"เงินอะไร พวกแกทำพลาด แถมยังมีคนมาช่วยทันอีก ฉันไม่จ่าย"ร่างบางกล่าวอย่างอารมณ์เสียกับปลายสาย
[ก็ ไหนบอกวันนี้จะไม่มีใครมาช่วย โถ่!"]
"ไม่จ่าย ฉันไม่จ่ายหรอก ทุเรศไปกันตั้ง3-4คนทำไมแค่ผู้หญิงคนเดียวจัดการไม่ได้"
[ถ้าไม่จ่าย ก็เตรียมตัวเป็นเมียฉันได้เลย] จบประโยค ปลายสายก็กดวางทันที
"กรี๊ด บ้าเอ้ย! นังเมล! ทำไมแกถึงดวงแข็งขนาดนี้" ทันทีที่คุยเสร็จ อัญรินทร์ก็ปาโทรศัพท์ลงบนโซฟาอย่างแรงด้วยความโมโห
"ฉันไม่คิดเลยนะว่าเธอจะร้ายกาจกับเพื่อนขนาดนี้"เสียงเรียบนิ่งนั่นทำเอาคนร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ
"คุณอคิน...เอ่อ...ไม่ใช่แบบนั้นนะคะ"เธออึกอักพยายามแก้ตัว เพราะไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะมาหาเธอเวลานี้
"แล้วมันแบบไหนหรอ"
"เอ่อ คือว่า..."เธอพยายามแก้ตัว
"ไม่ว่าเธอคิดจะทำอะไร ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะว่าหยุดคิดเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ดูหน้าฉันเอาไว้ดีๆ ว่าคนแบบฉันอุ้มฆ่าเธอได้เงียบๆโดยที่ไม่เป็นข่าวอะไรเลยฉันก็กล้าทำ"อคินบีบแก้มของอัญรินทร์ประหนึ่งว่าจะให้มันแหลกไปคามือ น้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขาทำให้ร่างบางนั้นเสียวสันหลังวาบ หน้าเริ่มซีดเผือด หน้าสวยๆของอัญรินทร์นั้นเหยเกไปด้วยความเจ็บปวด
"โอ้ย! ขอโทษค่ะ อัน...จะไม่ทำอีกเเล้ว ปล่อยอันไปเถอะนะคะ"
"ตอนแรกฉันก็แค่คิดว่าเธอจะจับฉัน แต่นี่เธอเล่นจะฆ่าเพื่อนทั้งเป็นเลย ฉันไม่รู้ว่าจะด่าเธอว่ายังไง เธอมันเลือดเย็นมาก ทำไมถึงกล้าขนาดนี้ คนแบบเธอไม่ควรที่จะเป็นเพื่อนใครเลยด้วยซ้ำ"
"ทำไมคะ นังเมลมันดีกว่าอันตรงไหน"
"อย่าให้ฉันพูดเลย แค่นี้เธอก็ไร้ค่าเกินกว่าที่ฉันจะมองเเล้ว"คำพูดของอคินสร้างความเจ็บปวดแก่เธอยิ่งนัก มันชาวาบไปทั้งตัว แต่ก็นั่นแหละมันก็ยังไม่ทำให้เธอละอายต่อการกระทำที่เธอได้ทำลงไปกับเพื่อน มันกลับยิ่งสร้างกองไฟกองใหญ่ให้สุมร้อนยิ่งกว่าเดิม
"ผู้หญิงนิสัยเสียเอาแต่ใจแบบนั้นน่ะหรอที่ได้ใจคุณ ชอบเอาเปรียบคนอื่น กดขี่ข่มเหงคนอื่นแบบนั้นน่ะหรอที่คุณชอบ"
"มีอีกอย่างนะที่ฉันยังไม่บอกเธอ เมลดาไม่ได้ใจสกปรกเหมือนเธอ! แล้วก็จำใส่สมองอันน้อยๆของเธอไว้ด้วยนะ ว่าอย่าคิดมาเเตะต้องเมลอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันเลือดเย็น ถึงวันนั้น แม้ว่าเธอจะอ้อนวอนแค่ไหนฉันก็ไม่ปล่อยเธอ" จบประโยค เขาก็ตรงดิ่งขับรถกลับบ้านทันที
"กรี๊ดดดดดดดด"หลังจากที่อคินขับรถออกไป เธอก็เอาเเต่กรีดร้องโวยวายลั่นบ้าน ปาข้าวของกระจัดกระจายด้วยความโมโหสุดขีด
"แกมีอะไรดีนักหนา ถึงได้มีแต่คนอ้อมล้อมดูแลเต็มไปหมด กรี๊ดดดดด แก...กรี๊ดดดด"
@คอนโดของเมลดา
อคิน:ฝันดีนะ^-^
อยู่ข้อความของอคินก็เด้งขึ้น ทำให้ร่างบางเผลอยิ้มออกมาอย่างดีใจ นึกยังไงเนี้ยถึงได้มาบอกฝันดีกันแบบนี้
เมล:อื้ม
เพราะกลัวเสียฟอร์มเลยไม่อยากพิมพ์อะไรเยอะ กลัวว่าชายหนุ่มสุดหล่อราวเทพปั้นจะรู้ว่าเธอเริ่มใจอ่อนกับเขาเเล้ว
อคิน: อื้ม...คือ
เธอทำเป็นไม่ตอบ แต่กลับเดินเข้าไปล้างหน้าแปรงฟัน โดยไม่เห็นว่าคนร่างสูงนั้นส่งข้อความมาอีก
อคิน:ไม่ตอบ
อคิน:งั้นฉันไปหานะ
ผ่านไปเกือบครึ่งชม.เมลดากำลังจะเตรียมตัวเข้านอนเเล้วเนื่องจากตอนนี้เป็นเวลาเกือบตี3แล้ว เธออ่อนเพลียและยังรู้สึกหน่วงๆที่หน้าท้องจึงรู้สึกอยากพักผ่อน
ตึ่ง ตึ่ง ตึ่ง
เสียงออดหน้าประตูดังขึ้นขณะที่เธอกำลังจะข่มตาหลับ ใครกันมากดออดเวลานี้
"นะ...นาย มาได้ยังไง"
"ก็เธอไม่ตอบ"เขาพูดหน้าตาเฉยก่อนจะเสียมารยาทเดินเข้ามาในห้องอย่าถือวิสาสะ แถมยัง ถอดรองเท้าถุงเท้า เสื้อคลุมออกเเล้วกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างสบายใจ จากนั้นก็ตบที่ว่างข้างๆเป็นสัญญาณให้เธอมานอนข้างๆเขาอีกด้วย
ยอมรับเลยว่าเธอก็แอบดีใจเหมือนกันที่เขามาหา แต่พอคิดเรื่องธุรกิจขึ้นมาเธอก็ต้องใจหายวูบเพราะเขาเเละเธอต่างก็ทำเพื่อธุรกิจ เขาช่วยเธอให้ไม่ล้มละลาย ส่วนเขาก็ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด ตอนนี้เธอแทบจะแตกต่างจากเขาสิ้นเชิง เห้อ ถ้าเรื่องนี้นับเเค่เรื่องความรู้สึกก็คงดี
"เมล! คิดอะไรอยู่"
"ห๊ะ? เอ่อ...เปล่า"เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อถูกดึงสติจากคนร่างสูงที่เดินมาจ้องหน้าเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เธอและเขาสบตากันชั่วครู่ก่อนที่จะรีบหันหน้าหนีแก้เขินไปอีกด้าน แต่ก็ถูกมือหนาจับคางเธอเเล้วหันให้มาสบตาเขาอีกครั้ง
"เป็นอะไรไป"เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย เพราะตอนนี้เธอเอาแต่เหม่อลอยไม่รู้ว่าคิดเรื่องอะไรอยู่ ขนเขาอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
"เปล่า ฉันเเค่คิดว่า เมื่อไหร่นายจะไปให้พ้นหน้าฉันสักที ลำคาญ!"เเต่เธอก็เลือกที่จะปากเเข็งแล้วพูดตรงข้าม ใครบอกล่ะว่าลำคาญ แค่เขาหายไปไม่มาหาเธอก็คิดถึงจะเเย่แล้ว แต่เเค่เรื่องธุรกิจมันค้ำคอ แถมเธอจะบอกกับเขายังไงว่าที่เข้าหาเขาก็เพราะดันไปเดิมพันกับเพื่อนๆไว้ ขืนรู้ความจริงมีหวังเขาต้องโกรธเธอแน่ๆ
"ไม่จริง แค่แววตาเธอฉันก็รู้เเล้วว่าเธออยากเจอฉัน"ถึงแม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเเต่เขาก็ใจดีสู้เสือ เอาน่าสักวันเธอต้องชอบเขาล่ะ
"หลงตัวเอง!"
"หลงเธอมากกว่า" นั่นเป็นคำพูดที่ทำให้เธอแก้มแดงไปจนถึงใบหูด้วยความเขิน หัวใจดวงน้อยๆเต้นไม่เป็นจังหวะ นี่เขาต้องบ้าไปแล้วเเน่ๆถึงได้พูดจาเพ้อเจ้อแบบนี้
"จะอ้วก"
"ทำเป็นปากเเข็งไปเถอะ"
ด้วยความง่วงทำให้เมลดาไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับคนตัวสูงสักเท่าไหร่เลยเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียง แต่ก็นั่นแหละ คนเจ้าเล่ห์ก็คือคนเจ้าเล่ห์อยู่วันยังค่ำ อคินกระโดดขึ้นไปนอนข้างๆ แล้วสวมกอดคนร่างบางพร้อมกับสูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆละมุนละไมที่คุ้นเคยอย่างหลงไหล
"อย่าทำอะไรฉันนะ" เมลดารีบพูดดักคนเจ้าเล่ห์ที่ชอบเอาเปรียบเธอ
"แค่กอดเฉยๆ"พูดจบร่างหนาก็กระชับกอดเธอให้แนบอกแกร่งของเขา เมลดากอดตอบอย่างอบอุ่นหัวใจ นี่ถ้าไม่นับตอนมีอะไรกันคนั้งนี้คงเป็นคนั้งแรกที่เธอยอมกอดตอบ และนั่นก็ทำให้ร่างสูงพอใจเป็นที่สุด อีกนิดนะอคินไม่ไกลเกินไป
ด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายของเธอตอนนี้มันอ่อนแอมากๆเลยทำให้เธอหลับได้ง่ายกว่าทุกครั้ง โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกจ้องมองอยู่ ไม่รู้ทำไมแต่มองเท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อเลย ใบหน้าหวานๆละมุนที่รวมเครื่องหน้าเเล้วเข้ากันแบบมีเสน่ห์ที่สุดเกินจะบรรยาย วันนี้รอดตัวไปนะ เห็นว่าบอบช้ำมาหรอกนะ จะอดทนแค่กอดไปถึงเช้าก็แล้วกัน อคินคิดในใจ