แม้ว่าจะกลัวพ่อเลี้ยงเล่นงานที่ลูกสาวหนีไปกรุงเทพฯ แต่ก็ยังกลัวน้อยกว่าการที่พ่อเลี้ยงจะเรียกเงินสินสอดคืน
ป้าพรก็เลยคิดแก้ปัญหาอย่างคนที่มีความโลภเป็นที่ตั้ง โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของดอกแก้วเลยสักนิดว่าหล่อนจะเสียหายแค่ไหนที่ต้องเข้าหอแทนพี่สาว
“เรื่องทัดดาว ผมก็ถามแล้วว่าขัดข้องไหม… อันที่จริงถ้าไม่รักไม่ชอบก็บอกผมตรงๆ ผมไม่ได้บังคับสักหน่อย… ”
พ่อเลี้ยงรู้สึกเสียหน้า…
ก็แน่ละสิ… นึกในใจว่าเขาน่ารังเกียจมากหรือยังไงลูกสาวป้าพรจึงหนีไปอย่างไม่ไว้หน้า
“ป้าก็ถามมันแล้ว… ทัดดาวมันก็ตอบตกลงจะแต่งงานกับพ่อเลี้ยง ป้าก็ไม่คิดว่ามันจะกลับคำหนีไปดื้อๆ แบบนี้… ”
“แล้วเรื่องที่เกิดนี้… ผมจะต้องรับผิดชอบยังไง… ผมหมายถึงเรื่องดอกแก้ว… ”
พ่อเลี้ยงเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งตัวลีบอยู่หลังป้าพร หล่อนดูน่าสงสาร
“พ่อเลี้ยงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น… แค่ไม่เรียกสินสอดคืนก็พอ… เรื่องนังแก้วอันที่จริงนอกจากเราที่อยู่ตรงนี้ก็ไม่มีใครรู้ งั้นคิดเสียว่าเงินสินสอดแทนค่าเสียหายของนังแก้วก็แล้วกัน… ”
ป้าพรคิดโดยไม่นึกถึงหัวจิตหัวใจของดอกแก้วเพราะหล่อนเป็นแค่ลูกติดสามี เป็นแค่ลูกเลี้ยง ก็เลยเรียกจิกหัวดอกแก้วว่า ‘นัง’ ต่างจากท่าทีตอนเรียกทัดดาวซึ่งเป็นลูกสาวของตัวเอง
“ป้าก็พูดง่าย… แต่ดอกแก้วเสียหายไปแล้ว”
พ่อเลี้ยงแย้ง…
กลับกลายเป็นว่าถึงตอนนี้พ่อเลี้ยงเดชห่วงใยความรู้สึกของหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าหลุบตาอยู่ใกล้ๆ ป้าพร เพราะหล่อนก็มีชีวิตจิตใจ ไม่ใช่สิ่งของที่ป้าพรจะจัดวางเอาไว้ตรงไหนก็ได้
“เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงค่ะ… เรื่องเมื่อคืนไม่มีใครรู้นี่นา นังแก้วก็หน้าตาสะสวยไม่เบา รอให้มันโตอีกหน่อยเดี๋ยวป้าใส่ตะกร้าล้างน้ำรับรองว่าพวกผู้ชายต้องแย่งกันมารุมสู่ขอ… อีกปีสองปีป้าก็จะหาผัวให้มัน”
พ่อเลี้ยงถึงกับส่ายหน้า รู้สึกไม่สบายใจเมื่อได้ยินที่ป้าพรวางแผนอนาคตไว้ให้ลูกเลี้ยงคนนี้
พูดคุยกันต่อมาอีกครู่ใหญ่ๆ ป้าพรก็กลับออกมาพร้อมกับลูกสาว
“บ้าฉิบ… ”
พ่อเลี้ยงสบถเสียงดัง…
หลังจากสองแม่ลูกพากันกลับออกไปแล้ว เดินไปเปิดตู้เย็นคว้าเบียร์กระป๋องออกมาดื่มดับอารมณ์ความรู้สึกหลากหลายที่กำลังตีกันนัวอยู่ในหัว
“โดนผู้หญิงหักอกเป็นยังไงล่ะไอ้เดช”
พ่อเลี้ยงว่าให้ตัวเอง…
ก็ใครจะคิดว่าผู้ชายที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมอย่างเขา จะต้องมาโดนลูกสาวคนงานในไร่หักอกอย่างไม่ไว้หน้า
ทั้งที่ผ่านๆ มาก็มีผู้หญิงมากมายหลายคนมาชอบ แต่พ่อเลี้ยงเดชกลับไม่สนใจใครอย่างจริงจัง
กระทั่งถึงวันที่เขาตัดสินใจจะมีคู่ครอง หลังจากทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมาโดยไม่มีท่าทีว่าจะลงเอยกับใครเสียที
ทำให้พ่อเลี้ยงเดชตัดสินใจแต่งงานกะทันหันกับ ทัดดาว’ ผู้หญิงซึ่งเขายอมรับว่ายังไม่รู้จักหล่อนดีพอ เช่นเดียวกับทัดดาวที่ยอมแต่งงานเพราะโดนป้าพรบังคับ ทั้งที่หล่อนไม่ได้รักพ่อเลี้ยงเดชแต่อย่างใด
ในเวลาต่อมา
ที่เรือนไม้ บ้านของป้าพร ตั้งอยู่ท้ายสวนกาแฟภายในไร่กว้างขวาง
“งามหน้านักนะนังแก้ว ชั้นบอกแกแล้วใช่ไหมว่าให้รีบออกมาก่อนที่พ่อเลี้ยงจะตื่น… ”
มือป้าพรปาดแขนดอกแก้วเสียงดังเพียะ
“ก็… ”
ดอกแก้วเกือบจะโพล่งออกมาว่าจะตื่นได้ยังไง ก็เพลียเหลือเกิน โดนพ่อเลี้ยงจัดหนักมาก
“ก็อะไร… ”
ป้าพรสงสัย…
แต่ดอกแก้วก็เงียบไม่ตอบ เมื่อคืนพ่อเลี้ยงไม่ได้ทำครั้งเดียว เขาทำหลายรอบ จัดหนักมาก โดนทั้งคืน กว่าหล่อนจะได้หลับก็ตอนค่อนแจ้งนี่เอง
จากที่ตั้งใจว่าจะหาจังหวะหนีออกมาก่อนฟ้าสาง แต่ความแตกจนได้ เรื่องก็เลยแดงขึ้นมาอย่างที่เห็น
“เรื่องนี้ไม่มีใครรู้หรอกนะ เอ็งอย่าคิดอะไรมากนะนังแก้ว… มันผ่านไปแล้ว เอ็งก็ไม่ได้เสียหายอะไร และคนอย่างพ่อเลี้ยงเดชไม่ใช่คนปากโป้งที่จะเอาเรื่องเมื่อคืนไปโพนทะนา… ”
คงมีเพียงประโยคนี้ที่ป้าพรคิดว่ามันจะทำให้ดอกแก้วสบายใจ
แต่ไม่ใช่… เพราะว่าตัวของแก้วเท่านั้นที่รู้ดีกว่าใครว่าความรู้สึกของหล่อนมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วหลังจากโดนพ่อเลี้ยงทำ
ทว่าดอกแก้วก็จำต้องเงียบ…
ในชีวิตของดอกแก้วหล่อนเงียบมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ จนถึงตอนนี้
“เป็นน้องต้องเสียสละให้พี่… ”
คำพูดนี้จากปากของป้าพรผู้เป็นแม่เลี้ยงกรอกหูของแก้วมาตลอดตั้งแต่หล่อนยังเด็กๆ
คำนี้ถูกหรือผิดดอกแก้วไม่รู้ แต่รู้เพียงว่าหล่อนก็รักทัดดาวเหมือนพี่สาวแท้ๆ จึงยอมเสียสละให้ได้
ตั้งแต่เด็กจนโต โอกาสดีๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของดอกแก้วมักจะถูกทัดดาวผู้เป็นพี่สาวช่วงชิงตัดหน้าไปก่อนเสมอ
ย้อนไปเมื่อตอนเด็กๆ กว่าจะมีเสื้อผ้าสวยๆ ใส่ดอกแก้วก็ต้องรอรับเดนจากทัดดาว
และแม้กระทั่งเรื่องการศึกษา ป้าพรก็เลือกที่จะส่งทัดดาวเรียนต่อมหาวิทยาลัยเพียงคนเดียว ส่วนดอกแก้วไม่ได้เรียน หล่อนจบแค่ชั้นมอหก
แต่สุดท้ายดอกแก้วก็ไม่ยอมแพ้…
เพราะว่าหล่อนใฝ่ฝันว่าอยากเรียนจนปริญญาเช่นกัน จึงตัดสินใจสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยเปิดซึ่งไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมาก เป็นระบบการเรียนทางไกลที่อยู่บ้านก็เรียนได้
“โชคดีที่พ่อเลี้ยงไม่เรียกเงินสินสอดคืน… ”
ป้าพรลอยหน้าลอยตาโล่งใจ หน้าบานเป็นจานเชิงเมื่อเอ่ยถึงเรื่องเงินสินสอด
พูดแล้วก็หันมามองหน้าดอกแก้ว ก่อนจะเอ่ยอีกประโยคตามมา
“งั้นฉันจะให้แกไปทำงานบ้านให้พ่อเลี้ยงดีไหม ไปเป็นคนใช้ในบ้านพ่อเลี้ยงดีกว่า อย่างน้อยก็ตอบแทนเงินสินสอดที่พ่อเลี้ยงไม่เรียกคืน… ”