Chapter 4 สุขเสียวบนหลังม้า
ใบหน้าแดงก่ำ สติเริ่มย้อนกลับคืนพร้อมๆ กับความละอาย ‘ถูกผิด’ วิ่งวุ่นอยู่ในห้วงแห่งความคิดจนปวดไปทั้งกระบอกตา ร้อนผ่าวดั่งว่ามีหยาดน้ำใสหล่อเลี้ยงหน่วยตา เพียงไม่นานมันก็หยาดหยดลงอาบสองแก้มอิ่มเป็นสาย
นางปัดมือหนาที่เกาะกุมทรวงอกออก แล้วรีบขยับสาบคอเสื้อให้กลับคืนดังเดิม
“เจ้าไม่ควรทำเช่นนี้ รีบพาข้ากลับเถอะ ข้าจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น”
หญิงสาวตั้งคอตรง เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง รู้สึกราวกับมีก้อนแข็งแล่นมาจุกอยู่ที่ลำคอ แต่จังหวะที่นางยังไม่ทันตั้งตัว นางก็ถูกเขาจับบิดที่ปลายคางให้หันหน้าไปทางด้านหลัง
“อื้อ!”
หัวใจดวงน้อยวูบไหวเมื่อนางถูกเขาปล้นจูบไปอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหนาหนักบดเบียดเรียวปากอวบอิ่มอย่างรุกเร้าเว้าวอน จนหัวใจที่เปราะบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับไหวสะท้าน
นางตัวอ่อนยวบ ลืมสิ้นซึ่งท่าทางแข็งขึงที่มีต่อเขา เขาไม่เพียงจูบแต่ยังดึงสาบคอเสื้อที่นางเพิ่งจัดเข้าที่ให้แบะกว้างออกแล้วควักเต้าอวบอิ่มทั้งสองออกมาบี้ด้วยมือหนาเพียงมือเดียว
“อื้อ...”
จังหวะที่นางครางกระสันเขาก็แทรกลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากอย่างไม่รอช้า
ราวกับผืนแผ่นดินพลิกคว่ำคะมำหงาย หัวใจดวงน้อยร่วงลงไปกองอยู่บนผืนหญ้า ก่อนที่จะโลดแล่นกลับขึ้นมาเต้นระรัวราวกับจังหวะกลองรบ
จูบ...
เป็นเช่นนี้เองหรอกหรือ...
จูบที่นางเฝ้าใฝ่ฝันว่าอยากจะมอบมันให้แก่ชายผู้เป็นสามี ทว่าผู้ที่ได้ไปกลับเป็นชายเลี้ยงม้า ชายที่เพิ่งได้พบหน้าไม่ทันข้ามคืน แต่นางกลับรู้สึกกับเขามากล้นจนปล่อยตัวปล่อยใจให้อยู่ในอ้อมกอดของเขาอย่างน่าละอาย
“อาห์...อะ...อะ...อื้อ”
เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ นางก็ถึงกับอ้าปากเผยอ ดวงตาปรือต่ำฉ่ำหวาน ครวญเสียงใสกังวานออกมาด้วยความซ่านหฤหรรษ์
“อ๊ะ!”
นางหวีดร้องด้วยความตกใจเมื่อเขาสอดมือเข้าไปในกางเกงขี่ม้า ล้วงลึกลงไปแล้วกอบกุมโหนกนูนแห่งอิสตรี นิ้วกลางแทรกผ่านกลีบอวบอูมเข้าไปบดขยี้เมล็ดสวาทระรัวจนคนตัวเล็กอวบอัดถึงกับระทวยอ่อน
“ยะ...อย่า อะ...อื้อ”
นางส่ายสะบัดใบหน้าแรงๆ อย่างไม่รู้ว่าจะจัดการกับร่างกายที่แสนทรยศนี่อย่างไรดี เต้านมขาวสล้างชูช่อล่อหลอกมือของเขาให้บี้บดบีบเฟ้นหนักหน่วง ในขณะที่แกนกลางกายนั้นชุ่มแฉะเปียกเยิ้มอย่างน่าละอาย
“เถ้าแก่เนี้ยจะให้ข้าหยุดหรือขอรับ”
พูดพลางจูบไซ้ไปตามลำคอระหง ไล่ลงต่ำไปยังไหล่บางนวลเนียน แล้วเลือกฝังรอยจูบไว้ในที่ลับตา ที่ที่จะมีแต่เขาและนางเท่านั้นที่เห็นมัน
“อะ...อื้อ”
“ว่ายังไงเล่าขอรับ เถ้าแก่เนี้ยอยากให้ข้าหยุดหรือเปล่า”
เอ่ยถามซ้ำพลางเร่งขยี้ปลายนิ้วลงบนเมล็ดสวาท ก่อนจะสอดลึกลงไปถึงรูแคบชื้นที่บัดนี้มีน้ำเสียวไหลเต็มเอ่อล้นรูเปียกชุ่มปลายนิ้วของชายหนุ่มเป็นสาย
“มะ...ไม่ ยะ...อย่าหยุด อะ...อื้อ อื้อ”
นางเบียดแผ่นหลังเล็กเข้าหาแผงอกแกร่งไม่สวมเสื้อของเขา สูดกลิ่นกายของชายใช้แรงงานที่เต็มไปด้วยเหงื่อไคลและกลิ่นฟางแห้ง
“อื้อ...”
มีบางอย่างแข็งขึงและกำลังเบียดอยู่ที่สะโพกของนาง หรือว่านั่นคือ ‘แกนกาย’ ของเขา เขาก็กำลังรู้สึกอย่างที่นางรู้สึกงั้นหรือ
ย่าหลิงรู้สึกราวกับกำลังจะคลุ้มคลั่งเสียให้ได้ นางเสียวจนบิดมวนไปทั้งท้องน้อย หอบหายใจแรงในขณะที่ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก
“ซะ...เซียนหยวน อะ...อื้อ อะ...ฮึก”
นางครวญเรียกเขา กัดเม้มริมฝีปากล่างแล้วแอ่นโหนกนูนเข้าหาฝ่ามือของเขาอย่างร้องขอ
“ขอรับเถ้าแก่เนี้ยของข้า...”
‘ของข้า’ คำแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเช่นนี้ยิ่งทำให้หัวใจของนางเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่แกนกลางกายจะกระตุกเกร็งเสียวจนถึงจุดสุดยอดเพียงเพราะถ้อยคำของเขา
“อื้อ มะ...ไม่ไหวแล้ว อะ...อะ...ฮึก”
หญิงสาวตัวบิดเกร็ง ใบหน้าแดงก่ำ ปรือเปลือกตาลงต่ำ จิกปลายเล็บลงบนต้นแขนของเขาเต็มแรง แรงแห่งกามาถาโถมรุนแรงก่อนจะค่อยๆ จางหายไปแทนที่ด้วยความกระดากอาย
นางไม่รู้ว่าจะพูดอะไร สิ่งที่เกิดขึ้นชี้ชัดแล้วว่ามันเป็นเพราะนางสมยอม หาใช่เขาบังคับขืนใจให้เกิดขึ้น แม้จะไม่ได้มีการสอดใส่ร่วมเพศแต่เขาก็โลมไล้นางไปทั้งเนื้อทั้งตัว จับต้องล้วงเฟ้นในสิ่งที่สตรีพึงสงวนไว้ให้สามี
ความคิดฟุ้งซ่านเตลิดหายเมื่อจู่ๆ มือหนาก็ค่อยๆ ขยับสาบคอเสื้อและกางเกงของนางให้เข้าที่ ก่อนที่มือคู่นั้นจะวางลงมาบนศีรษะแล้วลูบไปมาอย่างอ่อนโยน
อบอุ่นจัง...
มือคู่นี้ทำให้นางรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน แม้แต่บิดาผู้ให้กำเนิดก็ยังไม่ทำให้นางรู้สึกเช่นนี้ได้
ราวกับว่าหากนางฝากชีวิตไว้กับเขา นางจะสามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ อิงแอบซุกอกเขาโดยไม่หวาดหวั่นแม้จะต้องพบเจอภัยอันตรายจะใหญ่หลวงสักเพียงใดก็ตาม
“เถ้าแก่เนี้ยโปรดอย่าได้กังวลใจ อย่าได้โทษตัวเอง หากจะมีใครสักคนที่ผิดก็มีเพียง...ผู้เดียวเท่านั้นที่ผิด”
เขาเลือกที่จะไม่เอ่ยชื่อคนผิด ‘จางอี้เซียว’ เพราะ ‘มัน’ จึงทำให้เขาต้องกลายเป็นกำพร้าตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เร่ร่อนใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นไม่ต่างจากขอทาน เพราะ ‘มัน’ จึงทำให้ผู้หญิงใสซื่อไร้พิษภัยอย่างหวงย่าหลิงต้องทนทุกข์กับการเป็นภรรยาเพียงในนาม ภรรยาบังหน้าซ่อนรสนิยมเพื่อไม่ให้ถูกติฉินนินทา โดยไม่สนใจเลยว่านางจะมีความสุขหรือไม่ หัวใจของนางต้องทุกข์ตรมสักเพียงใด
จางอี้เซียว! ไอ้คนเลวเห็นแก่ตัว!
“เรื่องระหว่างข้ากับท่านมันดีไม่ใช่หรือ ท่านรู้สึกดี ข้าก็รู้สึกดี ‘เรา’ ต่างรู้สึกดี”
ชายเลี้ยงม้าจงใจเน้นย้ำคำว่า ‘เรา’ พลางไล้ปลายนิ้วไปตามกรอบหน้าของเจ้านายสาว ไล่เรื่อยจากสันกรามข้างใบหูไปจนถึงคาง ก่อนจะวกมาที่ริมฝีปากอวบอิ่ม ใช้ปลายนิ้วโป้งกดเบาๆ ก่อนที่เขาจะกลืนน้ำลายลงคอจนลูกกระเดือกกลิ้งกลอกไปมาราวกับว่ากำลังกระหายที่จะลิ้มรสริมฝีปากของนางอีกครั้งและอีกครั้งอย่างไม่รู้เบื่อ