มธุรสนั่งร้องไห้สะอื้นด้วยความเสียใจ วันนี้ต้องมาเสียตัวให้นายหัวภาคิน เสียบ้านของพ่อไป บ้านที่พ่อรักและเหลือเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย มธุรสพยายามหายใจเข้าลึกๆ อย่างพยายามตั้งสติ หลังจากนั้นก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตาแล้วทำท่าจะลุกขึ้น
"หนูน้ำผึ้งหนูไม่ต้องไปไหนหรอก อยู่กับอาที่นี่ แยกบ้านกับแม่ของหนูก็ได้ อามีบ้านพักหลายหลัง" นายหัวไกรสีห์พูดหาทางออกให้กับมธุรส
"ผมคิดว่าไม่ต้องลำบากพี่สิงห์หรอกครับ ผมเป็นผัวของน้ำผึ้งแล้ว ผมคิดว่าเขาควรไปอยู่กับผมเพราะถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อก็คงโดนแม่ของเขาหึงหวงจนต้องหาผัวคนที่สองสามสี่ให้ลูกสาวอีก" นายหัวภาคินพูดค้านความคิดของนายหัวไกรสีห์และเหน็บแม่ของมธุรสไปด้วยในที แล้วหันไปเหลือบมองมธุรส
"หมายความว่ายังไง แกยินดีจะรับผิดชอบหนูน้ำผึ้งเขาแล้วเหรออคิน" นายหัวไกรสีห์ถามนายหัวภาคินย้ำเพื่อความมั่นใจ รู้สึกยินดีและใจหายปะปนกัน
"ผมขอคุยกับน้ำผึ้งเขาตามลำพังสักครู่ได้มั้ยครับพี่สิงห์" นายหัวภาคินขออนุญาตแล้วหันไปหามธุรส
"ฉันไม่มีอะไรต้องคุยกับคุณ ฉันจะกลับกรุงเทพไปเช่าห้องอยู่แล้วค่อยหางานทำ ไม่ต้องมาทำเป็นใจบุญรับผิดชอบฉันหรอก" มธุรสพูดออกมาด้วยท่าทางหยิ่งทระนง
"แต่ผมคิดว่าเราต้องคุยกัน เพราะเมื่อคืนผมไม่ได้คุม คุณอาจจะเอาลูกผมติดท้องคุณไปก็ได้" นายหัวภาคินพูดให้เหตุผลเสียงเข้ม
"หมายความว่าคุณจะแต่งงานรับผิดชอบลูกสาวฉันใช่มั้ยนายหัว" นางมารตีถามน้ำเสียงลิงโลดรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
"ขอเราสองคนคุยกันก่อนครับ" นายหัวภาคินพูดย้ำ สองคนผัวเมียจึงออกไปจากห้องเพื่อเปิดโอกาสให้นายหัวภาคินและมธุรสได้คุยกัน
"ผมจะพาเธอไปอยู่กับผม" นายหัวภาคินเปิดฉากพูดกับมธุรสขึ้นก่อน
"ไปอยู่กับคุณ ไปอยู่ยังไง นายหัวมีลูกมีเมียแล้วยังคะแล้วพ่อแม่ของนายหัวเขาจะยอมรับฉันได้เหรอ นายหัวปล่อยฉันไปเถอะ เราสองคนไม่ควรข้องเกี่ยวกันอีก"
"แต่เมื่อคืนเราสองคนไม่ได้ป้องกัน เธออาจจะท้องขึ้นมาก็ได้นะมธุรส เรื่องลูกเมียผมยังไม่มี เรื่องแม่ก็ไม่ต้องบอกหรอกเราไม่ได้จะแต่งงานกันเสียหน่อย" นายหัวพูดเหตุผล
"ฉันไม่ท้องหรอกค่ะ ฉันเพิ่งหมดประจำเดือนไปไม่นาน คือฉันเรียนวิทยาศาสตร์ชีววิทยามาฉันพอเข้าใจถึงระบบการสืบพันธุ์และการเจริญพันธุ์รอบการตกไข่และการตั้งครรภ์ดี แต่เพื่อความมั่นใจเดี๋ยวฉันจะวานให้พี่น้อยช่วยไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้กินกันไว้อีกทางด้วย" มธุรสไม่ได้สนใจหรือใส่ใจข้อเสนอของนายหัวกลับคิดหาทางออกให้ตัวเอง
"ดูเชี่ยวชาญเรื่องอย่างว่าเสียจริงนะ" นายหัวภาคินทำเสียงเยาะใส่มธุรส
"ค่ะ ก็แล้วแต่คุณจะคิดเถอะ" มธุรสรับคำแล้วทำท่าจะลุกขึ้นเดินขึ้นไปเก็บของบนห้องแล้วเดินทางกลับกรุงเทพ มธุรสตั้งใจว่าจะไปหาดารินทร์เพื่อนสนิทที่กรุงเทพให้เพื่อนช่วยเหลือหาที่อยู่ให้แล้วมธุรสค่อยหางานทำ
"เดี๋ยว นั่นเธอจะไปไหน ฉันมีข้อเสนอให้เธอนะ เธอควรหยุดฟังและคิดดูดีๆ ก่อน" นายหัวภาคินพูดออกคำสั่งแบบคนมั่นใจในตัวเอง เมื่อมธุรสได้ยินดังนั้นจึงหยุดเดินแล้วค่อยๆ หันมาฟังข้อเสนอของนายหัว
"ข้อเสนออะไรของนายหัว"
"ผมขอยื่นข้อเสนอเลี้ยงดูคุณ จะส่งเสียเลี้ยงดูคุณอย่างดีแต่จะไม่แต่งงาน คุณจะได้เงินได้ทุกอย่างจากผมเท่าที่เมียคนหนึ่งพึงมีพึงได้"
"แล้วทำไมฉันต้องรับข้อเสนอไร้ค่าของคุณด้วย"
"ก็เพราะว่าค่าในตัวคุณผมได้ครอบครองมันเป็นคนแรก ไหนๆ คุณก็เสียตัวให้ผมไปแล้วคุณไม่คิดจะถอนทุนคืนจากผมบ้างเลยเหรอ อย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่คุณกำลังเดือดร้อน แม่ของคุณเขาพร้อมที่จะส่งคุณไปมีผัวไปเป็นเมียของใครก็ได้ที่ไม่ใช่พี่สิงห์พ่อเลี้ยงของคุณนะ อยากมีผัวคนที่สอง คนที่สามตามมาในเร็วๆ นี้เหรอมธุรส คุณควรไปอยู่กับผมนะอย่างน้อยก็เพื่อตัวคุณเอง เราสองคนต่างก็ทำหน้าที่ต่างตอบแทน คุณอยู่ดูแลผม ผมก็ดูแลsupportเรื่องเงิน คุณไม่ต้องเซซังไปไหนจะมีผมคอยปกป้องช่วยเหลือคุณทุกอย่าง"
"ปกป้องหรือเหยียบย่ำ" มธุรสสวนกลับไป
"ผมไม่แน่ใจหรอกว่าจะเป็นผัวคุณได้ดีแค่ไหน แต่อย่างน้อยเมื่อคืนทุกรอบของเรามันก็ดีมากถึงจะโดนวางยาคุณก็น่าจะจำได้นะ เว้นเสียแต่ว่าคุณอยากได้พ่อเลี้ยงคุณเป็นผัวเหมือนที่แม่คุณพูดหรืออยากมีผัวใหม่อีก"
"แล้วทำไมฉันต้องมีผัวมาเลี้ยง ฉันมีชีวิตมีแรงฉันทำงานเลี้ยงตัวเองได้"
"เพราะคุณจบแค่มัธยมปลายไง คุณจะเอาความรู้ที่ไหนไปทำมาหากิน คุณจะใช้แรงแลกงานแลกเงินยังไง มันจะพอกินพอค่าที่อยู่ค่าเทอมมั้ย แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปเรียน" นายหัวภาคินพูดทำให้มธุรสนิ่งแล้วคิดตาม
"เออ ก็เสียตัวให้เขาไปแล้วนี่หว่า"
"ชีวิตก็ไม่เหลืออะไรแล้ว พ่อตาย แม่ทิ้ง บ้านของพ่อก็ถูกขายไปแล้ว"
"บางทีชีวิตมันก็ไม่มีทางให้เลือกเยอะแยะ ถ้ากลับกรุงเทพไปบ้านก็ไม่มีจะอยู่ งานก็ไม่มี เงินก็ไม่มีเก็บ ต้นทุนความรู้ก็แค่มัธยมปลาย"
"หรือว่าเราควรหาประโยชน์จากความสูญเสียที่เราเสียไป ในเส้นทางนี้จุดเริ่มต้นมันก็แย่ที่สุดแล้วนี่หว่าข้างหลังก็เหว ไปข้างหน้าก็ขวากหนาม แล้วจะไม่ดีกว่าเหรอวะถ้ามีคนชวนเดินไปอีกทางแม้ว่ามันจะเป็นหลุมเป็นบ่อบ้างแต่มันคงไม่ตกเหวตายและโดนหนามตำเท้าไปตลอดทางแน่" มธุรสคิดทบทวนแล้วพูดถามนายหัวภาคินออกไปว่า
"แล้วถ้าฉันรับข้อเสนอของคุณมันจะมีระยะเวลานานเท่าไหร่ ฉันต้องทำอะไรบ้างในเงื่อนไขสัญญาของเราบ้าง"
"ก็ตามที่ผมพูดไปตอนแรก เลี้ยงให้เป็นเมียแต่ไม่แต่งงาน คุณก็ทำหน้าที่เมีย ผมก็ทำหน้าที่ผัว"
"ค่ะ เมียเก็บใช่มั้ยคะ ฉันรับเงื่อนไขนี้ สี่ปีเราสองคนจะอยู่ในสัญญานี้สี่ปี แต่มีเงื่อนไขเพิ่มเติมคือตอนที่ฉันทำหน้าที่ของฉันคุณต้องไม่ไปนอนกับคนอื่นหรือถ้านอนต้องป้องกันและแจ้งให้ฉันทราบด้วย"
"มากไปมั้ย นี่มันเกินสถานะเมียตีทะเบียนที่ร้องขอจากผัวอีกนะ แต่ไม่เป็นไรในเมื่อคุณกล้าเสนอขอเงื่อนไขผมก็รับ แต่ว่าคุณก็ต้องทำหน้าที่ของเมียบนเตียงให้มันดีๆ ด้วย ไม่ใช่นอนเป็นท่อนไม้จนผัวเบื่อ"
"ค่ะ ฉันจะทำหน้าที่เมียบำเรอให้คุณอย่างดีที่สุด แต่คุณก็ต้องทำหน้าที่ของคุณด้วย"
"เอาเป็นว่าคุณรับข้อเสนอของผมตามนี้"
"ค่ะ ไม่แต่งงาน ไม่ผูกมัด แต่ฉันขอเรียนต่อไปพร้อมๆ กับการเป็นเมียเก็บของคุณได้มั้ย อย่างน้อยถ้าคุณเบื่อฉันและยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ฉันจะได้มีความรู้ มีงานดีๆ ทำหาเลี้ยงตัวเองได้"
"อะไรนะ เธอพูดว่าอะไรของเธอนะ"
"ฉันอยากไปเรียนต่อ"
"เรียนต่อ แล้วจะไปเรียนยังไงเธอมีผัวแล้วนะ"
"สมัยนี้เขามีผัวในวัยเรียนกันเยอะแยะไปค่ะ ที่เป็นเมียเก็บเมียน้อยเสี่ยก็มีให้เห็นถมเถไปไม่ใช่หรือคะ"
"นี้เธอกำลังจะบอกว่าเธอจะเป็นเมียเก็บของฉันแลกกับการที่จะให้ฉันส่งเธอเรียนต่ออย่างนั้นหรือมธุรส" นายหัวภาคินถามมธุรสน้ำเสียงฟังดูหงุดหงิดในท่าทีของสาวน้อยที่แสดงออกเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจต่อความสาวหรือเรื่องที่ต้องนอนกับเขาแลกกับเงื่อนไขให้ได้มีเงินไปเรียนต่อ
"ค่ะ ใช่" มธุรสรับคำเสียงหนักแน่น"
"ดี ถ้าเธอเลือกแบบนั้น เธอก็ทำหน้าที่เมียเก็บให้ผมพอใจ ทำได้หรือเปล่า ไม่ใช่ได้แค่ทีสองทีแล้วจะเบื่อเอา มัวแต่นอนนิ่งเป็นขอนไม้ผุผู้ชายก็เสียอารมณ์ไม่ไหวมั้ยวะ" นายหัวภาคินพูดน้ำเสียงเยาะเย้ยมธุรส
"ค่ะ ได้ค่ะ ฉันจะทำเต็มความสามารถ นายหัวก็อย่าเผลอมาติดใจฉันจนตัดใจทิ้งฉันไม่ลงตอนเราหมดสัญญาซื้อขายกันก็แล้วกันค่ะ" มธุรสตอบรับคำอย่างเด็ดเดี่ยว ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นมีความแน่วแน่ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเบื้องหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมธุรสได้เลือกแล้ว
"น้ำผึ้ง อย่ามาทำท่าทีอวดดีใส่ผมแบบนี้นะ และอย่ามาพยายามทำตัวกร้านโลกใส่ผมอีก" นายหัวภาคินโมโหจนเผลอบีบแขนเรียวของมธุรสอย่างแรงจนมธุรสต้องร้องโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บนายหัวภาคินจึงยอมปล่อย
"แล้วตกลงจะเอายังไง คุณจะยอมส่งฉันเรียนเพื่อแลกกับการได้ฉันเป็นเมียเก็บของคุณมั้ยคะ" มธุรสถามย้ำ
"เออ เรื่องเรียนค่อยว่ากันถ้าไม่ท้องเสียก่อนก็ไปเรียน แล้วคิดจะไปเรียนต่อที่ไหนยังไง"
"ฉันได้ที่เรียนเอาไว้แล้วค่ะ เดือนหน้าก็เปิดเทอมแล้ว"
"อือ ก็ตามนั้น เรียกแม่กับพ่อเลี้ยงของเธอเข้ามาแล้วแจ้งให้ทราบว่าเราตกลงกันแบบนี้ แล้ววันนี้เธอก็เก็บเสื้อผ้าไปกับผมเลย"
"ค่ะ"