นางอยู่ว่างไม่รู้จะทำอะไร จึงหยิบจับเสื้อผ้าของเขาออกมาดู เห็นมีบางแห่งที่มีรอยขาดก็นึกประหลาดใจ จวนแม่ทัพมิได้ยากจน ไฉนเสื้อผ้าสามีนางจึงชำรุดขนาดนี้ นางจึงขอเข็มและด้ายจากป้าหวงฝูแล้วเอาเสื้อผ้าของเขามาซ่อมแซม น่าแปลก นางกลับคุ้นชินกับการเย็บปักเหล่านี้มากกว่าทำอาหารที่แทบจะเผาครัวของเขาไปเมื่อครั้งก่อน ขนาดป้าหวงฝูยังเอ่ยชมว่าฝีมือของนางนั้นประณีตจริง ๆ
“ป้าหวงฝู ข้าอยากไปซื้อพวกอุปกรณ์เย็บปัก ท่านไปกับข้าได้หรือไม่ ข้าเพิ่งเคยมาเมืองนี้”
“ได้สิเจ้าค่ะ ฮูหยินตั้งใจทำให้ท่านแม่ทัพถึงเพียงนี้ ท่านแม่ทัพต้องดีใจมากเป็นแน่”
“ข้าอยู่ว่างๆ ไม่มีอะไรทำ ก็ทำได้แค่เรื่องพวกนี้” นางยิ้มเขินอายจนแก้มเนียนแดงปลั่ง “ข้า...ข้าต้องขอบคุณป้าหวงฝูที่คอยชี้แนะและดูแลข้า”
“ท่านกล่าวเกินไปแล้ว ข้าก็แค่หญิงชาวบ้าน ได้ดูแลท่านนับว่าเป็นวาสนาของข้าแล้ว”
ในจวนแม่ทัพไม่มีสตรี ว่ากันว่าแม้กระทั้งยุงยังไม่มียุงตัวเมีย ฮูหยินท่านแม่ทัพจะไปตลาด เหล่าบรรดาทหารและบ่าวรับใช้ต่างตระเตรียมรถม้าอย่างดีและทหารติดตามคุ้มครองฮูหยิน หรูซื่อเกรงจะเป็นการรบกวนผู้อื่น แต่ทุกคนเต็มใจ นางจึงยอมทำตามอย่างว่าง่าย
ชาวเมืองต่างรับรู้ว่าแม่ทัพซุนหลวนคุนแต่งงานมีภรรยาแล้ว แม้อยู่ไกลบ้านแต่ไม่เคยมีเรื่องชู้สาวเสื่อมเสีย และเมื่อรู้ว่าผู้ที่กำลังเลือกชมแพรพรรณในร้านนั้นคือฮูหยินของท่านแม่ทัพ ผู้คนก็ต่างเบียดเสียดกันเข้ามาเพื่อยลโฉมหน้าสตรีหนึ่งเดียวในดวงใจแม่ทัพซุน
หรูซื่อไม่คุ้นกับการเป็นเป้าสายตา นางเลือกดูผ้าเนื้อดีสำหรับตัดเสื้อให้สามี เพียงนางกวาดตามองกลับจดจำได้ว่าผ้าชนิดใดเหมาะจะทำอะไร นางสะดุดตากับผ้าพับหนึ่ง เมื่อวางนิ้วมือสัมผัสเนื้อผ้าแล้วก็รู้สึกชอบจนไม่อยากปล่อยมือ
“ฮูหยินสายตาดียิ่ง ผ้านี้เนื้อดีเหมาะกับทำเสื้อคลุมมากขอรับ”
“ข้าก็คิดเช่นนั้น” นางยิ้มกว้างอย่างลืมตัว เพียงคิดถึงสามีร่างสูงใหญ่ในหัวของนางก็คำนวนจำนวนผ้าที่ต้องใช้ทันที “ข้าเอาพับนี้กับที่เลือกไว้ก่อนหน้านี้ด้วย”
“ได้ขอรับ ข้าน้อยจะส่งไปให้ที่จวนนะขอรับ”
หรูซื่อพยักหน้ารับ นางได้ของที่ต้องการครบแล้ว นางเดินออกมานอกร้านพบสายตาหลายคู่จับจ้องมองที่นาง หญิงสาวได้แต่ระบายยิ้มน้อย ๆ พวงแก้มเนียนแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอายไร้เดียงสาชวนทะนุถนอมจนยากถอนสายตา
มิน่าเล่า ท่านแม่ทัพจึงไม่มีหญิงอื่น เพราะมีภรรยาที่งดงามราวเทพธิดาเช่นนี้
หญิงสาวก้าวเท้าออกมานอกร้าน สายตามองเลยไปยังฝั่งตรงข้าม มีร้านขายเครื่องประดับอยู่ นางคิดจะซื้อกำไลให้ป้าหวงฝูสักชิ้นสองชิ้น ตอบแทนที่ดูแลนาง
“ป้าหวงฝู” นางกวักมือเรียก “เราไปที่ร้านนั้นกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ” นางหวงฝูเข้าใจว่าฮูหยินอยากได้เครื่องประดับ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอันใด สตรีบ้านอื่นล้วนมีเครื่องประดับมากมาย แต่ฮูหยินมีไม่กี่ชิ้น ยังไม่ทันเดินไปถึงที่หมาย บุรุษผู้หนึ่งเข้ามาขวางไว้ก่อน เขาสวมเสื้อผ้าสะอาดสะอ้านแบบบัณฑิตแก่ความรู้ แต่สายตาที่จ้องมองนางนั้นตื่นตกใจยิ่ง นางหวงฝูรีบก้าวมาขวาง ใช้ตัวเองบังสายตาน่ารังเกียจที่จ้องมองฮูหยินท่านแม่ทัพอย่างไร้มารยาท
“หลบไป!”
หรูซื่อปิดบังเรื่องตนความจำเสื่อม นางจำใครไม่ได้ก็จริง จู่ ๆ มีบุรุษมายืนขวางซ้ำยังจ้องนางไม่วางตาเช่นนี้ ทำให้นางรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย นางที่ตัวเล็กอยู่แล้วกลับหดตัวอยู่ด้านหลังป้าหวงฝู แต่นึกได้ว่าตนเองเป็นถึงฮูหยินแม่ทัพจะทำตัวเช่นนี้ไม่ได้ จึงยืดตัวขึ้นแต่ยังหลบด้านหลังป้าหวงอยู่
“ซื่อเอ๋อร์”
หรูซื่อสะดุ้ง นางยืนมองข้ามไหล่ของป้าหวงฝู พยายามพิจารณาว่าตนเองเคยพบชายผู้นี้มาก่อนหรือไม่ เขาเรียกนางเหมือนคนคุ้นเคย แต่นางกลับไม่รู้สึกเคยคุ้นเลยสักนิด
จะว่าไป นางก็ไม่รู้สึกคุ้นเคยกับใครทั้งสิ้น หรือแม้แต่ซุนหลวนคุนที่เป็นสามีของนาง พบหน้ากับครั้งแรก นางก็ตกใจแทบสิ้นสติไป จวบจนเขาค่อยๆ อธิบายเรื่องทั้งหมด นางจึงกล้าเข้าใกล้เขา
“ข้ารู้ว่าข้าผิด แต่เหตุใดทำเป็นไม่รู้จักกันเช่นนี้”
ชายผู้นั้นยื่นมือหมายจะจับหญิงสาว แต่นางหวงฝูกางแขนปกป้อง แม้นางไม่รู้ที่มาที่ไป แต่การกระทำเช่นนี้ไม่เหมาะไม่ควร และยืนอยู่กลางตลาดเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดีเลย
“คุณชายโปรดระวังกิริยาด้วย เด็ก ๆ คุ้มกันฮูหยินท่านแม่ทัพ”
ทหารที่ติดตามมากรูเข้าล้อมวงเข้ามาพร้อมชักกระบี่ปกป้องดวงใจท่านแม่ทัพ เสียงชักกระบี่ทำให้หรูซื่อตื่นตกใจ หัวใจนางเหมือนถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็นจนนางต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอก
“ช้าก่อนทุกท่าน โปรดยั้งมือก่อน” บ่าวรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาขวางบัณฑิตผู้นั้น “ขออภัยด้วย คุณชายของข้าเพิ่งเดินทางมาถึงเมืองนี้ ล่วงเกินผู้อื่นไปด้วยความเข้าใจผิด โปรดให้อภัยด้วย”
“ฮูหยินท่านแม่ทัพ” ชายผู้นั้นพึมพำเหมือนละเมอ ไม่ได้สนใจทหารที่ใช้ปลายกระบี่ชี้มาทางเขา หรือแม้แต่บ่าวรับใช้ที่รั้งแขนเสื้อไว้
“เจ้าใจร้ายกับข้าเหลือเกิน หลิวหรูซื่อ”
‘หลิวหรูซื่อ’
นั่นแซ่ของนางใช่ไหม คล้ายว่ามีคนเคยเรียกนางเช่นนี้มาก่อน
ร่างบางโอนเอน ใบหน้าซีดราวไร้เลือด นางหวงฝูเหลือบเห็นพอดีรีบหมุนตัวมาประคองไว้ได้ทัน
“ฮูหยินเจ้าคะ”
“ข้า...” นางรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และปวดศีรษะอย่างรุนแรงจนใบหน้าซีดเซียว นางหวงฝูไม่รอช้ารีบประคองหรูซื่อขึ้นรถม้ากลับจวนทันที
“ฮูหยิน”
“ข้า..ไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึกแล้วผ่อนออกช้า ๆ อย่างที่ท่านหมอเคยสอน “ข้าดีขึ้นแล้ว”
“ฮูหยิน” นางหวงฝูประคองศีรษะของหรูซื่อให้เอนลงนอนบนตักของนาง ยามนี้หรูซื่อดูอ่อนแอเหมือนดอกไม้เล็ก ๆ ที่พร้อมจะแตกสลาย
“ข้าขออยู่อย่างนี้สักครู่นะ”
“เจ้าค่ะ ฮูหยินพักผ่อนเถิด”
เรื่องที่เกิดขึ้นในตลาด ทหารไม่รอช้ารีบเร่งไปรายงานให้แม่ทัพซุนทราบ แม้สีหน้าเรียบเฉย รับฟังอย่างนิ่งงัน แต่ไอสังหารที่แผ่ออกมาทำให้ผู้คนหวาดกลัวจนตัวสั่น แม้เป็นทหารร่างใหญ่ก็ตามที
“ท่านแม่ทัพ เรื่องทางนี้พวกเราสามารถจัดการได้ ท่านแม่ทัพ...”
“นายกองกู้ เจ้าดูแลทางนี้ให้ดี แม้ข้าไม่อยู่แต่การฝึกซ้อมก็ต้องเป็นไปตามที่กำหนดห้ามผ่อนปรนเด็ดขาด”
“ขอรับท่านแม่ทัพ”
ซุนหลวนคุนสั่งให้คนไปเชิญหมอทหารไปที่จวนดูแลหรูซื่อก่อน เขาตรวจดูความเรียบร้อยของงานในค่ายทหารแล้วจึงกลับจวน ในใจอดวิตกกังวลไม่ได้ แม้ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่เขาพอจะเดาได้ว่าชายผู้นั้นเป็นใคร
มุมปากยกขึ้นสยะยิ้ม
“จางหยินเซ่อ เจ้ากล้ามาก แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ยอมเสียนางไปอีกเด็ดขาด”.