ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าเดินตรงไปยังโต๊ะทำงานของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอกำลังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างจริงจัง ไม่ได้สนว่ารอบกายตัวเองเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในมือของเขามีถุงเครื่องดื่มและขนมเค้กที่แวะซื้อติดมือก่อนขึ้นมา
“ไงแสบ”
“อ้าวคุณแผ่นดิน” ร่างเล็กที่กำลังนั่งทำงานรีบลุกพรวดพราดขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มที่คุ้นหน้าค่าตาเป็นอย่างดียืนส่งยิ้มมาให้ตัวเอง
“พี่เอามาฝาก” เขามองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ตรงนี้ จึงใช้สรรพนามที่เอาไว้เรียกเวลาอยู่นอกสถานที่ ทว่าหญิงสาวกลับรู้สึกตกใจจึงหันขวับมองไปรอบ ๆ ตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“แกล้งฝันอีกแล้ว” นี่แหละผู้หญิงที่พ่อเขาพูดถึงก่อนหน้านั้น เธอชื่อว่าฝันดี ฝันดีเป็นพนักงานในบริษัทที่เพื่อนเขาเป็นเจ้าของ และเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขารู้จักคำว่า ‘รัก’ เขาพยายามตามจีบเธอมาหลายปีแล้ว ทว่าหญิงสาวกลับไม่มีท่าทีว่าจะใจอ่อนยอมเปิดใจให้ได้เข้าไปอยู่ตรงนั้นของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมแพ้หรอกนะ ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก
“เป็นคนขี้ตกใจไปซะแล้ว”
“ก็ดูพี่ทำสิ”
“อะไร ก็แค่แทนตัวเองว่าพี่เอง”
“ปกติพี่พูดที่ไหนล่ะ” เขาจะพูดเฉพาะเวลาอยู่ข้างนอกต่างหาก พอมาพูดในบริษัทเธอก็ต้องตกใจเป็นธรรมดา อย่าลืมว่าแผ่นดินเป็นใครมาจากไหน ไม่ใช่คนที่เธอจะมาพูดเล่นด้วยได้ เขาเป็นถึงเพื่อนสนิทของท่านประธานบริษัทที่เธอกำลังทำงานอยู่ หากล่วงเกินอีกฝ่ายเธอมีโอกาสถูกไล่ออกได้เลยนะ
“คืนนี้ว่างไหม”
“คืนนี้ฝันไม่ว่างค่ะ” พลางยิ้มอ่อน
“แล้วมีวันไหนที่ว่างบ้าง” เขาพูดด้วยความน้อยใจ กี่ครั้งที่ตั้งใจจะชวนเธอออกไปข้างนอก เธอก็เอาแต่ปฏิเสธทุกครั้งไป เขาแค่อยากมีเวลาพาเธอไปทานข้าวสักมื้อ ไปดูหนังด้วยกันสักครั้ง ถึงแม้ว่าสถานะของเราสองคนจะไม่ใช่แฟนกันก็ตาม แค่ไปในฐานะพี่น้องก็ไม่ได้เลยเหรอ ทำไมเธอถึงไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ลองบ้างวะ นี่มันก็เกือบ 3 ปีแล้วนะที่เขาตามตื๊อเธออยู่แบบนี้ หรือว่าเธอมีคนในใจอยู่แล้ว
“ฝันขอโทษนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่จะรอจนกว่าเราจะพร้อม”
“ขอบคุณที่เข้าใจฝัน” เธอรู้มาตลอด รับรู้ถึงความรู้สึกดี ๆ ที่ผู้ชายคนนี้มีให้เธอ แต่เพราะตัวเธอเองที่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขา ฉะนั้นเธอก็ไม่ควรให้ความหวังเขาไปมากกว่านี้ หลายครั้งที่เธอพยายามทำตัวเย็นชา ราวกับไม่สนใจในสิ่งที่เขาพยายามเอ่ยชวนหรือหามาให้ เธอแค่อยากให้เขาหยุดทุกอย่างแล้วไปหาคนที่เพียบพร้อมมากกว่านี้ อนาคตเขายังมีโอกาสเจอผู้หญิงสวย ๆ อีกมากมาย เธอไม่อยากเข้าไปเป็นภาระของใครทั้งนั้น ขออยู่ในจุดที่ตัวเองอยู่แล้วสบายใจดีกว่า นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการมาตลอด...
“พี่ไปหาเพื่อนละ”
“ค่ะ^^”
หน้าห้องทำงาน
แอ๊ด~
“ลืมมารยาทไว้ที่บ้านหรือไง” ทันทีที่ผลักประตูเข้าไป เสียงทุ้มของเจ้าของห้องก็เอ่ยขึ้นทันที แม้จะเป็นประโยคคำด่าทว่าอีกคนกลับไม่สนใจ แผ่นดินปิดประตูแล้วก้าวตรงไปยังโซฟาก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งด้วยความหงุดหงิด
“เฮ้อ...”
“.....” เสียงถอนหายใจดัง ๆ ดึงสายตาเจ้าของห้องให้ละจากกองเอกสารเงยขึ้นมอง
“เบื่อว่ะแม่ง”
“ทำไม”
“ไม่บอก”
“งั้นก็เงียบปาก” อย่าให้ได้ยินเสียงเชียว เวลาคนห่วงแล้วเสือกมากวนตีน
“พรุ่งนี้กูต้องเข้าบริษัทไปฝึกงานให้หลานสาวสุดที่รักของพ่อกู แล้วแม่งคนทั้งบริษัทมีแค่กูคนเดียวหรือไงวะ” เขาล่ะไม่เข้าใจพ่อตัวเองจริง ๆ เลย กะอีแค่สอนงานมันจะอะไรนักหนา บริษัทมีพนักงานเป็นพันคนแต่หวยมาออกที่เขา แล้วเขาคือคนที่ไม่ค่อยได้เข้าบริษัทนั้นด้วยไงประเด็น จะอยู่อีกที่มากกว่า
“ก็แค่ฝึกงานแล้วมึงจะบ่นทำไม”
“ถ้าฝึกกับคนอื่นกูไม่มีปัญหา แต่เพราะเป็นเด็กนั่นไง” ทันทีที่สบตากับเพื่อน ฟินิกซ์ก็รับรู้ได้ทันทีว่าคนที่เพื่อนกำลังหมายถึงนั้นคือใคร
“กลับมาแล้ว?”
“อืม”
“กี่ปีแล้ว เธออาจจะลืมไปแล้วก็ได้”
“กูก็หวังให้มันเป็นแบบนั้น”
“อย่าเพิ่งเครียดกับสิ่งที่มันยังไม่เกิด”
“เบื่อว่ะ”
“แล้วจะเข้าร้านไหม”
“เข้าแหละ” ไม่อยากอยู่คนเดียว พออยู่คนเดียวแล้วแม่งปวดหัว คิดไม่ตกกับเรื่องพรุ่งนี้ นี่เขาต้องไปสอนงานให้เด็กนั่นจริง ๆ เหรอวะ หรือพ่อเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ร้อยวันพันปีไม่เคยมาบังคับเรื่องพวกนี้ อึดอัดชะมัด
สุดท้ายก็ต้องเลิกคิดแล้วปล่อยให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ไป อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เขารู้จุดยืนตัวเองดี แล้วหวังว่าเธอเองก็น่าจะรู้จุดยืนของตัวเองเช่นเดียวกัน ถ้าอยากทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ก็อย่าล้ำเส้นกันมากเกินไป หวังว่าเธอจะเข้าใจก็แล้วกัน
วันต่อมา
“สวัสดีค่ะพี่ทิชา” ลูกพีชยกมือไหว้เลขาของคุณลุงด้วยท่าทีนอบน้อม ทิชายิ้มรับก่อนจะทักทายหญิงสาวกลับเช่นเดียวกัน
“หวัดดีจ้าน้องลูกพีช คิดว่าไหวไหมเราวันนี้”
“สู้ตายค่ะ”
“พี่เชื่อว่าพีชทำได้แน่นอน”
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจในตอนเช้านะคะ” พอได้รู้จักนิสัยที่แท้จริงของหญิงสาว ก็ทำให้รู้ว่าเธอเป็นเด็กที่น่ารักและน่าทะนุถนอมมาก ลูกพีชถือว่าเป็นคนที่ร่าเริงเลยก็ว่าได้ แต่เธอมักจะไม่เอาความร่าเริงออกมาใช้กับคนแปลกหน้า เพราะทั้งสองทำความรู้จักและพูดคุยแลกเปลี่ยนอะไรกันอีกมากมายเมื่อวาน ไม่แปลกหากพวกเธอจะสนิทกันมาก
“พีชขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“สู้ ๆ ค่ะ” ทิชาทำมือเพื่อเป็นกำลังใจส่งให้กับหญิงสาวรุ่นน้องที่กำลังจะเปิดประตูห้องทำงานของประธานเข้าไป เนื่องจากโต๊ะทำงานของเธออยู่ในห้อง นั่นหมายความว่าเธอต้องทำงานอยู่ในการควบคุมของท่านประธานเพียงคนเดียวเท่านั้น
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
แอ๊ด~
“สวัสดีค่ะ..!!”