ความรักของเขาไม่ใช่การแย่งชิงหรือครอบครอง เพราะถ้าใจเธอไม่อยู่กับเขา อย่างไรเสียแต่งงานกันไปก็ต้องเลิกรากันอยู่ดี เขาอยากมีผัวเดียวเมียเดียว รักกันไปจนแก่เฒ่า ไม่อยากแต่งงานแล้วเลิกรากันไป
ถ้าเธอคิดว่าอยู่กับคนอื่นแล้วมีความสุข ดีกว่าเขา เขาก็ควรที่จะปล่อยเธอไป
แต่ถ้าเธอเป็นเมียของเขาแล้ว ตกลงปลงใจกันแล้วเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปเช่นกัน เพราะเธอได้ตัดสินใจที่จะเป็นภรรยาของเขาแล้วนั่นเอง
เขาเป็นคนรักใครรักจริง มั่นคงในความรัก รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก เขาไม่เคยหลอกตัวเอง เขารู้ว่าตัวเองต้องการสิ่งใด
“เบื่อคนรู้ทัน”
“ถ้าอยากรู้ว่าพี่มีคนอื่นหรือเปล่า ก็อยู่กับพี่ตลอดเวลาสิ”
“ใครจะไปอยู่ด้วยกันตลอดเวลาล่ะคะ ไม่ได้เป็น...” เธอพูดได้แค่นั้นก่อนจะกัดปากตัวเองเบา ๆ
“เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไรค่ะ อุ๊ย!” เขากัดปากเธออีก พอเธอจะร้องประท้วงเขาก็บดจูบเธออย่างดูดดื่ม
“มาเป็นเลขาให้พี่สิ จะได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา พี่กำลังขาดเลขาอยู่พอดีเลย” เขาไล้สะโพกผายของเธอไปมาเบา ๆ เหมือนเป็นการเชิญชวน ทำให้เธอรู้สึกสยิวเป็นอันมาก
“พี่เปรมจับได้แบบนี้แล้ว พิมพ์ก็ไม่ปลอมตัวมาเป็นเลขาพี่แล้วค่ะ”
“ไม่ต้องปลอมตัวแล้วไง แต่มาเป็นเลขาของพี่จริงๆ” ท่าทีของเขาทำให้เธอใจสั่น ไม่อยากสบตาด้วย เขาทำท่าเหมือนจะกลืนกินเธอเสียให้หมดทั้งเนื้อทั้งตัว
“พี่เปรมหิวไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวพิมพ์ทำอาหารให้กินดีไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องพลางตะครุบมือของเขาที่ไล้ตรงสะโพกผายของเธอเอาไว้ ใจของเธอสั่นรัวราวกลองเพล แทบจะหลุดออกมานอกอก
“รู้ไหมว่าพี่หิวอะไร” เขาเลื่อนมือเข้าไปภายใต้กระโปรงยาวของเธอ เลื้อยขึ้นไปตามเรียวขาเนียนละเอียด
“พี่เปรมคะ ไม่เอาแบบนี้คะ”
“แต่พี่อยากเอาเธอมากเลยตอนนี้” น้ำเสียงแหบพร่าของเขาทำเอาเธอหยาดเยิ้มอย่างมิอาจหักห้ามตัวเองได้
“พี่เปรมพอก่อนค่ะ” น้ำเสียงของพิมพ์พิศาสั่นสะท้านเมื่อนิ้วแกร่งของเขาเลื่อนขึ้นมาเกลี่ยอยู่ตรงเนินสาวอวบอูม
หยาดน้ำรักไหลซึมหยาดเยิ้มออกมาสัมผัสกับเป้ากางเกงในเนื้อบางเบา
“ฉ่ำขนาดนี้ยังจะปฏิเสธพี่อีกเหรอ” เขาเกลี่ยอยู่ตรงนั้น กดบี้จนเธอสะท้าน จึงต้องกัดปากกลั้นเสียงครางเอาไว้
“ครางออกมาได้เลย ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัว ไม่มีใครตำหนิว่าพิมพ์เสียงดังหรอกนะ เขาใช้มืออันร้ายกาจรูดกางเกงในของเธอพ้นไปจากสะโพกกลมกลึง โดยที่เธอตะครุบไม่ทัน เพียงไม่นานกางเกงในเนื้อดีของเธอก็พ้นไปจากปลายเท้าเรียบร้อยแล้ว
“พี่เปรม” พิมพ์พิศาอุทาน เสียงของเธอที่จะประท้วงจมหายเข้าไปในลำคอ ร่างของเธอร้อนผ่าวราวถูกจี้ด้วยเปลวเพลิงเมื่อนิ้วแกร่งของเขาที่เกลี่ยอยู่ตรงเนินสาว สัมผัสบดบี้ไปกับกลีบสวาทที่กำลังฉ่ำเยิ้มอย่างไม่น่าให้อภัย
“มันฉ่ำมากเลยนะครับ พี่คิดว่ามันน่าจะฉ่ำมากกว่านี้ได้อีก” เขาบี้บดติ่งกระสันของเธอ ทำเอาพิมพ์พิศาต้องร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษา
“เจ็บค่ะ” เธอรวบข้อมือหนาของเขาเอาไว้เมื่อเขาใช้นิ้วกลางยาวเหยียดกรีดตรงกลีบสวาท ก่อนจะสอดแทรกเข้าไปภายในร่องสาว
“ถ้าเยิ้มจะไม่เจ็บ เชื่อใจพี่ไหมว่าไม่ทำให้เจ็บ” พิมพ์พิศาหน้าแดงร้อนเห่อเมื่อได้ยินเขาพูดประโยคนั้น ไม่คิดว่าเขาจะพูดตรง และไม่คิดว่าเธอจะมานั่งคุยกับเขาด้วยเรื่องอย่างว่าที่กำลังจะทำกันด้วย
“พี่เปรม พอแล้วค่ะ” เธออายจนหน้าแดงยิ่งกว่าผลตำลึงสุก แต่ดูเหมือนกับว่าเขาจะไม่นำพา
“พี่รอพิมพ์มาหลายปีแล้ว”
“โกหก หายไปเรียนตั้งหลายปีไม่เคยคุยกัน”
“พี่ก็ให้คนตามดูแลอยู่ไม่ห่าง คู่หมั้นของพี่ไม่เคยสนใจผู้ชายที่ไหน รอพี่อยู่คนเดียวใช่ไหม” เขาแทรกนิ้วเข้าไปจนได้ เมื่อชวนเธอคุยจนเธอเผลอไผล
“อ๊า...” พิมพ์พิศาร้องเสียงหลงเมื่อนิ้วแกร่งสอดแทรกเข้าไปภายในร่องสวาทเกินกว่าครึ่ง
“หลงตัวเอง ใครจะไปรอกันล่ะคะ อื้อ...” พอเธอปฏิเสธเขาก็ลงโทษโดยการขยับนิ้วในร่องสวาท ทำเอาเธอร้องครางไม่เป็นส่ำ
“พี่เปรมให้คนตามดูพิมพ์เหรอคะ”
“ตามดูแล” เขาตอบแล้วก้มลงจุมพิตที่ไหล่ละมุนของเธอ มือหนายังสาละวนอยู่กับร่องสวาทอันฉ่ำเยิ้ม เธอจิกมือกับบ่ากว้างของเขา รู้สึกเสียวซ่านจนแทบทานทนไม่ไหว
“เสียวหรือเปล่า” เขากระซิบถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เร่งขยับนิ้วเข้าออกมากยิ่งขึ้น จนได้ยินเสียงหอบกระเส่าของคนที่นั่งอยู่บนตักของเขา
“อย่าหนีบขาสิ แยกขาออกให้กว้างกว่านี้หน่อย” เขากระซิบสั่งเสียงพร่า ขบเม้มติ่งหูจนเธอสะท้าน
“ไม่ต้องเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย แล้วพี่จะไม่ทำให้เธอต้องผิดหวัง”
“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา เขายังจะมาอวดอ้างความช่ำชองของตัวเองอีก คงเอาไปใช้กับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วสินะ
“ไม่ฟุ้งซ่านสิครับ” เขาชอบรู้ทันเธออยู่เรื่อย พิมพ์พิศาหัวใจเต้นระรัวเมื่อนิ้วของเขาเร่งจังหวะเร็วขึ้น
“พี่เปรม” เธอจับมือของเขาเอาไว้ พลางส่ายหน้าไปมา รู้สึกเสียวซ่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับพี่” ประโยคนั้นทำให้เธอร้องเสียงหลงก่อนที่จะเสร็จสมคานิ้วของเขา
เขาดึงนิ้วมาดูดดึงเพื่อกลืนกินเชยชิมหยาดน้ำหวานจากกายสาวของเธอ พิมพ์พิศาเห็นแล้วต้องลอบกลืนน้ำลายตามเขาไปด้วย
“อยากชิมไหม” เธอส่ายหน้าไปมา กำลังจะเอ่ยปฏิเสธ เขาก็แทรกนิ้วแกร่งเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเธอ
“รสชาติของเธอหวานละมุนนัก” ประโยคของเขาทำให้เธอยิ่งหยาดเยิ้มหนักขึ้นกว่าเก่า
เธออ้าปากงับและดูดรัดนิ้วของเขาอย่างเผลอไผล กลิ่นรสสัมผัสของกามารมณ์อันหอมหวานทำให้เธอหัวใจหวามไหว
มือหนาละออกมาจากริมฝีปากนุ่ม เขาจัดการปลดกระดุมเสื้อของเธอทีละเม็ดอย่างใจเย็น ปลดกระดุมหนึ่งเม็ดก็ก้มลงจุมพิตผิวกายผุดผ่องของเธอหนึ่งครั้ง ทำเอาพิมพ์พิศาถึงกับสะท้าน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะรู้สึกวาบหวามได้ถึงเพียงนี้ ความคิดในหัวของพิมพ์พิศาตีกันยุ่งไปหมด อยากให้เขาหยุดและอยากให้เขาทำต่อไปให้เธอถึงฝั่งฝันอันแสนหวานอีกครั้ง
ในขณะที่เธอยังตัดสินใจอะไรไม่ได้ เขาก็ปลดกระดุมออกไปจนหมดสิ้น เผยให้เห็นสัดส่วนยั่วยวนสายตา ปทุมถันอวบอัดที่ห่อหุ้มด้วยบราเซียร์สีเนื้อ การรัดรึงตรงส่วนนั้น ทำให้เขาได้เห็นเอวคอดของหล่อนอย่างชัดเจน
“ครั้งแรกของเราควรจะเป็นบนเตียงเสียมากกว่า” เขาอยากให้เธอนอนสบาย และเขาเองก็อยากละเลียดเชยชิมเธอให้สมรัก ให้สมกับการที่รอคอยมานานหลายปี