บทที่ 9 ปกป้อง

1414 คำ
ซ่า ! “อุ๊ย ขอโทษนะคะ แก้มสะดุดขาตัวเองก็เลย-” “ไม่เป็นไรนะ” “อะ...อื้ม” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูก่อนที่นภาลัยจะลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองไม่เปียกน้ำสักหยด เพราะคนนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้เข้ามาโอบกอดและรับน้ำเย็นจัดแทนเธอแล้ว เสื้อยืดสีขาวเปียกชื้นจนเห็นกล้ามเนื้อแข็งแรงด้านใน ก่อนที่คนตัวสูงจะผละออกไปมองผู้กระทำอย่างเอาเรื่อง แก้มใสถือแก้วน้ำใบใหญ่ไว้ด้วยมือสั่นเทา และสีหน้ากล้ำกลืนแบบนั้นทำนภาลัยอยากหัวเราะชะมัด เจ้าหล่อนคงตั้งใจจะเอาน้ำในแก้วมาเทใส่เธอให้ขายขี้หน้าสินะ “ทำบ้าอะไรของแก” นภาลัยลุกขึ้นประชันหน้ากับตัวต้นเรื่อง เธอไม่ชอบก็แสดงออกว่าไม่ชอบ ดังนั้นนภาลัยจึงไม่ค่อยเข้าใจการกระทำของอีกฝ่ายนัก ในเมื่อเกลียดกันก็ควรต่างคนต่างอยู่ไปสิ จะมาวุ่นวายอะไรหนักหนา ร้านอาหารที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยจอแจค่อย ๆ ซาลง ผู้คนต่างหันมาให้ความสนใจเราทั้งสี่คนที่กำลังยืนประชันหน้ากัน แก้มใสใบหน้าซีดเผือดเมื่อสักครู่เธอต้องการสาดน้ำใส่นภาลัยเพื่อให้เจ้าหล่อนอับอายและดูเป็นตัวตลกในสายตาแฟนหนุ่ม แต่เธอไม่คิดเลยว่าดราก้อนที่นั่งอยู่ตรงข้ามจะย้ายฝั่งได้รวดเร็วปานลมกรด อีกทั้งเขายังปกป้องและรับน้ำเย็นจัดไปเต็ม ๆ “ต้องขอโทษแทนแก้มด้วยยัยนี่ซุ่มซ่าม หวังว่าเธอคงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแค่นี้” อเล็กซ์ที่ไร้บทบาทอยู่นานเอ่ยขึ้น ทว่าคำพูดของเขาราวกับมีคนเอาเชื้อเพลิงมาราดใส่กองไฟในอารมณ์เธอ เพราะมันหมายความว่าถ้าเธอถือสาก็จะกลายเป็นคนใจแคบ ทั้งที่นภาลัยก็อยู่ของตัวเองดี ๆ ความรู้สึกดีที่เคยมอบให้อีกฝ่ายน้อยลงเรื่อย ๆ และนภาลัยคิดว่าอีกไม่นานมันคงติดลบเข้าสักวันแน่ ไม่รู้ตอนนั้นเธอหน้ามืดตามัวหลงรักเขาไปได้ยังไง “ถ้างั้นนายก็ควรดูแลแฟนตัวเองดี ๆ สิ ไม่ใช่มาเดินเพ่นพ่านเหมือนหมาไม่มีเจ้าของแบบนี้” “ฟ้า !” “ทำไม !” “ใจเย็นน่า” ดราก้อนเข้ามาลูบหัวไหล่เธอราวกับกำลังปลอบโยนให้ใจเย็นลงทั้งที่เขาเป็นคนถูกสาดน้ำใส่แท้ ๆ “ร้านระดับนี้ไม่ต้องถือแก้วเดินไปเดินมาหรอกนะ ถ้าเธอไม่รู้หรือไม่เคยเข้าก็น่าจะศึกษาสักหน่อย ส่วนนายดูแลแฟนตัวเองให้ดีหน่อย และอย่ามายุ่งกับคนของฉันให้มาก” เสียงเข้มต่อว่าสองคนนั้นอย่างไม่ไว้หน้าทำเอาผู้คนที่สนใจเรื่องซุบซิบหญิง ๆ ชาย ๆ อยู่แล้วตั้งหน้าตั้งตารอดูเรื่องราวต่อไป “เอ่อ...