RIKKIE : 3

942 คำ
RIKKIE : 3 คู่แข่งเป็นนักแข่งมืออาชีพในเซอร์กิตเหรอ เหอะ ก็ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลยนี่หว่า ไอ้แฮคบอกว่าความเร็วผมดีแต่แค่นี้เอาชนะคู่แข่งไม่ได้ ผมว่าข้อมูลมันมั่วแล้วล่ะ ตั้งแต่สตาร์ทผมเป็นฝ่ายตามก็จริง เราเลือกวิธีออกตัวแบบโยนเหรียญ โดยจะให้รถคันหนึ่งวิ่งนำไปก่อนแล้วอีกคันตามหลังเพราะถนนบนทางลาดเขาแคบ เขาลูกนี้ถนนสองเลนก็จริงแต่กฎนี้เป็นธรรมเนียมสากลที่ใช้ในทุกๆ การแข่ง ผมขับตามรถคู่แข่งมาแบบประชิด มองไลน์การขับและการเคลื่อนไหวของรถข้างหน้าอย่างวิเคราะห์ไปด้วย ก็ดูมีทักษะดีอ่ะนะ แต่ขับตามตำราเป๊ะๆ อย่างนี้เอาชนะผมไม่ได้หรอก ไม่รู้ไอ้แฮคกับเรซมันเอาข้อมูลนักแข่งมาจากไหน เทียบกับโปรไฟล์ที่พวกนั้นบอกแล้วตัวจริงอย่างห่วย! ผมเหยียบคันเร่งแซงตรงโค้งมรณะเลยครับ ป้ายเตือนภัยสะเทือนวูบไหวทันทีที่รถสองคันวิ่งคู่ขี่สูสีกันเข้าโค้ง แป๊บเดียวแต่เหมือนนาน เวลาในรถเดินช้าลงไปด้วย ทุกวินาทีที่ผ่านไปผมจดจำภาพเหล่านั้นได้ชัดเจน ไอ้ไก่อ่อนที่คุยโวนักหนาว่ามีฝีมือทำหน้าตื่นตกใจเมื่อเห็นผมเบียดแซงขึ้นมา “อยากตายหรือไงวะ” หมอนั่นที่ขนาดชื่อผมยังจำไม่ได้แหกปากตะโกนอยู่ในรถ ผมมองเห็นหน้ามันผ่านกระจกและอ่านปากมันในแวบเดียว หึ.... โทษทีว่ะ อ่อนแอก็แพ้ไป ผมกระตุกยิ้มให้มันอย่างไม่แคร์ ถ้าบังคับรถได้อย่างใจนึกก็ไม่มีอะไรต้องกลัว มีแต่พวกมือไม่ถึงขั้นเท่านั้นแหละที่จะพลาด เคร้ง! เสียงรถกระแทกกับราวกั้นเหว หลังจากนั้นไม่ถึงอึดใจรถไอ้เวรนั่นก็เหวี่ยงมากระแทกรถผมจนเสียการควบคุมไปชั่วขณะ เวร!! หมอนั่นมันคงลนแล้วบังคับรถพลาดทำให้รถส่าย ให้ตายสิ ผมควบคุมพวงมาลัยสลับกับเหยียบเบรกเพื่อบังคับรถให้อยู่ในไลน์ที่ปลอดภัยจนหลุดโค้งนั่นออกมาได้ แล้วเหยียบยาวมาเลย ไม่ได้สนใจรถไอ้ไก่อ่อนด้านหลังนั่นอีก ผมเห็นรถมันหมุนวนเป็นวงกลมตอนออกจากโค้งนิดเดียวก่อนจะดับสนิทควันคุกรุ่นผ่านทางกระจกส่องหลัง พอพ้นระยะการมองเห็นผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ไม่รู้มันตามมาหรือถอดใจออกจากการแข่งไปแล้ว สงสารนักลงทุนที่จ้างมันมาแข่งชะมัด ผมเข้าเส้นชัยอย่างวินๆ “เจ๋งว่ะ” เฮียหมูเดินเข้ามาชนมือกับผมเป็นคนแรก ส่วนเรซพอรู้ผลมันก็เดินไปหาสปอนเซอร์ก็คุณลุงใส่สูทท่าทางภูมิฐานนั่นล่ะครับ ได้ยินว่าเป็น CEO บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อะไรสักอย่างแต่เหมือนการแข่งครั้งนี้ไม่ได้แข่งเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจแต่เป็นเรื่องอะไรสักอย่างผมไม่ทราบรายละเอียด มีหน้าที่ขับก็ขับไปชนะก็รับส่วนแบ่งเท่านั้น ถ้าสนใจมากจะรบกวนสมาธิในการขับเปล่าๆ “ไม่ค่อยสมราคาคุยเท่าไหร่” ผมหันกลับไปมองด้านหลังที่รถคู่แข่งเพิ่งจะวิ่งมาถึง เฮียหมูมองตามแล้วพูดอะไรต่ออีกสองสามประโยค ผมก็แค่เออออไปด้วยแบบไม่ใส่ใจ ไอ้แฮคกำลังเช็กสภาพรถผมอยู่ (ตั้งแต่จอดนั่นแหละ) เสร็จแล้วมันก็เดินเข้ามาหา “ไม่มีอะไรเสียหาย นอกจากรอยบุบนิดหน่อย ขับกลับไปซ่อมที่อู่แล้วกัน” “อือ” ผมพยักหน้า มันกับพวกลูกไม้ลูกมือก็เดินแยกออกไปทางเต็นท์ที่พัก เรซยังคงยุ่งอยู่กับพวกสปอนเซอร์ ผมมองซ้ายมองขวาอย่างสงสัย “หาใครเหรอ” เฮียหมูถาม “ยัยนั่น” “หืม อ้อแม่หนูคะนิ้งน่ะเหรอ” ผมมองหน้าเฮียเงียบๆ คิดว่ายัยนั่นคงจะอยู่กับเฮียและคนอื่นๆ แต่นี่กลับไม่เห็น อย่าบอกนะว่าหนีไปแล้ว บนภูเขาเนี่ยนะคิดอะไรอยู่วะ “ว่าไงเฮีย ยัยนั่นอยู่ไหน” “จะว่าไป ตั้งแต่นายแข่งก็ไม่เห็นเลยว่ะ น่าจะอยู่แถวๆ นี้ล่ะ เฮ้ยริกกี้!” ผมพรวดพราดออกมาทันทีที่เฮียพูดแบบนั้น กวาดตามองหายัยนั่นไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ เดินมาหาที่เต็นท์ก็ไม่มีวี่แวว เฮียหมูเห็นท่าทางวุ่นวายของผมก็ช่วยหายัยนั่นอีกแรง ให้ตายสิ ผมเดินมาจับราวกั้นขอบทางอย่างหัวเสีย มองลงไปที่เส้นทางลงเขาเบื้องล่างที่มืดสนิท มองหายัยนั่นไปด้วยเผื่อว่าจะเจอ มันจะเจอได้ไงว่ะ ผมส่ายหัวแรงๆ ทันทีที่รู้ตัวว่าคิดอะไรบ้าๆ “เฮ้ยริกกี้” ผมหันไปมองเฮียที่เดินเข้ามาเรียกจากด้านหลัง “เด็กของเราบอกว่าเห็นคนที่มีลักษณะคล้ายคะนิ้งขึ้นรถไปกับไอ้คลื่น” “เชี่ยเอ๊ย!” ผมสบถออกมาคำหนึ่ง แววตาลุกวาวด้วยความโกรธ ไอ้คลื่น สวะอย่างมันมาทำอะไรที่นี่แถมยังพายัยนั่นไปด้วย “รู้ไหมว่าไปทางไหน” “ถ้าไม่กลับกรุงเทพก็น่าจะอยู่รีสอร์ตแถวๆ นี้ ให้คนของเราช่วยสืบก็น่าจะรู้ ว่าแต่เด็กนั่นเกี่ยวอะไรกับไอ้คลื่นเหรอ” “ผมยังไม่บอกเฮีย? ยัยนั่นคือผู้หญิงที่ผมยิงคืนนั้น” “....!!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม