“สวัสดีค่ะ...!!” คำพูดถูกกลืนหายลงไปในลำคอเมื่อพบกับใครบางคนที่เธอนั้นรู้จักเป็นอย่างดี หญิงสาวตัวแข็งทื่อก้าวขาไม่ออก ยืนนิ่งอยู่หน้าประตู สายตาของคนที่กำลังจ้องมา ทำให้เธอรู้สึกประหม่าอยู่ลึก ๆ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนสายตาของเขายังคงเย็นชากับเธอเสมอ
“ต้องให้ไปอุ้มไหม?” เสียงที่คุ้นเคยไม่ได้ยินมาหลายปี แผ่นดินเอาแต่จ้องมองไปยังหญิงสาวทำเอาเธอไม่กล้าสบตา เขาดูเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ดูไม่ใช่พี่ชายข้างบ้านที่เธอเคยรู้จักเลย มีอย่างเดียวที่ยังเหมือนเดิม นั่นก็คือสายตาว่างเปล่าของเขา
“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” เรียวขาสวยก้าวขยับเข้าไปโดยที่ใบหน้าของเธอ เอาแต่ก้มมองพื้น แล้วท่าทางของเธอมันดันชวนน่าหงุดหงิดเสียด้วยสิ ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นผีอย่างนั้นแหละ
“มองหน้าสิ” การจะทำงานด้วยกันต้องสบตากันสิ ถ้าขืนเอาแต่ก้มหน้าอยู่แบบนั้นคงคุยกันไม่รู้เรื่องพอดี เธอคงเข้าใจใช่ไหม
“ลูกพีชต้องทำอะไรบ้างคะ” หญิงสาวเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับงาน ถามในส่วนที่ตัวเองได้รับผิดชอบ เธอรู้แค่ว่าโต๊ะทำงานของเธออยู่ในห้องกับเขาเท่านั้น แล้วไม่รู้ว่าหน้าที่ของตัวเองต้องทำอะไรบ้าง
“แก้ไม่หายเลยนะนิสัยแบบนี้” นิสัยอวดดีทำเป็นเก่งทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เรื่องห่าเหวอะไรเลย ถ้าไม่ติดว่าพ่อสั่ง เขาคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอก
“พี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ” ก่อนที่เธอจะเถียงกลับมาอย่างไม่ยอม เมื่อก่อนเธออาจจะยอมให้เขาว่า แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เธอไม่ใช่ลูกพีช คนอ่อนแอที่เขาเคยกระทำในเมื่อก่อน แล้วไม่ต้องถามหาความอ่อนโยนกับเธอที่มีต่อเขา เธอทิ้งมันไปหมดแล้ว
“อย่าปากดีลูกพีช ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นเธอ”
“ช่วยแจ้งงานด้วยค่ะ”
“ไปชงกาแฟมาให้ฉัน”
“อันนี้เกี่ยวกับงานด้วยไหมคะ”
“อย่ายอกย้อน”
“ไม่ได้ยอกย้อนค่ะ แค่อยากรู้ว่าเกี่ยวกับงานด้วยหรือเปล่า” หรือเป็นเพราะความไม่ชอบส่วนบุคคล ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เธอจะได้ไม่ต้องไปทำตามคำสั่งของเขา หน้าที่ของเธอคือมาฝึกงาน ไม่ได้มาให้ใครแกล้ง ฉะนั้นเขาควรทำความเข้าใจใหม่ซะ
“ถ้าบอกว่าเกี่ยวล่ะ”
“รอสักครู่คะ” หญิงสาวหมุนตัวเดินออกจากห้องเพื่อไปชงกาแฟมาให้ชายหนุ่ม เธอไม่รู้หรอกนะว่าเขากินกาแฟรสชาติไหน เอาเป็นว่าเธอจะชงตามใจตัวเองก็แล้วกัน เธอไม่อยากเสวนากับเขาไปมากกว่านี้ อยากรีบทำงานของตัวเองให้เสร็จจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน
“อวดดี” แผ่นดินว่าตามหลังหญิงสาว เขาเกลียดที่สุดคือพวกผู้หญิงอวดดีใส่ อย่านึกว่าเป็นหลานรักแล้วเขาจะทำอะไรไม่ได้ เธอกำลังคิดผิด
“กาแฟค่ะ” ผ่านไปไม่นานหญิงสาวก็นำกาแฟมาเสิร์ฟ เธอวางมันลงบนโต๊ะด้วยความเบามือ จากนั้นก็ยืนนิ่งเพื่อรออีกคนสั่งงาน ระหว่างที่รอแผ่นดินสั่งงานกับตัวเอง เธอเอาแต่ยืนมองเขายกแก้วกาแฟขึ้นไปสูดดมกลิ่น แล้วจิบมันเล็กน้อยก่อนที่เขาจะนำมันวางลงที่เดิม
“รสชาติห่วยแตก”
“งั้นพี่ก็คงต้องไปชงเองแล้วล่ะค่ะ”
“เพื่อนเล่น?”
“^^”
“วันนี้ฉันมีนัดคุยงานกับลูกค้าข้างนอก”
“ค่ะ”
“เธอต้องไปกับฉัน”
“ทำไมต้องเป็นลูกพีช” เธอเพิ่งมาทำงานวันแรก ยังไม่รู้เกี่ยวกับเนื้องาน คงไม่เหมาะหากจะให้เธอออกไปพบลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำ พี่แผ่นดินควรเลือกพนักงานที่เป็นงานมากกว่านี้ เช่น เลขาที่อยู่หน้าห้อง
“ฉันเป็นเจ้านาย เป็นคนจ่ายเงินเดือน ฉันอยากให้ใครไปมันก็เรื่องของฉัน”
“รับทราบค่ะ” ในเมื่อเขาอยากให้เธอไปมากนัก เธอก็จะไปให้ แต่หากคำถามไหนที่ลูกค้าถามมาแล้วเธอไม่สามารถตอบได้ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาว่าเธอเช่นกัน
“ก็ดูเข้าใจง่ายนี่ แล้วจะทำให้ฉันหงุดหงิดทำไม”
“ลูกพีชขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” เธอเหลือบไปเห็นกองเอกสาร คิดว่าน่าจะเป็นงานที่เธอควรได้รับผิดชอบ เธอควรเอาเวลาที่มายืนเถียงเขาอยู่ตรงนี้ไปทำงานไม่ดีกว่าเหรอ
“เชิญ”
ภายในห้องทำงานกลับมาเงียบอีกครั้ง ทั้งแผ่นดินและลูกพีชต่างก็ก้มหน้าทำงานของตัวเองโดยไม่มีใครพูดหรือเอ่ยอะไรออกมา ยิ่งเวลาทำงานแล้วทั้งสองจะเหมือนกันมาก ถึงเวลาเล่นก็คือเล่น เวลางานก็คืองาน
ก๊อก ก๊อก
“ขออนุญาตครับนาย” คราม เลขาส่วนตัวของแผ่นดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มเอกสารมากมาย
“เอาไปให้เธอ”
“ขออนุญาตนะครับคุณลูกพีช” ครามขออนุญาตพร้อมกับวางเอกสารที่ตนนำมาไว้บนโต๊ะหญิงสาว งานบนโต๊ะล้นจนมองไม่เห็นใบหน้าคนตัวเล็ก นี่เขากะจะรับน้องใหม่เลยหรือไง เห็นว่าเรียนจบด้านนี้มาก็อยากจะทดลองงานเธอสินะ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยทำงานในบริษัทมาก่อนก็ตาม แต่เอกสารพวกนี้เธอก็พอจะรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรและต้องทำตรงไหน เพราะเธอเรียนสายนี้โดยตรง เอาเป็นว่าเธอจะแกล้งทำเป็นไม่รู้แล้วตามน้ำอีกคนไปก็แล้วกัน ภายนอกที่ดูเรียบร้อยแต่ข้างในมันแก่นจนตัวเธอเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้
เวลา 17:00 น.
“คะ?” เลิกคิ้วถามคนที่เอาแต่ยืนมองไม่พูดไม่จา
“ฉันจะสายเพราะเธอ”
“ลูกค้านัดพี่กี่โมงเหรอ”
“คำถามนี้เธอไม่ควรถามนะ”
“การที่พี่จะเอาไปทำงานด้วย อย่างน้อยพี่ก็ควรแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้พีชทราบ บอกเวลานัดของลูกค้าให้ชัดเจน เพราะถ้าพี่เงียบแล้วมายืนกดดันพีชแบบนี้ พีชก็คงไม่ตรัสรู้ว่าพี่ต้องไปทำงานกี่โมง”
“อยากรู้จังว่าอาจารย์ที่นั่นเขาสอนเธอยังไง กลับมาครั้งนี้ดูปีนเกลียวดีนะ”
“พีชให้เกียรติคนที่แก่กว่าเสมอค่ะ แต่นี่มันคือเวลางาน เราก็ควรจะจริงจังและเนี้ยบมากกว่านี้ไม่ใช่เหรอคะ”
“หึหึ” ปากเก่ง อวดดีเป็นที่หนึ่ง เขาจะไม่มีทางเอาชนะผู้หญิงคนนี้ได้เลยใช่ไหม ยอมรับว่าเธอเป็นคนที่เก่งและหัวไว เขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงคนนี้จะไปได้สักกี่น้ำ จะรอดูว่าเธอจะทนอยู่กับเขาได้ถึง 3 เดือนหรือเปล่า ถ้าเธอทนได้แสดงว่าเธอเป็นคนที่มีความอดทนสูงอยู่พอตัว
“สรุปแล้วพีชต้องวางงานแล้วไปใช่ไหมคะ”
“จะทำให้เสร็จก่อนก็ได้นะ” งานยังกองอยู่ล้นโต๊ะ ถ้าจะให้ไปก็สงสารเด็กน้อย เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องรีบมาเคลียร์งานอีก เลทนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้งเพราะงานก็ไม่ได้สำคัญมาก คนที่เขาจะไปคุยงานด้วยก็คือเพื่อนเขาเองไม่ใช่ใครที่ไหน
“ความจริงพีชทำงานเสร็จนานแล้วค่ะ แต่เห็นว่าพี่เอาแต่เล่นโทรศัพท์พีชเลยไม่อยากรบกวน”
“ว่าไงนะ” เธอบอกว่าเธอทำงานเสร็จแล้ว ตลกหรือเปล่าวะ งานที่เขาให้ลูกน้องไปขนมาไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ
“เราจะไปกันเลยไหมคะ” คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย พลางส่งยิ้มให้คนตัวสูงตรงหน้า
แผ่นดินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินนำหน้าหญิงสาวออกจากห้องไปโดยไม่รอเธอ ลูกพีชรีบตามคนตัวสูงไปด้วยความรวดเร็ว เห็นว่าตัวสูงหน่อยจะเดินยังไงก็ได้งั้นเหรอ
“เราไปกันแค่สองคนเหรอคะ” คนตัวเล็กถามเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ
“แล้วทำไมต้องไปกันเยอะ”
“โอเคค่ะ” เธอจะไม่ถามเซ้าซี้ก็แล้วกัน เบื่อจะเถียงกับเขา
ในระหว่างที่รถกำลังเคลื่อนตัวออกจากบริษัท หญิงสาวก็เอาแต่ทอดสายตามองตรงไปข้างหน้า ส่วนแผ่นดินก็ทำหน้าที่ขับรถไปเงียบ ๆ เป็นการกลับมาเจอกันในรอบหลายปี ตัวเขาเองก็ไม่คิดว่าจะได้กลับมาเจอกันในระยะกระชั้นชิดขนาดนี้ ทุกอย่างมันดูรวดเร็ว และลงล็อกไปหมด ยอมรับว่าในหัวตัวเองมีแต่คำถามมากมายที่อยากจะถามครอบครัว แต่สุดท้ายเขาก็ทำได้แค่เงียบแล้วปล่อยให้มันผ่านไป ความรู้สึกของเขามันบอกว่านี่ไม่ใช่ความบังเอิญ เหมือนว่ากำลังมีเรื่องจะเกิดขึ้นกับเขาในอีกไม่ช้า แล้วเขาดันเป็นพวกเซ็นส์แรงด้วยสิ
“พี่แผ่นดินสบายดีใช่ไหม” ถ้าจะไม่ถามก็ดูน่าเกลียดไปหน่อย ยังไงซะเราสองคนก็เป็นเพื่อนบ้าน เป็นพี่น้องที่เคยเล่นด้วยกันมาก่อน ถามสารทุกข์สุกดิบคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
“แฮปปี้” ตั้งแต่ที่เธอไม่อยู่ชีวิตเขามีความสุขมาก ไม่เคยต้องมาคิดหนักที่จะต้องเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง เขารู้สึกอึดอัดทุกครั้งที่ได้อยู่ด้วยกัน มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน หรือเป็นเพราะเขาไม่เคยรู้สึกกับเธอ เหมือนอย่างที่เธอเคยรู้สึกกับเขามาก่อน
“ก็คงจริงแหละ”
“ขอไม่ถามนะ”
“รู้อยู่แล้วแหละว่าจะไม่ถาม”
จากนั้นทั้งรถก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ที่บอกว่าอึดอัดเวลาอยู่กับเธอเขาไม่ได้พูดเล่นนะ เขามีความรู้สึกนั้นจริงๆ แต่ที่ยอม ก็เพราะไม่อยากให้พ่อไปยุ่งกับฝันดี คนที่เขากำลังตามจีบอยู่ในตอนนี้
ใช้เวลาในการขับรถครึ่งชั่วโมงก็มาถึงยังที่หมาย ทันทีที่รถดับเครื่องสนิทแผ่นดินก็ก้าวลงจากรถไปโดยไม่รอหญิงสาว เธอชินกับเขามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แม้จะไปเรียนอยู่เมืองนอกหลายปี แต่ก่อนที่เธอจะไป เธอมักจะเอาของเล่นและขนมไปฝากแผ่นดินเสมอ ทว่าเขากลับทำเหมือนเธอไม่มีตัวตนอยู่ในสายตา ชอบแอบเอาขนมที่เธอให้ไปโยนทิ้ง ของทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือขนม อะไรที่เกี่ยวกับเธอแผ่นดินไม่เคยเก็บไว้เลยสักอย่าง เขาทิ้งมันอย่างไม่ใยดี ความรู้สึกของเธอตอนนั้นมันพังไปหมด เธอคิดแค่ว่ามันคงเป็นความรักของเด็กเท่านั้น กระทั่งตัวเองโตขึ้นและเริ่มเข้าใจคำว่ารักมากขึ้น ถ้าเธอได้รู้ว่าความจริงแล้ว นั่นไม่ใช่ความรักของเด็กเลย..
“คุณฟีนิกซ์มารอแล้วครับ” ครามรายงานผู้เป็นนาย
“มากับใคร”
“คุณฝันดีครับ”
“อืม” เมื่อได้ยินชื่อหญิงสาวอีกคน ใบหน้าเย็นชาที่ปรากฏอยู่ในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มอบอุ่นขึ้นมาทันที ลูกพีชมองแววตาที่เปลี่ยนไปของแผ่นดิน มันชัดเจนว่าผู้หญิงคนนั้นคงสำคัญกับเขามาก เธอรู้ได้ยังไงน่ะเหรอว่าคนที่กำลังพูดถึงอยู่เป็นผู้หญิง คงไม่มีผู้ชายคนไหนตั้งชื่อตัวเองว่าฝันดีหรอกนะ
ตึก ตึก
แอ๊ด~
“รอนานไหมวะ”
“ไม่”
“ไงแสบ”
“สวัสดีค่ะคุณแผ่นดิน”
“อยู่ข้างนอกแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียกคุณไหม”
“แต่ยังเป็นเวลางานอยู่นะคะ”
“ใคร” ฟีนิกซ์ชี้ไปยังหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลัง ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าเธอเป็นใคร แต่เขาก็อยากให้เพื่อนแนะนำให้รู้จัก อย่าลืมว่าเธอมากับมัน
“พนักงาน” คำว่าพนักงานที่หลุดจากปากคนตัวโต ทำหญิงสาว หัวเราะในใจ เขาก็ไม่ได้พูดผิดนี่ ก็ถือเป็นพนักงานจริง ๆ
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลูกพีชนะคะ”
“ฉันฟินิกซ์”
“สวัสดีค่ะดิฉันฝันดีนะคะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณฝันดี”
“เช่นกันค่ะ”
หญิงสาวทั้งสองแนะนำตัวให้กันและกันรู้จัก ทว่าแผ่นดินกลับไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ที่เห็นลูกพีชดูสนิทสนมกับฝันดีทั้งที่เพิ่งจะรู้จักกัน
“คุณลูกพีชสวยมากเลยนะคะ”
“คุณฝันดีเองก็เช่นกันค่ะ”
“สรุปเรื่องงานมึงมา” แผ่นดินแทรกบทสนทนาของสองสาว ไม่รู้สิ เขาแค่ไม่อยากให้ฝันดีรู้จักกับเธอ เท่านั้นเอง..
“เธอสองคนออกไปก่อน”
“ค่ะ/ค่ะ”
เมื่อได้รับคำสั่งทั้งสองก็พากันออกไปรอที่นอกห้อง ปล่อยให้เจ้านายคุยเรื่องงานกันไป ส่วนพวกเธอก็มาทำความรู้จักกันต่อ แล้วดูเหมือนว่าเธอสองคนจะเข้าขากันได้เป็นอย่างดี ฝันดีเป็นคนที่พูดสนุก พอมาอยู่ด้วยกันกับลูกพีชแล้ว ลูกพีชกลายเป็นคนเงียบไปเลย เพราะฝันดีคุยเก่งมาก
“ลูกพีชเป็นแฟนพี่แผ่นดินเหรอ” ความปากไวทำให้ฝันดีเผลอถามถึงความสัมพันธ์ของแผ่นดินและหญิงสาวตรงหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเอามาก ๆ ทว่าปากของเธอกลับพ่นประโยคนั้นออกไปแล้ว
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“ก็คุณแผ่นดินกับลูกพีชดูเหมาะสมกันมากเลย”
“ไม่หรอก ลูกพีชเป็นแค่พนักงานฝึกงานค่ะ”
“จริงเหรอ”
“ค่ะ^^”
“ช่างมันเถอะ มาคุยเรื่องของเราต่อกันเถอะ”
“^^”