bc

กานดายาใจ

book_age16+
222
ติดตาม
1K
อ่าน
จบสุข
พ่อเลี้ยง
หมอ
ดราม่า
ชายจีบหญิง
ฉลาด
วิทยาลัย
ความลับ
affair
friends with benefits
seductive
like
intro-logo
คำนิยม

ในวันที่รักเขาไปแล้วทั้งใจและเขาเองก็ทำท่ามีใจให้...แม่ของลูกก็เดินย้อนกลับมา และเธอคนนั้นยังเป็นคนที่เขารักไม่เคยลืม ถ่านไฟเก่าที่ยังร้อน ทำท่าจะคุกรุ่นขึ้นอีกครั้ง เธอ...ผู้ซึ่งมาทีหลัง จะทำเช่นไร

++++++

หมอปราญช์ อัครหิรัญ คุณหมออายุรกรรมวัยสามสิบเศษ

ชีวิตของชายหนุ่มมองดูเหมือนเพอร์เฟคไปเสียทุกเรื่อง

แต่เขากลับประสบกับความล้มเหลวในชีวิตคู่

โดยภรรยาทิ้งลูกน้อยสองคนไว้ให้เลี้ยงดู...

ชีวิตที่กำลังซวนเซนั้นต้องการใครสักคนมาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับเด็กๆ

เพราะเขาไม่อาจรับมือไหวด้วยใจกำลังช้ำหนัก

มารดาจึงส่ง ดากานดา น้องสาวนอกไส้ที่คุณน้าของเขารับเลี้ยงดู

ในสายตาของเขา เด็กจบใหม่อย่างหล่อนนั้นไม่เหมาะเอาเสียเลย

ชายหนุ่มจึงตั้งท่าต่อต้านตั้งแต่วันแรกที่เจ้าหล่อนเหยียบย่าง...

หากแต่ว่าความใกล้ชิดทำให้ใจเขาเริ่มยอมรับ

ชายหญิงใกล้กันไม่ต่างน้ำมันใกล้ไฟ

ท่ามกลางไฟรักที่โหมกระพือ

อดีตภรรยาของเขาก็เดินย้อนกลับมา

และหล่อน...คือแม่ของลูก คือคนที่เขารักไม่เคยลืม

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
Chapter 1 บทนำ
Chapter 1 บทนำ   "ฮือๆ" "ทำไมหมอไม่รักษา ทำไมหมอปล่อยให้คนไข้ตาย ฮือๆ" "โอ้กกก..." ปราญช์โก่งคออาเจียนออกมาเมื่อเสียงเหล่านั้นตีกันดังก้องอยู่ในหัวจนแทบระเบิด เขาเพิ่งผ่านสถานการณ์เลวร้ายจากการที่คนไข้รายหนึ่งเสียชีวิตจากการป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ไม่มียาดีที่ไหนรักษาได้เพราะหมอไม่ใช่เทวดา หากแต่ญาติคนไข้บางคนกลับไม่เข้าใจ ด่าทอหมอต่างๆ นานาทั้งที่คนรักษาไม่มีใครอยากให้คนไข้ตายในมือตัวเองแม้สักคนเดียว ตลอดชีวิตของการเป็นหมอเขาชาชินเสียแล้วกับความตายจนดูเหมือนใจจะด้านชา แต่ความเป็นจริงแล้วใจเขายังไม่ชินกับการต้องตัดใจจากคนที่รักมากและหล่อนยังเป็นแม่ของลูกๆ ที่น่ารักทั้งสองคน...ลลินสาวน้อยวัยเจ็ดขวบลูกสาวคนโต และธาม ลูกชายคนเล็กวัยขวบเศษ มองดูเหมือนเขามีพร้อมซึ่งทุกสิ่งอย่าง หากแต่ไม่ใช่เลย จากการที่เขาไม่มีเวลาให้ครอบครัวเพราะทำ งานหนัก เรื่องบนเตียงจึงขาดหาย นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เขามีปากเสียงกับภรรยาบ่อยครั้ง และนำมาซึ่งฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดผึง หล่อนขอหย่าทั้งๆ ที่ลูกยังคงต้องการไออุ่นจากอ้อมอกมารดา 'อย่าลืมนะคะปราชญ์ พรุ่งนี้เรามีนัดกัน' นั่นคือข้อความที่อลินส่งมาย้ำเตือนหลังจากพยาบาลถอดเครื่องช่วยหายใจออกจากคนไข้ที่นอนรอความตาย ความกดดันจากสายตาและเสียงร่ำไห้รวมทั้งแรงกดดันจากภรรยา ทำให้เขาเครียดจนต้องวิ่งมาอาเจียนในห้องน้ำ ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว คิดยามจับจ้องมองหน้าตัวเองผ่านกระจกเงา แววตาคมกล้าแดงก่ำจากการพยายามกดความรู้สึกเอาไว้ภายใต้ท่าทีเข้มแข็งที่ใช้หลอกทุกคน ชายหนุ่มยืนทำใจอยู่นาน ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินออกไปจากห้องน้ำ เขาจะมัวมานั่งคิดถึงเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เมื่อมีคนไข้รออยู่อีกมากมาย  ++++++ 'คนไข้หมดหรือยังนะ' ดากานดาขับมอเตอร์ไซด์ไปตามถนนท่ามกลางความมืดในเวลาเกือบสามทุ่ม คือหน้าที่ประจำที่ต้องทำนั่นคือการมาส่งอาหารเย็นให้คุณพ่อลูกสองที่คลินิกของเขาทุกวันยกเว้นวันเสาร์อาทิตย์ ปราญช์จะใช้เวลาหลังเลิกงานมาตรวจคนไข้ต่อที่คลินิก กว่าจะเคลียร์คนไข้หมดก็ล่วงไปสามสี่ทุ่มของทุกวัน และเขาแทบไม่มีเวลาทานมื้อเย็นเพราะติดคนไข้ที่มานั่งรอด้วยความหวัง มารดาของหล่อนจึงเป็นคนทำอาหารเตรียมไว้ให้ โดยหล่อนเป็นคนนำมาส่ง จนกลายเป็นหน้าที่ประจำไปเสียแล้ว หญิงสาวดับเครื่องยนต์เมื่อขับมาจอดถึงหน้าคลินิกที่ยัง คงเปิดไฟส่องสว่าง ผนังกระจกใสถูกบดบังด้วยบานประตูแบบรูดบ่งบอกว่าคนไข้ภายในร้านนั้นหมดแล้ว เหลือเพียงประตูทางเข้าที่ยังคงเปิดเอาไว้รอ เขารู้...รู้ว่าในทุกๆ วันจะต้องมีคนนำอาหารมาส่งกันถึงที่ และเป็นแบบนี้มานานนับเดือนนับตั้งแต่ที่เขาแยกกันอยู่กับภรรยา หน้าคลินิกที่ว่างนอกจากรถของปราชญ์ที่จอดอยู่ บอกให้ดากานดารู้ว่าพยาบาลที่เขาจ้างให้มาช่วยงานนอกเวลานั้นกลับกันไปหมดแล้ว...ข้างในคงเหลือเพียงเขาที่กินนอนที่นี่นับตั้งแต่มีปัญหากับภรรยา คิดยามผลักบานประตูกระจกใสเข้าไปด้านใน ไม่ลืมที่จะล็อกเอาไว้เพราะกลัวผู้ไม่หวังดีเปิดเข้ามา "อาหารมาแล้วค่า" เสียงดังมาก่อนตัว…เป็นเวลาเดียวกันกับที่ปราชญ์เดินลงมาจากชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอน เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จจึงอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก ไม่คิดว่าวันนี้ดากานดาจะมาส่งอาหารเร็วกว่าทุกวัน "อุ๊ย!" คนมองสะดุ้งก้าวขาไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อสายตาสบเข้ากับร่างกึ่งเปลือยในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันกาย แววตาซุกซนไล่มองไปทั่วแผงอกกำยำที่มีหยดน้ำเกาะพราว หล่อนไม่ได้ตั้งใจไล่ลงต่ำจนไปหยุดตรงปมผืนผ้า หากแต่ไม่อาจห้ามสายตาได้ และเพียงตาสองตาสบประสานเพราะต่างฝ่ายต่างทำอะไรไม่ถูก พวงแก้มสาวก็แดงเห่อร้อนผ่าวสองมือไร้เรี่ยวแรงจนอาหารที่ถือมาด้วยแทบหลุดมือตกลงพื้น "มองอะไร ไม่เคยเห็นผู้ชายแก้ผ้าเหรอยายบ๊อง" เขากระเซ้า รอยยิ้มของเขาทำให้หล่อนรีบหลุบตาหนี กลั้นใจก้มหน้าก้มตาเดินผ่านร่างที่หอมไปด้วยกลิ่นครีมอาบน้ำ นำอาหารไปวางไว้ในครัวส่วนที่อยู่ด้านหลังสุด ท่ามกลางใจที่เต้นโครมครามตลอดเวลา และเหมือนเขาจะแกล้ง จึงเดินตาม มาในสภาพอย่างนั้นจนถึงห้องครัว "วันนี้มีอะไรกินเหรอกานดา" "พล่าปลาทูน่า กับต้มซุปไก่ค่ะ" "เธอกินมาหรือยัง" "เรียบร้อยแล้วค่ะ กานดาจะไม่กินอะไรหลังหกโมงเย็น พี่ปราชญ์เป็นหมอ แต่ทำไมกินข้าวดึกทุกวันเลยล่ะคะ มันไม่ดีต่อสุขภาพพี่ปราชญ์ก็รู้" "จะเอาเวลาที่ไหนไปกินล่ะครับ เลิกงานมาคนไข้ก็นั่งรอกันเต็มคลินิก เวลาที่ต้องกินข้าวก็คือเวลาที่คนไข้นั่งรอเราด้วยความร้อนใจ พี่ทำไม่ได้ถ้าต้องปล่อยให้คนไข้รอนาน" น้ำเสียงเขาฟังดูเหมือนอ่อนแรง และดูเหมือนเขาจะยังไม่หายเหนื่อย ดากานดาจึงจัดแจงเปิดกล่องอาหารรวมทั้งเตรียมช้อนส้อม เพียงเขานั่งลงบนเก้าอี้ก็ตักข้าวเข้าปากได้ทันที ความเงียบมาห่มคลุมเมื่อชายหนุ่มเริ่มทานอาหาร ดา กานดายืนนิ่งพิงตู้เย็นมองเขานั่งทานโดยไม่พูดไม่จา อยากจะชวนคุยแต่ก็กล้าๆ กลัวๆ เรื่องรอยร้าวระหว่างเขากับภรรยานั้นเคลียร์กันได้หรือยัง "พี่ลินไม่มาที่นี่เลยเหรอคะ" สิ้นคำถาม หล่อนต้องหน้าเจื่อนเมื่อแววตาดุๆ ตวัดมองคล้ายถูกจี้ใจดำ "มันเรื่องของผู้ใหญ่เขา เด็กอย่างเธออย่าจุ้นจ้านจะได้มั้ย!" เหมือนหล่อนฆ่าใครตาย เขารวบช้อนเข้าหากันด้วยท่าทีฉุนเฉียว ก่อนยกน้ำขึ้นกระดกลงคอรวดเดียวหมดแก้ว "อะ อิ่มแล้วเหรอคะ" "กลับไปได้แล้ว!" เขาลุกพรวดขึ้นโดยไม่ตอบ ก่อนจะดึงบานประตูห้องครัวให้เปิดแล้วแทรกร่างแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน ปิดใส่หน้าคนที่ยืนงงทำตาปริบๆ ไม่คิดว่าแค่ถามจะทำให้เขาโกรธได้ถึงเพียงนี้ 'ปากเสีย พูดอะไรไม่คิดนะกานดา' หล่อนตบปากตัวเองที่ถามออกไปแบบนั้น ลืมไปว่ามันคือเรื่องละเอียดอ่อนกว่าที่คิด และหล่อนไม่รู้หรอกว่าตลอดทั้งวันที่ผ่านมาเขาเจออะไรมาบ้าง เมื่อถูกถามจี้จุดจึงออกอาการเครียดได้ถึงเพียงนี้ 'เครียดเหรอ..บ้าจริง! จะเกิดลูกบ้าระเบิดหัวตัวเองตาย มั้ยนะ ยิ่งอยู่คนเดียวด้วย' 'หมอหนุ่มเครียดหนักเมียทิ้ง ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองคาคลินิก' นั่นคือพาดหัวข่าวที่หล่อนกลัว ไวเท่าความคิด หลังจากเก็บกล่องอาหารใส่ตะกร้า หล่อนก็รีบผลุนผลันกลับเข้าไปข้างใน จุดหมายคือห้องนอนของเขาที่อยู่ชั้นบน… "ปึงๆๆ" เสียงจิ๊จ๊ะดังอยู่ในลำคอเมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังระรัว ปราชญ์รู้ดีว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องสาวจอมจุ้นจ้าน ชายหนุ่มยืนท้าวเอวพร้อมขบริมฝีปากคล้ายครุ่นคิด สักพักแววตาที่เหลือบมองไปทางบานประตูก็ทอประกายวาววับ ตามมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดพราว "พี่ปราชญ์ เปิดประตูเดี๋ยวนี้ อย่าเพิ่งทำอะไรบ้าๆ นะคะ" "เคาะดีนักใช่มั้ย" "พรึ่บ!" ผืนผ้าที่พันกายถูกสลัดออกไปจากสะโพกสอบ ทั้งร่างเปลือยเปล่ามีเพียงบ็อกเซอร์แนบเนื้อสีขาวสะอาดห่อหุ้มความเป็นชายเอาไว้ มือแกร่งยื่นไปกระชากบานประตูให้เปิดออกจนคนข้างนอกหน้าคะมำเข้ามาตามแรง และสายตาเจ้ากรรมของเจ้าหล่อนก็โฟกัสอยู่ที่กลางกายของคนตรงหน้าอย่างไม่ตั้งใจ "อะ อุ่ย!" "มีอะไรฮึ! เคาะอยู่ได้" เหมือนเวลาหยุดเดิน ดากานดาค้างอยู่ในท่าเดิมไม่ตอบคำถามเพราะมัวตกตะลึงกับภาพตรงหน้า หล่อนรู้สึกขนลุกไปทั้งกายลามขึ้นไปถึงหัว และคล้ายจะเพิ่งนึกได้ว่าต้องตกใจ สองมือจึงยกขึ้นปิดหน้าแล้วเปล่งเสียงออกมาลั่นห้อง "กรี๊ดดด! งู" "เดี๋ยวงูจะกัดเธอแน่ ถ้าไม่รีบกลับไป!" "ไอ้พี่ปราชญ์บ้า คนหื่น คนลามก ทุเรศที่สุด!" สองมือเล็กทุบตีไปที่แผงอกกำยำ เรียกเสียงหัวเราะให้เล็ดลอดจากริมฝีปากได้รูป...นั่นคือความชาชินของปราชญ์ จากการที่เขาชอบแกล้งดากานดามาตั้งแต่ไหนแต่ไร "เธอนั่นแหละคนหื่น ขึ้นมาดูของผู้ชายถึงห้อง" "ทีหลังจะปล่อยให้เน่าตายคาคลินิกไปเลย คอยดูนะ ต่อไปนี้จะไม่ห่วงแล้ว" ปราชญ์ยิ่งหัวเราะเมื่ออีกฝ่ายทุบตีเขาทิ้งท้ายแล้วสะบัดก้นวิ่งหนีลงบันไดไป เขาชอบแกล้งให้หล่อนโกรธเพราะเวลาเจ้าหล่อนงอนนั้นน่ารักดี...ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยจริงๆ ใจของเขาร้องบอก การได้แกล้งหล่อนคือความสุขอย่างหนึ่งของเขาเท่านั้นเอง สักพักบรรยากาศก็กลับมาสู่ความเงียบงันเมื่อไร้เงาของดากานดา เมื่ออยู่เพียงลำพังเรื่องเดิมก็เข้ามาสิงใจอีกครั้ง รอย ยิ้มต้องจางหายไปจากใบหน้าเมื่อเสียงของอลินดังก้อง ชายหนุ่มเดินคอตกกลับไปแต่งตัวด้วยใจที่ไหววูบ ก่อนจะเดินกลับมาทิ้งกายลงนอนบนเตียงกว้าง แขนข้างหนึ่งยกขึ้นก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้มกับอนาคตวันข้างหน้า และนี่คือชีวิตจริงของแพทย์หนุ่มโปรไฟล์ดี ไม่มีใครรู้เลยว่าจริงๆ แล้วชีวิตของเขาไม่ได้เพอร์เฟคไปกว่าใครๆ เลย  ++++++ "ตื่นได้แล้วค่าคุณอา" เสียงใสๆ ดังก้องอยู่ข้างหู ดากานดาพลิกกายนอนหงายด้วยอารมณ์งัวเงียเพราะยังง่วงงุน หล่อนค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ เพียงภาพตรงหน้าเด่นชัดก็เห็นรอยยิ้มหน้าเป็นส่งมาให้...