เล่ห์ร้ายรักมังกร

บทที่ 1 หนีเสือปะมังกร

ท่ามกลางเสียงดนตรีดังกระหึ่มและแสงไฟหลากหลายสีสาดส่องผ่านร่างบรรดานักท่องราตรีทั้งหลาย กลิ่นแอลกอฮอล์และบุหรี่ผสมปนเปสมกับเป็นสถานที่อโคจร

นภาลัย ยกเครื่องดื่มสีสวยแก้วที่เท่าไหร่ไม่รู้กระดกลงคอให้สาสมกับความเจ็บแค้นและเสียใจจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเจอมา

เธอถูกแฟนที่คบหากันมาหนึ่งปีนอกใจ แถมผู้หญิงที่เข้ามาเป็นมือที่สามยังเป็นคู่แข่งตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้แค่ทำให้เธอเสียใจ แต่มันยังทำให้นภาลัยเสียหน้าและเจ็บใจจนอกแทบระเบิด

“ขอเลี้ยงเครื่องดื่มคุณสักแก้วได้ไหมครับ”

ดวงหน้าเรียวหันไปตามเสียงก่อนจะพบกับชายหนุ่มที่เธอไม่แน่ใจว่าหน้าตาเป็นอย่างไรเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์มันทำให้ดวงตาพร่าเบลอไปหมด

นภาลัยไม่คิดตอบคำถามหรือต่อบทสนทนา ร่างเล็กหยัดกายขึ้นเต็มความสูงหมายใจจะออกไปจากที่นี่ แต่ไม่ทันที่เธอจะก้าวเดินทั้งร่างก็โงนเงนจวนจะล้ม และท่าทางมึนเมาอย่างนี้เป็นโอกาสดีของชายที่เข้ามาหา

อีกฝ่ายโอบรอบเอวบางอย่างใกล้ชิดจนเธอได้กลิ่นน้ำหอมฉุนจมูกจนต้องยู่หน้าอย่างหงุดหงิดก่อนจะผลักชายคนนั้นออกห่างกาย

‘รู้งี้กลับไปพร้อมยัยลี่ดีกว่า’

ตั้งแต่เจอเหตุการณ์เมื่อช่วงกลางวันนภาลัยก็ถูกนำตัวมาดื่มแอลกอฮอล์เพราะเพื่อนสนิทบอกว่าหัวใจสามารถเยียวยาได้ด้วยน้ำเมา ก่อนที่ลิลลี่จะชวนเธอกลับ แน่นอนว่านภาลัยโกหก เธอบอกว่าจะเรียกรถที่บ้านมารับ แต่ตัวเองกลับมานั่งดื่มที่นี่คนเดียว

และเหมือนว่าน้ำเมาจะช่วยเธอได้ดีกว่าที่คิด ถ้าไม่มีคนมาขัดอารมณ์เสียก่อน

“คุณเมาแล้วให้ผมไปส่งดีกว่า” น้ำเสียงกะลิ้มกะเหลี่ยของคนที่พยุงเธออยู่ดังขึ้นทำให้นภาลัยต้องหันกลับไปมองอย่างไม่สบอารมณ์ ถึงเธอจะแต่งตัววับ ๆ แวม ๆ เปรี้ยวซ่าสายฝอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวได้ง่าย ๆ

“ไม่ต้อง อึก”

ร่างเล็กยื้อแขนตัวเองกลับคืนแต่เพราะอีกคนยึดมันไว้แน่นทำให้จวนจะเสียหลักล้มอีกรอบ แต่คราวนี้เธอไม่ยอมให้อีกฝ่ายช่วยเหลือแล้ว

หญิงสาวชักมือกลับอย่างแรงก่อนจะเดินโซซัดโซเซออกไปจากบริเวณนี้ แต่เพราะเธอเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ไหนจะต้องพยายามหนีจากไอ้ตัวน่ารำคาญที่เอาแต่เดินตามหลังนั่นอีก ขาเรียวจึงเลือกเลี้ยวไปทางทางหนึ่งเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากคนด้านหลังก่อน โดยไม่ทันระวังตัว...

“อ้ะ !”

“มาแล้วเหรอครับ เร็วเลย ๆ”

“ฮะ”

ร่างเล็กถูกดึงเข้าไปในห้องห้องหนึ่งที่เปิดแอร์เอาไว้เย็นฉ่ำจนคนเมาขนลุกซู่ก่อนที่ทั้งร่างจะถูกรั้งเข้าสู่อ้อมแขนของใครบางคนจากทางด้านหลัง

“อื้อ”

นภาลัยตื่นตระหนกเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะเจอเรื่องแบบนี้

ร่างเล็กขืนตัวออกเท่าที่เรี่ยวแรงจะมี ปากอิ่มอ้ากว้างเตรียมกรีดร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่ทันได้ส่งเสียง กลีบปากก็ถูกปิดด้วยอวัยวะเดียวกัน

ความชื้นและนิ่มหยุ่นกวาดต้อนไปทั่วโพรงร้อนทำทั้งร่างเธอวูบวาบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไอร้อนผ่าวจากสองมือใหญ่ทำสติรางเลือน ยิ่งในยามที่มันบีบเคล้นจุดอ่อนไหวในร่างกาย ร่างเล็กก็จะกระตุกน้อย ๆ อย่างไร้เดียงสา

แม้การแสดงออกรวมถึงการแต่งกายเธอจะดูเป็นสาวแซ่บหรือเซ็กซี่ แต่แท้จริงนภาลัยยังคงอ่อนประสบการณ์เรื่องอย่างว่า กับแฟนที่เพิ่งเลิกราก็ยังไม่เคยแนบชิดกันขนาดนี้

กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ทั้งร่างถูกดันลงบนเตียงสีขาวอย่างไม่เบาแรงนัก อาการเมามายเมื่อสักครู่ราวกับถูกกระชากให้หายไปเพราะความตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ไฟในห้องสว่างโร่แต่ภาพตรงหน้ากลับพร่าเบลอไปหมด เธอเห็นเพียงเลือนรางว่าชายตรงหน้ากำลังถอดเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทออกจากตัวเผยให้เห็นผิวกายขาวซีด

เธอไม่รู้ว่าคนปลายเตียงคือใครแต่นภาลัยสามารถรับรู้ได้เลยว่าเขาต้องเป็นคนที่รูปร่างดีมากแน่ ๆ ลาดไหล่กว้างรับกับท่อนแขนกำยำ ลามมาถึงกล้ามท้องเป็นลอน และเมื่อสายตาเริ่มซุกซนมองต่ำลงไปก็เห็นเส้นขนสีอ่อนที่หายเข้าไปใต้กางเกง แต่สิ่งที่ทำให้นภาลัยหวาดหวั่นที่สุดคือความใหญ่โตที่ดันเนื้อผ้าจนขึ้นรูปนั่นต่างหาก !

ลำคอสวยกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เมื่อร่างใหญ่โตปลายเตียงกำลังโน้มลงมาใกล้จนเงาดำครอบทับร่างกายเธอ

“ฉิบ !” เสียงชายแปลกหน้าพึมพำไม่ได้ศัพท์ ทำเธอต้องรีบหลบสายตาที่มองมา ก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะซุกไซร้ลำคอสวย

สมองเล็กสับสนอย่างรุนแรง ใจหนึ่งก็อยากผลักไสหลีกหนีไปให้พ้น แต่อีกใจก็อยากประชดประชันตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด

ในเมื่อแฟนเก่านอกใจเพราะไม่ได้ทำเรื่องอย่างว่าจึงต้องไปทำกับคนอื่น เธอเองก็อยากลองทำบ้างเหมือนกัน

“ยัยนั่นน่าเบื่อจะตาย แค่จับเบาๆ ก็ตัวสั่นแล้ว”

ประโยคที่ได้ยินมาก่อนหน้าฉายวาบเข้ามาในหัวทำนภาลัยตัดสินใจได้อย่างง่ายดาย ในเมื่อเก็บความสาวไว้ให้คนที่รักแต่มันไม่มีค่าในสายตาเขานภาลัยก็อยากลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูบ้าง

ลำคอสวยเอนเอียงให้อีกคนสัมผัสได้ถนัดขึ้น ก่อนจะได้ยินเสียงทุ้มต่ำหัวเราะในลำคอแผ่วเบา

สองมือที่คิดจะผลักไสเปลี่ยนเป็นลูบไล้กล้ามเนื้อแน่นหนั่น ก่อนจะรู้สึกว่าริมฝีปากร้อนจัดกำลังไล่ผ่านสันกรามเล็กจนกระทั่งหยุดลงที่ริมฝีปากเธอ

ดวงตาสวยหลับพริ้มยอมรับสิ่งที่ตนตัดสินใจ ริมฝีปากทั้งสองประกบกันแน่นอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่อีกคนจะขบเม้มมันจนเธอสะดุ้งแล้วส่งเรียวลิ้นเข้าไปสำรวจภายใน

ครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงความหิวกระหาย แต่นภาลัยรู้สึกว่ามันรุกรานและร้อนแรงราวกับจะทำให้เธอมึนเมาไปกับรสจูบลึกซึ้งและเผาผลาญสติสัมปชัญญะที่มีอยู่เพียงน้อยนิด

ขณะที่มือทั้งสองข้างโอบรั้งเอวบางเข้าแนบชิดจนเธอรู้สึกว่าร่างกายของเขาร้อนมาก ร้อนจนเหมือนจะลามมาแผดเผาเธอด้วยซ้ำ ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นและกลิ่นกายผสมปนเปกับกลิ่นน้ำหอมของเขาราวกับกำลังมอมเธอให้กลับไปสู่อาการเมามายอีกครั้ง

ลมหายใจอุ่นร้อนรดผิวกายขาวไม่หยุดหย่อน เสียงหอบหายใจหนัก ทำให้นภาลัยรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก

“อา”

ความวาบหวิวที่ได้รับทำเสียงหวานหลุดครางแผ่ว อารมณ์รุ่มร้อนเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างน่าประหลาด ก่อนที่หน้าอกข้างหนึ่งจะถูกมือร้อนเคล้าคลึงผ่านเนื้อผ้าซีทรูเบาบางทำทั้งร่างสั่นสะท้าน

“ดะ...เดี๋ยว อุบ !”

ดวงตาสวยเบิกกว้างก่อนจะหลับลงเมื่อคนด้านบนครอบครองปากอิ่มอีกครั้งราวกับไม่ยินยอมให้เธอส่งเสียงร้องหรือห้ามปรามใดๆ ทั้งนั้น ริมฝีปากดูดดึงและรุกล้ำอย่างเอาแต่ใจ ก่อนที่มือหนาจะจัดการรั้งเดรสสั้นสุดยั่ว เผยให้เห็นผิวกายขาวผ่องและความอวบอิ่มเต็มสองตา

“สวย” ประโยคแรกที่ได้ยินจากอีกคนหนึ่งช่างหวานหู เธอไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองกันอย่างไรและเธอก็ไม่กล้าพอที่จะลืมตาขึ้นมาพิสูจน์เหมือนกัน

เมื่อไร้สิ่งกีดขวางมือหนาที่สัมผัสเนื้อนุ่มก็ทำเธอสะดุ้งโหยง เพราะร่างกายอีกคนร้อนผ่าวต่างจากเธอที่ตัวเย็นเฉียบเพราะอุณหภูมิภายในห้อง

ดวงตาสีอ่อนไม่อาจละไปจากเรือนร่างงดงามตรงหน้าได้แม้แต่น้อย และดวงตาคู่นั้นยังถูกฉาบไปด้วยความต้องการอย่างล้นหลาม ยิ่งเสียงหวานหลุดครางให้ได้ยิน ก็ยิ่งทำให้เขามีอารมณ์

“แม่งเอ๊ย !”

สิ้นเสียงทุกสัมผัสก็ละออกไป ก่อนที่ทั้งร่างเธอจะถูกทับทาบด้วยเนื้อกายอุ่นจัด

นภาลัยลมหายใจสะดุดเมื่อส่วนนั้นของเราเสียดสีกันแบบไม่มีอะไรกั้น และมันชวนให้เธอตื่นเต้นและอยากรู้อยากลองอย่างที่ไม่เคยเป็นแม้แต่กระทั่งกับอดีตแฟนหนุ่ม

ดวงตาคู่สวยหลับปี๋ สองมือเล็กจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น หน้าท้องหดเกร็งเมื่อส่วนปลายค่อย ๆ แทรกเข้าผ่านกลีบดอกไม้ที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสหรือรุกล้ำมาก่อนในชีวิต

“อ๊า !”