Chapter 3

2374 คำ
เขามีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปี ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขาหวั่นไหว แม้แต่คนที่สวยกว่าเธอ ยั่วยวนอวบอัดกว่าเธอ เขาก็ล้วนเจอมาหมดแล้วทั้งนั้น แต่ก็ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะคล้อยตาม แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ไม่มีทางเลยที่เขาจะติดใจเธอได้ เขาก็แค่...รำคาญที่เห็นอินคิวบัสมันก่อกวนคนไข้ของเขาเท่านั้น พอว่าไปอย่างนี้ ก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อ คล้ายกับรู้กันว่าต่อให้พูดไป อังเดรก็ไม่ยอมรับหรอก ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงพยายามก้าวเข้ามาในชีวิตของพ่อมดหนุ่มคนนี้ หากทว่าก็ล้มเหลวไปเสียทุกราย ผู้หญิงคนล่าสุดนี้ก็คงจะพบกับความล้มเหลวไม่ต่างกัน เพราะพ่อมดคนนี้น่ะ นอกจากจะเก่งกาจในเรื่องของมนตราคาถาแล้ว ก็ยังตายด้านเก่งไม่แพ้กันอีกด้วย “งั้นพวกฉันก็จะไม่ถามนายแล้ว ว่าแต่นายเถอะ มางานเลี้ยงทั้งที ทำตัวให้มันสดชื่นหน่อย มีอายุหลายร้อยปีก็จริง แต่ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นคนแก่ตามอายุไปด้วยนะ” วาเลนไทน์ว่า เบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น ขณะที่อังเดรพึมพำเบาๆ “ฉันไม่ชอบงานเลี้ยง” “ไม่ชอบแต่ก็มา แปลกคนดีนะนายน่ะ” ก็เพราะอยากมีเรื่องให้ทำเพื่อลืมสาวไทยเจ้าเสน่ห์คนนั้นต่างหาก แต่คราวนี้อังเดรไม่พูดแล้ว เขารินไวน์ลงแก้วตัวเอง กระดกดื่มท่ามกลางสายตาเพื่อนๆ ที่พากันมองหน้าแล้วอมยิ้มประหนึ่งกำลังจะบริภาษเขาว่า ‘หนุ่มน้อยไร้เดียงสา’ อะไรประมาณนั้น “โอเค ถ้านายมางานเลี้ยงของฉันเพราะอยากจะลืมเรื่องแม่สาวคนนั้นล่ะก็ ฉันมีวิธีทำให้นายลืมอยู่” วาเลนไทน์ว่ามาอีกแล้ว อังเดรหรี่ตามองอย่างไม่ไว้ใจ วิธีของเจ้าค้างคาวนี่ต้องไม่ธรรมดาแน่ ซึ่งก็จริงเสียด้วยเมื่อวาเลนไทน์กระดิกนิ้วเรียกบริกรที่เดินผ่าน “ช่วยไปตามแขกของฉันมาหน่อยสิ” คำว่า ‘แขก’ ทำให้อังเดรรู้ทันทีว่าต้องเป็นผู้หญิง แขกของวาเลนไทน์ไม่เคยมีเพศอื่นเลยสักครั้ง และก็จริงอย่างที่คาดเดาไว้ ไม่นานนัก หญิงสาวผมบลอนด์เรือนร่างอวบอัดในชุดเดรสสีดำก็ปรากฏให้เห็น เธอแย้มยิ้มริมฝีปากที่ทาลิปสติก สีแดงสดกว้าง ก่อนจะเรียกชื่อเจ้าของงานเลี้ยงด้วยน้ำเสียงหวานจ๋อย “คุณวาเลนมีอะไรจะคุยกับฉันเหรอคะ” “ผมอยากแนะนำเพื่อนๆ ให้คุณรู้จักน่ะ นั่งก่อนสิ” จากนั้นวาเลนไทน์ก็เชื้อเชิญให้เธอทรุดตัวลงนั่งข้างๆ พลันแนะนำเธอให้ทุกคนได้รู้จัก “เธอคือลิซ่า ตัวแทนจากแบรนด์เสื้อผ้าที่ฉันเป็นนายทุนให้อยู่ วันนี้มาร่วมงานเลี้ยงก็เพื่อพูดคุยกับสปอนเซอร์ที่จะจัดงานเดินแบบการกุศลที่นี่” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นนายทุนแล้ว ก็วาเลนไทน์นี่ล่ะที่เป็นสปอนเซอร์งานเดินแบบการกุศล เรียกได้ว่าเขามีอิทธิพลในวงการแฟชั่นและภาพยนตร์มากจริงๆ “ส่วนนี่เพื่อนผม โรมิโอกับปารีส คิดว่าคุณคงจะรู้จักแล้ว” วาเลนไทน์พยักพเยิดไปทางชายหนุ่มทั้งสอง ซึ่งลิซ่ารู้จักอยู่แล้ว “ค่ะ เหลือแต่เพื่อนของคุณอีกคนที่ฉันยังไม่เคยเห็นหน้า” หญิงสาวชายตาไปยังอังเดรที่กระดกไวน์ขึ้นดื่มอีกครั้ง ว่าเป็นเชิงให้วาเลนไทน์ได้แนะนำ วาเลนไทน์ก็รู้หน้าที่ของตัวเอง รีบแนะนำเพื่อนทันที “หมอนั่นชื่ออังเดร ชาร์แมน ไม่ค่อยมีใครเห็นหน้าหรอก หมอนี่ไม่ชอบสังสรรค์” “สวัสดีค่ะคุณชาร์แมน ดีใจที่ได้พบนะคะ” ลิซ่ายื่นมือออกไปตรงหน้า หวังจะให้อีกฝ่ายจับทักทาย หากทว่า อังเดรทำเพียงว่าเนิบนาบเท่านั้น “ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ไม่ยื่นมือไปจับ ไม่สัมผัส ไม่สนใจใดๆ ทั้งสิ้น เป็นลิซ่าที่ต้องดึงมือตัวเองกลับแล้วหัวเราะแห้งๆ แทน ก่อนที่วาเลนไทน์จะทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดนั้นลง “ว่าแต่ เพื่อนของคุณไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่เรียกให้มานั่งด้วยกัน ผมยังมีเรื่องจะคุยกับเธออีกเยอะเลย” พูดไป สายตาก็ประกายแวววาว มองดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งจะเจอเหยื่อ คนใหม่ และที่ถามถึงก็ไม่ใช่อะไร เขาตั้งใจว่าจะเกี้ยวแล้วพาเธอขึ้นเตียง ในคืนนี้ตามประสาคนช่ำชองเรื่องผู้หญิงนั่นล่ะ เคยมีผู้หญิงคนไหนรอดพ้นเงื้อมือเขาไปได้บ้างกันเล่า ลิซ่าเองก็รู้งาน เพราะเธอไม่ได้เพิ่งรู้จักกับวาเลนไทน์ ต่อให้เธอไม่เคยนอนกับเขา แต่เธอก็เป็นนางนกต่อให้เขาได้รู้จักกับนางแบบในแบรนด์อยู่หลายครั้ง ซึ่งนางแบบเหล่านั้นก็ชอบเสียด้วยที่ได้สนิทสนมกับชายหนุ่มที่ทั้งรวยและหล่อเหลา หากเอาใจดีๆ หรือทำให้เขาติดใจแล้ว อนาคตในหน้าที่การงานก็ไม่ยากเย็นอีกต่อไป เพียงแต่ติดตรงที่วาเลนไทน์มีกฏอยู่ข้อหนึ่งว่าเขาจะไม่นอนกับผู้หญิงคนไหนเป็นครั้งที่สอง และครั้งนี้ต่างไปหน่อยตรงที่ผู้หญิงที่ลิซ่าพามานั้นไม่ใช่นางแบบ ทว่าเป็นดีไซเนอร์หน้าใหม่ของแบรนด์ต่างหาก “เดี๋ยวฉันไปตามให้นะคะ” ลิซ่าหายไปจากวงสนทนา ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับหญิงสาว อีกคน “มาแล้วค่ะ นี่ มาทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ของคุณวาเลนไทน์สิ” “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อโมรา ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ” ชื่อคุ้นหูเรียกให้อังเดรซึ่งกำลังเบื่อหน่ายกับธรรมเนียมแนะนำตัวบ้าๆ ต้องตวัดดวงตามามอง ก่อนดวงตาสีเขียวมรกตจะเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อพบว่าเจ้าของชื่อแปลกประหลาดคนนั้นก็คือผู้หญิงที่ทำให้เขาคิดถึงอยู่นั่นเอง “คุณ...” เขาครางแผ่วเบา สายตาจับจ้องยังหญิงสาวที่วันนี้ดูแปลกตาไปจากเดิมมาก ชุดเดรสสีน้ำเงินรัดรูปขับให้ผิวสีน้ำผึ้งดูเนียนสวยมากกว่าเดิม อะไรไม่ว่า ทรวดทรงองค์เอวที่ได้เห็นเด่นชัดก็ทำให้เธอกลายเป็นสาวเจ้าเสน่ห์โดยที่ไม่ต้องพยายามอะไรมากนัก และน้ำเสียงนั้นก็ทำเอาโมราที่ผินหน้ามาทางเขาพอดียิ้มกว้าง “คุณหมอ! มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะเนี่ย” เป็นเธอที่ประหลาดใจกว่าเขาเสียอีก แต่ที่ประหลาดใจกว่าดูเหมือนจะเป็นวาเลนไทน์ “รู้จักกันเหรอครับ” แน่ล่ะว่าเป็นการประหลาดใจที่แสนจะเสแสร้ง คนอย่างวาเลนไทน์จะไม่รู้หรือว่าผู้หญิงคนนี้ล่ะที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาต้องเสนอหน้ามางานเลี้ยงนี้น่ะ “ค่ะ ฉันเป็นคนไข้ของคุณหมอน่ะค่ะ” เท่านี้ก็ชัดเจนว่าต้นเหตุที่ทำให้ใจของอังเดรไม่สงบสุขคือใคร บรรดาเพื่อนๆ ของเขาต่างพากันส่งสายตากรุ้มกริ่มไปที่อังเดรซึ่งกำลัง ขมวดคิ้วยู่จนหน้ายับทันที ที่แท้ก็เป็นเพราะแม่สาวไทยคนนี้ที่ทำให้เขาระเห็จออกจากรังหนูมาร่วมงานสังสรรค์ได้ เหล่าเพื่อนๆ ดูเหมือนจะเห็นเป็นเรื่องสนุกทันที โดยเฉพาะวาเลนไทน์ที่ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา “งั้นเหรอครับ บังเอิญจังเลย ผมเองก็อยากเป็นคนไข้เหมือนกันนะ” “เอาสิคะ คุณหมอน่าจะอยากได้คนไข้เพิ่ม ฉันเห็นคลินิกของเขาค่อนข้างว่างเลยค่ะ” “ผมไม่ได้หมายถึงเป็นคนไข้ของอังเดร” “เอ๊ะ?” “เป็นคนไข้ของคุณ” วาเลนไทน์ส่งสายตาระยับให้ “รู้สึกผมจะป่วยเป็นไข้ใจเสียแล้ว” เท่านั้นโมราก็เข้าใจชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังก้อร่อก้อติกกับเธอ “ตามมุกคุณไม่ทันเลยค่ะ” หญิงสาวว่าแก้เขิน คนอื่นๆ หัวเราะร่วนกับการหยอกเย้าของ วาเลนไทน์เป็นการใหญ่ มีส่งเสียงแซวเป็นระยะด้วย “สงสัยคืนนี้คุณโมราคงจะกระอักเสน่ห์ของนายตาย” “ร้าย...ไอ้เสือ ร้ายจริงๆ” โรมิโอกับปารีสพากันเสริมเป็นลูกคู่ พวงแก้มของโมรามีสีแดงเจือเสียแล้ว เธอยอมรับว่าวาเลนไทน์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากจริงๆ ยังอด แปลกใจไม่ได้เลยว่าทำไมลิซ่าที่ทำงานใกล้ชิดเขาถึงไม่หลงเสน่ห์เขากัน แม้แต่อังเดรเองก็ต้องยอมรับในส่วนนี้ แต่เขาก็ไม่สบอารมณ์มากทีเดียว และดูท่าทางจะทวีหนักขึ้นไปอีกเมื่อวาเลนไทน์ยังคงก้อร่อก้อติก ไม่เลิก กระทั่งคนอื่นๆ ขอตัวแยกย้ายไปพูดคุยกับแขกคนอื่นๆ แล้ว วาเลนไทน์ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่สิ...ดูเหมือนตอนนี้จะขยับเข้าใกล้หญิงสาวเสียจนแทบจะสิงสู่เธออยู่แล้ว “ตาของคุณสวยจัง” “ขอบคุณค่ะ” “รู้หรือเปล่าครับว่าเสน่ห์ของผู้หญิงอยู่ที่ดวงตานี่ล่ะ ผู้ชายจะสยบแทบเท้าก็เพราะสายตาเย้ายวนแบบนี้” วาเลนไทน์ว่า ปลายนิ้วเขี่ยปลายเส้นผมดำสลวยของเธออย่างถือวิสาสะ ถึงเขาจะหล่อเหลา แต่การประชิดเธอมากเกินไปอย่างนี้ ก็ทำให้เธออึดอัดไม่น้อย “คงเพราะคุณคงไม่ค่อยได้เจอสาวเอเชียบ่อยๆ เลยไม่คุ้นชินกับดวงตาแบบนี้” โมราถอยห่างเล็กน้อย รักษาท่าทางไม่ให้เสียมารยาทเพราะอีกฝ่ายคือสปอนเซอร์รายใหญ่ วาเลนไทน์ก็ไม่ได้ตามติดอะไร ทำเพียงส่งสายตา ยั่วเย้าให้เท่านั้น “เชื่อผมสิว่าผมเชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิงทุกชนชาติ แต่ดวงตาของคุณ...ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยเจอมา รวมถึง...” จากนั้นก็ปรายตามองเรือนร่างของหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “...รูปร่างน่ากอดของคุณด้วย” เริ่มหยาบคายกับเธอแล้วสิ โมราทำอะไรไม่ได้ ได้แต่หัวเราะแห้งๆ โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว วาเลนไทน์ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด ที่ทำอย่างนี้ก็เพราะอยากจะยั่วให้อังเดรซึ่งยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนหัวเสียมากกว่า ดูเหมือนจะได้ผลเสียด้วย เพราะหลังจากนั้น อังเดรก็ลุกพรวดจากโซฟา “จะไปไหนน่ะ” “ห้องน้ำ” พ่อมดหนุ่มว่าสั้นๆ สีหน้าเรียบเฉยแต่แววตาวาวโรจน์ วาเลนไทน์รู้แล้วว่าแผนของเขาใช้ได้ผล จึงไม่ได้ว่าอะไร หันไปให้ความสนใจกับโมราต่อ ขณะที่อังเดรรีบเดินออกมาจากตรงนั้น เมื่อไปถึงห้องน้ำ เขาก็เดินวนไป วนมา งุ่นง่านอย่างถึงที่สุด เจ้าค้างคาวนั่น คิดจะทำอะไรอยู่กันแน่! อังเดรไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงได้หัวเสียขนาดนี้ เขาคิดไปแล้วว่าถ้าตัวเองไม่ทำอะไรสักอย่าง มีหวังวาเลนไทน์ได้หิ้วคนไข้ของเขาขึ้นเตียงอย่างแน่นอน และนั่นคือสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่รู้เพราะอะไรถึงได้รู้สึกอย่างนั้น อังเดรล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดหาเบอร์โทรของหญิงสาวที่บันทึกไว้จากนั้นก็ส่งข้อความ ‘ถ้าคุณอึดอัด ให้รับสายผม อีกสิบวิ ผมจะโทรไป แล้วบอกหมอนั่นว่าหัวหน้าคุณโทรมา แต่ถ้าคุณอยากคั่วกับหมอนั่น ก็ตัดสายผมทิ้งซะ’ ส่งไปแล้วก็นับหนึ่งถึงสิบในใจ จากนั้นถึงค่อยโทรออก เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นหลายครั้ง ก้อนเนื้อในอกของอังเดรก็เต้นระส่ำ เขาภาวนาขอให้โมรารับสาย อย่าตัดสายเขาแล้วไปกับวาเลนไทน์อย่างที่เขาคิดเลย คำภาวนาของเขาเป็นผล ถือสายรอไม่นาน โมราก็รับพลันกรอกเสียง [ค่ะบอส ได้ค่ะ เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ] พลันก็ได้ยินเสียงเธอหันไปบอกกับคนข้างกาย [ขอตัวสักครู่นะคะคุณวาเลน บอสโทรมาเรื่องแบบเสื้อผ้าที่ฉันเพิ่งเสนอไปน่ะค่ะ งานด่วน] เสียงตอบรับของวาเลนไทน์ดังมาให้ได้ยินเล็กน้อย อังเดรถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เธอเลือกที่จะลุกออกมา ก่อนที่สติจะกลับคืนเมื่อได้ยินเสียงหวานอีกครั้ง [คุณหมอใช่ไหมคะ] เธอไม่ได้บันทึกเบอร์ของอังเดรเอาไว้ อันที่จริง...เธอไม่มีเบอร์ของเขาต่างหาก แต่ลางสังหรณ์ก็ทำให้เธอเดาได้ว่าเป็นผู้ชายคนนี้ “ครับ” อังเดรตัดสินใจตอบรับกลับไป ก่อนจะอ้างเหตุผล “ผมเห็นคุณดูอึดอัด แต่จะลุกเองก็ไม่ได้ มันเสียมารยาท ผมเข้าใจ เลยอยากช่วยคุณ” ใช่ เขาอยากช่วยเธอจริงๆ ไม่ได้มีเรื่องอะไรนอกเหนือจากนั้น โดยไม่รู้เลยว่าปลายสายกำลังแย้มยิ้มอยู่ [ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ตอนนี้คุณหมออยู่ที่ไหนคะ] อีกเดี๋ยวเธอคงจะต้องมาหาเขาเพื่อขอบคุณแน่ อังเดรเดาได้ แต่ไม่เอาดีกว่า ไม่บอกเธอหรอกว่าอยู่ที่ไหน เขาคิดว่าเขาจะกลับแล้วล่ะ “ผมกำลังจะกลับแล้วครับ คุณเองก็รีบกลับก่อนที่หมอนั่นจะตามมาก่อกวนคุณอีกรอบก็แล้วกัน” [แต่ว่าฉันอยากขอบคุณคุณหมอก่อน...] “ทางโทรศัพท์ก็พอแล้ว” อังเดรตัดบท โมราเม้มริมฝีปากไปครู่ เธออยากบอกกับเขาต่อหน้ามากกว่า แต่...ช่างเถอะ ถ้าเขาไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร [ได้ค่ะ ถ้างั้น...ขอบคุณนะคะคุณ...] พูดยังไม่ทันจบดี เขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจนมีลางสังหรณ์แปลกๆ พลันก็เปลี่ยนใจ แทรกขึ้นเสียอย่างนั้น “มาหาผมที่ระเบียงนอกห้องบอลรูม ผมจะไปรออยู่ตรงนั้น” [คะ?] “เดี๋ยวนี้” ออกปากสั่งหน้าตาเฉย จากนั้นก็กดวางสายไป สร้างความงุนงงให้กับโมราเป็นอย่างมาก ขณะที่พอวางสายแล้ว อังเดรก็ได้แต่หงุดหงิดกับสัมผัสพิเศษของตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม