กนิษฐายิ้มตาม สมัยนี้ความรักเพศเดียวกันเปิดกว้างมากแล้ว การที่คนรอบตัวเธอมีคู่ชีวิตหรือมีคนรักเป็นเพศเดียวกันก็เลยไม่ค่อยแปลกเท่าไหร แต่ถ้าเป็นเมื่อหลายปีก่อนอย่างที่เธอเคยผ่านมา ก็คงต้องประคับประคองความรักกันให้มั่นคงมาก ๆ เพราะไหนจะสังคมและครอบครัว ว่าจะรับความรักแบบนี้ได้หรือไม่ โชคดีที่ครอบครัวเธอค่อนข้างโลกทัศน์กว้างเข้าใจไม่ยึดติดกับเพศสภาพ แต่พอไม่มีอุปสรรคด้านครอบครัวเธอกลับโชคไม่ค่อยดี เรื่องคนรักสักเท่าไหร
"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ จู่ ๆ ก็ถอนหายใจน่ะ"
กวิสราเอ่ยถามคนเป็นพี่ที่ทำหน้าที่ขับรถ ให้อีกฝ่ายหันมายิ้มบาง ๆให้
"เปล่าหรอก แค่นึกถึงเรื่องเก่า ๆ นิดหน่อยน่ะ คนเรานี่บางทีไม่ว่าจะเพศไหนถ้าเจอคนรักไม่ดีมันก็คือไม่ดีนั่นละนะ"
กวิสราพยักหน้า พอจะเข้าใจในสิ่งที่พี่สาวพูดถึง ก็คงไม่พ้นอดีตความรักอันเจ็บปวดเมื่อหลายปีก่อนของพี่เขานั่นแหละ
"พี่เกมส์ยังรู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องนั้นอยู่เหรอคะ"
"ไม่หรอกค่ะ แต่ถ้าจะให้ไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงไม่ใช่ มันก็เหมือนเรามีแผลแม้ว่าจะรักษาจนหายดีแต่รอยแผลนั้นมันก็ยังคงอยู่ ให้เราได้นึกถึงความเจ็บปวดนะ แต่พี่ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะทุกวันนี้พี่โอเคสบายดีค่ะ"
กนิษฐาหันมาส่งยิ้มให้ญาติผู้น้องขณะรถจอดติดไฟแดง
"คิดซะว่าเขาเป็นเพียงเจ้ากรรมนายเวรของพี่ก็แล้วกันนะคะ ถือว่าชดใช้กันไปแล้ว แก้มเชื่อว่าสักวันพี่สาวของแก้มต้องได้เจอรักแท้คู่ชีวิตที่แท้จริงแน่ ๆ ค่ะ ไม่แน่น๊า ตอนนี้อาจจะกำลังเดินทางมาหากันอยู่ก็ได้"
หึ ๆ กวิสราเอ่ยเย้าคนเป็นพี่ให้อีกฝ่ายหัวเราะขำ
"พูดเหมือนละครเลยนะเราเนี่ย พี่อาจจะไม่มีเนื้อคู่ก็ได้นะ"
กนิษฐาเอ่ยออกมาพลางยิ้มไม่ได้ซีเรียสอะไรแล้วตอนนี้ อดีตที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้หมดศรัทธาในความรักแต่ก็ไม่กล้าที่จะหวัง ว่าจะมีผู้หญิงดี ๆ สักคนเข้ามาไขกุญแจใจที่เธอปิดมันไว้มาหลายปีได้
"มันก็ไม่แน่หรอกค่ะ ขนาดแก้มไม่เคยคิดว่าจะรักชอบผู้หญิงด้วยกัน แก้มยังรักปัณได้เลยค่ะ อย่างพี่เกมส์น่ะแก้มเชื่อว่าต้องมีเนื้อคู่แน่ ๆ แต่จะมาเคาะประตูใจพี่ตอนไหนเท่านั้นเอง ว่าแต่ไม่ได้ปล่อยให้สนิมขึ้นจนไขไม่ออกนะคะ"
หึ ๆ คำเย้าหยอกเปรียบเปรย ทำให้พี่หลุดขำออกมาจนได้
"ไม่รู้เหมือนกันว่าสนิมเกาะไปแล้วหรือยัง แต่ถ้าใครสามารถเปิดประตูใจพี่ได้อีกครั้ง พี่จะลั่นกลอนล๊อคไว้อย่างแน่นหนาไม่ปล่อยให้หลุดหนีหายไปไหนแน่ ๆ ค่ะ อายุเดินหน้าขนาดนี้แล้วเดี๋ยวหาไม่ได้"
คิก ๆ
"บ้า พี่เกมส์น่ะ เพิ่งจะย่างสามสิบสองเองนะคะ บางคนหกสิบเขายังหารักแท้กันอยู่เลย"
"โห ถ้าพี่ต้องรอขนาดนั้นพี่ขออยู่คนเดียวดีกว่าค่ะ เอาจริง ๆ นะ ถ้าจะมาก็รีบมาเลยพี่ให้เวลาแค่สามสิบห้า ไม่มาจะปิดตายหัวใจจริง ๆ"
คำพูดน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจัง แต่รอยยิ้มที่แต้มเรียวปากสวยนี่สิ ที่ทำให้กวิสราไม่มั่นใจว่าคนเป็นพี่พูดจริงหรือเปล่า แต่ก็แอบภาวนาให้คนที่เป็นเนื้อคู่ของพี่สาวรีบโผล่มาเร็ว ๆ ทีเถอะ เธออยากให้พี่มีความสุขเหมือนเธอบ้าง พี่หมอของเธอทั้งสวยเก่งจิตใจดีอบอุ่น ใครไม่ชอบก็บ้าแล้ว เห็นว่าพี่เขามีรสนิยมแบบนี้ บรรดาหมอผู้ชายหลายคนยังอยากจีบแถมยังเคยจีบมาแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไปเพราะยังไงพี่เกมส์ก็ยืนยันว่าไม่ แถมยังจะขู่เอาปืนยิงอาวุธสืบพันธุ์ของหมอเหล่านั้นอีกต่างหาก
วันนี้หน้าตึกสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งคราคร่ำไปด้วยเหล่าแฟนคลับและนักข่าวสายบันเทิงหลายสำนักที่รอคอยทำข่าวและรอสัมภาษณ์สกุ๊ปสั้นเพื่อไปนำเสนอ วันนี้มีพิธีบวงสรวงละครที่หลายคนคอยจับตาทั้งรอคอยชมผลงานของนักแสดง ที่ได้ถูกคัดสรรจนคิดว่าเหมาะสมกับบทที่สุดแล้ว ละครเรื่อง เสน่หาข้ามภพ อีกหนึ่งละครที่ทางช่องกล้าที่จะนำเสนอออกสู่สายตาประชาชน
เพราะเค้าโครงเรื่องนั้นคือความรักของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีต่อสตรีเพศเดียวกันตั้งแต่ภพชาติที่แล้ว ความรักที่เหมือนจะสมหวังด้วยดีเมื่อในอดีตชาตินั้นกล่าวถึงเมืองลับแลที่มีสตรีมากกว่าชาย ถ้าหากว่าไม่เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อได้มีชายคนหนึ่งที่ใช้เวทย์อาคมพาตัวเองหลุดเข้าไปยังเมืองที่ไม่มีคนภายนอกจะได้เข้าไปง่าย ๆ
ความลุ่มหลงและกิเลสตัณหาทำให้เขาใช้มนต์ดำนำตัวรัชทายาทสาวหลบหนีออกจากเมืองลับแล นี่คือจุดการเพียรพยายามทำทุกวิถีทางของหญิงสาวอีกคน ที่จะออกตามหาคนที่รักแม้ต้องแลกด้วยชีวิต และสุดท้ายเธอก็จากไปพร้อมคำอธิษฐานว่าจะขอผูกจิตตั้งมั่นรักเพียงหญิงคนเดียวในทุกภพชาตินั่นเอง คือที่มาของละครเรื่องนี้
จุดเด่นไม่ได้มีเพียงเนื้อเรื่องที่จะมองว่าเป็นแนวหญิงรักหญิงก็ว่าได้ แต่ละครเรื่องนี้ยังน่าสนใจตรงสถานที่จะใช้ถ่ายทำฉากในอดีตชาตินั้น เป็นเมืองเก่าที่ถูกกล่าวขานและเล่าลือมาว่าสถานที่แห่งนั้นคือเมืองลับแลในอดีตหลายร้อยปีมาก่อน และข้อน่าสนใจไม่แพ้กันอีกอย่างก็คือดารานำของเรื่อง
ละครเรื่องนี้ผู้จัดสาวใหญ่ฝีมือดีอย่างวัลภาหรือที่หลายคนเรียกว่าพี่หวาน ได้ตัวนักแสดงที่เคยร่วมงานกันมาจนเรียกว่ารู้จักรู้ใจกันดีเลยทีเดียว เป็นครั้งแรกที่นางร้ายคนสวยอย่างพิชญากรจะเปลี่ยนจากบทร้ายที่คอยแย่งพระเอกของเรื่อง เปลี่ยนมาร้ายเพื่อทวงคืนสาวคนรักในอดีตชาติ และนางเอกที่จะได้ประกบคู่ก็เป็นนางเอกรุ่นพี่อย่างนริสนันท์ ที่พักหลัง ๆ สองคนนี้กลายเป็นคู่จิ้นกันเพราะความสนิทที่มักจะชอบหยอกล้อเล่นกันให้เห็นอยู่บ่อยๆ
นี่ถ้าเจติยาไม่แต่งงานและวางมือจากงานละครไปแล้วก็เคยคิดว่าจะจับสองสาวเพื่อนสนิทเล่นคู่กันสักเรื่อง แต่ด้วยคิวงานของทั้งสองคนที่แทบจะรอกันข้ามปี แถมเจติยาก็ประกาศงดรับงานละครเพราะเตรียมมีเจ้าตัวเล็ก
พอเจติยาแต่งงานไปกับทายาทนักธุรกิจอย่างปรางวรัญไม่นาน ก็มีคู่จิ้นคู่ใหม่เกิดขึ้นมาให้สาวกสายวายหญิงได้ฟินกันแบบไม่คิดฝัน เมื่อมีอยู่วันหนึ่งเมื่อสองปีก่อนในกองละครฟอร์มใหญ่เรื่องหนึ่งที่พิชญากรและนริสนันท์เล่นด้วยกัน ด้วยความที่สองสาวนี้สนิทกันดั่งพี่น้องซึ่งทีมงานและเพื่อนนักแสดงก็จะเห็นความกุ๊กกิ๊กหยอกล้อกันเป็นประจำ
แต่บังเอิญครั้งนี้มีทีมงานขอโพสต์ความน่ารักนั้นลงเพจละครโดยเป็นโมเมนต์ที่สองสาวหอมแก้มกันเล่นนั่นแหละ เลยกลายเป็นที่มาของคู่จิ้นพี่แนนน้องพาย แทนพายเจ เมื่อก่อนหลายคนก็เคยคิดว่าเพื่อนสนิทอาจคิดไม่ซื่อ จนสุดท้ายเจติยาได้เปิดตัวคนรักแบบไม่ตั้งใจและแต่งงานกันไปในที่สุด
หญิงสาวร่างระหงเดินแจกยิ้มส่งเสียงทักทายพี่ ๆ ทีมงานที่ต่างมารอแต่งหน้าทำผมเพื่อเตรียมตัวบวงสรวงในเวลาเก้าโมงตรง
"พี่หวานหวัดดีค่ะ"
พิชญากรยกมือไหว้พี่ผู้จัดการที่เคยร่วมงานกันมาจนคุ้นเคยกันดี
"หวัดดีจ๊ะ ทานอะไรมาหรือยังพาย อาหารรองท้องมีนะ หรือจะรอทานของไหว้จะได้ขลัง ๆ"
วัลภาบอกพลางเย้าดาราสาวด้วยรอยยิ้ม พิชญากรยิ้มตอบ
"พายทานมาแล้วค่ะ ไว้รอทานของไหว้อย่างพี่บอกดีกว่า"
"จ๊ะ งั้นก็ไปเตรียมตัวเถอะ แนนมาถึงก่อนเราสักพักนี่เองตอนนี้คงอยู่ในห้องแต่งหน้า"
"ค่ะพี่"
นางร้ายสาวเข้าไปยังห้องแต่งหน้าของเหล่าดาราที่มารวมตัวกันในวันนี้
"พี่ ๆ สวัสดีค่ะ"
พิชญากรกล่าวทักทายพี่ ๆ ช่างแต่งหน้าและดารารุ่นพี่ที่จะร่วมแสดงในเรื่องนี้ ส่วนมากก็เคยร่วมงานกันมาบ้างแล้ว เมื่อเห็นเป้าหมายคือนางเอกรุ่นพี่กำลังให้ช่างทำผมอยู่ก็เดินเข้าไปนั่งลงที่เก้าอี้ว่างใกล้ ๆ
"มาถึงนานแล้วเหรอคะพี่แนน"
นริสนันท์ยิ้มให้น้องก่อนจะตอบ
"สักครึ่งชั่วโมงมั้งคะ แล้วพายมากับใคร กระต๊อบเหรอ"
"พี่ชายแวะมาส่งค่ะ กระต๊อบกำลังมา"
"พี่ชายน้องพายนี่ก็น่ารักจริง ๆ เลยนะคะ เทคแคร์ดูแลน้องสาวตลอดเลย พี่ล่ะอิจฉาจริง ๆ"
มะปรางช่างทำผมเปรยขึ้นมาให้นางร้ายสาวยิ้มขำ
"นี่ขนาดมีแต่คนอิจฉานะคะ แต่คนบางคนน่ะใจแข็งไม่พิจารณาพี่ชายพายสักที ดูซิพายรึอุตส่าห์จีบแทนพี่มาตั้งสองปีแล้วเนี่ย"
นางร้ายสาวแกล้งเปรยขึ้นมาเรียกรอยยิ้มแกมหมั่นไส้จากนริสนันท์ แต่พี่ช่างทำผมกลับขำคิกแล้วเอ่ยแซวตามมา
"แหม น้องพายจ๊ะ ของแบบนี้เขาไม่ทำแทนกันนะ ไม่ใช่แฟนจีบแทนไม่ได้นะใช่มั้ยคะน้องแนน" คิก ๆ
" พี่มะปรางเนี่ยพูดถูกใจพายค่ะ สงสัยต้องให้พี่ชายลงมือจีบเองแล้วมั้ง ว่าไงคะพี่สะใภ้ อนุญาตหรือเปล่าคะพี่ชายพายหล่อน๊า นิสัยก็ดีด้วยไม่เจ้าชู้แน่นอน"
ท่าเอามือเท้าศีรษะวางศอกบนเคาน์เตอร์ เอ่ยแซวคนที่สนิทดั่งพี่สาวแถมยังแกล้งเอานิ้วจิ้มแขนพี่ยิก ๆ นี่ ใครเห็นก็ต้องอมยิ้มไม่เว้นแม้แต่นริสนันท์เอง มีอย่างที่ไหนโฆษณาพี่ชายให้เธอฟังไม่เว้นแต่ละครั้งที่คุยกัน คำว่าพี่ของพายหล่อน๊า นิสัยดีด้วย เธอฟังมาไม่รู้กี่รอบแล้ว
"นี่ถามจริง ๆ ที่มาโฆษณาขายพี่ชายเนี่ยพี่เขารู้ตัวหรือเปล่าคะ"
พิชญากรหัวเราะขำเมื่อเจอคำถามนี้เข้า
"พายจะบอกว่า คำถามเมื่อกี้น่ะ เป็นคำถามเดียวกับที่พี่แพทถามพายเลยค่ะ เวลาพายเชียร์ให้จีบพี่แนนน่ะ แบบนี้เขาเรียกว่าใจตรงกัน ใช่มั้ยคะพี่มะปราง"
คิก ๆ
"ใช่ค่ะ นี่อย่าหาว่าพี่เข้าข้างน้องพายเลยนะคะ พี่แอบเชียร์จริงจังนะคะน้องแนนกับคุณแพทเนี่ย"
นริสนันท์ได้แต่ทำท่ากลอกตาไปมา ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักฝ่ายชายนะ ก็เห็นอยู่บ่อย ๆ เวลาที่อีกฝ่ายมารับมาส่งน้องสาว ก็เคยทักทายกันบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น ดูพี่เขาก็สุภาพดีนั่นแหละไม่เถียงหรอกว่าหน้าตาดีน่ะ แต่แล้วยังไงล่ะก็ไม่เห็นว่าพี่เขาจะมีท่าทีสนใจเธอมากกว่าดาราคนหนึ่งเลย มีแต่แม่น้องสาวนี่แหละเอาพี่มาโฆษณาให้ได้ยินบ่อย ๆ
"ถอนหายใจแบบนี้คืออะไรคะพี่สะใภ้"
นั่นไง คำก็พี่สะใภ้ สองคำก็พี่สะใภ้ แต่พิชญากรก็จะเรียกแซวกันเล่นแบบนี้เวลาอยู่กับพี่ทีมงานที่สนิทเท่านั้นแหละ ไม่ใช่ว่าจะไปเรียกต่อหน้าคนไม่รู้จัก นริสนันท์ปรายตามองน้องที่ยิ้มเผล่
"ถ้ามัวแต่มาจีบแทนอยู่แบบนี้ เดี๋ยวพี่จะไปเป็นสะใภ้บ้านอื่นนะพาย"
ห๊ะ!
"พูดจริงนะพี่แนน"
"ตายแล้ว! พี่มะปรางอยากกรี๊ดดดค่ะ น้องแนนพูดจริงเหรอคะเนี่ย อุ๊ยตายกระเทยฟินฮ๊า"
นริสนันท์หลุดขำกับช่างทำผมแต่งหน้าประจำกอง แล้วยังคนที่เธอก็รักเอ็นดูเหมือนน้องสาวตอนนี้ใบหน้าสวยนั้นดูจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดเธอ
"นี่พี่ยอมเปิดไฟเขียวให้แล้วนะคะ ถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าก็หยุดมโนได้แล้วนะจ๊ะน้องสาว"
นิ้วเรียวจิ้มเข้าหน้าผากน้องอย่างมันเขี้ยว เธอก็โสดมาตั้งหลายปีแล้วถ้าจะลองเปิดใจให้ใครอีกครั้งก็คิดว่าตัวเองคงพร้อมแล้วล่ะ อายุก็จะสามสิบอยู่แล้วงานในวงการก็ถือว่าได้ผ่านมาหลากหลายบทบาทพอสมควร การเป็นดาราเมื่อไหร่ที่มีความรักเข้ามาในชีวิตในเวลาที่ยังไม่พร้อมนั่นคือปัญหา เพราะคุณต้องเลือกระหว่างงานที่รักกับคนที่รัก
แม้จะไม่ได้มีกฏห้ามว่าดาราห้ามมีแฟนแต่ส่วนมากพอเปิดตัวกันไปแล้วความนิยมและข่าวด้านลบมักจะมีมากกว่าด้านดี ความเป็นส่วนตัวยิ่งแทบไม่มีเพราะจะทำอะไรไปไหนก็เหมือนโดนจับตามองอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญหากคนที่คบกันขาดซึ่งความเข้าใจในอาชีพที่อีกคนต้องทำ มันก็กลายเป็นปัญหารักร้าวได้อีกเหมือนกัน อย่างที่เธอกับอดีตคนเคยคบต้องเลิกลากันไปเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ
บทเรียนครั้งนั้นทำให้นริสนันท์ไม่ได้คุยกับใครเป็นพิเศษเลยเพราะไม่อยากเจอปัญหาแบบนั้นอีก แต่ ณ เวลานี้เธอพร้อมที่จะเลือกคนที่เข้าใจเธอและรับในอาชีพของเธอได้ หากว่าพี่ชายของพิชญากรเข้าหาเธอจริงจังอย่างที่น้องสาวเปรยให้ฟังบ่อย ๆ ว่าพี่ชายน่ะเป็นแฟนละครเธอแล้วแอบชมเธอให้ได้ยินด้วย ถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปการที่พัชรวิชญ์คอยรับส่งน้องสาวที่กองถ่ายที่เธอกับพิชญากรถ่ายละครด้วยกันบ่อย ๆ มันหมายถึงว่าอีกคนแอบสนใจเธออยู่หรือเปล่า นี่คือเหตุผลที่อยากลองใจดู
"น้องพาย มานั่งจีบนางเอกพี่อีกแล้วนะครับ"
น้ำเสียงคุ้นหูเอ่ยแซวขึ้นก่อนที่พระเอกของเรื่องจะเดินยิ้มเข้ามาหาสองสาว
"เสียใจด้วยนะคะพี่อ๊าท เรื่องนี้พี่อ๊าทเป็นตัวร้ายต่างหากค่ะ เน๊อะพี่แนน"
"โหย ตอกย้ำซะพี่จุกเลยครับเนี่ย ทำไมคุณหวานใจร้ายกับพี่แบบนี้ก็ไม่รู้ หรือว่าอายุพี่เยอะขึ้นเลยไม่ได้เป็นพระเอก"
อัฐวิทย์พระเอกที่เคยดังเป็นคู่ขวัญกับเจติยามาก่อน ปัจจุบันทั้งสองคนก็ต่างมีครอบครัวของตัวเองแล้วด้วย
"แหม น้องอ๊าทน่ะเพิ่งสามสิบเจ็ดยังไม่แก่หรอกค่ะพี่มะปรางคอนเฟริม ยังน่าเคี้ยวอยู่เลยค่ะ"
คิก ๆ
"เจ๊มะปรางอย่าทำท่าเคี้ยวสยองใส่ผมแบบนี้สิ ขนลุกเลย"
เสียงหัวเราะดังขึ้นมาเป็นระยะจากกลุ่มนักแสดงและทีมงานที่สนิทคุ้นเคยกันดี จนเมื่อแต่ละคนได้แปลงโฉมเสร็จเรียบร้อยพร้อมเข้าสู่พิธีบวงสรวงเพื่อเป็นสิริมงคลต่องานตามความเชื่อ หลังจากเสร็จพิธีก็จะมีการถ่ายรูปของเหล่าดารานักแสดงในเรื่องพร้อมกับให้สัมภาษณ์
และตอนนี้นักแสดงนำที่มีส่วนในการดำเนินเรื่องก็กำลังถูกนักข่าวสัมภาษณ์อยู่
"เป็นยังไงบ้างครับละครเรื่องนี้ที่ได้กลับมาร่วมแสดงด้วยกันอีกครั้ง ทั้งสามคนเลย"
อัฐวิทย์ยิ้มให้สองสาวก่อนจะตอบคำถาม
"ก็ดีใจนะครับที่ได้กลับมาทำงานกับน้อง ๆ และทีมงานที่คุ้นเคยกัน และที่สำคัญผมจะกลายเป็นตัวร้ายของเรื่องนี่สิที่มันน่าสนใจ กับน้องแนนเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่สามนะครับที่ได้กลับมาเล่นด้วยกันก็ห่างกันไปนานพอสมควร ส่วนน้องพายเรื่องนี้เรื่องที่สี่แล้วครับ"
"เรื่องนี้พวกเรารับข้อมูลมาคร่าว ๆ ว่าในเรื่องมีบทเลิฟซีนเล็ก ๆ ระหว่างสองสาวด้วยใช่มั้ยคะ น้องแนนน้องพาย"
นักข่าวสาวยิงคำถามมาที่สองสาวบ้าง
"ก็มีค่ะจะมีในภาคปัจจุบันเพราะสร้อยจันทร์ในอดีตที่กลับชาติมาเกิดเป็นระวินั้นจดจำอดีตชาติได้ ก็เลยทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้สริตากลับมาเป็นของตัวเองให้ได้ ทั้งตามตื้อตามจีบสารพัดส่วนเนื้อเรื่องจะสนุกแค่ไหนคงต้องคอยติดตามกันค่ะ"
พิชญากรเล่าไปยิ้มไปก่อนที่นักข่าวจะถามต่อ
"ว่าแต่เลิฟซีนเล็ก ๆ นี่ ถือว่าเป็นเรื่องแรกเลยหรือเปล่าครับสำหรับน้องพายกับน้องแนน ว่าแต่จะใช้มุมกล้องหรือแสดงจริงครับเนี่ย"
อะแฮ่ม เสียงกระแอมของอัฐวิทย์เรียกเสียงหัวเราะขำจากเหล่านักข่าว
"อะไรติดคอคะพี่อ๊าท คือจะว่าเป็นเลิฟซีนเลยก็ไม่ใช่หรอกค่ะ ในบทก็แค่จูบแค่นั้น อืม ส่วนจะใช้มุมกล้องหรือเปล่านี่ขอเอาไว้เซอร์ไพรส์ดีกว่ามั้ยคะ ถ้าบอกไปตอนนี้วันถ่ายจริงขึ้นมาพายเกิดไปกินส้มตำปลาร้ามา แนนคงต้องใช้มุมกล้องแทนแน่ ๆ"
คำตอบของนางเอกสาวก็เรียกเสียงฮาอย่างขบขัน