bc

ฮัวฟู่หรง ฮูหยินร้ายแม่ทัพทมิฬ

book_age16+
1.0K
ติดตาม
3.8K
อ่าน
reincarnation/transmigration
จบสุข
เดินทางข้ามเวลา
ราชนิกุล/ชั้นสูง
ชายจีบหญิง
เบาสมอง
วิทยาลัย
like
intro-logo
คำนิยม

เมื่อฮัวฟู่หรงถูกวางแผนฆาตกรรมให้จบชีวิตลงบนสะพานข้ามแม่น้ำเฉียนถัง

สาเหตุเพราะได้รับบทฮูหยินฮัวของแม่ทัพอินลี่ซานผู้เลื่องลือแห่งต้าฉิน

ที่นำมาทำละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งบทดังกล่าวตกมาเป็นของฮัวฟู่หรง

ดาราสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงจีน และมีชื่อแซ่ที่ดันไปตรงกับตัวละคร

ครั้นหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองมาอยู่ในอดีตยุคของขุนพลเทพแห่งต้าฉิน

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ทัพทมิฬอินลี่ซานที่กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าค้นหาฮูหยินที่หายสาบสูญไป

และเธอก็คือฮูหยินฮัวที่หายสาบสูญไปของแม่ทัพทมิฬ ที่สตรีทั่วหล้าต่างพากันริษยา

หากแต่การกลับมาครั้งนี้ของฮัวฟู่หรง ดารา่สาวชื่อดังเธอไม่ได้ไร้เดียงสาดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไป

แต่เธอร้ายและก็ถือสากับทุกๆ คนที่ทำให้คนรอบข้างที่เธอรักต้องเจ็บและตายจากอย่างไม่หวนคืน

ร้ายรักให้ถึงที่สุด ร้ายลึกทะลุไปจนสุดขั้วหัวใจ แต่ถึงร้ายอย่างไรก็เป็นหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพทมิฬ

เพราะแม่ทัพผู้กล้ารักมั่นต่อสตรีร้ายกาจนางนี้ยิ่งนัก

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
ตอนที่ 1 บทนำ
บทนำ          “หรงเอ๋อร์!”เสียงทุ้มใหญ่เรียกชื่อของสตรีนางหนึ่งดังกึกก้อง          อืมมม!!! เสียงขานรับต่ำๆ ดังขึ้นอยู่ในลำคอของหญิงสาวเมื่อได้ยินเสียงเรียกปริศนากำลังเพรียกหาเธอ ดังมาจากที่ไกลแสนไกลจนไม่สามารถพานพบกันได้          “อย่าทิ้งข้าไปหรงเอ๋อร์! กลับมาหาข้า! กลับมา! อย่าทิ้งข้า!”เสียงเพรียกหานั้นร้องเรียกอย่างเจ็บปวดจนคนที่กำลังถูกเรียกสามารถรับรู้ความรู้สึกของเขาได้          แปะ! หยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาจากขอบตาโดยไม่รู้ตัวพร้อมภาพเลือนรางบางอย่างปรากฏขึ้นและค่อยๆ แจ่มชัดจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ทว่าไม่รู้ว่าภาพนั้นคือความจริงหรือความฝันกันแน่          ครืดดดด!!!! ร่างของสตรีสาวในชุดขาวนางหนึ่ง กำลังคืบคลานอยู่บนพื้นไม้ท่ามกลางกระแสลมแรงจนอาภรณ์ขาวปลิวสะบัดและแนบลู่ไปตามลำตัวจนเผยให้เห็นเลือนรางงามของนาง ผมสีดำเป็นนิลจนขึ้นเป็นมันวาวปลิวสยายไปตามสายลมกรรโชกแรง ไร้สิ้นเครื่องประดับผมใดๆ          เบื้องหน้าคือเมืองหลวงเสียนหยางแห่งแคว้นฉิน และสถานที่กำลังยืนอยู่ในเวลานี้คือหอคอยสูงที่ถูกสร้างขึ้นภายในจวนใหญ่ของขุนนางระดับสูงผู้หนึ่ง ใบหน้าขาวซีดราวกับว่านางกำลังป่วยอยู่ในเวลานั้น ทว่าดวงตากลับเต็มไปด้วยความตื่นกลัวราวกับว่ากำลังมีบางอย่างคุกคามชีวิตอยู่ในเวลานี้ อ๊อกกกก!!!! เสียงคล้ายมีบางอย่างกำลังจะออกมาจากลำคอพร้อมร่างของนางหยุดนิ่งลง พรืดดดด!!!! โลหิตแดงฉานพุ่งออกมาจากปากจนกระจัดกระจายเต็มพื้นไปหมด พร้อมกับหยาดน้ำตาไหลร่วงรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย “ชะ...ช่วย...ช่วยด้วย...ทะ...ท่าน...ท่านพี่...”เสียงของนางกำลังเรียกหาใครบางคนอยู่ในเวลานั้น          ร่างงามแสนสวยกำลังคืบคลานคล้ายกำลังหนีอะไรบางอย่างจนสุดชีวิตเพื่อหวังให้มีลมหายใจอยู่รอดต่อไป ทว่าสถานที่ดังกล่าวช่างลับตาผู้คนเสียเหลือเกิน เมื่อนางกำลังอยู่ชั้นบนสุดของหอคอยซึ่งเทียบความสูงได้ประมาณตึกแปดชั้นเลยทีเดียว ดวงตาเฝ้ามองไปที่พระจันทร์กลมโตตรงหน้าซึ่งอยู่ไกลออกไปด้านนอก          “ชะ..ช่วย..ช่วย...ข้า..ด้วย!”เสียงเรียกหาความช่วยเหลือด้วยความหวัง และเต็มไปด้วยความกลัวเหลือประมาณ ร่างของนางกำลังคืบคลานอยู่ตรงบริเวณด้านนอก ซึ่งเป็นลานกว้างสำหรับยืนชมทิวทัศน์เมืองหลวงเสียนหยางที่กำลังเจริญรุ่งเรืองอยู่ในเวลานี้ ชั้นบนสุดของหอคอยมีเพียงลานกว้างและโต๊ะตัวยาวพร้อมตั่งจำนวนสองที่นั่งวางไว้เคียงคู่กัน ราวกับว่าใช้เป็นสถานที่พักผ่อนส่วนตัวก็ว่าได้ ทว่าในเวลานี้บนโต๊ะที่ตั้งกู่เจิ้งเอาไว้และชุดชงชา ไม่อยู่ในสภาพเดิมอีกต่อไปเมื่อสิ่งเหล่านั้นร่วงหล่นตกแตกกระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง ไม่ไกลจากตั่งที่นั่งปรากฏบุรุษปริศนายืนสูงทะมึนกำลังมองร่างแม่นางในชุดขาวพยายามคืบคลานอยู่บนพื้นเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด “คิดหรือว่าจะมีผู้ใดขึ้นมาช่วยเจ้าให้รอดตายไปจากเงื้อมมือของข้าบนหอคอยนี้!”บุรุษร่างใหญ่ผู้นั้นพูดพึมพำพลางแสยะยิ้มเหยียดพร้อมเอ่ยขึ้น “เห็นทีจะต้องเร่งเวลาให้ตายเร็วขึ้นเสียแล้ว ช่างตายยากตายเย็นเสียเหลือเกิน”พูดพร้อมเดินตรงปรี่เข้าไปหาร่างของสตรีชุดขาวที่กำลังคืบคลานพยายามหนีเอาชีวิตรอดอยู่ในเวลานั้น พรืดดดด!!! ร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวถูกหิ้วปีกยกขึ้นจากพื้นก่อนจะลากนางไปจนถึงริมระเบียงซึ่งสร้างด้วยท่อนไม้ขนาดใหญ่ล้อมรอบไปทั่วบริเวณเพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้ใดร่วงหล่นลงมาจากหอคอยนั้นได้ ฟุบ! ร่างของนางถูกยกขึ้นพาดไปกับราวระเบียงอย่างรวดเร็ว พร้อมชายแขนเสื้อสีดำขลิบสีหลืองทองที่นางมองเพียงครู่ก็ล่วงรู้โดยทันทีว่าเป็นอาภรณ์ของผู้ใด “ทะ..ท่าน..ทะ”นางพูดออกมาได้เพียงแค่นั้น ฟิ้ววววว!!!! ร่างงามของหญิงสาวในชุดขาวถูกจับเหวี่ยงลงมาจากชั้นบนสุดของหอคอยสูงลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ร่างของนางกำลังร่วงหล่นตกลงพื้นเบื้องล่างอยู่ในเวลานั้น สายลมที่พัดกรรโชกอย่างแรงกล้าราวกับว่ากำลังมีพายุได้พัดร่างจนพลิกกลับในท่าคว่ำมาอยู่ในท่านอนหงายพร้อมกับดวงตาของนางพลันเบิกกว้างด้วยไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเห็น เมื่อดวงตาเห็นร่างสูงทะมึนของบุรุษสวมอาภรณ์ที่นางตัดเย็บกับมือด้วยตัวเอง และอาภรณ์ดังกล่าวนั้นผู้ที่เป็นสามีของนางเป็นผู้สวมใส่ ซึ่งก็คือแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน แม้ว่าในเวลานี้จะเป็นยามวิกาลแต่เพราะเป็นคืนเดือนหงายและพระจันทร์เต็มดวงทำให้สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน จึงสามารถเห็นใบหน้าของคนที่โยนนางลงมาจากหอคอยได้อย่างชัดเจน ว่าผู้ชายที่สวมใส่เสื้อผ้าของสามีและจับนางโยนลงมาจากหอคอยนั่นแท้จริงแล้วเป็นผู้ใด “ท่านสังหารข้าทำไม! สังหารข้าทำไม! ทำไม!”คำพูดสุดท้ายพรั่งพรูออกมา พร้อมร่างงามร่วงหล่นจากหอคอยลงไปเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว          ตุบ! ร่างงามตกกระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมเลือดแดงฉานไหลออกจากกายจนนองไปทั่วพื้นหินเบื้องล่าง ท่ามกลางสายตาของบุรุษร่างสูงทะมึนที่ยืนแสยะยิ้มเหยียดกับผลงานการฆ่าคนของตัวเอง          ในขณะเดียวกันบริเวณพื้นเบื้องล่างของหอคอยดังกล่าว ร่างของหญิงสาวที่เพิ่งถูกจับโยนลงมาจากชั้นบนสุดนั้นก็คือฮูหยินฮัวหรือฮัวฟู่หรงของอินลี่ซานแม่ทัพทมิฬแห่งต้าฉิน นอนหายใจรวยรินพร้อมหยาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาจากขอบตา ฮูหยินสาวที่เพิ่งเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินยังไม่ทันได้ร่วมหอกับสามีของนางเสียด้วยซ้ำ ก็ต้องนำกองทัพตามพระราชโองการออกไปทำศึกกับชนเผ่าซงหนูที่ยกทัพมาตีเมืองตามขอบชายแดนเอาไปเป็นของตัวเองอย่างไม่กลัวเกรงต้าฉินแม้แต่น้อย          ทำให้ฮูหยินผู้เป็นยอดดวงใจของแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉิน ที่เพิ่งเข้าพิธีแต่งงานต้องอยู่ภายในจวนใหญ่ของสกุลอิน แวดล้อมไปด้วยบ่าวไพร่บริวารคอยดูแล และเฝ้ารอคอยการกลับมาของสามีอย่างใจจดใจจ่อมาโดยตลอด จวบจนกระทั่งห้าเดือนผ่านไปสงครามระหว่างต้าฉินและเผ่าซงหนูก็สิ้นสุดลง ชัยชนะตกเป็นของต้าฉินพร้อมข่าวการกลับมาของอินลี่ซาน ขุนศึกคู่แผ่นดินของแคว้น          ทันทีที่อินลี่ซานได้รับชัยชนะจากการทำสงครามดังกล่าวและมุ่งหน้าเดินทางกลับเมืองหลวงด้วยความคิดถึงฮูหยินของเขาอยู่ทุกลมหายใจเข้าออก พร้อมข่าวล่าสุดที่ส่งมาจากจวนแม่ทัพรายงานว่าฮูหยินผู้เป็นที่รักกำลังล้มป่วยด้วยไข้ลมหนาว มีอาการไม่ค่อยสู้ดีนักแม่ทัพหนุ่มควบม้าเร็วมุ่งหน้ากลับเมืองหลวงตรงเข้าจวนเพื่อไปหาฮูหยินของตัวเองก่อนจะเข้าเฝ้าอ๋องฉินเสียอีก          และในเวลานี้บนพื้นหินเบื้องล่างตรงบริเวณหน้าหอคอยร่างของฮูหยินคนสวยกำลังนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่ในเวลานั้น ลมหายใจสุดท้ายกำลังจะหลุดลอยออกจากร่าง แปะ!!! ดวงตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาไหลหลั่งรินออกมาไม่ขาดสาย มองตรงไปที่ประตูใหญ่ทางเข้าออกของหอคอยที่ปิดอยู่ตลอดเวลาในขณะนั้น          “ทะ...ท่าน...ท่าน...พะ....พี่!!!!”เสียงสุดท้ายดังลอดออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมลมหายใจเริ่มขาดห้วงก่อนจะสิ้นสุดลงและทันทีที่ลมหายใจสุดท้ายหลุดลอยออกจากร่างของนาง          แวบ! แวบ! แวบ! บริเวณข้อมือของฮูหยินผู้อาภัพภายใต้ชายแขนเสื้อที่ปกคลุมเกิดประกายวูบวาบทอแสงเรืองรองออกมาเหลื่อมระยิบระยับขึ้นมาทันที พร้อมเสียงคล้ายกำลังมีคนเปิดประตูบานใหญ่ตรงทางเข้าออก เพื่อเข้ามาภายในบริเวณหอคอยซึ่งร่างของฮูหยินคนงามนอนแน่นิ่งอยู่ในเวลานี้ แอดดดด!!!! บานประตูทางเข้าออกของหอคอยถูกเปิดออกในเวลาเดียวกันพร้อมเสียงตะโกนกึกก้องดังออกมาจนสุดเสียง หรงเอ๋อร์!!!!!

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เล่ห์รักนายหัว

read
6.5K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
13.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
4.0K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
13.8K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
38.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook