ณิชาจะหยิบเงินจ่ายเอง ผมก็เลยรีบเอาของตัวเองจ่าย นัดสาวมา แล้วให้สาวเลี้ยงได้ไง บ้าบอ!
“นึกว่าจะเบลอจนลืมเลี้ยงนะเนี่ย”
“ฮ่า ๆ อย่าแซวดิ โบ๊ทเก็บอาการไม่อยู่เพราะณิชานั่นแหละ”
ไม่ได้หยอดเพื่อเอาใจ ให้เธอเขินจนตัวม้วนหรอกนะครับ ผมแค่พูดไปตามความจริง เจอหน้าแล้วเสียอาการขนาดนี้ แย่แน่ ๆ เลยผม
“หูย มีหยอด” นี่ก็ไม่คิดจะเขินบ้างเหรอวะ เห็นเก็บทรงได้ดี ดูโคตรปกติ
มีแต่ผมนี่ที่ผิดปกติ!
“ถือเอง” ผมดันมือณิชาออก แล้วยกถาดที่มีทั้งเครื่องดื่มและเค้กวางอยู่
เดินถือมาที่โต๊ะที่มีกระเป๋าสะพายของณิชาวางจองไว้
“ชิมไหม” ผมเริ่มจะเก็บอาการได้ เลยถามณิชาว่าอยากชิมเค้กช็อกโกแลตของผมไหม
ณิชามองหน้าผมยิ้ม ๆ แต่พอเธอก้มหน้าลงมองในจาน เธอก็เบิกตาโต แล้วเอ่ยออกมาอย่างตกใจ “ห๊ะ!”
ผมเลยมองตาม...
‘ไอ้เชี่ย! กูตักได้เละมาก!’
ช้อนจิ้มลงไปครึ่งชิ้น ตัดลงไปชิ้นเค้กล้มเละเทะ ยังมีหน้าไปชวนสาวกินอีก
สาบานนะ ว่าผมเก็บอาการได้แล้ว -*-
“ให้ชิมครึ่งชิ้นเลยเหรอ” ณิชาถามแบบติดตลก แต่ผมนี่ดิ อายจนอยากจะมุดหนีแล้ว
“แหะ ๆ” ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้แทนคำตอบ จะให้ตอบไรอะ ทำตัวไม่ถูกแล้วโว้ย
ณิชาตักที่เค้กของผม แม้มันจะเละเทะ แต่เธอก็ดูสนุกสนานกับการเก็บกิน ครับ... เก็บกิน
ถ้าผมเป็นณิชา ผมเทแล้วเนี่ย ได้แต่ภาวนาในใจว่าอย่าถูกเท ได้โปรด... อย่าจบตั้งแต่ตอนนี้
เพราะผมเป็นตัวแทนของแก๊งที่มาเข้าหาณิชา ขืนถูกเท คงยากแล้วที่จะเข้าหาเธอ
“นี่ชิมของณิชาดีกว่า” ณิชาเอาช้อนผมไปตักเค้กของเธอ แล้วยื่นให้ผม
“ไม่ป้อนเหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้นถาม
อีกฝ่ายก็ยิ้มกริ่ม ให้ตายสิ ดูน่ารักไปอีก ทำไมต้องเป็นน้องไอ้เชนทร์ด้วยวะ ฮึ่ย ต้องมาหักห้ามใจตัวเองไม่ให้คิดไปไกล
“ตกลงป้อนเปล่า” ผมถามอีกครั้ง
“ไม่ป้อน”
อ่า จบเลยกู...
“คิก ๆ อ้าปาก” ณิชาหัวเราะเล็กน้อย แล้วยื่นมาที่ปากผม
ผมงับเข้าปากแล้วค่อยรับช้อนจากมือของณิชา มันคงเป็นเค้กที่หวานและอร่อยที่สุด
“มีใครมาจีบบ้างหรือเปล่า” ผมเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อเค้กในจานของเราทั้งคู่ หายไปเกลี้ยงหมดจาน
“ไม่มี”
“ทำไมจะไม่มี”
พอผมเถียงกลับไป หัวคิ้วของณิชาก็ย่นเข้าหากัน เธอทำหน้าสงสัย และดูเหมือนกำลังนึกอยู่ด้วย
อาการนี้ ตกลงมีหรือไม่มีวะ
“โบ๊ทไง” อะไรอย่างไรผมไม่รู้ ผมเสนอตัวเองก่อนเลยก็แล้วกัน
“จะบอกว่ากำลังจีบณิชาอยู่ ว่างั้นเถอะ”
สีหน้ากรุ่มกริ่มของณิชานี่ผมช่างไม่ชอบเอาเสียเลย ไม่ใช่อะไรนะ ผมทำตัวไม่ถูก
“ฮ่า ๆ อือ” ไม่กล้าสบตาของเธอ ก็เลยต้องหันหน้าหนี อีกทั้งยังเกาท้ายทายแก้เขิน
“อะไรนะ ฟังไม่ชัด”
นี่แกล้งหรือฟังไม่รู้เรื่องจริง ๆ วะ
ผมหันมามองก็เห็นว่าณิชาตั้งท่ารอฟังคำตอบของผมอยู่
“กำลังจีบอยู่” ผมมองณิชาแล้วตอบไปนิ่ง ๆ ให้ดูว่าไม่ได้เกร็ง ทั้งที่เกร็งจนฉี่จะเล็ดอยู่แล้ว
ทำไมการจีบณิชานี่ทำผมเสียอาการได้ขนาดนี้วะ
“จีบใคร”
“อย่าแกล้งโบ๊ทดิ”
เหมือนรู้ว่าผมกำลังเกร็ง ณิชาก็ยิ่งถามจี้จุด คิดเองบ้างก็ได้โว้ย จะต้องให้พูดทุกคำเลยหรือไง
“คิก ๆ” ณิชาหัวเราะคิกคัก ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มกิน แล้วค่อยพูดต่อ “กลับก่อนนะ”
“ห๊ะ”
ไอ้ที่ผมบอกว่าจีบนี่คือ...? ไม่ได้เข้าไปอยู่ในความคิดของเธอหรือไง
ไม่แบบ... เขินไรงี้หน่อยเหรอ ทำหน้าตกใจสักนิดก็ยังดีวะ
“กลับไง จะอยู่ร้านหรือไง” ณิชาลุกขึ้นยืน คว้ากระเป๋าสะพายคล้องเข้ากับเรียวแขน
“แล้วที่โบ๊ทบอกว่าจีบล่ะ” ผมถาม
“ก็รู้แล้วไง”
“แล้วยังไงต่ออะ” ผมถามต่อ
จับณิชาบีบคอได้ไหมนิ
นอกจากจะทำให้ผมเสียอาการแล้ว ยังทำให้ผมอยากจะทึ้งหัวตัวเองด้วยเนี่ย
“ก็ไม่ยังไง ก็รู้แล้วว่าโบ๊ทจีบ... ก็แล้วแต่โบ๊ทสิ ว่าจะเอายังไงต่อ”
“ถ้าแล้วแต่โบ๊ท...” ผมพูดค้างไว้แล้วมองหน้าณิชาแบบจริงจัง เก็บอาการของตัวเองไว้ให้อยู่ทรง
“เป็นแฟนกันเลยไหม” ผมพูดต่อ
“ไม่อะ”
“เอ๊า!”
ณิชาโว้ยยยย จะเอาไงโว้ยยยย
“ฮ่า ๆ ๆ ตลกอะ”
ยังจะมีหน้ามาขำอีก เธอถอยหลังไปนั่งลงที่เดิม แล้วยกแขนขึ้นวางบนโต๊ะ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ ผม ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา
“รู้แล้วว่าจีบ ก็ให้จีบ... อยากให้จีบก่อนค่อยเป็นแฟน”
เสียงหวาน ๆ กับหน้าหวาน ๆ ที่ยังห่างจากผมไม่มากนัก ทำเอาใบหน้าของผมเห่อร้อนไปหมด
อาการบ้า ๆ นี่เรียกว่าเขินแน่นอน
ไม่รู้เขินเชี่ยไรนักหนา ท่องไว้ว่านี่คือน้องของไอ้ราเชนทร์
ถึงน้องสาวจะน่ารักมากแค่ไหน แต่ต้องนึกไว้ว่าพี่ชายกวนส้นตีนมากกว่า
ผมก้มหน้าหลบกลบเกลื่อนความเขินของตัวเอง ไม่กล้าสบตาณิชาเลยจริง ๆ
“เอ๊ะ” เสียงณิชาดังขึ้นอีกครั้ง
มือนุ่ม ๆ ของเธอจับที่แขนผมไว้ ก่อนจะลูบเบา ๆ ผมเลยมองตาม อ่า... รอยช้ำนี่เอง
“โดนอะไรมา” เธอถามด้วยความเป็นห่วง
หัวใจเต้นตึกตัก~ ไม่ต้องมาเป็นห่วงกันแบบนี้ได้ไหม กลัวใจจะหวั่นไหวเหลือเกิน
“หือ... โดนอะไรมา” ณิชาเงยหน้าขึ้นสบตาผม ทวงถามถึงคำตอบ
“เอ่อ...”