แก้มใสขอโทษด้วยนะคะ ถ้าแก้มขอซื้อเสื้อใหม่ชดใช้ให้ได้ไหม” “ไม่ต้อง แฟนฉัน ฉันทำเอง” นภาลัยเข้าไปประชิดร่างสูงใหญ่ที่เปียกโชกไปกว่าครึ่งตัว ก่อนจะควงท่อนแขนกำยำให้รู้ไปเลยว่าดราก้อนเป็นของเธอ แค่อีกฝ่ายอ้าปากก็เห็นไปถึงลิ้นไก่และดูท่าหญิงสาวตรงหน้าจะสนใจและใส่ใจแฟนเธอไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งสองเดินออกจากร้านอาหารหลังจากเหตุการณ์วุ่นวาย แต่เมื่อถึงรถยนต์คันสวยที่จอดอยู่โซนซูเปอร์คาร์นภาลัยก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ “รอแปบ เดี๋ยวมา” ร่างเล็กมุ่งหน้าไปยังชอปแบรนด์เนมยี่ห้อเดียวกับเสื้อที่ดราก้อนสวมใส่ ไม่รอช้าเธอรีบรูดบัตรซื้อมันและกลับมาที่รถทันที “อะ เสื้อ ฉันซื้อคืนให้ ขอบคุณที่ช่วยเมื่อกี้” เมื่อถึงรถหญิงสาวก็ยื่นเสื้อยืดตัวใหม่ให้ชายหนุ่มแต่ดราก้อนเพียงมองมันนิ่ง ๆ เท่านั้น “พี่รับไปสิ” มือหนาเอื้อมออกไปรับถุงกระดาษสีเขียวมาไว้ในมือพลางอมยิ้มเล็กน้อย ดราก้อนถอดเสื้อยืดเปียกชื้นก่อนจะโยนมันไปทิ้งไว้ด้านหลัง แต่เมื่อตาคมเหลือบไปเห็นสีหน้าแดงก่ำของคนข้างตัวเขาก็นึกอยากแกล้งอีกคนขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “ไหน ๆ ก็ซื้อมาแล้วใส่ให้ฉันหน่อยเป็นไง” “พี่ก็ใส่เองสิ” “ขี้เกียจ” “ฮะ” ทั้งที่ตัวเองถอดเสื้อเปลือยท่อนบนอยู่เนี่ยนะ แต่สิ่งที่ทำให้ใบหน้าสวยขึ้นสีมากที่สุดเห็นจะเป็นรอยเล็บที่ขีดข่วนอยู่ตามแผงอกหนา และเมื่อคิดสาเหตุของมันเธอก็ยิ่งอับอายมากขึ้นไปอีก เพราะมันเกิดจากความเสียวซ่านของเธอน่ะสิ และเมื่อเห็นอีกคนไม่มีท่าทีจะหยิบเสื้อขึ้นมาจากถุงก็เป็นนภาลัยเองที่ทนกับความหน้ามึนไม่ไหว “หันมาสิ” เสื้อยืดสีขาวถูกคลี่ออกก่อนที่มือเล็กจะสวมใส่ให้คนตรงหน้าเงียบ ๆ ทว่าความเงียบพวกนั้นมันชวนให้ท้องน้อยเธอปั่นป่วนชะมัด บรรยากาศในรถเงียบเชียบมีเพียงเสียงกุกกักของเธอกับเสียงลมหายใจของเราสองคน และท่าทางใกล้ชิดมันทำให้นภาลัยอดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ ‘ตั้งสติหน่อยยัยฟ้า’ เพียงชั่วอึดใจนภาลัยก็ใส่เสื้อให้อีกคนเสร็จสิ้นก่อนที่เธอจะรีบเอาตัวเองกลับมานั่งที่เดิม อีกทั้งยังเขยิบไปจนตัวติดประตู โดยมีดวงตาคมคายมองกันอยู่ไม่ห่าง “หน้าแดงนะ” “เปล่าสักหน่อย” มือเล็กอังแก้มทั้งสองข้างและพบว่าอุณหภูมิใบหน้าเธอช่างร้อนผ่าว