หลังจากกลับออกมาจากตลาดมืดแล้วเจียซินก็เดินไปที่ร้านเครื่องปรุงเพื่อเอาของที่เธอสั่งซื้อเอาไว้แล้วเดินกลับห้องตัวเองไปพร้อมกับ ถ่าน ไม้ขีดไฟ และกระปุกใส่เครื่องปรุงที่เธอพึ่งซื้อเพิ่ม
พอกลับมาถึงห้องเจียซินก็ปิดประตูใส่กลอนห้องอย่างมิดชิด เธอเข้าไปในมิติเพื่อเอาผักกับเนื้อหมู และข้าวสารออกมาทำอาหาร แต่กลับมีบางอย่างที่ทำให้เธอต้องแปลกใจ
เจียซินหยิบเนื้อหมูขึ้นจากถาดที่วางอยู่บนโต๊ะ 1 ก้อน อยู่ ๆ ก็มีเนื้อหมูที่หน้าตาเหมือนก้อนที่เธอหยิบออกไปผุดขึ้นมาอยู่ที่เดิม
เหมือนกับว่าเธอจะเอาไปเท่าไหร่ก็ไม่หมด เมื่อเห็นดังนั้นเจียซินจึงรีบตักข้าวสารดูด้วย แต่ด้วยปริมาณข้าวสารที่มีจำนวนมาก จึงทำให้เธอเห็นได้ไม่ชัดเท่าไหร่
หญิงสาวจึงออกไปที่แปลงผัก แล้วถอนเอาหัวไชเท้า แครอท ผักกาดขาว และผักอื่น ๆ อย่างละนิดอย่างละหน่อย เพียงแค่เธอดึงผักเหล่านั้นออกจากพื้นดิน ก็มีผักหัวใหม่ผุดขึ้นมาแทนที่ไว้เช่นเดิม
" นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย ถ้าเป็นอย่างนี้เราคงมีโอกาสตั้งหลักได้เร็วขึ้นแล้ว "
หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง เธอเป็นกังวลเรื่องเงินอยู่ไม่น้อย เพียงวันเดียวเธอใช้เงินหมดไปตั้งร้อยกว่าหยวน ทั้งที่ยังไม่มีรายได้สักหยวนเดียว
หากต้องไปซื้อเนื้อหมูในตลาดมืดมาใช้ ต้นทุนของเธอยิ่งจะสูงลิบลิ่ว หมู 1 ชั่งราคาสูงถึง 10 หยวน (1ชั่ง 500 กรัม/ 2 ชั่ง 1 กิโลกรัม)
" ขอบคุณนะคะท่านตา "
เมื่อได้กินของตามที่เธอต้องการแล้ว เจียซินจึงออกจากมิติแล้วเปิดประตูห้องออกไปก่อไฟหุงข้าว
ระหว่างตั้งหม้อหุงข้าวเสร็จ หญิงสาวก็หั่นหมู หั่นผัก ล้างทำความสะอาดเตรียมไว้ พร้อมทั้งจัดเครื่องปรุงใส่กระปุกให้เรียบร้อย
" เอ๊ะ แล้วถ้าเราเอาเครื่องปรุงพวกนี้เข้าไปไว้ในกระท่อม เวลาเราเอาออกมาใช้ มันจะมีอันใหม่ หมดขึ้นมาแทนที่หรือเปล่านะ "
เจียซินไม่รอช้า เธอรีบพิสูจน์ความสงสัยของเธอทันที หญิงสาวถือเครื่องปรุงกับเข้าห้องและล็อกประตูอีกครั้งก่อนจะเข้าไปในมิติ เธอเอาเครื่องปรุง ไปวางไว้บนโต๊ะ รอสักครู่หนึ่งจึงหยิบ ออกมา แต่ปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาแทนพี่
" แสดงว่ามีแต่สิ่งของที่อยู่ในมิติสินะ ที่สามารถเพิ่มขึ้นมาใหม่ได้ "
เมื่อเจียซินเข้าใจกลไกของมิติแล้ว เธอจึงออกไปทำอาหารต่อ ไม่นานข้าวที่เธอหุงไว้ก็เริ่มสุก เจียซินค่อย ๆ เขี่ยถ่านไฟออก เพื่อไม่ให้ไฟไหม้หม้อข้าว
หญิงสาวตั้งหม้อข้าวบนไฟอ่อน ๆ อยู่สักพัก เธอจึงเดินมาเปิดหม้อดูว่าข้าวได้ที่หรือยัง
" ใช้ได้แล้ว อย่างนั้นผัดผักต่อเลยแล้วกัน "
เจียซินเติมถ่านอีกครั้งแล้วตั้งกระทะ ที่เลี่ยงหรูให้มา
วันนี้หญิงสาวตั้งใจทำผัดผักใส่เนื้อหมู และต้มจับฉ่ายเอาไว้สำหรับไปขายพรุ่งนี้เช้า จะได้ทุ่นเวลาได้มากหน่อย
ซู่ ซ่า
เสียงเนื้อหมูกระทบกับกระทะที่ร้อนจัด กลิ่นหอมที่โชยไปตามสายลมกระตุ้นความหิวให้ผู้คนที่อยู่ใต้ลมได้ดียิ่งนัก
เมื่อหมูสุกในระดับหนึ่งแล้วหญิงสาวจึงเติมผักลงไปผัด และตามด้วยเครื่องปรุงเธอใส่ลงไปตามความเหมาะสมกับวัตถุดิบในกระทะ ผัดไปครู่หนึ่งเธอเห็นว่าในกระทะน้ำน้อยเกินไป เจียซินจึงเอาน้ำที่เธอตักมาจากในมิติเติมลงไปอย่างหลงลืม
แอดดดดด
" อาซินทำอะไรทำไมหอมฟุ้งเลย "
เลี่ยงหรู ได้กลิ่นของอาหารที่หอมหวนชวนให้ท้องร้องจึงเปิดประตูออกมาดูหน้าห้องว่าเจียซินทำอะไรอยู่
" ฉันกำลังผัดผักไว้กินเย็นนี้จ้ะ เดี๋ยวจะทำต้มจับฉ่ายต่อ เอาไว้สำหรับไปขายพรุ่งนี้ด้วย พี่รอเดี๋ยวนะจ๊ะพอดีผัดผักสุกแล้ว ฉันจะฝากไปให้คุณป้าสักหน่อย "
" พี่ขอซื้อดีกว่าอาซิน พี่อยากเป็นลูกค้าคนแรกของเธอ "
เลี่ยงหรูแม้จะหิวจนอดใจไม่ได้แต่เธอก็ไม่อยากรบกวนเจียซินมากเกินไป
" ไม่เอาหรอกจ้ะพี่เลี่ยงหรู พี่กับคุณป้าดีกับฉันขนาดนี้จะให้ฉันมาคิดค่ากับข้าวจานเดียวนี้ได้อย่างไรกันจ๊ะ "
" อาซินอย่าคิดมาก อย่างไรกับข้าวจานแรกที่น้องทำพี่ก็จะจ่ายเงินให้ วันนี้ถือว่าพี่กับแม่ช่วยประเดิมให้น้องขายดีขายเฮงก่อนแล้วกัน "
เจียซินยิ้มให้เลี่ยงหรูก่อนจะรับเงินค่าอาหารมา 3 เหมา แล้วส่งจานผัดผักให้เลี่ยงหรูไป เธอโชคดีไม่น้อย ที่ได้มาพบเจอกับคนดีๆเช่นนี้
" เอาอย่างนั้นก็ได้จ้ะพี่เลี่ยงหรู เดี๋ยวฉันขอเข้าไปเยี่ยมคุณป้าหน่อยนะจ๊ะ "
" ได้ ๆ ถ้าทำเสร็จแล้วก็เข้ามาเลย "
" ได้จ้ะ เดี๋ยวฉันขอทำจับฉ่ายอีกสักครู่จะตามเข้าไปนะจ๊ะ "
เจียซินเร่งมือทำ ต้มจับฉ่ายเธอผัดหมูและผัดทุกอย่างให้หอมได้ที่ก่อนค่อยเติมน้ำและเครื่องปรุงก่อนจะปิดฝา ต้มเอาไว้ทั้งอย่างนั้น
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
" มาแล้วหรือเจียซินเข้ามาข้างในก่อนสิ นี่แม่พี่ แม่จ๊ะนี่เจียซิน เด็กสาวที่ฉันเล่าให้แม่ฟัง ฉันให้น้องพักอยู่ห้องข้าง ๆ เรา "
เลี่ยงหรูแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน จริง ๆ แล้วมารดาของเธอได้ยินเสียของเจียซินตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว แต่อย่างไรก็ต้องแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกันอยู่ดี
" ดีแล้วลูกดีแล้ว มีอะไรก็บอกป้ากับพี่เขาได้ตลอดนะอาซิน "
" สวัสดีจ้ะคุณป้า ฉันชื่อเจียซินนะจ๊ะ จากนี้ต้องสั่งเนื้อฝากตัวเป็นลูกหลานของคุณป้าอีกคนแล้ว "
เจียซินทำความเคารพผู้อาวุโสที่อยู่ตรงหน้าทันที
"สวัสดีอาซินต่อไปนี้ก็อยู่ด้วยกันที่นี่แหละลูกมีอะไรขาดเหลือก็บอกพี่เขา"
" ขอบคุณจ้ะป้า "
เจียซินมองดูหญิงสูงวัย ที่นั่งเอาหลังพิงหมอนอยู่บนที่นอนกลางห้อง เจียซินนึกอยากช่วยเหลือป้าเลี่ยงอยู่ไม่น้อย แต่คงต้องคิดหาวิธีก่อนเพราะเธอไม่รู้ว่าจะให้คำตอบแก่ทั้งคู่ว่าอย่างไร หากอยู่ ๆ ป้าเลี่ยงกินน้ำมรกตเข้าไป แล้วหายป่วยไข้อย่างรวดเร็ว
หญิงสาวนั่งคุยกับสองแม่ลูกอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเองไป เธอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เปิดดูในหีบที่พ่อแม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้
เมื่อปิดล็อกประตูอาบน้ำเรียบร้อย เจียซินจึงเข้าไปในมิติอีกครั้ง แต่แสงสว่างในมิติกลับไม่ลดประหนึ่งว่าภายในมิติเป็นเวลาเดิมอยู่ตลอด
เจียซินเดินเข้าไปในกระท่อมแล้วเปิดดูกล่องเหล็กใบใหญ่ที่หนักอึ้งวางอยู่ข้างเตียง
" มีอะไรกันนะ ทำไมถึงได้หนักขนาดนี้ "
หญิงสาวค่อย ๆ ดึงฝากล่องขึ้นสิ่งของที่อยู่ภายในเต็มไปด้วยของเล่นในวัยเด็กของเธอ ด้านบนมีจดหมายอยู่ 1ฉบับถูกวางเอาไว้ หน้าซองเขียนว่า
ถึง หลี่เจียซินลูกรัก
พ่อและแม่หวังว่าลูกจะมีโอกาสได้เห็นจดหมายฉบับนี้ ลูกอย่าได้ท้อถอยต่อโชคชะตา ความสำเร็จไม่มีวันหักหลังผู้ที่มความพยายาม อย่าได้กลัวหากต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังพ่อและแม่อยู่ในใจของลูกเสมอ สิ่งของในกล่องนี้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่พ่อและแม่รักษาไว้ให้ลูก เก็บไว้ให้ดีเผื่อวันข้างหน้ามันจะกลับมามีคุณค่าอีกครั้ง สิ่งเดียวที่พ่อและแม่ต้องการ คือให้ลูกใช้ชีวิตให้มีความสุข รักลูกเสมอ พ่อ.แม่
เจียซินนั่งอ่านจดหมายอยู่ในกระท่อมที่เงียบสงบ น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลอาบใบหน้าขณะที่เธอกำลังถือจดหมายไว้ในมือ แม้นพ่อแม่ของเธอไม่ได้อยู่กับเธอแล้วแต่ความรักที่พวกเขามีให้เธอยังคงมีอยู่มากในคำพูดที่พวกเขาทิ้งไว้เบื้องหลัง คือความรักของพ่อแม่ที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้หมด
เจียซินอ่านจดหมายฉบับนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้นึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก กล่องเหล็กขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเธอเต็มไปด้วยสิ่งของที่เป็นความทรงจำของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นของเล่นที่พ่อแม่ซื้อให้เธอ และเสื้อผ้าชุดที่เธอเลือกให้พ่อแม่ใส่ถ่ายรูปด้วยกัน
รูปถ่ายในวันเก่า ๆ ของครอบครัว รวมทั้งรูปถ่ายของครอบครัวสหายสนิท และพี่ชายคนดีของเธอด้วย เจียซินดีใจไม่น้อยที่ได้เห็นรูปเหล่านี้อีกครั้ง เธอจะได้เก็บไว้เป็นความทรงจำ
แม้การมองดูภาพเหล่านี้จะทำให้คิดถึงอดีตและโหยหาช่วงเวลาที่พ่อแม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ หรือเธอจะรู้สึกเศร้าเพียงใด แต่เธอก็รู้ว่าพ่อแม่ของเธอต้องการให้เธอมีชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข
หญิงสาวเช็ดน้ำตาและยิ้มเมื่อนึกถึงความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในตอนนี้พ่อแม่ยังอยู่เคียงข้าง เธอจะรักพวกเขาเสมอและเก็บความทรงจำของพวกเขาเอาไว้ในใจ
เจียซินเก็บสิ่งของทุกอย่างลงไปในหีบเหล็กเช่นเดิม เธอเอารูปถ่ายเพียงใบเดียวติดตัวออกไปด้วย หญิงสาวไม่ได้สนใจเครื่องประดับหรือทองคำที่มีมากมายในกล่องสักเท่าไหร่ สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับเธอตอนนี้คือรูปภาพเหล่านี้ต่างหาก
หญิงสาวเดินออกไปเก็บผักที่จะใช้ผัดไปขายในวันพรุ่งนี้และกลับออกไปนอนพักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้ามาทั้งวัน
เมื่อหัวถึงหมอนไม่นานเธอผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าของเธอในวันนี้เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขเมื่อเธอได้นอนกอดรูปถ่ายของครอบครัวอีกครั้ง