ตอนที่ 3 ชื่อตอน ความคิด

1442 คำ
"ท่านแม่ลูกผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ลูกมิคิดว่าผู้คนจะเข้าใจว่าลูกสูญเสียพรหมจรรย์ไปแล้ว ลูกเพียงจับมือกับพี่อี่ถาน ลูกมิเคยกระทำสิ่งใด ผิดประเพณีเช่นนั้นเลยนะเจ้าคะ ท่านแม่ " มารดาของนางถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง นึกสงสารคนเลี้ยงม้าผู้นั้นนัก มันช่างอายุสั้นยิ่ง แต่อย่างไรก็มิอาจปล่อยให้บุตรสาวของตนนั้นตบแต่งไปกับคนเลี้ยงม้าได้ แต่อย่างน้อยครานี้ ก็กู้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้ คุณชายฝานจัดงานแต่งให้อย่างเอิกเริก รับรองเกียรติยศของบุตรสาวของนางอย่างมั่นคงแล้ว และงานแต่งก็จะมีขึ้นในเมืองหลวง ซูชิงเฉิงนอนกับมารดาในคืนนั้น และเตรียมตัวกลับบ้านในเมืองหลวงกันทั้งหมดสิ้น บิดาของนางพ้นข้อครหาแล้ว และจะได้กลับไปรับตำแหน่งขุนนางขั้นโหวกลับคืนมา ยามนี้นางจึงกลับไปในฐานะบุตรสาวขุนนางชั้นโหวผู้หนึ่ง และเช่นกันสกุลฝานนั้น ก็พ้นข้อกล่าวหาในสิ่งเดียวกับบิดาของนางด้วย เพียงเพราะสกุลฝานนั้นยืนมือมาปกป้องบิดาของนาง นางตกตะลึงในข้อนี้นัก มารดาของนางเอ่ยว่า นางมิอาจดื้อดึงกับคุณชายฝานได้อีก เพราะสกุลฝานมีบุญคุณต่อสกุลซูมากมายนัก งานวิวาร์ของนาง คราคร่ำไปด้วยผู้คนมีหน้าตามีฐานะในเมืองหลวง นางเพิ่งรู้ว่าฝานเซี๊ยะกงนั้นคือเชื้อสายใกล้ชิดกับราชนิกูลผู้หนึ่ง มีผู้คนเกรงใจเป็นอันมาก ยามนางตบแต่งเข้ามาแล้ว ผู้อื่นย่อมพินอบพิเทายิ่ง พิธีการวิวาร์ผ่านพ้นไป เจ้าบ่าวยังมิได้มาเข้าหอในวันวิวาร์ เพราะเกิดการปล้นขบวนสินค้าที่ชนบทที่บ้านเก่าของนาง ผู้คนในสำนักคุ้มภัยสลัดผ้าอย่างเร่งรีบ ปิดหน้าตาและคว้าดาบและอาวุธที่ฝาผนังกระโดดขึ้นม้าไปทันที ในยามราตรีกาล เคราะห์ดีที่ยังมิมีสุราลงท้องผู้ใดก่อน ซูชิงเฉิงมีสาวใช้มาปลดหมวกเจ้าสาวออกและอาบน้ำนวดร่างกายให้ สาวใช้มานอนเป็นเพื่อนนางในห้องหอ จวบจนผ่านไปเจ็ดวัน ฝูจวินของนางกลับมาในสภาพร่วงโรยอิดโรยมากนัก ลากผู้คนมามากมาย เกิดเสียงเอะอะโวยวายที่ภายนอก นางก้าวเท้าออกไปดูเช่นผู้อื่นนั้นเช่นกัน ซูชิงเฉิงมองเข้าไปในรถคุมขังของสำนักคุ้มภัย พบว่ามีผู้คนที่นางรู้จักปะปนอยู่ จึงเร่งสาวเท้าเข้าไปอย่างว่องไวนัก "ท่านลุงกุ่ย ท่านลุงกุ่ย " ชายชราแซ่กุ่ยก้มลงหลบหน้าพลัน นางเร่งสอบถามทันทีอย่างร้อนรน "เหตุใดท่านลุงกุ่ย จึงถูกคุมขังเช่นนั้นหรือเจ้าคะ ท่านเซี๊ยะกง" ฝานเซี๊ยะกงผิดคาดน้อยๆ ที่นางมิได้กระชากเสียงแล้วตบหน้าตนร่ำไห้ฟูมฟาย แล้วกล่าวหาว่าไปรังแกญาติของคนรักของนาง แต่ทว่านางกลับไต่ถามอย่างสงบ เซี๊ยะกงมิตอบคำ แต่มีผู้อื่นสอดตอบคำขึ้นมาแทน "มันเป็นโจรป่า แอบแฝงมาในหมู่บ้านนี้นานแล้วขอรับคุณหนู ทั้งหมดนั้นรวมถึงเจ้าอี่ถานผู้นั้นด้วยนะขอรับ" ร่างงดงามทรุดลงไปในลานดินและมีร่างหนาฉุดรั้งประคองขึ้น ร่างหนาฉุดนางจนเซถลาและดึงเข้าไปในเรือนทันที ร่างหนาตวาดลั่น ฉุดกระชากลากถูนางโยนลงไปบนเตียงนอน ใบหน้าเย็นชาเป็นนิจกรุ่นด้วยโทสะอย่างรุนแรง ระเบิดเสียงใส่หูนาง "ยังคิดถึงแต่มันผู้นั้นหรืออย่างไร มันเป็นสายให้โจรป่า แต่เจ้ากลับโง่เง่าคิดถึงแต่มัน เหตุใดจึงมิสำนึกอีกว่า ตัวเจ้าตบแต่งให้ข้าแล้ว ซูชิงเฉิง!!! " ร่างบางนิ่งอึ้ง ก่อนจะทบทวนหลายๆสิ่งในสมองช้าๆ น้ำตาหยาดหยดลงโดยพลัน "พี่อี่ถาน พี่อี่ถาน ท่านอยู่ที่ใดหรือ " พี่อี่ถานมักมีผู้คนมาหาคราวล่ะมากๆ นางมักจะพบพี่อี่ถานกับผู้คนในป่ามากมายนัก ผู้คนมักหลบเร้นกายหายไป ในยามที่นางเดินเข้าไปหาพี่อี่ถาน พี่อี่ถานมักจะเร่งมาขวางระหว่างนางและคนผู้อื่นอยู่เสมอ มือหนาดึงนางขึ้นม้ามานั่งถอนหายใจที่ฝั่งน้ำ และลูบหัวนางเบาๆเอ่ยกับนางอย่างเศร้าสร้อย "ชิงเฉิง ถ้าข้าเลือกทางเดินชีวิตได้เอง ก็คงดีมิน้อยเลย หากแค่อยู่เลี้ยงม้าที่นี่ตลอดไป ข้าก็มีความสุขนัก ข้าอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ตลอดไป หยุดเวลาไว้กับเจ้าให้ตราบนานเท่านานเลย ชิงเฉิง " มือหนาลูบผมนางเบาๆและมองไปยังฝูงม้าที่มีอยู่เพียงนิด ด้วยแววตาอาวรณ์นัก นางยังแอบเย้าพี่อี่ถานเล่นๆ ด้วยความไร้เดียงสานัก "พี่อี่ถาน ท่านมิใช่เป็นคนเลี้ยงม้าอยู่แล้วเช่นนั้นหรือ ท่านจะมิฝันเป็นเช่นอื่นหรืออย่างไร ท่านช่างตลกนัก พี่อี่ถาน" ใบหน้าพี่อี่ถานนั้นเศร้าสร้อยลงไปอีกครั้งหนึ่ง ทอดมองไปไกล พลันมีเสียงม้าวิ่งมา มีผู้คนใบหน้าถมึงทึงจ้องมองอยู่ที่ฝังน้ำ พี่อี่ถานร้อนรนผลักนางขึ้นม้า และตบก้นม้าให้นำนางไปส่งที่จวนอย่างรีบเร่ง "พี่อี่ถาน คนพวกนั้น คือผู้ใดกันหรือเจ้าคะ " นางถามในคราต่อมา ด้วยความอยากรู้อยากเห็น พี่อี่ถานอ้ำอึ้งและตอบอย่างมิชัดเจนนัก "ข้ารู้จักคนพวกนั้น บางครา คนมีม้าก็มัก สนทนากันตามประสาคนมีม้าเช่นนั้นเอง แต่อย่างไรเจ้าก็อย่าไปใกล้คนพวกนั้นเลย มันอันตรายนัก" นางยิ้มร่าให้พี่อี่ถานและพยักหน้าเบาๆ ความคิดของนางที่มีต่อพี่อี่ถาน ถูกหยุดลงโดยการกระชากผมนางอย่างแรงของฝานเซี้ยะกง มือหนากระชากผมของนางอย่างแรงมากขึ้นอีกและตวาดลั่น "ซูชิงเฉิง เหตุใดเจ้าจึงมิตอบข้า เจ้ามัวแต่คิดถึงแต่ชู้รักของเจ้าเช่นนั้นหรืออย่างไร เจ้าจะลองดีกับข้าเช่นนั้นหรือ ซูชิงเฉิง!!! " ร่างหนาดึงเรือนผมนางเข้าหาและบดเบียดริมฝีปากเข้าหานาง บดจุมพิตเร่าร้อนรุนแรงร้อนลวกมาสู่นาง นางพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่มือหนารวบนางไว้และบดริมฝีปากรุนแรงขึ้น ร่างบางขยับหนีและถูกเรือนกายหนาหนักกดทับลงมา นางหวีดร้องลั่น "ปล่อยข้านะเจ้าฆาตกร !!! " ร่างหนาชะงักกึกและผลักนางลงบนเตียงอย่างรุนแรง เตะเก้าอี้ในห้องหอจนพัง ประตูลอยออกมาทั้งสิ้น ผู้คนหวีดร้องลั่น คุณชายฝานกระแทกเท้าหนีไปอย่างโกรธเกรี้ยว นางนั่งร่ำไห้เสียจนจะขาดใจตาย สาวใช้ผู้หนึ่งมาประคองนาง และลูบผมนางเบาๆ "นายหญิงน้อยเจ้าขา เหตุใดจึงมิเอาใจนายน้อยของข้าบ้างเล่าเจ้าคะ นายน้อยนั้นหากมิพอใจผู้ใด แม้เป็นสตรีก็มิอาจเหลือชีวิตไว้ให้ แม้แต่จะมาทำให้โกรธเคืองได้ นายท่านของข้า ฆ่าคนได้เพียงพลิกฝ่ามือเพียงนั้นเอง นายน้อยนั้นพูดน้อย แต่ทว่ายามใจดีนั้นใจดีนัก ก่อนที่หมั้นหมายกับท่าน นายน้อยก็มักจะมิลืมส่งสิ่งของไปสู่เรือนของท่าน ในยามที่ท่านเป็นคุณหนูของสกุลซู นายน้อยมิมีเวลาอยู่ที่จวนนัก แต่ทว่าก็ยังแวะเวียนไปพบท่าน มากกว่าที่จะไปพบนายท่านผู้เฒ่าฝานและนายท่านฝานเสียอีก เหตุใดท่านจึงมิเอาใจนายน้อยของเรา บ้างเล่าเจ้าคะ " มือของสาวใช้ลูบไปมาบนร่างนางและเอ่ยกระซิบที่ข้างหู เอ่ยบอกบางสิ่งแก่นาง บางสิ่งที่นางระแคะระคายใจยิ่งนัก จึงครุ่นคิดตลอดมา "นายท่านสกุลซูบิดาของคุณหนู ให้คนตรวจสอบพื้นเพของคนเลี้ยงม้าผู้นั้นของคุณหนูแล้ว ผู้ใหญ่บ้านต่างบอกว่า ชายผู้นั้น มิมีถิ่นพำนักที่ถิ่นนั้น แต่ทว่าอพยพเข้าไปก่อนคุณหนูนั้น ย้ายเข้าไปเพียงหนึ่งวัน หนึ่งวันที่คนผู้นั้นอาศัยในหมู่บ้านก่อนท่าน แต่ท่านกลับรักคนผู้นั้นมากกว่าคุณชายที่หมั้นหมายกับท่านมาแต่อ้อนแต่ออกแล้ว คุณหนูทำเช่นนี้ คุณชายของข้าเสียใจนะเจ้าคะ"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม