บทที่ 7

1229 คำ
“ไงล่ะคนเก่งเมื่อกี้นี้หายไปแล้ว กลัวก็บอกว่ากลัวสิ ความกลัวของคนเราใช่เรื่องน่าอายเสียเมื่อไหร่กัน” ชญาวีร์ไม่ได้เอ่ยตอบอะไรมากนักนอกจากค่อยๆ ฝังหน้าเอาไว้ที่อกแกร่งเพราะกลัวว่าเขาจะกลั่นแกล้งหล่อนอีก หลังจากพาหญิงสาวดำดูปะการังได้สักพักคาร์ลก็พาชญาวีร์ขึ้นจากน้ำเพราะกลัวว่าหากอยู่นานกว่านี้จะทำให้เธอป่วยจนพาลทำให้ค่ำคืนสุดท้ายของเขาและเธอเป็นอันต้องพังลงอย่างไม่เป็นเท่าซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ขัดอะไรมากนักเพราะรอคอยเวลาที่เขาจะพาขึ้นจากน้ำอยู่ก่อนหน้าแล้ว “ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ” คาร์ลพยักหน้าตอบเป็นเชิงอนุญาตก่อนสายตาเสือร้ายจะจับจ้องไปที่ปั้นท้ายงามๆ ของหล่อนที่ยิ่งเวลามันเสียดสีกับน้ำทะเลยิ่งจะทำให้เผยรูปร่างที่ถูกซ่อนเอาไว้ใต้เนื้อผ้าได้เป็นอย่างดี เร็วกว่าความคิดเมื่อร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะสาวเท้าเดินตามหล่อนไปอย่างเงียบเชียบ เสียงสายน้ำที่กำลังดังขึ้นอย่างไม่ขาดสายมันทำให้คาร์ลต้องเผลอจินตนาการไปถึงภาพของหญิงสาวที่กำลังเปลือยเปล่าด้านในนั้น และก็เป็นโชคดีของเขาเหลือเกินเมื่อประตูห้องน้ำนั้นไม่มีกลอนให้ล็อค มือหนาค่อยๆ เปิดประตูตรงหน้าออกช้าๆ ก่อนภาพที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากที่เขาจินตนาการถึงเมื่อสักครู่จะปรากฏลงตรงหน้า ภาพของหญิงสาวที่กำลังหลับตานิ่งเงยขึ้นหาฝักบัวปลดปล่อยให้สายน้ำไหลกระทบกับไหล่มลสีขาวเนียนสะอาด มันช่างเป็นภาพที่ตราตรึงหัวใจจนทำให้ชายหนุ่มหยุดชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆ สาวเท้าเข้าไปใกล้ ตวัดคว้าเอวคอดเข้ามาแนบเนื้อกายของตนเองช้าๆ “ว๊าย!! คุณจะทำอะไรค่ะ!!!” ชญาวีร์ร้องถามเสียงหลงก่อนจะพยายามผละออกจากอ้อมกอดอสูรร้ายที่ไม่รู้ว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ อาจจะเพราะเสียงน้ำที่ไหลอยู่มันเลยทำให้หล่อนพลาดท่าที่จะได้ยินเสียงเมื่อตอนที่เขาเปิดประตูเข้ามา “ทำเหมือนอย่างเคย” “แต่นี่มันเพิ่งจะหัวค่ำเองนะค่ะ อีกอย่างฉันยังอาบน้ำ...” คำประท้วงที่คิดเอาไว้ถูกกลืนหายกลับเข้าไปในลำคอทันทีที่คาร์ลก้มลงไปปิดปากหล่อนด้วยรสสัมผัสที่อ่อนโยนมากกว่าครั้งไหนๆ มือแกร่งก็พยายามจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วยก่อนจะโยนลงไปอีกฝั่งของห้องน้ำ ชญาวีณ์หัวหมุนตาลายไปกับรสสัมผัสตรงหน้า ความอ่อนโยนและลึกล้ำที่เขาหมั่นปรนเปรือให้มันทำให้หล่อนหลงลืมทุกๆ สิ่งไปจนหมดสิ้น ลืมแม้กระทั่งว่าเขาคือคนไม่ดี คือคนใจร้ายที่สร้างความเจ็บปวดให้เธอ ร่างเล็กยินยอมพร้อมใจไปกับบทสวาท คาร์ลคำรามอย่างพอใจเมื่อการเดินทางมาถึงจุดหมายของมัน ร่างสูงใหญ่กระตุกหลายครั้งก่อนจะค่อยๆ โน้มลงไปจูบที่ขมับของเด็กดีตรงหน้าเพื่อให้รางวัลที่หล่อนไม่ขัดขืนเหมือนทุกครั้งที่ผ่าน “ให้ผมอุ้มนะครับ คุณคงจะเดินเองไม่ไหวแน่ๆ” ไม่ต้องรอให้หญิงสาวได้ทันร้องตอบ วงแขนแกร่งก็จัดการรวบร่างเล็กขึ้นแนบอกก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำเพื่อจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อย่างเบามือก่อนจะผล็อยหลับตามเธอไปติดๆ ด้วยอาการเหนื่อยอ่อน ดินเนอร์สุดหรูบนดาดฟ้าเรือเริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ และเมื่อสองหนุ่มให้สัญญาณพลุมากมายก็ถูกจุดขึ้นมาตามลำดับ ชญาวีร์ค่อยๆ เดินไปหยุดที่หัวเรือก่อนจะจับจ้องภาพตรงหน้าที่นานๆ ครั้งจะมีโอกาสได้เห็นมัน เบื้องหน้าคือท้องทะเลที่เงียบสงบ ด้านบนคือดวงจันทร์ฉายสีนวลสวยที่ตอนนี้กำลังประดับประดาไปด้วยพลุนับร้อยๆ ลูกที่ถูกจุดขึ้นมาเรื่อยๆ ไม่ทันไรคาร์ลก็เดินมาสมทบก่อนจะค่อยๆ สอดมือหนาของตัวเองโอบกอดร่างเล็กเอาไว้แน่นจากเบื้องหลัง พรุ่งนี้เมื่อเรือเทียบท่า...เขาก็คงจะไม่มีโอกาสได้เจอเธออีกแล้ว เขาจึงอยากจะให้ค่ำคืนนี้เป็นค่ำคืนที่น่าจดจำที่สุด แต่ทำไมมันถึงได้เศร้านัก...หัวใจของชายหนุ่มผู้ซึ่งไม่เคยต้องมีอารมณ์อ่อนไหวเหมือนเช่นที่กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้มันช่างปวดร้าวเมื่อคิดว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าหวานของเธออีก “พรุ่งนี้หลังจากที่เรือลำนี้เทียบท่าผมจะได้เจอคุณอีกไหมน้ำหวาน” เสียงเข้มที่จู่ๆ ก็ร้องถามขึ้นทำเอาใบหน้าหวานค่อยๆ ละสายตาจากพลุตรงหน้าหันมาสบตาเจ้าของคำถามที่ว่านั้นนิ่งๆ เนิ่นนานกว่าเธอจะเอ่ยตอบ... “ฉันว่าเราอย่าเจอกันอีกเลยจะดีกว่าค่ะ” คำตอบที่ได้มันเจ็บปวดเกินกว่าจะรับไหว ชญาวีร์เองก็เช่นกัน เมื่อความรู้สึกแปลกๆ ที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้น เธอสมควรจะดีใจสิที่พรุ่งนี้ทุกอย่างจะจบลงแล้ว หน้าที่นางบำเรอบนเรือสุดหรูสามวันที่แสนทรมาณมันกำลังจะสิ้นสุดในไม่ช้านี้แล้ว แต่ทว่าทำไมหัวใจของหล่อนมันถึงได้เศร้าโศกเช่นนี้ คำถามที่ไม่มีวันรู้คำตอบยังดังผุดขึ้นมาเรื่อยๆ สองกายที่สอดประสานแนบแน่น จ้องมองดูพระจันทร์ตรงหน้าด้วยกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ทุกๆ อย่างจะจบลงทันทีที่เรือสำราญลำนี้เทียบท่าและเขาและเธอจะได้จากลากันไปตลอดกาล... เพราะความกังวลใจบวกกับความโหยหาที่ยังคงอยู่และไม่มีทีท่าว่าจะเลือนหายไปง่ายๆ มันทำให้คาร์ลต้องกลับไปที่คลับด้วยตนเองเพื่อตามหาหญิงสาวที่เป็นดั่งต้นเหตุทำให้เขานอนไม่หลับอยู่หลายคืนนับตั้งแต่เธอจากไป เมื่อสองวันก่อนหลังจากที่เรือเทียบท่าหล่อนก็รีบลงเรือจากไปโดยไม่คิดที่จะล่ำลาเขาสักคำเดียว เพียงแค่เวลาสองวันที่ไม่ได้เห็นหน้า หัวใจของเขาก็พาลจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนทนไม่ไหวเมื่อคิดถึงใบหน้าหวานสวยได้รูป เขาหวังเพียงแค่จะแอบมาเจอหล่อนอีกสักครั้งก่อนที่เขาจะเดินทางกลับกรุงเทพก็เท่านั้น ไม่ได้มาด้วยจิตพิศวาสอะไรเลยทั้งสิ้น ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว เจ้าชายนักรักย้ำเตือนกับตัวเองภายในใจในขณะที่ขาทั้งสองก็พากันพร้อมใจเดินเข้าไปในคลับเบื้องหน้าอย่างไม่รีรอ “ต๊าย! อกอีแป๊นจะแตกดับ! ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่คะคุณคาร์ล” เสียงหวานใสตะโกนร้องทักลูกค้าวีไอพีที่มักจะมาใช้บริการคลับของตนเองอยู่บ่อยครั้ง หากแต่ครั้งนี้สิ่งที่แปลกต่างออกไปกว่าทุกครั้งนั่นคือเขาเดินทางมาด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกจากที่ครั้งก่อนๆ หากต้องการเด็กสักคนในร้านก็แค่กดโทรมาสั่งเท่านั้น... “ผมมาหาเด็กนั่น!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม