นางหวงฝูคอยยืนดูอยู่ไม่ห่าง จนกระทั่งหมอทหารตรวจอาการฮูหยินเรียบร้อยจึงเขียนเทียบยาให้ พร้อมกำชับให้ดูแลดวงใจท่านแม่ทัพให้ดี
“ฮูหยินต้องพักผ่อนให้มาก ระวังอย่าให้มีเรื่องรบกวนจิตใจอีก”
“ข้าทราบแล้ว”
“เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อน”
“ขอบคุณท่านหมอมาก ป้าหวงฝูส่งท่านหมอด้วย”
“เจ้าค่ะ” นางหวงฝูเดินมาห่มผ้าให้หรูซื่อแล้วพลางเอ่ยขึ้น “ข้าออกไปส่งท่านหมอแล้วจะไปต้มยาให้ฮูหยินนะเจ้าคะ ท่านพักผ่อนก่อน ไม่ต้องคิดอะไรมาก ด้านนอกยังมีทหารเวรยามคอยดูแลไม่ให้ใครมารบกวนท่าน”
“ข้าเข้าใจแล้ว” นางเอ่ยไปเช่นนั้นแต่ในใจยังคงว้าวุ้นสับสน แสร้ง
หลับตาลง เมื่อรับรู้ว่าในห้องไม่เหลือผู้ใดแล้วจึงลืมตาขึ้น ริมฝีปากงาม
ถอนหายใจหนักหน่วง
นางบอกตัวเองไม่ให้คิดมาก แต่ไม่อาจทำได้ ตั้งแต่ได้สติฟื้นขึ้นมา นางพบซุนหลวนคุนเป็นคนแรก เขาบอกว่านางคือภรรยาของเขาชื่อหรูซื่อ นางก็เชื่อทุกสิ่งที่เขาพูด แต่นางคือ ‘หรูซื่อ’ ภรรยาของเขาจริง ๆหรือไม่นั้น ไม่มีใครยืนยันได้ เขาเล่าว่ารถม้าของนางถูกปล้นชิง คนติดตามล้วนถูกสังหารหมดสิ้น ข้าวของที่นำมาถูกขโมยไปสิ่งที่เหลือก็ใช้การอะไรไม่ได้ นางโชคดีที่เขาและทหารลาดตระเวนมาพบและเข้าช่วยเหลือได้ทัน
‘หรูซื่อ’
‘หลิวหรูซื่อ’
ชายแปลกหน้าผู้นั้นก็เรียกนางว่า ‘หรูซื่อ’ นางคงเป็น‘หรูซื่อ’จริงๆ นั้นแหละ ทว่านางไม่คุ้นหน้าชายผู้นั้นเลย แต่น้ำเสียงและแววตาตัดพ้อนั้น ไม่มีทางที่จะเป็นการจำคนผิดเป็นแน่
ทำไมคนผู้นั้นถึงมองนางเช่นนั้น
นางทำสิ่งใดไว้หรือ? ทำเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ถึงขนาดที่จ้องมองด้วยสายตาเช่นนั้น
หรือนางทำเรื่องผิดต่อซุนหลวนคุน เขาจึงไม่กลับบ้าน ทำให้ห้าปีที่แต่งงานกันแต่นางก็ยังไร้ทายาท
หญิงสาวปิดเปลือกตาอย่างอ่อนล้า ได้ยินเสียงเปิดประตูก็เข้าใจไปว่าป้าหวงฝูนำยามาให้ เพียงแค่คิดถึงยารสขมฝาด นางอยากแสร้งหลับไม่รับรู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ทว่าใบหน้าถูกปลายนิ้วกระด้างไล้ผ่านแผ่วเบา นางลืมตาขึ้นมองเห็นใบหน้าของซุนหลวนคุนที่โน้มลงมองนางอยู่ หญิงสาวกะพริบตาปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่ง จึงมั่นใจว่าไม่ได้ฝันไปจึงยันกายลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“ท่านแม่ทัพ...เอ่อ...ท่านพี่”
“เป็นอย่างไรบ้าง ได้ยินว่าเจ้าไม่สบาย”
“ข้า...” นางไม่รู้จะเล่าเรื่องที่เจอวันนี้อย่างไร แต่เมื่อเห็นว่าเขายังสวมชุดทหารอยู่ ในใจพลันรู้สึกผิดมากขึ้น “ข้าทำให้ท่านพี่ลำบากอีกแล้ว”
“เจ้าเป็นภรรยาของข้า ข้าควรใส่ใจทุกเรื่องของเจ้า” เขานั่งลงริมเตียงยื่นมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ลงมาเคลียแก้มของนาง “เจ้าลุกขึ้นมาดื่มยาเสียหน่อยค่อยนอนต่อ”
ท่าทางเหมือนเด็กขยาดยา ทำให้เขายิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู รอยยิ้มของเขาทำให้หรูซื่อตะลึงงันไป ความว้าวุ่นใจพลันหายไปหมดสิ้น นางอยากเห็นเขายิ้มบ่อย ๆ แต่ก็อยากให้รอยยิ้มของเขา เป็นของนางผู้เดียว
นางปรารถนาจะเห็นรอยยิ้มของเขา และยิ้มให้นางเช่นนี้ตลอดไป
แม่ทัพหนุ่มหยิบชามยาแล้วเป่าไล่ไอร้อนจนมั่นใจว่าอุ่นพอดีแล้วจึงใช้ช้อนป้อนให้นาง แต่ริมฝีปากดุจผลอิงเถาไม่ยอมอ้าปากดื่มยา เขาเลิกคิ้วขึ้นเหมือนตั้งคำถาม นางส่งสายตาอ้อนวอนแต่กลับทำให้แม่ทัพหนุ่มหัวเราะในลำคอ
“ก็มันขมนี่” นางหลุดปากพูดออกมาจนได้ เขาถือดีอย่างไรมาหัวเราะนาง นางต้องทนดื่มยาขมๆ นี่มาตั้งหลายวันแล้วนะ
“ได้ ข้ามีวิธี”
เขายังคงยิ้มแต่แววตาแฝงรอยเจ้าเล่ห์ นางมองเขาอย่างงุนงงเมื่อเห็นเขายกชามยาขึ้นดื่มเสียเอง แต่อึดใจต่อมามือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยของนางไว้มั่น แล้วตามด้วยริมฝีปากของเขาทาบลงมาที่ริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อยของนาง นางไม่อาจถอยหนีได้เพราะมือที่ประคองลำคอของนางไว้ ยารสขมไหลผ่านจากปากของเขาสู่ปากของนาง ดวงตากลมเบิกกว้าง แต่เมื่อเห็นแววตาของเขาที่จ้องมองราวกับจะกลืนกินทำให้ดวงตาของนางหลุบลง ปล่อยให้ยาแสนขมไหล่ผ่านลำคอจนหมดสิ้น ทว่าเขากลับไม่หยุดเพียงแค่นี้ เรียวลิ้นแทรกเข้ามาในโพรงปากหยอกล้อกับเรียวลิ้นของนาง มือเลื่อนจากท้ายทอยแล้วที่แผ่นหลังของนางโอบรัดร่างเล็กเข้ามาแนบชิด ถูกปิดกั้นลมหายใจจนมึนงง จนกระทั่งเขายอมถอนริมฝีปาก หรูซื่อรีบอ้าปากสูดลมหายใจเข้าปอด แววตาของเขายังคงร้อนแรงแต่มุมปากมีรอยยิ้ม นางยกมือขึ้นทุบแผ่นอกกำยำแล้วขึงตาใส่
“ท่านแกล้งข้า! ยาก็ขมยังจะมาปิดปากไม่ให้ข้าหายใจได้อีก”
ซุนหลวนคุนคว้ามือนางขึ้นมาแล้วประทับริมฝีปากกับกลางฝ่ามืออ่อนนุ่ม นางชะงักไป สองแก้มแดงระเรื่อพยายามดึงมือกลับแต่เขายึดไว้ แล้วหญิงสาวก็สะดุ้งเมื่อลิ้นร้อนของเขาแตะที่กลางฝ่ามือของนาง
“ท่าน...ท่านพี่ทำอะไร”
น้ำเสียงที่ถามเบายิ่งกว่าเสียงยุง หากเขาไม่ได้ฝึกยุทธคงไม่ได้ยินเป็นแน่
“ทำเช่นนี้เจ้าจะได้ไม่รู้สึกว่ายาขมอย่างไรเล่า” เขายิ้มแล้วประคองร่างภรรยาตัวน้อยลงนอนอีกครั้ง “แต่วิธีนี้ทำได้เฉพาะสามีภรรยาเท่านั้น เจ้าห้ามให้ใครทำเด็ดขาด”
“ข้า...ข้าทราบแล้ว” นางสบตาเขาแล้วเอ่ย “ท่านพี่ก็เช่นกัน ห้ามทำเช่นนี้กับผู้อื่น”
“ข้าสัญญา” เขาดึงผ้าห่มคลี่คลุมร่างแล้วเหน็บให้เรียบร้อย “กินยาแล้วเจ้าพักผ่อนเถิด”
เห็นเขากำลังจะไป นางยื่นมือไปคว้ามือของเขาไว้ก่อน
“คืน...คืนนี้ ท่าน..ท่านพี่กลับมานอนกับข้านะ” พูดออกไปแล้วก็นึกเขินอาย นางชักมือกลับแล้วดึงผ้าขึ้นคลุมโปงปิดซ่อนใบหน้าแดงระเรื่อ
“เจ้านอนเถิด ข้าอยู่ข้างกายเจ้าเสมอ”
ถ้อยคำของเขาทำให้หัวใจของหรูซื่อผ่อนคลายลง ที่วิตกกังวลก็จางไป ขอเพียงเขายังอยู่ข้างกายนาง ก็ไม่มีสิ่งใดให้นางต้องหวาดกลัวอีกแล้ว
ซุนหลวนคุนเฝ้ามองภรรยาตัวน้อยผล็อยหลับไปแล้ว จึงขยับตัวถอยออกมา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหายไปหมดสิ้น เขาก้าวเท้าเดินออกมาอย่างเงียบเฉียบไม่รบกวนคนที่เข้าสู่ห้วงนิทรา เพียงก้าวเท้าออกมาจากห้องนอน แม่ทัพหนุ่มยกมือส่งสัญญาณ องครักษ์เงาที่เร้นกายอยู่ราวยี่สิบคนก็ปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้า
“ท่านแม่ทัพ”
“พวกเจ้าคงรู้ว่าต้องทำอย่างไร แต่จงทำอย่างเงียบเฉียบอย่าให้เรื่องนี้รู้ถึงฮูหยินของข้า”
“รับทราบ!”
ร่างองครักษ์เงาหายไปราวภูติผีไร้เงา แม่ทัพหนุ่มสูดลมหายใจลึก แล้วยกมือขึ้นกดบริเวณหัวใจของตน
ครั้งนี้เขาจะไม่เสียนางไปอีก
เขาจะไม่ยอมให้ดวงใจต้องพลัดพรากจากนางอีกแล้ว ความทุกข์ทรมานที่ได้รับมันมากมายเหลือเกิน จนเขาไม่คิดว่าตนเองจะฝืนรับได้อีกครั้ง แม้ต้องใช้วิธีที่ชั่วช้าหรือเลวทรามที่สุด เขาจะทำทุกวิธีเหนี่ยวรั้งนางไว้ข้างกาย.