี้ คืนก่อนเขาจำได้ว่ามิลินยังปฏิเสธที่จะร่วมเตียงกับเขาอยู่เลย
ฟ้าใสหายไปครู่นึง แล้วกลับมาพร้อมกล่องพยาบาลในมือ ฟ้าใสวางมันลงบนโต๊ะ แล้วย่อตัวลงบรรจงทำแผลให้มิลินอย่างเบามือ มิลินกลั้นพยายามร้องไห้อยู่ ฟ้าใสจึงบอก
“ร้องออกมาเถอะ ไม่ต้องกลั้นไว้หรอก” สิ้นเสียงคำพูดของฟ้าใส ดวงตากลมโตของมิลินก็ปรากฎน้ำตาเอ่อล้นจนไหลอาบแก้มลงมาอย่างไม่ขาดสาย ร่างกายของมิลินสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ฟ้าใสได้แต่กอดปลอบมิลิน ลูบหลังมิลินเบาๆ เพื่อส่งกำลังใจให้เพียงเท่านั้น เรื่องของหัวใจ คงต้องปล่อยให้เวลาเยียวยาหัวใจของมิลินเอง มิลินกับฟ้าใสกอดกันอยู่เนิ่นนาน จนผละออกจากกัน ฟ้าใสได้เอ่ยปากถามมิลิน
“มิลินใจเย็นๆนะ คือปราการกับเมษาเขานอนด้วยกันหรอ” ฟ้าใสถามออกไปทั้งๆที่รู้คำตอบ แต่ที่เธอถามต้องการรู้เรื่องราวให้มากกว่านี้ อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องที่ไม่ได้ตั้งใจก็ได้
“อืม” มิลินตอบเพียงสั้นๆ พร้อมกับพยักหน้า
ฟ้าใสกุมขมับ เป็นแบบนี้ความสัมพันธ์ของเราทั้งสี่คงมองหน้ากันไม่ติด หันไปมองมิลินอีกรอบ ฟ้าใสกลัวมิลินจะคิดมาก เพราะเธอเคยคิดฆ่าตัวตายไปรอบนึงแล้ว
“แล้วปราการเคยมาบ้านมิลินไหม เอ่อ เคยมานอนที่นี่กับมิลินไหม” ฟ้าใสถามเพราะอยากรู้ว่ามิลินกับปราการมีความสัมพันธ์ไปถึงขั้นไหนแล้ว หากความสัมพันธ์ของทั้งคู่ถึงขั้นนอนด้วยกัน ยังไงต้องออกไปจากบ้านหลังนี้ชั่วคราว ถ้ายังอยู่สภาพแวดล้อมเดิมๆ มิลินอาจจะคิดฆ่าตัวตายได้
“อืม” มิลินพยักหน้า ฟ้าใสกุมขมับทรุดลงนั่งกับพื้นอีกรอบนึง คราวนี้ความสัมพันธ์กับเพื่อนคงจบสิ้นลงแล้ว
ฟ้าใสเดินเข้าไปหาภาคิน โน้มตัวไปกระซิบกระซาบที่ข้างหูของภาคินเบาๆ
“พี่ภาคิน ฟ้าใสเอามิลินไปอยู่ด้วยได้ไหม มิลินอยู่คนเดียวกลัวจะคิดมาก” ฟ้าใสขอร้องอ้อนวอนภาคินซึ่งเขาเป็นเจ้าของบ้าง ฟ้าใสจึงขออนุญาตภาคินก่อน ภาคินมองไปยังร่างบางแวบนึง สีหน้าของเธอยังไม่ดีขึ้น และกลัวว่ามิลินจะไปจบชีวิตเหมือนกับแม่ของเขาอีก จึงพยักหน้าตอบตกลง
ฟ้าใสถอนหายใจด้วยความโล่งอกไปนั่งที่โซฟาแล้วกุมมือของมิลินไว้
“มิลินไปอยู่กับฟ้าใสก่อนไหม” มิลินหันมามองหน้ามาใสด้วยน้ำตาที่ยังไหลพราก ฟ้าใสไม่พูดอะไรต่อ จูงมือของมิลินไปเก็บของชั้นบน อาการแบบนี้ห้ามปล่อยให้อยู่คนเดียว
ผ่านไปครู่นึงภาคินก็ได้รับสายจากบริษัทเนื่องจากมีงานเร่งด่วน ภาคินจึงเปิดประตูเข้ามาเพื่อเร่งมิลิน
ภาคินเปิดประตูพรวดพราดเข้ามาเจอมิลินกำลังหยิบชุดชั้นในอยู่ มิลินจึงก้มหน้าลงเพราะอายภาคิน ภาพวันนั้นยังแวบเข้ามาในหัวของมิลินอีกต่างห่าง ฟ้าใสที่เห็นมิลินก้มหน้าลงใบหน้าแดงลามไปถึงหู จึงได้เอ่ยปากถามภาคิน
“พี่มีอะไร ทำไมเปิดประตูพรวดพราดเข้ามา” ฟ้าใสเสียงเข้ม ส่งสายตาดุใส่พี่ชายของตน
ภาคินปรับสีหน้าให้เย็นชาเป็นปกติ “เอ่อ พี่มีธุระต่อ เร่งมือหน่อยก็ดี” ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง พร้อมกับจ้องมองไปยังร่างของมิลิน เผลอสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า วันนั้นเขาสัมผัสมาหมดแล้ว เธอจะเขินอะไรอีก
“อะ เอ่อ เอาไปแค่นี้แหละ มิลินมีเสื้อผ้าไม่เยอะหรอก” มิลินบอกฟ้าใสที่ทำหน้าถมึงทึงใส่ภาคินอยู่
“โอเค ป่ะ” ฟ้าใสจูงมือมิลินพร้อมกับลากกระเป๋าส่งให้ภาคินถือไปขึ้นรถคันหรู