ลลิน หลานสาวตัวน้อยที่หล่อนรับมาช่วยเลี้ยงชั่วคราว 'อีตาบ้า คนขี้แกล้ง' หน้าพ่อของหลานซ้อนขึ้นมาบนใบหน้ากลมๆ นั่น พวงแก้มสาวแดงซ่านเมื่อนึกไปถึงเรื่องเมื่อคืน หากแต่ว่าอารมณ์กรุ่นโกรธก็ยังหลงเหลือ คิดเอาไว้แล้วว่าหากเจอหน้าจะไม่พูดด้วยสักคำเดียว "ลุกไปแปรงฟัน แล้วก็ลงไปให้อาหารปลากันเถอะค่ะ" สองมือกลมป้อมดึงรั้งแขนคนที่ยังนอนนิ่งให้ลุกขึ้นมา ดากานดาลุกนั่งแล้วบิดกายขับไล่ความง่วงงุน ก่อนจะเดินไปเข้าห้องน้ำตามคำรบเร้าของหลานสาว ซึ่งอีกฝ่ายติดหล่อนหนึบจนสาวน้อยชินเสียแล้วที่มารดาแยกกันอยู่กับบิดามานานนับเดือน "ตาปราชญ์เขาว่าไงเรื่องลูก แล้วเราจะเลี้ยงลูกให้เขาอยู่อย่างนี้เหรอกานดา เป็นอย่างนี้ก็จะไม่ได้ไปหางานทำสักทีน่ะสิ" เสียงเอ่ยทำลายความเงียบ ทำให้สองอาหลานที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการดูปลาแหวกว่ายในสายน้ำหันไปมอง...ดารณีอุ้มหลานชายวัยขวบเศษเดินตรงเข้ามาหาด้วยสีหน้าเป็นกังวล ห่วงก็ห่วงถึงอนาคตของคุณพ่อลูกสองเมียทิ้ง แต่หล่อนก็ห่วงอนาคตของลูกสาวด้วยเช่นกัน "เห็นเปรยว่าจะเอาไปเลี้ยงที่คลินิกค่ะ แล้วก็จ้างคนมาช่วยเลี้ยงให้" "เฮ้อ..." ดารณีไม่มีความเห็น แต่หล่อนกำลังนึกไปถึงแม่เด็กที่ไม่มีท่าทีว่าจะเป็นฝ่ายดูแลลูกๆ ทั้งสอง หย่ากันหล่อนไม่อยากห้ามเพราะนั่นคือเรื่องส่วนตัว แต่เรื่องลูกก็อยากให้คนสองคนคุยกันให้เข้าใจ ว่าสรุปใครจะรับเด็กไว้ในการปกครอง "แต่กานดาสงสารน้อง ไม่อยากให้อยู่ในความดูแลของคนไม่รู้จักกัน" "พูดแบบนี้ จะตามไปเลี้ยงให้เขาหรือยังไงล่ะ ฮึ" คนพูดรู้ทันลูกสาว รอยยิ้มกริ่มของมารดาทำให้แววตาคู่สวยซ่อนความรู้สึกรีบหลุบตาลง ใบหน้าร้อนผ่าวเพราะใจคิดไม่ซื่อเพียงแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับความรู้สึกลึกๆ ที่มีต่อพี่ชายต่างสายเลือด "กานดาแค่สงสารพี่ปราชญ์ค่ะ ลูกยังเล็กอยู่เลย เมียก็มาทิ้งเสียแล้ว" "แหม สงสารตัวเองก่อนเถอะจ้ะ เห็นถูกยักษ์ดุน้ำตาคลอกลับมาทุกวัน" ดากานดายิ้มเจื่อน ก่อนจะหันไปสบตากับสาวน้อยลลินที่จ้องมองมาตาแป๋วว่าผู้ใหญ่กำลังคุยเรื่องบิดาของตน และพอจะรับรู้ว่าหมายถึงตนเองและน้องชายด้วย...แววตาเว้าวอนจับจ้องหน้าคุณอาจนน่าสงสาร คล้ายจะสื่อให้รู้ว่าไม่อยากได้พี่เลี้ยงคนใหม่นอกจากดากานดาเท่านั้น ดารณีสบตาลูกสาวเป็นอันรู้กันว่าให้เลิกคุยเรื่องนี้ต่อหน้าลลิน เพราะสาวน้อยนั้นโตพอที่จะจับใจความได้บ้างแล้ว ก่อนที่หล่อนจะเดินไปหย่อนกายนั่งลงข้างๆ ดากานดา ห้อยขาลงไปในน้ำแล้วจับหลานชายนั่งตัก สายตาทอดมองไปยังบ่อปลาเบื้องหน้า เจ้าตัวเล็กบนตักมีท่าทีตื่นเต้นเมื่อเห็นฝูงปลาแหวกว่าย ชี้มือชี้ไม้เป็นพัลวันพร้อมส่งเสียงอ้อแอ้อย่างชอบใจ "คนอะไรผีเข้าผีออก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย สักวันจะปล่อยให้อดตาย หึ" ดารณีหันไปหัวเราะกับคนที่เก่งแต่ปาก ก่อนจะส่ายหัวออกมา "สงสัยเครียดเรื่องเมียจนสติสตางค์ไปหมดล่ะ ถึงได้อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ตาปราชญ์เอ๋ย" "อะแฮ่ม" "อุ้ย!" สองแม่ลูกหันไปมองตามเสียงกระแอมที่ดังขึ้นจากด้านหลัง เห็นคนที่กำลังถูกพูดลับหลังยืนกอดอกมองอยู่ก่อนแล้ว ต่างปั้นหน้าไม่ถูกกันเลยทีเดียว ดากานดารีบยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกับมารดา "เขาจะได้ยินอะไรมั้ยคะ" "ได้ยินก็ได้ยินไปสิ แม่พูดเรื่องจริง ถ้ากล้าหือเดี๋ยวจะไม่ทำกับข้าวให้กินเสียเลย หึ" ดารณีหัวเราะในลำคออย่างคนเป็นต่อ เพราะทุกวันนี้ก็ได้หล่อนที่คอยทำอาหารเย็นให้ และได้ดากานดาที่ขับมอเตอร์ไซด์ไปส่งให้ที่คลินิกทุกๆ วัน "ปาป๊าขา คิดถึงจังเลยค่ะ" ลลินลุกขึ้นจากการนั่งห้อยขาแล้ววิ่งโผเข้าหาบิดา ปราชญ์อ้าแขนรอรับสาวน้อยด้วยความคิดถึงเช่นเดียวกัน เขากอดร่างเล็กเอาไว้แล้วอุ้มขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จมูกคมสันฝังลงบนแก้มนุ่มหอมด้วยความรัก ทำอยู่อย่างนั้นจนความคิดถึงที่มีมากล้นคลายลงไปบ้าง "คิดถึงคุณแม่ด้วยค่ะ เมื่อไหร่คุณแม่จะเสร็จธุระแล้วกลับบ้านเราคะ" รอยยิ้มของคนเป็นพ่อต้องจางหายจนกลายเป็นปร่า แปร่ง สาวน้อยถามออกมาตามประสาเด็กที่ไม่รู้เรื่องความบาดหมางของผู้ใหญ่ หากแต่สายตาสามคู่ต่างสบตากันด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วนในหัวใจ ดากานดาน้ำตารื้นสะท้านในหัวอก เมื่อรู้สึกสงสารหลานทั้งสองจับใจ "พรุ่งนี้ไปเที่ยวทะเลกันมั้ยครับ เดี๋ยวปาป๊าพาไป" ปราชญ์เปลี่ยนเรื่องเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากลูกสาว และได้ผล แววตากลมโตดำขลับทอประกายแพรวพราวทันที "เย้ๆ ไปค่ะ ลลินอยากไปเที่ยวทะเล" "ให้คุณยายณีเตรียมเสื้อผ้าได้เลยครับ" สบตากับน้าสาวเป็นอันรู้กัน สักพักเสียงใสๆ ก็ดังเล็ดลอดผ่านปาก คำพูดที่ทำเอาดากานดาสะดุ้งจนเผลอสบตากับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า "ให้คุณอาไปด้วยนะคะ ถ้าคุณอาไม่ไป ลลินก็ไม่ไป" "เอ่อ..." ปราชญ์ทำหน้าปั้นยาก เหตุเพราะเขาไม่อยากไปไหนมาไหนกับสาวๆ คนไหนทั้งสิ้นในตอนนี้ ยอมรับว่ายังคงเกรงใจภรรยาและยังรักอยู่ ด้วยลึกๆ ยังคงหวังว่าหล่อนจะเปลี่ยนใจเรื่องหย่า ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังพยายามทำตัวให้ดีขึ้น จะพยายามปรับตัวเพื่อทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นครอบครัวตามเดิม และหากหล่อนเห็นว่าเขาควงสาวคนอื่นไปเที่ยวพร้อมกับลูก คะแนนในตัวเขาคงติดลบลงมากกว่าเดิมแน่นอน

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.6K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
14.4K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
39.5K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.1K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.8K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook