ตอนที่ 2
พักรบมาพบรัก
กลางป่าลึกที่ไม่มีใครอยากย่างกรายเข้ามา ด้วยเกรงอันตรายทั้งจากสัตว์และบุคคลนอกกฎหมาย ที่วันดีคืนดีอาจ ติดอาวุธเข้ามาเดินเพ่นพ่านอยู่บริเวณนี้ แต่สำหรับปรานต์แล้วยิ่ง อันตรายเท่าใดกลับยิ่งหอมหวานล่อหลอกเขาให้เดินเข้าหา อาจจะเป็น เพราะเขาผ่านการฝึกแสนหฤโหดอย่างหลักสูตรรีคอนและสไนเปอร์มาแล้ว จิตใจของชายหนุ่มเลยค่อนข้างมั่นคงและเข้มแข็งต่างจากคนทั่วไป
ด้วยประสาทการรับรู้ทางการมองเห็นที่ดีเยี่ยม อันเป็นลักษณะ พิเศษของสไนเปอร์ วัตถุชิ้นเล็กๆ ที่ถูกทิ้งไว้จนเกือบกลมกลืนไปกับกอง ใบไม้แห้งนั้นเลยไม่อาจรอดพ้นสายตาคู่คมนั่นไปได้ ชายหนุ่มย่อตัวลง เก็บมันขึ้นมาดูด้วยความสงสัย ที่แท้มันคือก้นบุหรี่ที่ไหม้ไฟจนเกือบหมด นั่นแสดงว่าบริเวณนี้นอกจากเขาแล้วต้องมีบุคคลอื่นเคยเข้ามาในนี้ อย่างแน่นอน
“ใครมันอุตริเข้ามาในนี้”
ปรานต์ถามตัวเอง พลางพลิกก้นบุหรี่ที่อยู่ในมือไปพร้อมกัน
จะเป็นใครไม่สำคัญ แต่สิ่งที่พบทำให้แผงคิ้วเข้มของชายหนุ่ม ต้องขมวดเข้าหาจนแทบชิดติดกัน เขาติดใจเพียงอย่างเดียวคือ บุคคล เหล่านั้นเข้ามาทำอะไรในป่าลึกขนาดนี้ เนื่องจากบริเวณนี้ไม่อนุญาตให้ บุคคลทั่วไปเข้ามาเพราะมันอันตรายจนเกินไป ยกเว้นเขาซึ่งเป็นกรณีพิเศษ
แต่วัตถุที่พบสนับสนุนความคิดของปรานต์ที่ว่า กองทัพสหราช อาณาจักรว้าที่เขาปะทะเมื่อคืนก่อนนี้ต้องมีคนสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างนั้นจะมีเม็ดเงินเข้ามาพัฒนากองทัพจนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ได้อย่างไร และแน่นอนเมื่อมีคนสนับสนุน ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนระหว่าง พันธมิตรเช่นกัน
เพียงแต่ข้อแลกเปลี่ยนนั้นคืออะไร นั่นคือปริศนาที่ทำให้ผู้พันหนุ่ม ลงทุนเสี่ยงชีวิตเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้เพื่อหาคำตอบให้ได้ และก้นบุหรี่ ที่พบทำให้ชายหนุ่มเริ่มมองเห็นถึงเค้าลางบางอย่างที่น่าจะเป็นไปได้
ปรานต์ยังคงเดินหาร่องรอยความผิดปรกติไปเรื่อยๆ ในขณะที่เสียง คล้ายน้ำไหลเริ่มดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท เป็นแรงกระตุ้นให้ชายหนุ่ม พยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นด้วยเกรงว่าจะค่ำเสียก่อน
สาเหตุที่เขาตัดสินใจเข้าป่าเพราะรู้สึกเบื่อหน่ายกับบางเรื่อง จึง ทำให้ต้องหนีเข้าป่ามาแบบนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาน่าจะกลับบ้านไป เยี่ยมคนที่รักเขามากที่สุด และรอคอยการกลับไปของเขาอยู่ทุกลมหายใจ อย่างคุณย่าบ้าง
แต่ชายหนุ่มกลับคิดว่า การกลับบ้านคือการฆ่าตัวตายชัดๆ ซึ่งเขา เคยเปรยแบบติดตลกกับคู่หูว่า ให้ไปรบกับโจรใต้ยังดีกว่ารบกับผู้หญิง เป็นไหนๆ
สายน้ำจากหน้าผาสูงชันที่ไหลลงมาตามแรงโน้มถ่วง ทอดตัวลงสู่ สายธารเบื้องล่างช่วยให้คนมองชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมาบ้าง ปรานต์วางสัมภาระ ทั้งหมดไว้ตามริมลำธาร เนื่องด้วยเขาไตร่ตรองดูแล้วว่าบริเวณนี้น่าจะ เหมาะแก่การค้างแรมในคืนนี้มากที่สุด
กว่าจะกางเต็นท์เสร็จทำเอาร้อนจนอยากโดดลงไปในน้ำ คิดพลางสลัดเสื้อแจ็คเก็ตออกอย่างไม่ใยดี จากนั้นจึงตามด้วยเสื้อยืดพอดีตัว เผย ให้เห็นแผงอกกำยำล่ำสันด้วยผ่านการออกกำลังกายทุกวัน เขาต้องถอดกางเกงยีนออกเพราะต้องใส่อีกวัน สภาพของชายหนุ่มตอนนี้จึงเกือบจะเปลือยเปล่ายังดีที่เหลือบ็อกเซอร์ติดตัว
ชายหนุ่มใช้ก้อนหินเป็นที่พักพิง ความเย็นฉ่ำยามแช่กายอยู่ใน อ้อมกอดของสายน้ำช่วยทำให้สมองปลอดโปร่งขึ้นมาบ้าง ป่าแถบนี้ยัง อุดมสมบูรณ์ในความคิดของเขา แต่มันมีอาณาเขตกว้างใหญ่จนเกินกำลัง ที่เจ้าหน้าที่จะดูแลไหว การเอาหูไปนาเอาตาไปไร่มันก็ไม่ใช่วิสัยของเขา อีกเช่นกัน
และการเข้ามาที่นี่ในคราบนักท่องเที่ยวเชิงสำรวจ แทนที่จะใส่ชุด ทหารลายพรางเข้ามาถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เผื่อต้องเผชิญหน้า กับชาวพื้นเมืองในแถบนี้ ซึ่งเขาไม่สามารถรู้ได้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน การเข้ามาในคราบนักรบนั้นจึงเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง ซึ่งในวันนี้ นับว่าคุ้มเมื่อเขาเริ่มได้เค้าลางขึ้นมาบ้าง…
“ลูกพลัม…นี่มันออกนอกเส้นทางมาไกลแล้วนะ”
เสียงปรามจากฝาแฝดต่างเพศไม่ช่วยให้แฝดผู้พี่แสนดื้อรั้นนั้นหยุดการเคลื่อนไหวได้เลย “เถอะน่า ขอไปต่ออีกนิดเดียวเอง เค้าแค่อยากรู้ ว่ามันมีอะไร ถึงได้ห้ามนักท่องเที่ยวไม่ให้เข้าไป”
คีตัญชลีหันไปมองผู้ร่วมเดินทางที่ตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด ในขณะที่สองขาของเธอยังไม่ยอมหยุดการเคลื่อนไหว
“มีเสือหรือเปล่าเขาถึงห้ามเข้าไป อย่าเสี่ยงเลยนะมันจะมืดแล้ว ด้วย กว่าจะเดินลงไปถึงข้างล่างอีก” คีตกวีพยายามหาเหตุผลมาหว่าน ล้อมคนดื้อรั้น แต่ไม่เป็นผล
“พีช!” น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเริ่มห้วน ดวงตากลมโตสีนิลจ้องมอง ไปยังอีกฝ่ายเขม็ง มือทั้งสองข้างเปลี่ยนไปท้าวอยู่ที่เอวบาง ทำให้ฝ่ายน้อง ต้องล่าถอย
“ก็ได้….แต่ไปแค่แป๊บเดียวนะ”
คีตกวีตัดความรำคาญ ด้วยรู้ว่าพายุเฮอริเคนลูกใหญ่กำลังจะมา ถ้าขืนเขายังขัดใจไม่เลิก เพียงเท่านั้นรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ อีกฝ่ายทันที
“บนนี้มีทางน้ำไหลผ่านด้วยเหรอ”
คีตัญชลีร้องบอกด้วยความตื่นตาตื่นใจ เพราะเมื่อเดินพ้นออกมา จากแนวป่ารกครึ้มก็เจอกับลำธารขนาดใหญ่ซุกซ่อนตัวอยู่ ไม่พูดเปล่า หญิงสาวคว้ากล้องคู่ใจขึ้นมาถ่ายรูปหวังจะเก็บภาพสวยๆ ไปฝากเพื่อน
“ว้าย กล้องฉัน!”
ด้วยความไม่ระมัดระวัง กล้องจึงหลุดจากมือตกลงไปในลำธาร ก่อนจะไหลไปตามกระแสน้ำด้วยความรวดเร็ว ด้วยความเสียดายกล้อง ราคาแสนแพงจึงไม่ทันได้คิดไตร่ตรอง หญิงสาวรีบกระโดดลงน้ำตาม กล้อง ไปทันที
“ลูกพลัมอย่าไป มันอันตราย!” คีตกวีร้องห้ามพี่สาวเสียงดังลั่น แต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเธอเดินลุย น้ำไปอย่างรวดเร็วด้วย หวังจะคว้ากล้อง คู่ใจให้ทัน
“ว้าย!”
ยังไม่ทันได้คว้ากล้อง คีตัญชลีต้องเซถลาเนื่องจากเท้าไปสะดุด ก้อนหินที่อยู่ใต้น้ำจนเสียหลักล้มลง โชคร้ายที่บริเวณนั้นน้ำค่อนข้างลึก ร่างของเธอจึงถูกกระแสน้ำพัดพาไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีอะไรให้ยึดเกาะ แม้แรงของคีตกวีที่วิ่งตามไปก็มิอาจไล่ทัน เนื่องด้วยเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็ว มาก
“ลูกพลัม!”
คีตกวีร้องเรียกพี่สาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทุกอย่างจะกลับคืนสู่ ความเงียบสงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชายหนุ่มยืนหอบหายใจด้วยความ เหนื่อย เขาคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะวิ่งตามอีกต่อไป ความรู้สึกหลายอย่าง ประเดประดังเข้ามาเมื่อไม่สามารถช่วยเหลือพี่สาวได้
ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด สั่งให้ชายหนุ่มต้องรีบกลับขึ้นฝั่ง ก่อนที่จะถูกกระแสน้ำพัดพาไปอย่างไม่รู้ทิศทางอีกคน ‘ต้องรีบตามคนมา ช่วยกันค้นหา’ นั่นคือสิ่งที่คีตกวีคิดออกในเวลานี้
“ตูม!”
เสียงดังเหมือนของหนักตกลงมากระทบผืนน้ำ ส่งผลให้ปรานต์ตื่น จากภวังค์ ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าพลางเหลียวซ้ายแลขวาหาที่มา ของเสียงเมื่อสักครู่…อะไรบางอย่างทำให้เขาอุทานออกมา
“เฮ้ย!” ผู้พันหนุ่มเจนสนามรบซึ่งไม่เคยหวาดกลัวเรื่องผีสางนางไม้ มาก่อนกลับต้องร้องออกมาด้วยความตกใจ เพราะร่างที่ทะลึ่งพรวดขึ้นมาเหนือผิวน้ำนั่นแท้ๆ
แต่เมื่อตั้งสติได้ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าร่างนั้นพยายามกระเสือก กระสนเอาชีวิตรอด ด้วยสัญชาตญาณจึงรีบว่ายน้ำเข้าไปหาด้วยความ รวดเร็ว วินาทีนั้นเขาจึงได้รู้ว่าเป็นผู้หญิง จึงรีบพากลับขึ้นฝั่งเพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันที
“ชะ…ช่วยด้วย…”
หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยได้เท่านั้นก็นิ่งเงียบไป ด้วยความเชี่ยวชาญ ในการช่วยเหลือชีวิตคนเบื้องต้นที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีจากหน่วยรบ พิเศษ ชายหนุ่มพยายามอยู่ไม่นานก็ได้ผล ก้อนน้ำจำนวนหนึ่งพุ่งพรวด ออกจากเรียวปากซีดเซียวในเวลาต่อมา
“คุณ…เป็นยังไงบ้าง”
คีตัญชลีนอนนิ่งกลอกตาไปมาคล้ายกำลังมึนงง ครั้นพอได้สติเธอ จึงปรายตามองไปยังร่างของชายหนุ่มที่นั่งคร่อมตนเอาไว้ โดยเริ่มตั้งแต่ ใบหน้า ไล่ลงไปจนถึงแผงอกกำยำ จนกระทั่งสายตาไปสบเข้ากับบางอย่าง ที่อยู่ช่วงกลางลำตัวของเขาอย่างจัง
“กรี๊ดดด ไอ้บ้ากาม อย่าเข้ามานะ!”