ร่างเล็กเบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างเพราะเธอไม่ต้องการให้ดราก้อนเห็นและคิดว่ามันเกิดจากความเขินอายอะไรพรรคนั้น... ... “ไงไอ้น้องเขย” เจ้าป่าทักทายเพื่อนสนิทพร้อมรอยยิ้มขบขันเมื่อเห็นดราก้อนนั่งกระดกเหล้าอยู่ก่อนแล้ว “กูนึกว่าตายคาอกเมียไปแล้ว” “ถ้าได้ตายคาอกเมียจริง ๆ กูก็ยินดีโว้ย” เจ้าป่าตอบอย่างไม่ยี่หระ และใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างนั้นมันทำให้เพื่อนในกลุ่มหมั่นไส้ไปตาม ๆ กัน พวกเรานัดกันที่คลับของอัศวินเพราะต่างคนต่างว่าง อีกทั้งช่วงนี้เราไม่ค่อยได้เจอกัน และสาเหตุก็ไม่ใช่อะไรเพราะไอ้พวกเพื่อนสนิทมันติดลูกติดเมียจนลืมเพื่อนที่ยังโสดเพียงหนึ่งเดียวอย่างเขา “หลงเมียเป็นบ้า” “เดี๋ยวมึงก็หลง” “กูกับยัยนั่นแค่แกล้งคบกัน” ดราก้อนพูดอย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งที่ไอ้พวกนี้รู้ดีแก่ใจว่าเขาแค่แสร้งคบกับนภาลัยแต่ก็ยังพูดถึงเจ้าหล่อนไม่หยุด สงสัยกรรมจะตามสนองที่เขาเคยแซวพวกมันเมื่อในอดีต “ฟ้าน่ารักนะ” “แล้วไง” “แล้วก็สเป็กมึงสุด ๆ ด้วย” เจ้าป่าไม่ตอบคำถามทั้งยังเอาแต่พูดสิ่งที่ต้องการโดยไม่สนสีหน้ารำคาญของหนุ่มลูกครึ่ง “เงียบน่า กูชวนมากินเหล้าไม่ได้มาฟังมึงพล่าม” “หึ” “อย่าหลงเขาให้พวกกูเห็นก็แล้วกัน” เสียงทุ้มของอัศวินเอ่ยขึ้น ตอนที่รู้ว่าดราก้อนที่หวงแหนความโสดยิ่งกว่าอะไรตกลงคบกับนภาลัยก็แปลกใจไม่น้อย ถึงแม้จะเป็นการคบกันเพื่อตบตาคนอื่นก็เถอะ แต่เขาไม่เห็นว่าดราก้อนจะได้ประโยชน์อะไรด้วยสักนิด เรื่องที่แม่มันอยากจะให้เดตหรือคบหากับใครสักคนนั้นถ้าเจ้าตัวไม่ยอมมีหรือใครจะบังคับได้ แล้วอะไรล่ะที่ทำให้ดราก้อนยอมกระโดดเข้าไปในเกมแสนวุ่นวายครั้งนี้... สิ้นเสียงอัศวินคนถูกพูดก็ถึงเพียงยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ มือหนายกเหล้าขึ้นจิบพลางคิดไปถึงเรื่องเมื่อกลางวัน ดูก็รู้ว่ายัยนั่นยังตัดใจจากแฟนเก่าไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นท่าทางที่แสดงออกก็ถูกใจเขาไม่หยอก แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นดวงหน้าหวานที่มักจะแดงก่ำยามที่เราใกล้ชิดกัน ทั้งที่ภายนอกดูเป็นสาวแก่นซ่า แต่ภายในกลับไร้เดียงสากว่าที่คิด ยิ่งยามที่ความไร้เดียงสานั้นเกิดขึ้นตอนอยู่บนเตียงก็ทำดราก้อนติดใจมันไม่น้อย แต่ก็แค่เรื่องบนเตียงน่ะนะ...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม