ตอนที่ : 1 ชู้

1310 คำ
1 ชู้          สายฝนโปรยปรายลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้ช่างเย็นฉ่ำจนน่าเอนตัวลงหลับนอน กลับมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเริงรักกันอย่างเร่าร้อนอยู่บนเตียง            "เมียคุณไม่อยู่เหรอคะ"            "มะ...ไม่"            "คืนนี้จะกลับหรือเปล่า"            "ไม่กลับ อา..."            "งั้นแอนก็ค้างที่นี่ได้สิคะ"            "ตามใจเลยครับ แต่ช่วยเร่งเร็วๆ หน่อยนะทูนหัวผมจะแย่อยู่แล้ว อูย..." ฝ่ายชายสูดลมเข้าปอดจนปากสั่น พร้อมกับกดศีรษะของฝ่ายหญิงให้แนบกับใจกลางลำตัว            "แหมๆ เมียไม่อยู่นี่ถึงกับเร่งยิกๆ เชียวนะคะ แต่พอเมียกลับแอนก็กลายเป็นหมาหัวเน่าขึ้นมาทันที" หญิงสาวช้อนสายตามองเขา ลิ้นก็แตะๆ ไล้ๆ ไม่เต็มแรง            "ปากอย่าเพิ่งพูดเลยทูนหัว ทำให้มันเสร็จๆ ก่อนเถอะ"            "ได้ค่า" เสียงขานรับลากยาวคล้ายประชด แต่ก็ยอมทำตามที่เขาบอกอย่างเต็มใจ ปากอ้าขึ้นกว้างแล้วดูดกลืนตัวตนของเขาจนสุดลำ            "จ๊วบๆ จุ๊บๆ"            เสียงดูดไอศกรีมดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงจะเล็กกว่าสามีของเธอแต่ว่ามันก็เร้าใจไม่ใช่เล่น มีเซ็กซ์กับสามีคนอื่นบนเตียงนอนของภรรยาเขา หึ ถ้าไม่ใช่เธอใครจะกล้าทำ นี่แหละ ที่เขาเรียกว่าเร้าใจ!            นอกรั้วบ้านหลังเดียวกัน ภายในรถเก๋งสีดำยังมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งกำพวงมาลัยเอาไว้แน่น ลิ้นชักหน้ารถถูกเปิดออก เผยให้เห็นปืนกระบอกหนึ่งวางอยู่ในนั้น เขาจดๆ จ้องๆ มันอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังไม่ยอมหยิบขึ้นมาเสียที เครื่องยนต์ไม่ยอมดับไฟหน้าก็เปิดไว้เพื่อรอคอยเวลาอันสมควร นิ้วทั้งสิบเคาะพวงมาลัยคล้ายคนใจเย็น ทั้งที่ในใจนั้นร้อนเป็นไฟลุกท่วมเลยในตอนนี้ แต่แล้วดวงตาคู่ดุก็ขยายกว้างขึ้น เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งถือร่มเดินลงมาจากรถแท็กซี่ พร้อมกับไขประตูเข้าไปภายในบ้าน หนังตาของเขาถึงกับกระตุก แต่ก็ยังนั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัย            หญิงสาวที่ไขกุญแจเข้ามาภายในบ้านของตนเองเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ เพราะมีกลิ่นน้ำหอมชนิดที่เธอกับสามีไม่เคยใช้ลอยฟุ้งอยู่ ก่อนจะสะดุดตาเข้ากับรองเท้าส้นสูงคู่สีดำ กระเป๋าสะพายในมือหล่นตุบลงบนพื้น เพราะว่ามันไม่ใช่รองเท้าของเธอนั่นเอง ลมหายใจเริ่มจะขาดห้วงแหงนหน้ามองไปชั้นสองของบ้านอย่างคนหัวใจเต้นผิดจังหวะ            เท้าทั้งสองข้างค่อยๆ ก้าวขึ้นไปทีละขั้นบันไดอย่างแผ่วเบา และทุกย่างก้าวที่เธอเดิน ก็จะมีเสียงเหมือนคน กำลังทำกิจกรรมบางอย่างกันอยู่ดังขึ้น            "อูย แรงๆ เลยทูนหัว แบบนั้นแหละ" เสียงของฝ่ายชายเอ่ยปากเร่งคนที่กำลังทำหน้าที่ได้อย่างถึงอกถึงใจตรงกลางร่าง            "อ๊า!"            "อืม!"            น้ำตาคนบนบันไดร่วงหล่น ตั้งแต่ก้าวขึ้นมาเหยียบบนขั้นที่สาม และพอก้าวขึ้นไปจนอยู่ชั้นสองของตัวบ้าน ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าทำไมเสียงสวาทเหล่านั้น ถึงได้ดังชัดเจนนัก ก็เพราะประตูห้องนอนของเธอถูกเปิดอ้าไว้ ทำให้มองเห็นเงาของทั้งคู่ที่กำลังเริงสวาทโยกไหวไปมาภายในห้อง            "โอ๊ะ! เร็วกว่านี้แอน เร็วๆ"            นั่นเสียงสามีของเธอ! หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากแล้วหันหลังวิ่งลงบันไดไปอย่างชอกช้ำ ไม่พร้อมจะเห็นภาพบาดตาบาดใจของพวกเขาบนเตียงนอนของเธอเอง แค่นี้หัวใจก็เกินจะรับไหวแล้ว น้ำตาไหลพรากๆ วิ่งออกจากบ้านไปอย่างคนขวัญเสีย            แล้วสิ่งที่ชายหนุ่มในรถคิดเอาไว้ก็เกิดขึ้น เขาผลุนผลันลงจากรถวิ่งไปตรงหน้าบ้าน ปืนที่อยู่ในมือแทนที่จะได้เอาไปยิงชายชู้กับเมียแพศยาให้สาสมกับความแค้น กลับนำไปจ่อร่างผู้หญิงที่วิ่งร้องไห้ฝ่าสายฝนออกมาจากบ้าน            "ขึ้นรถ"            "อะไร ฮะ...ฮึก ไม่..." หญิงสาวทั้งร้องไห้ทั้งปฏิเสธในเวลาเดียวกันอย่างสับสน            "ผมบอกให้ขึ้นรถเดี๋ยวนี้!" ปลายกระบอกปืนที่เอวดันเจ้าตัวให้ไปขึ้นรถที่จอดอยู่            "ฉันบอกว่าฉันไม่ไป!"            "มานี่" อาธารรวบรอบเอวของหญิงสาวแล้วลากพาไปขึ้นรถของเขาอย่างรวดเร็ว            "คุณจะเอาอะไรจากฉัน ฉันไม่มีเงินติดตัวเลย คุณก็เห็นกระเป๋าฉันก็ไม่มี หรือถ้าคุณต้องการเงิน ฉันจะเข้าไปเอาในบ้านให้ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ" แววตาของคนพูดทั้งเศร้าทั้งตื่นตระหนกในเวลาเดียวกัน            "เงียบ!"            ปัง!            เสียงกระแทกปิดประตูรถดังขึ้น กระบอกปืนที่จ่อมาหมายเอาชีวิต กับเงาสามีของเธอกำลังเริงสวาท กับหญิงอื่นบนเตียงนอนของเธอ อันไหนกันแน่ที่ควรจะเสียใจมากกว่ากัน น้ำตาไหลอาบแก้มนวลของเพชรนรา ไม่อยากรับรู้ว่าผู้ชายน่ากลัวคนนี้จะทำอะไรกับเธอ แค่นี้ชีวิตของเธอยังคงบัดซบไม่พอ ใช่ไหม            "ถ้าอยากฆ่าฉันก็ลงมือเลยนะ" หญิงสาวเอ่ยลอยๆ ปล่อยให้หยาดน้ำตาไหลอาบสองแก้มนวลอย่างไม่ขาดสาย            คนขับรถอยู่เหลือบตามามองเพียงเล็กน้อย แต่แล้วก็ขับต่อเหมือนไม่ได้ยิน เพชรนราสะอื้นไห้ออกมาจนสุดน้ำเสียง มองดูหยาดฝนที่โปรยปรายตรงหน้ากระจกอย่างร้าวราน ถ้าไม่กลับมาเร็วก่อนกำหนดเธอจะมีวันได้รู้ไหม ว่าสามีผู้แสนดีกำลังสวมเขาให้บนหัว ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดร้าวในหัวใจ นี่หรือผู้ชายที่เธอทั้งรักทั้งหลงจนยอมแต่งงานด้วย ความรักของเธอมีระยะเวลา แค่สองปีเท่านั้นเองเหรอ คิดไปก็ปาดน้ำตาไปด้วย            "ฮะ...ฮึก" ขอบตาร้อนผ่าวจากการร้องไห้ ไม่รับรู้ว่ารถของเขาจะแล่นไปทิศทางใด จนกระทั่งมันหยุดอยู่กับที่ข้างถนนเส้นหนึ่ง            "เปลี่ยนเสื้อผ้าซะ" เขาสั่งเสียงเรียบ คนร้องหันไปมองหน้าเขาเพียงเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาเบาๆ            "ฉันไม่มี"            "เสื้อผม" เขาเอื้อมมือไปเบาะหลัง แล้วหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาสั้นออกมาให้ อีกคนก็มองเสื้อผ้าในมือของเขาก่อนจะหันหน้าหนีไปด้านข้าง พร้อมกับปฏิเสธเสียงแข็ง            "ฉันไม่เปลี่ยน"            "เปลี่ยนซะ" คนพูดทั้งบังคับและข่มขู่ด้วยสายตา            "ฉันไม่เปลี่ยน" เพชรนราเชิดหน้าใส่แบบไม่กลัว จะให้เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้า ที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือ ใครกล้าก็บ้าแล้ว ได้ยินเสียงหายใจแรงๆ จากคนขับ            "จะเปลี่ยนเองหรือให้ผมเปลี่ยนให้"            "ว้าย! ฉันเปลี่ยนเองๆ" หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อเขายื่นมือมาจับชายเสื้อของเธอทำท่าจะถอดให้เสียเอง            "ก็แค่นั้น" เขาส่งสายตาตำหนิซึ่งๆ หน้า เพชรนราหันไปมองรอบๆ ตัวอย่างคนหวาดผวา            "คุณจะให้ฉันเปลี่ยนยังไงในรถนี่นะ แล้วคุณก็ยังนั่งอยู่ด้วย" ท้ายประโยคคำพูด หญิงสาวก็มองหน้าเขา อย่างขยาดกลัวขึ้นมา เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ จู่ๆ ก็จะมาบังคับให้เธอแก้ผ้าแก้ผ่อนต่อหน้าต่อตาแบบนี้            "เปลี่ยนไปเถอะอย่าเรื่องมาก ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ข่มขืนใครหรอก แต่อารมณ์อยากฆ่าน่ะมีเต็มร้อย" สายตาของคนพูดจดจ้องไปที่กระบอกปืนหน้ารถ สลับกับหันไปมองคนด้านข้าง คงต้องเรียกว่าข่มขู่ด้วยสายตา โดยมีอาวุธสังหารวางข่มขวัญอยู่ตรงหน้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม