ยามถึงที่จวนผู้คนวิ่งวุ่นวายนัก มารดาของชิงเฉิงวิ่งมา และกรีดร้องร่ำไห้ปานจะขาดใจที่ข้างเตียง “โฮ ชิงเฉิง ผู้ใดทำเช่นนี้กัน โหดร้ายนัก ใบหน้าแสนงดงามของเจ้า แขนขาของเจ้า โฮ แม่ใจจะขาดแล้วชิงเฉิง โฮ!!!!!” เซี๊ยะกงมิเอ่ยอันใดอีก นั่งพิงข้างเตียงน้ำตาไหล คล้ายคนมิมีสตินัก ซูเอ้อซันจึงลูบหลังมารดาของตนเองเบาๆ และเอ่ยอย่างห่วงใย “มารดา ยามนี้เซี๊ยะกงก็มิมีสตินัก เช่นนี้ควรปล่อยให้ทั้งสองนั้นอยู่ตามลำพังซักพักเถิด ความกังวลของท่านจะทำร้ายเซี๊ยะกงอีกผู้หนึ่ง ยามนี้เราควรเร่งรักษาชิงเฉิงก่อน รอให้นางผ่านพ้นช่วงความอันตรายเสียก่อน แล้วเราค่อยมาไต่ถามนางกันเถิดท่านแม่ ยามนี้เซี๊ยะกงเองก็เสียใจมิน้อยไปกว่าท่าน เซี๊ยะกงมิเป็นผู้คนแล้ว” มารดาของชิงเฉิงจึงค่อยรู้สึกตน จึงดึงเซี๊ยะกงมาโอบกอดในอกแน่นๆเสียคราหนึ่ง เซี๊ยะกงร่ำไห้อย่างมิอาจควบคุมตนเองได้ ร้องไห้โฮ “ท่านแม่...ขอเพียงนางฟื้นขึ้นมาได้