“เด็กนั่น เด็กไหนเหรอค่ะ”
“น้ำหวาน…ผู้หญิงที่เจ๊ส่งขึ้นไปบนเรือของผมเมื่อสามวันก่อนนั่นไง เธอมาทำงานรึยัง”
สิ้นคำถามที่ดังขึ้น กระเทยสาวก็เม้มริมฝีปากเข้ากันด้วยท่าทีลำบากใจอย่างเห็นได้ชัดจนคาร์ลเริ่มจะรู้สึกไม่สบอารมณ์เมื่อคิดไปไกลว่าบางทีหล่อนอาจจะออกไปกับแขกคนอื่นแล้ว
“หรือมีแขกคนอื่นพาเธอออกไปแล้ว!” เพียงแค่คิดดวงตาคมคายก็ฉายแววแสดงอาการไม่พอใจออกมาทันทีจนคนตรงหน้าที่เริ่มจะเห็นท่าไม่ดีต้องรีบเอ่ยตอบเป็นการด่วน..
“ไม่ใช่ค่ะๆ น้ำหวานน่ะไม่ได้ทำงานที่นี่หรอกนะคะ อันที่จริงเด็กนั่นไม่ได้ขายตัวด้วย แต่เพราะแม่เธอป่วยหนักมาก เธอเลยมาขอร้องเจ๊ให้ช่วยหางานดีดีที่ได้เงินไวๆ ให้ เจ๊ก็เลย…” ทุกๆ สิ่งถึงแก่ความกระจ่างทันทีที่ได้รับรู้ความจริงที่ครั้งหนึ่งเขาก็เคยได้รับฟังมันมาแล้วจากหญิงสาวที่ร้องขอความเมตตาให้เขาปล่อยเธอไป…
แต่ทว่าเขากลับเลือกที่จะปิดหูปิดตาไม่รับฟังเพราะหลงคิดว่ามันเป็นเพียงคำลวงที่หล่อนสร้างขึ้นมาเพื่อโก่งค่าตัวตัวเองเท่านั้น มันคงจะเป็นค่ำคืนที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตที่เขามอบมันให้แก่เธอ
“แล้วผมจะพบเธอได้ที่ไหน”
“คุณไม่ได้จะมาทำร้ายน้ำหวานหรอกใช่ไหมคะ”
“หน้าตาของผมดูเหมือนเป็นคนแบบนั้นเหรอครับเจ๊ ผมแค่มีเรื่องสำคัญจะคุยกับเธอเท่านั้น”
“ถ้างั้นเจ๊ก็ค่อยหายห่วง รอเดี๋ยวนะคะเดี๋ยวเจ๊จดที่อยู่น้ำหวานให้” คาร์ลพยักหน้ารับตอบด้วยท่าทีเฉยเมยตามปกติแม้ภายในใจจะกำลังรู้สึกผิดอยู่เต็มอกที่เขาทำร้ายเธอและต่อว่าเธอทั้งคำพูดและการกระทำอย่างรุนแรงป่าเถื่อน
ป่านนี้เธอจะเกลียดเขาไปแล้วรึยังนะ
ชายหนุ่มเฝ้าถามคำถามนี้ให้ตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเองและพุ่งทะยานมุ่งตรงไปยังจุดหมายเดียวเท่านั้น
บ้านของหล่อน
เพี๊ยะ!!
“นี่มันอะไรกันวะนังหวาน! ทำงานตั้งหลายวันทำไมเอ็งได้เงินมาแค่นี้ห๊ะนังลูกไม่รักดี!” เสียงตวาดดังลั่นทันทีที่ฝ่ามือหนาตบฉาดเข้าที่ใบหน้าหวานเข้าอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์โกรธทั้งหมดที่ตนมี
“หวานเพิ่งจะเริ่มงานได้ไม่กี่วันเองนะจ๊ะพ่อ อีกอย่างตอนนี้แม่อยู่นอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลด้วย พ่อเองก็น่าจะช่วยกันทำงานบ้าง”
เสียงหวานย้อนตอบก่อนจะค่อยๆ ยกมือขึ้นปาดน้ำตาเบาๆ จ้องมองผู้เป็นพ่อเลี้ยงด้วยความรู้สึกเจ็บแค้นหัวใจ
หลังจากกลับมาจากล่องเรือเธอก็ต้องพบว่าอาการป่วยของแม่นั้นหนักขึ้นเรื่อยๆ จนหมอเริ่มจะบอกให้เธอเตรียมใจเอาไว้บ้าง เพราะอยากจะยื้อแม่ที่เป็นดั่งเหตุผลเดียวที่ทำให้เธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่แสนโหดร้ายใบนี้ให้ได้นานที่สุด หญิงสาวจึงไปขอทำงานที่ร้านขายของชำใกล้ๆ บ้านเพื่อหาเงินไปรักษาแม่ แต่ไม่ว่าจะหามาได้เท่าไหร่ก็ต้องถูกผู้เป็นพ่อเลี้ยงมาคอยดักแย่งไปจนหมด
วันนี้ก็เช่นกัน!
“นี่แกกล้ายอกย้อนฉันเหรอนังลูกเลว! ถ้าวันนี้ฉันไม่มีเงินไปใช้ไอ้เสี่ยชัยแกรู้ไหมว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นกับฉันบ้าง ถ้าแกยอมไปเป็นเมียน้อยมันป่านนี้ฉันกับแม่แกคงสบายไปนานแล้ว!!”
“พ่อ!”
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพ่อ แกไม่ใช่ลูกฉัน! ถ้าพรุ่งนี้แกไม่มีเงินสองหมื่นมาให้ฉัน…แกเตรียมไปรับแขกที่ส้องเจ๊ดาวได้เลย”
สิ้นเสียงที่ดังขึ้น ร่างสูงที่อยู่ในสภาพมึนเมาได้ที่ก็เดินจากไปอย่างหัวเสีย ทิ้งไว้เพียงร่างเล็กที่ทำได้เพียงนั่งสะอื้นอยู่กับที่ให้กับชีวิตที่เจอแต่เรื่องราวเลวร้ายไม่รู้จบเสียที
ชญาวีร์ค่อยๆ ยันกายให้ลุกขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ หวังเพียงจะเข้าไปอาบน้ำและเดินทางไปเยี่ยมผู้เป็นแม่ที่โรงพยาบาลและอาจจะขอคุณหมอนอนค้างเสียที่นั่นเลยในคืนนี้เพราะเกรงว่าพ่อเลี้ยงจะหวนกลับมาทำร้ายร่างกายตนเองอีก แต่ยังไม่ทันที่สองเท้าจะได้ทันก้าวเข้าบ้าน ร่างสูงกำยำของใครบางคนก็ปรากฏลงตรงหน้าเสียก่อน…
ใครบางคนที่กำลังจับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาดุดันเหมือนเชกเช่นทุกครั้งที่เขาชอบมองนับตั้งแต่เจอกัน
“คะ…คุณ!”
สิ้นเสียงที่ดังขึ้นปนความตกใจสุดขีดเพราะไม่คิดว่าหล่อนจะได้พบกับคนๆ นี้อีกร่างบางก็หมุนตัวเตรียมจะเดินหนีแต่ก็ช้ากว่าคาร์ลที่รู้สึกตัวได้ก่อนเดินอ้อมมาดักหน้าหญิงสาวเอาไว้ก่อนที่จะรั้งร่างเล็กที่เขาโหยหามานานหลายวันเข้ามากอดอย่างแนบแน่น
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าผมไม่ชอบให้คุณเดินหนี!” คาร์ลกดเสียงต่ำพร้อมเอื้อมมือไปกระชากต้นแขนเรียวให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับตนอีกครั้ง
“ปล่อยฉันนะคะ! คุณมาทำอะไรที่นี่ กลับไปซะ!”
หญิงสาวทำราวกับไม่ได้ยินเสียงคนตรงหน้าที่ดังขึ้น ปากร้องไล่ไปพร้อมๆ กับพยายามสะบัดตัวเองให้หลุดพ้นจากคนใจร้ายที่พรากเอาทุกๆ สิ่งไปจากเธออย่างป่าเถื่อน
“หลุดดิ้นซะที! ไม่งั้นผมจะลากคุณเข้าไปในบ้านแล้วข่มขืนให้ยับ จะลองดูก็ได้นะ เปลี่ยนบรรยากาศมาที่รังหนูซอมซ่อแบบนี้ดูบ้างก็ดูเร้าใจดีไม่น้อย”
คำขู่ที่แสนน่ากลัวดังขึ้นพร้อมๆ กับมือหนาสากที่กำลังโอบรัดร่างเล็กตรงหน้าแน่นขึ้นราวกับจงใจให้หล่อนได้รับรู้ว่าเขาไม่ได้ทำได้แค่ขู่เท่านั้น
ชญาวีร์ยอมที่จะหยุดดิ้นรนเพราะรู้ดีว่าตนเองไม่มีทางเอาชนะคนตรงหน้านี้ได้เลยสักครั้ง ความสงสัยมากมายก่อตัวขึ้นช้าๆ เขามาทำอะไรที่นี่อีก หรือจะมากล่าวหาว่าหล่อนไปขโมยของอีกรึยังไงกัน
“ดีมากกระต่ายน้อย ว่าง่ายๆ แบบนี้ค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย”
“คุณมีอะไรกับฉันอีกค่ะ! เราไม่ควรจะเจอกันอีก!”
“อะไรทำให้คุณคิดว่าเราไม่สมควรเจอกันอีกล่ะน้ำหวาน”
“เพราะฉันเกลียดคุณ! เกลียดทุกๆ สิ่งที่คุณทำกับฉัน และที่สำคัญ…ฉันไม่อยากเจอคุณอีกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตามที ได้โปรดปล่อยฉัน คุณไม่สมควรทำกับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรักแบบนี้นะค่ะคาร์ล”
คำหวานที่อัดแน่นไปด้วยความเกลียดชังของหล่อนไม่ได้ทำให้คาร์ลรู้สึกแย่เลยแม้แต่นิดเดียว ในทางกลับกันเขายังหลงคิดว่ามันยิ่งจะเป็นอะไรที่ตื่นเต้นเร้าใจอย่างถึงที่สุด ยิ่งหล่อนพยายามจะหนีหายเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะเขาไปใกล้หล่อนมากขึ้นเท่านั้น…
และเชื่อเถอะว่าไม่มีอะไรที่คนอย่างคาร์ลอยากได้แล้วไม่ได้
“ผมแค่คิดถึง โหยหา และติดใจ”
คำตอบตรงๆ ของคนไร้ซึ่งความอายตรงหน้าทำเอาชญาวีร์ถึงกับพูดไม่ออกไปนานหลายนาที มันเป็นคำพูดที่ไม่ต่างอะไรกับนาฬิกาย้อนเวลาทำให้หล่อนหวนคิดถึงวันคืนที่แสนเลวร้ายที่หล่อนเพียรพยายามอย่างหนักหน่วงที่จะลบมันออกไปจากภาพความทรงจำให้ได้ แต่เพียงประโยคสั้นๆ คำพูดไม่กี่คำของเขากลับทำให้เธอต้องกลับไปคิดถึงมันอีกจนได้
“นั่นมันปัญหาของคุณค่ะ ฉันมีธุระที่ต้องรีบไป และถ้าคุณจะกรุณามีความเป็นสุภาพบุรุษหลงเหลืออยู่บ้าง ได้โปรดปล่อยฉันและไปซะ!”
“ผมไม่ได้ลงทุนขับรถมาตั้งไกลเพื่อฟังคุณเอ่ยปากไล่ตะเพิตแบบนี้นะน้ำหวาน!”
“ดิฉันก็ไม่ได้ร้องขอให้คุณมานี่ค่ะ”
“ผมไม่ไปไหนทั้งนันจนกว่าจะได้สิ่งที่ต้องการ” คนเอาแต่ได้ ทำยังไงคนๆ นี้ก็ดูเหมือนจะไม่ฟังอะไรใครเลยจริงๆ เขาก้าวร้าวและสนใจแต่สิ่งที่ตัวเองอยากจะได้เท่านั้น ใครจะเป็นยังไงแทบจะไม่สนเลยสักนิด
“คุณต้องการอะไรค่ะ!”
“คุณไง ผมต้องการคุณ” ตอบไวเกินกว่าจะฉุดคิด มือหนาสากยกขึ้นเกาหัสตัวเองแก้เก้อเพราะไม่คิดว่าปากเขามันจะไปไวกว่าความคิดได้รวดเร็วแบบนี้
“แต่ฉันให้สิ่งที่คุณต้องการไม่ได้ และจะไม่มีวันให้ด้วย คุณกลับไปเสียเถอะ ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมาลากคุณไป”
มันช่างเป็นคำขู่ที่น่ากลัวเสียเหลือเกิน คาร์ลส่งเสียงหัวเราะในลำคอก่อนจะค่อยๆ ดันร่างเล็กตรงหน้าไปเรื่อยๆ จนแผ่นหลังเนียนขาวของเธอแนบชิดติดผนังบ้าน
“ก็เอาสิ…แต่กว่าจะตำรวจจะมาถึง..เกรงว่าคุณคงจะต้องแจ้งจับผมอีกข้อหาแน่ๆ บุกรุกในยามวิกาลและ…”