โดนพี่ชายเธอเตะมา... ตอบแบบนี้ก็ไม่ได้เปล่าวะ
“ล้ม” โอเค น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด จะตอบว่ามีเรื่อง เดี๋ยวก็ถูกเค้นถามต่อ
“อ๋อ เจ็บมากไหม” ถามเหมือนเป็นห่วง แต่นิ้วนี่จิ้มที่รอยช้ำผมเล่น
“เจ็บตอนที่ณิชากดแขนนี่แหละ”
“คิก ๆ” เธอหัวเราะแล้วปล่อยมือออกจากแขนผม แล้วพูดต่อ “จะกลับจริง ๆ แล้วนะ มีคนรออยู่”
ใครวะ? ใครที่รอณิชาอยู่ ไม่ใช่ว่าพาไอ้เชนทร์มาด้วยนะ ผมเดินออกไปจะโดนกระทืบไหมวะ
“เพื่อนน่ะ” ณิชาคงดูสีหน้างุนงงของผมออก เธอถึงได้พูดให้ผมคลายความสงสัย
“เพื่อนรออยู่ในรถ ณิชาไม่กล้ามาคนเดียว เพื่อนเลยมารออยู่ข้างนอก” ณิชาอธิบายต่อ
แต่เพื่อนคนไหนวะ ถ้าน้ำทิพย์นี้ ผมเกมเลยนะ น้ำทิพย์น่าจะจำพวกผมได้หมด
“อ๋อ ว่าแต่เพื่อนชื่อไร สวยเปล่า”
“นี่คือจะสนใจคนอื่นอยู่อีก? งั้นไม่ต้องจีบณิชาแล้ว หาคนอื่นเลย”
อ้าว เชี่ยละ สาวงอนซะงั้น แค่ถามเอง ถามเฉย ๆ กลัวจะเป็นน้ำทิพย์แค่นั้นเอง
“โอ๋ ล้อเล่น แค่อยากรู้ว่าใคร” ผมรีบง้อก่อนเลย เดี๋ยวจะจบเกมซะก่อน
“เพื่อนชื่อจอม สวยมาก” ณิชาตอบนิ่ง ๆ เธอลุกขึ้นยืน เตรียมพร้อมจะกลับ
“อย่างอนดิ” ผมรีบลุกดักหน้าณิชาไว้
“อือ”
ตอบโคตรสั้นแบบนี้ ไม่หายงอนชัวร์
“พรุ่งนี้เจอกันอีกได้ไหม”
“อือ”
ชวนคุย ยังจะตอบสั้น ๆ อีก ให้ตายเถอะ ต้องง้อยังไงวะ
“เดี๋ยวเดินไปส่งนะ” ผมไม่ได้พูดเพียงอย่างเดียว แต่ผมจับมือณิชาไว้ด้วย อยากให้เธอได้พูดอะไรสักหน่อย แซวผมก็ได้
“มือไวจังนะ”
ได้ผล! ณิชาแซวผมแล้ว ผมนี่โล่งใจไปได้หน่อย ถ้าเธอยังงอนอยู่ผมก็ไม่รู้ว่าต้องง้ออย่างไร
“มือเหนียวด้วย จับไม่ปล่อยเลย” ผมยิ้มแล้วพาณิชาเดินออกมาที่ลานจอดรถ
“ทางนี้” ณิชารั้งตัวไว้ ไม่เดินไปตามผม
ผมก็ลืมตัว คิดว่ามาด้วยกัน จะพาไปที่รถผมเลย ณิชาเดินมาที่รถคันหนึ่ง ผมเข้าใจว่าเป็นรถของเธอ แต่คนด้านในลดกระจกลง ก็เข้าใจได้ในทันทีว่านี่คือ จอม เพื่อนของณิชา
“สวัสดีโบ๊ท” คนในรถเอ่ยทัก ก็สวยอย่างที่ณิชาบอกนั่นแหละ
แต่ผมไม่ได้สนใจหรอก ขืนสนใจ คนข้าง ๆ ได้ฆ่าผมพอดี
“หวัดดี จอมใช่ไหม เมื่อกี้ณิชาบอกไว้น่ะว่ามากับจอม” ผมทักทายกลับไป
“อือ ใช่”
“วันหลังก็เข้าไปกับณิชาก็ได้นะ รอในรถได้ไงตั้งนานสองนาน” ถ้าผมรู้ว่ามีจอมมาด้วย ผมคงให้เข้าไปนั่งข้างในอะแหละ
“จะมีวันหลังอีกเหรอ” คำถามนี้จอมไม่ได้ถามผมหรอกครับ ดูเหมือนจะแซวเพื่อนตัวเองมากกว่า
คนข้าง ๆ ผม ก็ได้แต่ยิ้มกลับไป ไม่ได้พูดตอบอะไร
“ต้องมีดิ เดี๋ยวดึงตัวเพื่อนจอมมากินเค้กทุกวันเลย” ณิชาไม่ตอบ ผมตอบเองก็ได้วะ
“ฮ่า ๆ แต่วันหลังจอมคงไม่มาแล้ว”
“อ้าว ไมอะ” ผมถามกลับไป
“ก็จะได้อยู่กันสองคนไง ไม่อยากเป็นก้าง” จอมตอบกลับผม แล้วหันไปหาณิชา “ฉันกลับก่อนนะ แกขับกลับคนเดียวได้ใช่ปะ”
จอมคงอยากจะเปิดทางให้...
“ขับได้ดิ ขอบใจมากนะที่มาเป็นเพื่อน” ณิชาตอบกลับเสียงใส
“โอเค ไปแล้วนะ” จอมโบกมือลา เธอปิดกระจกเหมือนเดิม แล้วขับรถออกจากที่นี่ไป
“กลับนะ” รถเพื่อนตัวเองไปจนสุดสายตา ณิชาก็เอ่ยขึ้นมาทันที
ผมจับมือเธอแน่น ไม่ยอมปล่อยออก เพราะรู้ดีว่าเธอยังไม่หายงอน
ไม่รู้ว่าไม่หายงอน หรืองอนใหม่กันแน่