ตอนที่ 2
“พี่จองตั๋วเครื่องบินไปนิวซีแลนด์สองใบสำหรับเรา เย็นวันนี้เราจะออกเดินทาง”
“ทำไมคะ” ปรางอินท์อุทานอย่างไม่เข้าใจ มองหน้าพี่สาวอย่างฉงน
ดาราวดียิ้มมุมปาก ร่างงดงามด้วยวัยสาวสะพรั่ง สิบสามปีแห่งการรอคอย วันนี้ดาราวดีในวัยยี่สิบแปด เธอทนและเฝ้ารอ เมื่อทุกอย่างสำเร็จลุล่วงก็ไม่มีความจำเป็นอะไรให้เธอต้องอยู่ที่นี่อีก บวกกับจำนวนเงินที่ถูกโอนเข้าสู่บัญชีของเธอวันก่อนนั้นเป็นจำนวนที่มากเอาการ ขนาดที่ว่าเธอสองคนสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศได้สบายๆ
“ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องอยู่ที่นี่แล้วน่ะสิปราง นอกจากพี่จะทำลายพวกมันได้ พี่ยังได้เงินจากงานคราวนี้อีกมากพอที่จะทำให้เราสองคนสบายไปทั้งชาติ”
“พี่ดาว...แต่ปราง”
“เชื่อพี่ อยู่ที่นี่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น อีกอย่างถ้าเรายังอยู่ที่นี่หมาบ้าพวกนั้นมันต้องล่าเราแน่ เชื้อมันคงไม่ทิ้งแถวหรอกยายปราง พ่อมันเลวแค่ไหนลูกมันก็คงไม่ต่างกัน”
ดาราวดีบอกเสียงขุ่น แต่ในใจแล้วเธอกำลังนึกใจหาย ทำไมภาคิไนยถึงต้องเป็นลูกชายของไอ้คนเลวๆ แบบนั้น ไม่อย่างนั้นหญิงสาวบอกกับตัวเองเลยว่า เธอไม่มีทางปล่อยคนดีๆ แบบนั้นหลุดมือเป็นอันขาด
หญิงสาวหมุนแหวนวงเล็กที่สวมอยู่กับนิ้วนางไปมา แหวนที่ภาคิไนยใช้หมั้นหมายเธอเมื่อหลายเดือนก่อน ไม่ได้เป็นการหมั้นที่เป็นทางการ หากการกระทำที่ผ่านมาของเขาก็บอกให้ดาราวดีรู้ว่า ชายหนุ่มจริงใจ ให้เกียรติและรักเธอมากเพียงไหน
“เตรียมตัวเอาไว้ด้วยล่ะ เชื่อพี่”
ผู้เป็นพี่สาวย้ำ ก่อนจะพาตัวเองเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเหลือบมองนาฬิกาบอกเวลาตีห้ากว่าแล้ว เพื่อจัดการอาบน้ำชำระร่างกายเตรียมตัวไปทำงาน บ้านหลังนี้ค่อนข้างอยู่ไกลจากบริษัทฯ มาก เธอจึงต้องตื่นแต่เช้าแบบนี้ทุกวัน
ปรางอินท์มองตามหลังพี่สาวไปด้วยความรู้สึกสับสน กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เข้าใจที่พี่สาวทำ แต่ก็อดสงสารคนไม่รู้เรื่องอย่างภาคิไนยไม่ได้ เขาเป็นคนดีมากและรักดาราวดีมากเช่นกัน เรื่องนี้ปรางอินท์รู้ดี การกระทำและความใส่ใจที่ชายหนุ่มมีต่อพี่สาวเธอนั้นเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ จากวันแรกที่เริ่มคบกันจนวันนี้ ชายหนุ่มยังเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและแสนดีทั้งต่อพี่สาวของเธอและตัวของปรางอินท์เอง
“พ่อขาแม่ขา...ปรางควรจะทำยังไงดี”
“โอ้โห!!! เข้าเส้นชัยไปแล้วครับท่านผู้ชม รถเฟอร์รารี่สีเหลืองหมายเลขศูนย์หนึ่งแปด มิสเตอร์ภาคิน อัศวเรืองยศ นักแข่งจากประเทศไทย เขาทำสถิติใหม่ของสนามด้วยครับท่านผู้ชม...”
เสียงเจ้าหน้าที่สนามประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงดังก้องไปทั่วสนามที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา เสียงเชียร์เสียงโห่ร้องดังกึกก้องรอบสนาม เมื่อนักแข่งที่เป็นผู้ชนะก้าวลงจากรถคู่ใจ
ภาคินในชุดหนังลวดลายแสบสันสะดุดตาชูมือขึ้นสูงก่อนจะหมุนไปรอบๆ สนาม แล้วโค้งคำนับเพื่อเป็นการขอบคุณกับทุกเสียงเชียร์อันกึกก้องเพื่อเขา
ชายหนุ่มสามารถรักษาแชมป์ครั้งนี้เอาไว้ได้และมันหมายถึงการเป็นแชมป์สามสมัยติดต่อกัน ในฐานะนักแข่งรถผู้ชื่นชอบความเร็ว ชายหนุ่มภูมิใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างรู้จักเขา ชาวต่างชาติรู้จักภาคินมากกว่าคนไทยเสียอีก นั่นเพราะชายหนุ่มค่อนข้างเป็นคนเก็บตัวและไม่ชอบออกสื่อ ทุกครั้งที่คว้าแชมป์กลับประเทศไทย เขาจะยกภาระการตอบคำถามทั้งหมดให้กับผู้จัดการและต้นสังกัด
แชมเปญแห่งการฉลองถูกเปิดขึ้นภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรูชื่อดังแห่งหนึ่งของอเมริกา ท่ามกลางความชื่นชมยินดีและใบหน้าระบายยิ้มกว้างของทีมงานที่เป็นผู้สนับสนุนทั้งหมด รวมถึงคนสนิททั้งสองที่คอยดูแลและเป็นเพื่อนมาตลอด
“วันนี้ดื่มให้เต็มที่โว้ย แชมป์ครั้งนี้ทำให้ฉันหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย” ภาคินชูแก้วเครื่องดื่มยี่ห้อดังดีกรีแรงขึ้นชนกับลูกน้องทั้งสอง พวกเขากำลังนั่งสบายๆ อยู่ที่โซฟา มุมหนึ่งของห้อง
ปิลันต์กับเอกสิทธิ์ยิ้มกว้าง คว้าแก้วมาชนดังกริ๊กๆ ก่อนจะสาดเข้าคอ
“ไม่ยักรู้ว่าสปอนเซอร์เรามีสาวๆ ต่างชาติสวยๆ ทั้งนั้น” เอกสิทธิ์หนุ่มขี้เล่นวัยยี่สิบแปดปีพูดกลั้วหัวเราะ ดวงตาขี้เล่นกวาดไปทั่วห้องจัดเลี้ยงที่มีสาวๆ หุ่นสะบึม แต่งกายด้วยเสื้อผ้าสวยๆ ยืนจิบเครื่องดื่มอยู่หลายคน
“เฮ้ย ไอ้เอกแกจะบ้าเหรอวะ วันนี้เจ้านายใส่แรงเหยียบคันเร่งจนหมดแรงแล้วโว้ย คงไม่มีแรงใส่เกียร์อย่างอื่นแล้ว” ปิลันต์กระซิบเบาๆ เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน เขาอายุสามสิบสองเท่ากับผู้เป็นเจ้านายหนุ่ม
ภาคินตาลุกวาบๆ พูดแบบนี้มันดูถูกเขาเกินไปแล้ว
“ปากแกนี่มันน่าเลาะฟันทิ้งเสียให้หมดเลยว่ะ นายภาคินคนนี้แรงดีไม่มีตกโว้ยไม่ว่าเรื่องอะไร”
นายหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟันบอกกับลูกน้องทั้งสองเบาๆ และก่อนที่เขาจะได้ทำแบบนั้นผู้ใหญ่ที่ให้การดูแลและสนับสนุนโบกมือเรียกเสียก่อน
ภาคินจึงต้องก้าวเข้าไปสมทบยังโต๊ะใหญ่ ที่มีบุคคลนั่งรายล้อมอยู่หลายคนทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ
“วันนี้คุณทำได้ดีมากเลยภาคิน”
“ขอบคุณมากครับ”
ชายหนุ่มยิ้มรับกับคำชมของแต่ละคน พร้อมทั้งชนแก้วฉลอง ในโต๊ะนั้นมีหญิงสาวสวยคนหนึ่งนั่งรวมอยู่ด้วย เธอส่งยิ้มนัยน์ตาพราวให้กับเขา
“อ้อ นี่คือคุณปาจรีย์ เธอเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัท...สาขาอเมริกานี่ พวกเขาสนใจจะเชิญคุณมาร่วมลงแข่งในนามของนักแข่งทีม”
ผู้จัดการของภาคินรีบแนะนำและอธิบาย ค่ายรถยักษ์ใหญ่ชื่อกระฉ่อนก้องไปทั่วโลกส่งคนมาทาบทามเพื่อเชิญเขาไปร่วมลงแข่งด้วย ข่าวดีอะไรแบบนี้
ภาคินส่งยิ้มให้กับสาวสวย รอยยิ้มมีเสน่ห์เพิ่มความน่าดูให้กับใบหน้าคมเข้มมากขึ้น ใจสาวกระตุกเล็กน้อยเมื่อเธอยื่นมือมาตรงหน้าเขาเพื่อสัมผัสจับมือทักทาย