Chapter 1

2067 คำ
ยาที่คุณหมอหนุ่มในคลินิกแปลกๆ คนนั้นจ่ายมาให้ ใช้ได้ผลดีชะงัดจนน่าแปลกใจ นอกจากเธอจะหลับสนิทได้ในรอบหลายเดือนแล้ว เธอยังไม่ฝันถึงผู้ชายคนนั้นที่พยายามจะมาปลุกปล้ำเธออีก มหัศจรรย์ที่สุด! จากที่ตั้งใจว่าจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว คิดว่าเสียค่าโง่ไปอะไรแบบนั้น สุดท้ายเธอก็ต้องกลับมาอีกครั้งด้วยทัศนคติที่ดีขึ้น วันนี้คลินิกของเขายังคงเงียบงันเช่นเคย เสียงกระดิ่งหน้าประตูทำให้อังเดรที่กำลังเช็กสต็อกสมุนไพรภายในร้านเงยหน้าขึ้นมอง พอเห็นว่าเป็นสาวไทยคนสวยที่เคยมารักษาอาการนอนไม่หลับเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เขาก็ละสายตาจากคอมพิวเตอร์มามองเธอตรงๆ “สวัสดีค่ะคุณหมอ” โมราทักทาย ยิ้มกว้างอวดฟันขาว อังเดรพยักหน้าเล็กน้อย สังเกต สีหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มของเธอ ความอ่อนล้าไม่มีแล้ว ใต้ตาก็ไม่คล้ำแล้ว ดูสดชื่นร่างเริงขึ้น แสดงว่าวิธีการของเขาได้ผลดีชะงัดเลยล่ะสินะ ก็แน่ล่ะ พวกอินคิวบัส ถ้าไม่ได้อยู่ในความฝันแล้วก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ปีศาจชั้นต่ำที่ทำได้เพียงเป็นปรสิตเกาะกินวิญญาณของมนุษย์จะไปสู้อะไรกับพ่อมดที่ครั้งหนึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้วิเศษอย่างเขาได้กันล่ะ ระดับชนชั้นทางอำนาจมนตรามันต่างกัน “ยิ้มออกขนาดนี้ ผมเดาว่าคุณคงจะหลับสบายแล้ว” “ค่ะ” โมราตอบรับ “วิธีของคุณหมอได้ผลดีมาก นอกจากจะหลับสบายแล้ว ฉันก็ไม่ฝันเลยค่ะ หมายถึง...ไม่ฝันถึงผู้ชายคนนั้นน่ะค่ะ” เธอย้ำมา อังเดรก็พอจะรู้ มันเป็นอิทธิฤทธิ์อันน่ามหัศจรรย์จากเกลืออย่างไรล่ะ “ดีแล้วล่ะครับ แล้ววันนี้คุณอยากให้ผมช่วยอะไร” “เห็นคุณหมอบอกว่าจะต้องฟอโลว์อัป ฉันก็เลยมา” อังเดรพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้นผมขอวัดความดันแล้วก็ตรวจอะไรเล็กๆ น้อยๆ สักหน่อยแล้วกันนะครับ” โมราตอบตกลง จากนั้นการตรวจร่างกายเบื้องต้นก็เริ่มต้นขึ้น อีกครั้ง ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ จนกระทั่งถึงขั้นตอนการจ่ายยา “ช่วงนี้คุณนอนหลับได้เองหรือยัง” เขาถามเพื่อที่จะได้ไม่ต้องให้เธอกินยานอนหลับอีก ต่อให้เป็นยาซึ่งสกัดมาจากสมุนไพรธรรมชาติ แต่การที่กินมากๆ ก็ไม่ดี มันจะทำให้เธอ เสพติดยานอนหลับได้ โชคดีที่โมราพยักหน้า “นอนเองได้แล้วค่ะ พอถึงเวลานอนปุ๊บ ก็ดับเครื่องปั๊บ” หญิงสาวตอบอย่างอารมณ์ดี ท่าทางการได้กลับมานอนตามปกติจะทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ อังเดรเห็นท่าทางที่เหมือนเด็กๆ ของหญิงสาวซึ่งกำลังยิ้มกว้างให้เขาอยู่ก็อดหัวเราะในลำคอเบาๆ ขึ้นมาไม่ได้ เขาหัวเราะ...เป็นครั้งแรกในรอบปีเลยทีเดียว “ถ้าอย่างนั้นผมก็จะจ่ายยานอนหลับไปน้อยหน่อยแล้วกัน เอาไว้เผื่อว่าคุณจะนอนไม่หลับอีก แต่ถ้าไม่มีอาการแล้ว ก็ไม่ต้องทานนะครับ ผมไม่อยากให้คุณทานต่อเนื่องสักเท่าไรไม่ว่าจะเป็นยาอะไรก็ตาม” โมราเข้าใจเรื่องนี้ดี เธอเองก็ไม่ชอบกินยาเท่าไรเหมือนกัน “แต่น้ำมันหอมระเหย จะใช้ต่อเนื่องยังไงก็ได้ ถ้าคุณชอบก็ใช้ได้เลย” “ค่ะ” “ส่วนเกลือ” เขาเหลือบมองหน้าเธอเล็กน้อย “ห้ามเอาออกจากรอบเตียงเด็ดขาด ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ถ้าคุณทำความสำอาดห้อง เก็บกวาดเกลือเก่าทิ้งไปแล้ว ก็ไปเอาเกลือใหม่มาโรย ใช้เกลือที่คุณปรุงอาหารนั่นล่ะ เหมือนกัน” เขาย้ำ เรื่องนี้สำคัญมากๆ เพราะการที่อินคิวบัสไม่มายุ่งวุ่นวายกับเธออีกเป็นเพราะอำนาจของเกลือขับไล่ปีศาจนั่นล่ะ โมราอยากจะถามเหมือนกันว่าทำไมเกลือถึงได้สำคัญขนาดนี้ แต่พอคิดจะอ้าปากถาม เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานก็ดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับตามให้เธอรีบไปแก้แบบเสื้อผ้าที่เธอออกแบบค้างเอาไว้เพื่อเสนอให้กับลูกค้าในวันพรุ่งนี้ “เดี๋ยวฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ” เธอร้องบอก เป็นการเตือนโดยนัยว่าให้เขารีบคิดค่าบริการและค่ายาให้เธอ อังเดรใช้เวลาอันสั้นในการจัดการทั้งหมดให้เสร็จสิ้น หญิงสาวรับของมา บอกลาและก้าวออกนอกร้าน ทุกอย่างควรจะเป็นเหมือนเดิมคือการที่อังเดรมองคนไข้ของเขาจากไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น ทว่าวันนี้กลับไม่เหมือนเดิมตรงที่จู่ๆ เขาก็เห็นเงาสีดำลอยตามหลังเธอไป แต่ครู่เดียวก็หายวับไปกับอากาศราวกับรู้ว่าถูกเขาจ้องมอง เท่านั้นดวงตา สีเขียวคู่สวยก็เบิกกว้าง อินคิวบัส! ปกติแล้วพวกมันจะมาปรากฏกายในความฝันเท่านั้น ไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นอย่างนี้ ความจริงแล้วอังเดรจะไม่สนใจก็ได้เพราะไม่ใช่เรื่องของเขา แต่ด้วยรู้ว่าอินคิวบัสตนนั้นคิดสิ่งใดอยู่ และดูท่าทางจะตามตอแยเธอไม่เลิกจนกว่าจะสมประสงค์ เขาก็นึกเป็นห่วงหญิงสาวผู้มีรอยยิ้มสวยหวานขึ้นมา ชายหนุ่มรีบร้อนก้าวออกมาจากคลินิก ร้องเรียกอีกฝ่ายที่กำลังเดินห่างออกไป “คุณ! คุณครับ!” เสียงคุ้นเคยทำให้โมราชะงักและหันไปมอง พอเห็นว่าเป็นอังเดรที่กี่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาใกล้ก็เลิกคิ้วสูง “มีอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ” อังเดรเดินมาหยุดตรงหน้า สีหน้าเคร่งเครียดมากทีเดียว ทำเอาโมราต้องเลิกคิ้วสูงมากกว่าเดิมเพราะไม่เห็นเขาพูดอะไรสักที “ว่าไงคะ คุณหมอมีอะไรหรือเปล่า” นั่นสิ เขามีเรื่องอะไรถึงได้เรียกเธอเอาไว้กันล่ะ อังเดรก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะอ้างอะไรดี ตอนเขาพุ่งพรวดออกมาก็ไม่ทันจะได้คิด ตอนนี้จะให้บอกว่าเป็นเพราะเขาเห็นเงาของ อินคิวบัสติดตามเธออยู่ก็ไม่ได้เสียด้วย เป็นผู้มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์ก็ลำบากเหมือนกันแฮะ! “หรือว่าฉันจะลืมอะไรไว้คะ” เห็นเขาไม่พูดสักที โมราเลยเดาเอา ช่วงนี้เธอมักจะลืมอะไรบ่อยๆ เสียด้วย ชักไม่มั่นใจความสามารถในด้านความจำขอตัวเองสักเท่าไร ซึ่งมันก็เข้าทางอังเดรทันที เขารีบพยักหน้า “ครับ คุณลืม” “อะไรเหรอคะ” แล้วก็ต้องจนมุมอีกครั้ง ลืมอะไรดีล่ะ? “ลืมบอกผมว่าชื่อของคุณมีความหมายว่าอะไร” “เอ๊ะ?” “ผมเห็นว่าชื่อโมรามันแปลกดี เลยอยากรู้ความหมาย” เขาพูดไปก็ก่นด่าตัวเองไปในใจ เขาเหมือนผู้ชายที่ใช้มุกจีบสาวโง่ๆ อย่างที่เขาเกลียดชะมัด! แต่จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ เมื่อกี้นี้มันคิดไม่ทันนี่นา โมราได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะออกมาน้อยๆ เธอไม่ใช่สาวไร้เดียงสาที่จะไม่รู้ว่ากำลังถูกคุณหมอหนุ่มรูปหล่อคนนี้หยอกไก่อยู่ และเธอก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาด้วยถ้าหากว่าผู้ชายตรงหน้าจะจีบเธอ ไหนๆ เธอก็ยังโสดอยู่และสวยมาก จะลองเล่นกับเขาสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร “โมราคือชื่อหินชนิดหนึ่งในภาษาไทยค่ะ หินโมรา ภาษาอังกฤษเรียกว่าหินอาเกต[1] หญิงสาวยิ้มกว้างขณะตอบ อังเดรก็ตีสีหน้าเรียบนิ่งไปแล้วเพราะไปต่อไม่ถูก ทำไมเขาต้องมาทำอะไรโง่ๆ แบบนี้ด้วยนะ “รู้จักไหมคะ” แล้วก็ต้องได้สติกลับคืนมาอีกครั้งเมื่อเธอถาม เขาพยักหน้า “เป็นหินเครื่องราง รู้จักครับ” ทำไมจะไม่รู้จักกันล่ะ เครื่องรางของขลังหรือความเชื่อใดๆ ในโลกนี้ มีหรือที่พ่อมดซึ่งมีอายุหลายร้อยปีอย่างเขาจะไม่รู้ เขาต้องรู้อยู่แล้ว “งั้นฉันถามคุณหมอคืนบ้าง” โมราเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “คุณหมอชื่ออะไรคะ” “...” “คุณหมอรู้ชื่อฉันแล้ว เพื่อความยุติธรรม ฉันก็ต้องรู้ชื่อคุณหมอบ้าง” “ชื่อผมก็มีติดอยู่ในคลินิก” เรื่องนั้นเธอรู้ แต่ว่า... “ฉันมัวแต่สนใจเรื่องของตัวเองเลยไม่ทันได้อ่านน่ะค่ะ ถ้าจะกรุณา คุณหมอบอกฉันจากปากตัวเองได้ไหม” เธอว่าเสียงใสเชียว ท่าทางก็ไม่ขัดเขินใดๆ ด้วย รู้เลยว่าหญิงสาวเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดี ทำเอาความอิหลักอิเหลื่อเมื่อครู่นี้ของเขาค่อยๆ บรรเทาลงไปด้วย “อังเดรครับ... อังเดร ชาร์แมน” เขาบอกเสียเต็มยศเชียว “เรียกว่า อังเดรก็พอ” พูดจบก็ปั้นหน้าเครียด โมรายิ้มกว้าง พอจะดูออกว่าผู้ชายตรงหน้าเธอจีบสาวไม่เป็นสักเท่าไร มีอย่างที่ไหน จะจีบสาวแต่ทำหน้าตาน่ากลัว ดีนะที่เขาหล่อมากพอจะทำให้ความน่ากลัวเป็นความน่ามอง ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เธอคงเผ่นแน่บไปแล้ว “ค่ะ คุณหมออังเดร” เธอเงียบไปครู่ รอให้เขาได้พูดอะไรต่อ ทว่าอังเดรกลับพ่นลมหายใจแล้วก็มีท่าทางหงุดหงิดน้อยๆ ออกมาให้เห็น คงไม่มีอะไรจะถามเธอแล้วล่ะสินะ “ตอนนี้คุณหมอได้คำตอบแล้ว งั้น...ฉันไปได้หรือยังคะ” โมราชี้นิ้วโป้งไปยังข้างๆ ตัว อังเดรรู้สึกตัวในคราวนี้ว่าควรจะยุติสถานการณ์บ้าๆ แบบนี้ได้แล้ว อันที่จริงที่เขาพุ่งพรวดตามเธอมาก็ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะถามความหมายของชื่อเธอด้วย เขาแค่มาดูให้แน่ใจว่า อินคิวบัสไม่ได้ตามเธอไปทุกที่ ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ดังนั้นก็คงจะต้องยุติเรื่องแล้วล่ะ “เชิญครับ” เขาผายมือ โมรายิ้มให้อีกครั้งจนคนมองอดคิดไม่ได้ว่าหญิงสาวเป็นคนที่ยิ้มเก่งมากจริงๆ หากทว่าเมื่อร่างเล็กหันหลังเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็หันกลับมาแล้วตรงเข้ามาหาเขาอีกครั้งพร้อมกับยื่นกระดาษใบเล็กๆ ให้ “เผื่อว่าคุณหมออยากจะติดต่อฉันเป็นการส่วนตัวค่ะ ในใบซักประวัติ ฉันไม่ได้กรอกเบอร์ส่วนตัวลงไป เป็นเบอร์สำหรับใช้ทำงาน แต่ถ้าคุณหมออยากติดต่อเป็นการส่วนตัว...ก็ตามนี้เลยค่ะ” อังเดรรับนามบัตรนั้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หญิงสาวผละออกมา ทิ้งท้ายอำลาสั้นๆ “ไว้คุยกันนะคะ” หมายความว่าเธอจะรอให้เขาติดต่อไปอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทางเสียหรอก คนอย่างอังเดรจะไม่มีวันไปยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หน้าไหนก็ตาม เพราะชีวิตของมนุษย์น่ะ มันสั้นจะตาย เขาไม่เสียเวลาไปสร้างความสัมพันธ์ลึกซึ้งแล้วก็รอเวลาพลัดพรากให้ตัวเองได้เจ็บปวดเล่นอย่างที่แล้วมาหรอก พอหญิงสาวหายขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว เขาก็ทำท่าจะขยำนามบัตรนั้นแล้วทิ้งลงถังขยะ ทว่าก็ชะงักไว้ด้วยรู้สึกเสียดายอะไรบางอย่าง ซึ่ง...เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเสียดายอะไร เอาเถอะ ถ้าอย่างนั้นก็เก็บเอาไว้ก่อนแล้วกัน นามบัตรถูกเก็บลงกระเป๋ากางเกง ก่อนที่พ่อมดหนุ่มจะเดินกลับเข้าคลินิกของตน พร้อมกับความมั่นใจว่าไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่ติดต่อเธอไปแน่ ไม่มีวัน... [1] หินอาเกต (Agate) หรือหินโมรา เป็นเครื่องรางของขลังที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณ ชาวอียิปต์เชื่อกันว่าหินอาเกตเป็นเครื่องรางที่สามารถป้องกันภัยอันตรายให้กับผู้เป็นเจ้าของได้ จึงนิยมพกติดตัว หรือใช้เป็นเครื่องประดับ บ้างก็ยังถือกันว่าเป็นตัวแทนของทรัพย์สิน ข่วยเพิ่มความมั่งคั่งร่ำรวยให้ผู้เป็นเจ้าของ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม