“กลับกันเถิด” เมื่อคำนวนดูแล้วว่านี่ใกล้เวลาที่บิดากำลังกลับถึงจวนนางจึงจัดการตามแผนขั้นต่อไป
“เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้ง 4 คนรีบเก็บถุงพะรุงพะรังให้เรียบร้อยมิเช่นนั้นคงไม่มีที่นั่งเป็นแน่
กึก กึก กึก
เสียงล้อรถม้าเคลื่อนตัวไปตามถนนด้วยความเร็วปกติ
“เร่งความเร็วหน่อย ข้าอยากรีบกลับจวน” เสียงใสของเจ้านายตัวน้อยทำให้คนขับรถฟาดแส้ลงไปที่ม้าอีกครั้ง
“ขอรับ” ชายหนุ่มด้านหน้ารับคำ ความเร็วของรถม้าจึงเพิ่มขึ้น ทุกอย่างผ่านไปด้วยดีจนกระทั่ง…
ฟึบ!
“อั่ก!”
“กรี๊ดดดดดดด!!”
ร่างเล็กพุ่งทะยานออกจากประตูรถม้าได้อย่างไรคนรอบด้านล้วนไม่เข้าใจ แต่ที่แน่ๆ แรงกระแทกจากความเร็วของรถม้าทำให้เด็กน้อยถึงกับกระอั่กเลือดออกมา คาดว่าภายในคงบอบช้ำไม่น้อย ซึ่งนั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ต้องตกใจ
“เฮ้ย!”
ฮี้! เอี๊ยดดดดด!
เสียงล้อไม้เสียดสีกับถนนเพื่อหยุดการเคลื่อนตัวจนดังสนั่น ร่างอาบโลหิตของเด็กหญิงทำให้คนขับรถม้าซึ่งสวนทางมาไม่มีทางเลือกต้องบังคับให้รถของตนเบี่ยงเข้าข้างทาง ยังดีที่พวกเขาขับมาช้าจึงสามารถหยุดได้ทันก่อนที่ม้าจะเหยียบผู้บาดเจ็บ
“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงทุ้มเล็กๆ ในรถม้าเอ่ยถาม
“มีเด็กน้อยตกจากรถม้าแล้วกลิ้งมาทางหน้ารถเราขอรับ!” องครักษ์คนสนิทเร่งตอบนายของตน
กึก! ฟุบ!
ประตูรถม้าเปิดออกพร้อมเด็กหนุ่มวัย 12 หนาว ก้าวลงมาจากรถ ผิวขาวผ่องและเสื้อผ้าราคาแพงทำให้รู้ว่าคงเป็นคุณชายจากตระกูลใหญ่
“คุณหนูใหญ่!” สาวใช้ทั้ง 4 วิ่งกรูกันเข้ามาดูนายของตนเช่นกัน ท่าทางตื่นตระหนกนั่นทำให้คิ้วกระบี่เลิกขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะนั่งลงไปแล้วอุ้มคนเจ็บขึ้นมา
“คุณหนูของเจ้ามาจากตระกูลใด” องครักษ์รู้ทันทีว่านายของตนจะทำสิ่งใดจึงเอ่ยปากถามออกไป
“คะ คุณหนูเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลเซี่ยเจ้าค่ะ” เหมยเหม่ยก้าวเข้ามาเอ่ยบอกอีกฝ่ายเสียงค่อย นางมิต้องการให้มีข่าวลือที่ไม่ดีหลุดออกไป
“ไปจวนท่านเสนาบดี ตามหมอหลวงให้มาดูอาการนางด้วย” เด็กหนุ่มสั่งการอย่างเฉียบขาดก่อนจะอุ้มคนในอ้อมแขนขึ้นรถม้าตนเองโดยไม่สนใจผู้ใดอีก
“ขอรับ!” องครักษ์ผู้ทำหน้าที่ขับรถม้ารีบขานรับ
“พวกเจ้ารีบกลับไปแจ้งข่าวที่จวน เตรียมของคุณหนูให้พร้อม เมื่อไปถึงจะได้ลงมือรักษาทันที” เนื่องจากจวนตระกูลเซี่ยอยู่ไปอีกไม่ไกลคงเร็วกว่าการไปที่โรงหมอ อีกทั้งจากสภาพของเด็กน้อยการไปโรงหมอคงไม่เหมาะนัก
“จะ เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งหลายรับคำพลางเร่งรีบกลับขึ้นรถม้าของตน งานนี้มีหวังได้รับโทษจากนายท่านกันถ้วนหน้าเป็นแน่
ภายในรถม้าร่างเล็กถูกวางราบไปกับเบาะ ส่วนหัวนั้นหนุนตักเด็กหนุ่มเอาไว้ มือใหญ่บีบผ้าเช็ดหน้าที่ชุบน้ำดื่มจนชุ่มให้หมาดๆ ก่อนจะบรรจงเช็ดใบหน้าขาวนวลเนียนซึ่งเต็มไปด้วยเลือดนั่น ยังดีที่ตอนกลิ้งลงมานางระวังใบหน้าเป็นอย่างมากทำให้มีรอยแผลตามร่างกายเท่านั้น
“อึ่ก” เพราะความเจ็บปวดทำให้มีเสียงโอดครวญหลุดรอดออกมาเป็นระยะ
ใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องแดงขึ้นเล็กน้อยเพราะอาการบาดเจ็บ คิ้วเรียวขมวดมุ่นบ่งบอกว่านางกำลังอดทนอยู่ ริมฝีปากจิ้มลิ้มชวนมองพาให้ใจของบางคนสั่นไหว
จ้าวหานเฟิงมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นางเป็นเพียงเด็กวัยไม่กี่หนาวเท่านั้น เหตุใดจึงทำให้ใจที่เคยเป็นน้ำแข็งของเขาเต้นแรงได้ ตั้งแต่เกิดมาจนถึงตอนนี้เขาไม่เคยมีความรู้สึกใดๆ กับสตรีแม้แต่น้อย
“ถึงแล้วขอรับ” เสียงคนสนิทเรียกสติของคนบนรถให้กลับมา เขาขยับตัวอีกครั้งแล้วอุ้มร่างเล็กขึ้น
“ลูกพ่อ!” เซี่ยซือจงพุ่งเข้ามารับตัวบุตรสาวต่อทันทีเพราะได้รับแจ้งเรียบร้อยแล้ว
“คาราวะท่านเสนาบดี ข้าได้ตามหมอหลวงมาแล้วอีกไม่นานคงมาถึง” เด็กหนุ่มรีบบอกเพื่อให้อีกฝ่ายคลายความกังวลลงบ้าง เห็นใบหน้าเคร่งขรึมคุ้นตาแปรเปลี่ยนเป็นตื่นตระหนกก็ทำให้เขารู้ว่าเด็กน้อยนางนี้สำคัญสำหรับอีกฝ่ายมากเพียงใด
“ขอบคุณคุณชายจ้าวมาก ความช่วยเหลือครั้งนี้ข้าต้องตอบแทนแน่ ครั้งหน้าข้าจะไปขอบคุณที่จวนท่านแม่ทัพใหญ่อีกครั้ง”
“ไม่เป็นไรขอรับ เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” ฟังคำตอบรับจบชายหนุ่มก็เร่งรีบพาบุตรีคนโตกลับเรือนพักทันที ส่วนแขกที่ไม่ได้รับเชิญก็ต้องเดินทางกลับก่อนเพราะเจ้าบ้านกำลังวุ่นวายยิ่ง
หลังจากนั้นไม่นานหมอหลวงก็ถูกพาตัวมาโดยด่วนชนิดที่ยังไม่ทันสวมเสื้อคลุมให้เรียบร้อยเสียด้วยซ้ำ องครักษ์ของจ้าวหานเฟิงหอบหิ้วหมอหลวงมาส่งถึงหน้าประตูเรือน จากนั้นก็ขอตัวกลับทันทีจนเสนาบดีเซี่ยถึงกับส่งแขกไม่ทัน
“อาการของบุตรสาวข้าเป็นเช่นไรบ้างท่านหมอ” ชายหนุ่มร้อนรนไม่น้อย เขาไม่เคยเห็นบุตรีได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้มาก่อน
“บอบช้ำภายในค่อนข้างรุนแรง ยังดีที่ศีรษะไม่ได้รับการกระทบกระเทือนและไม่มีกระดูกส่วนใดหัก มิเช่นนั้นอาการคงหนักกว่านี้ ส่วนบาดแผลภายนอกมีรอยถลอกตามตัวแต่แค่ทายาก็หาย ยาของข้าไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นแน่นอน” เพราะรู้ดีถึงความสำคัญของผิวสตรีเขาจึงเตรียมยามาพร้อม
“เช่นนี้ต้องรักษานานแค่ไหน” เสียงทุ้มของประมุขตระกูลเซี่ยดูไร้เรี่ยวแรงเล็กน้อย
“กินยาสัก 3 เดือนคาดว่าน่าจะหาย อย่างไรข้าจะมาดูอาการให้ทุก 14 วันก็แล้วกัน” เพราะคนที่พาเขามาคือหลานชายคนโปรดของฝ่าบาท ถ้าไม่ดูแลให้ดีเขาคงแย่แน่
“ขอบคุณท่านหมอหลวงมาก พ่อบ้านเกาส่งท่านหมอหลวงด้วย” ชายหนุ่มสั่งการก่อนจะหันมามองบุตรีของตนที่ยามนี้มีผ้าพันแผลเต็มตัวไปหมด
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะท่านพี่” เสียงหวานคุ้นเคยดังขึ้นทำเอาใบหน้าคมมืดครึ้มด้วยความรู้สึกอึดอัด
“เจ้าถามตนเองดีกว่าว่าเลือกสาวใช้อย่างไรถึงปล่อยให้บุตรสาวข้าได้รับบาดเจ็บเยี่ยงนี้!” แรงโทสะทำให้ชายหนุ่มตวาดกร้าวอย่างเหลืออด
“น่าจะมีสิ่งใดผิดพลาดแน่เจ้าค่ะ ท่านลองสอบถามพวกนางรึยังเจ้าคะ” หลิวมี่เอินไหนเลยจะเคยเห็นสามีโมโหเช่นนี้ ถึงเขาจะเย็นชาและหมางเมินนางแต่ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะตะคอกใส่นาง
“เหตุใดข้าต้องถาม! จับตัวพวกมันไปโบยคนละ 50 ไม้ จากนั้นขายออกไปซะ!”
“ขอรับ” คนสนิทที่ยืนรอรับคำสั่งรีบก้มคำนับแล้วไปจัดการเรื่องราวทั้งหมด
“ท่านพี่ เหตุใดไม่สอบถามพวกนางก่อน บางทีพวกนางอาจจะไม่ได้ทำสิ่งใดผิดก็ได้นะเจ้าคะ” คนของนางใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ อยู่ๆ โดนกำจัดหมดทีเดียวเช่นนี้นางต้องจับตามองเด็กเหลือขอสองคนนั่นลำบากกว่าเดิมเป็นแน่
“เจ้าคิดว่าอะไรที่ทำให้บุตรีของข้าบาดเจ็บแต่พวกมันไม่มีรอยแผลสักแผล หรือเจ้าจะบอกว่านางกระโดดลงมาเองอย่างนั้นหรือ” เสียงกดต่ำคล้ายจะระเบิดได้ทุกเมื่อทำเอาหญิงสาวตัวสั่นงันงก สุดท้ายนางจึงรีบหาแผนสำรองโดยด่วน
“เช่นนั้นข้าจะรีบเตรียมข้ารับใช้คนใหม่ให้เดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ” เอาเถิด เสียหมากไปก็แค่หาหมากตัวใหม่มาเติมกระดานก็เท่านั้น
“ไม่ต้อง ต่อไปเรื่องของบุตรสาวทั้งสองข้าจะจัดการด้วยตนเอง” เขาไม่ไว้ใจใครอีกต่อไปแล้ว ครั้งนี้บุตรสาวของเขาโลหิตอาบไปทั้งกาย ถ้าเขายังปล่อยไปคราหน้ามิใช่ว่าบุตรีของเขามิต้องไร้ลมหายใจเลยอย่างนั้นหรือ
“เจ้าค่ะ” เห็นดวงตาดุดันของผู้ได้ชื่อว่าเป็นสามีนางจึงทำได้แค่ถอยไปตั้งหลักก่อน ถ้าขืนดึงดันมากกว่านี้เขาคงจับพิรุธนางได้เป็นแน่
เพล้ง!
ร่างบางระหงเดินนวยนาดกลับเรือนของตน เมื่อปิดประตูหมดแล้วจึงกวาดถ้วยชาทั้งหมดลงมาจากโต๊ะเพื่อระบายความอัดอั้น
“สั่งคนของเราให้ไปถามจากปากพวกมันมา ว่าเกิดอะไรขึ้น” หลิวมี่เอินออกคำสั่งด้วยเสียงรอดไรฟัน นางอยากจะฆ่าพวกมันให้ตายๆ ไปซะด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าความตายมันสบายเกินไป สิ่งที่นางต้องการเห็นคือความทุกข์ทรมานและความล่มจมของนังเด็กโสโครกสองคนนั้นต่างหาก
“นายหญิง สาวใช้ทั้ง 4 ทนรับพิษบาดแผลจากการโบยไม่ไหว สิ้นใจไปหมดแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ที่ออกไปสังเกตการณ์รีบกลับข้ามารายงานทันที นั่นยิ่งทำให้หญิงสาวโมโหมากขึ้น
“ออกไปให้หมด!” เสียงหวานตวาดลั่นอย่างที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก บ่าวไพร่จึงรีบพาตนเองออกไปจากตรงนั้นโดยเร็ว
“บัดซบ! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!” อยู่ๆ แผนที่วางไว้ยาวนานก็เกิดผิดพลาดขึ้นมา แผนการนี้ถูกคิดไว้ตั้งแต่ 5 ปีก่อนที่พี่สาวฝาแฝดของนางตายไปโดยทิ้งลูกกาฝากไว้ถึงสองตัว ตลอดเวลาที่ผ่านมามันก็เป็นไปตามที่นางวางแผนไว้ทุกอย่าง แต่แล้วเพียง 2 วันมานี้ หมากบนกระดานของนางก็ถูกละเลงจนเละเทะไปหมด!
‘เห็นทีว่าข้าคงต้องส่งข่าวให้พวกนางเสียแล้ว’ ดวงตาดอกซิ่งวาวโรจน์ไปด้วยเพลิงแค้น พวกมันอย่าได้หวังจะได้อยู่กันอย่างมีความสุข!