ตอนที่ 5.

1354 คำ
ตอนที่ 5. วันนี้เป็นวันแรกที่คำนำหน้าชื่อของมาหยาเหมือนเดิม ‘นาง’ แต่สถานะเธอกลับไม่ใช่คนที่แต่งงานแล้ว เธอเพิ่งหย่ามาหมาดๆ “นมคะ อยากได้เครื่องปรุงในครัวเพิ่มมั้ยคะ หยาอยู่ที่ซุปเปอร์มาเก็ต” มาหยาโทรศัพท์หานมผิน ระหว่างที่เข็นรถเข็นเดินแก้เซ็งในซุปเปอร์มาเก็ตในตัวเมือง “ไม่ดีกว่าค่ะคุณหยา เที่ยวเล่นให้สบายใจเถอะค่ะ ไม่ต้องถือของหนักตอนกลับมา” “เอางั้นเหรอคะ” “ค่ะ ระวังตัวด้วยนะคะ แน่ใจนะคะว่าไหว” นมผินถามปนความห่วงเต็มเปี่ยม “ไหวค่ะ หยาทำใจมาสักพักแล้ว แค่นี้ไม่ถึงตายหรอกค่ะ” มาหยาตอบ มือหยิบผลไม้พลิกไปมา นมผินถามอีกสองสามเรื่องถึงได้ยอมวางสาย มาหยาถอนใจสีหน้าอมทุกข์ไม่คลาย และสะดุดตาใครบางคนจนต้องเดินปรี่เข้ามาหา “มาหยา เธอนั่นเอง!!” มาหยาเงยหน้ามอง เธอสะอึกนิดหน่อย หญิงโสภาที่ยืนยิ้มเยาะเธอ ไม่ใช่ใครอื่นเลย อิงดาวหลบหน้าเธอตั้งแต่เหยียบแผ่นดินเกิด หล่อนพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้า ไม่ใช่เพราะละอายหรอกนะ อิงดาวแค่เลี่ยงที่จะตอบคำถาม เธอพูดได้ไม่เต็มปาก เลยใช้วิธีหลบเลี่ยงแทน “นึกว่าใคร คุณนั่นเอง” มาหยาค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อทักทาย “ท่าทางเธอดูไม่เสียใจที่ต้องหย่าเลยนะ” อิงดาวพูดเยาะหยัน “ค่ะ” มาหยาตอบแกนๆ เธอไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับอิงดาวตอนนี้เลย เธอยังมียางอายและไม่อยากปะทะคารมกับหญิงตรงหน้า ตั้งแต่วันแรกที่พันธะทางกฏหมายของเธอกับตะวันสิ้นสุดลง “ถ้าตอนนั้นเธอไม่แย่งซันไป คนที่ควรแต่งงานกับเขาก็คือฉัน เพราะเธอ จึงทำให้พวกเราพลาดเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันไปหลายปี ตอนนี้ไม่มีอะไรมาขวางฉันได้อีกต่อไปแล้ว เพราะซัน เขาไม่เคยรักเธอเลยนะ” อิงดาวกล่าวเยาะเย้ยเต็มที่ เพราะตลอดระยะเวลาหลายปี เธอถูกสังคมรุมประณาม ทั้งที่เธอกับตะวันรักกันมาก่อนแท้ๆ สีหน้ามาหยาเรียบเฉย “เหรอคะ คุณอิงดาวแน่ใจเหรอคะ ที่คุณตะวันแต่งงานกับหยา เพราะเขาถูกบังคับจริงๆ” มาหยาจงใจพูดเช่นนี้ เธอรู้ว่าความสัมพันธ์ของหญิงตรงหน้ากับอดีตสามีหมาดๆ ของเธอยังไม่แข็งแรงนัก ความเคลือบแคลง ระแวงไม่ไว้ใจยังคงเกาะติดอิงดาว ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ปรี่เข้ามาพูดถากถางเธอเช่นนี้ เธอรู้ดีตะวันรักหญิงผู้นี้มากแค่ไหน ความรักนั่นยังฝังลึกอยู่ในใจเขา แม้กระทั่งช่วงเวลาที่มีเธอเคียงข้าง เขาทำให้เธอเจ็บปวดใจ แล้วทำไมเธอจะเพิกเฉยและปล่อยให้เขาสุขสบายฝ่ายเดียว อย่างน้อยการเพาะเมล็ดแห่งความระแวงไว้ในใจอีกฝ่าย ก็คือการเอาคืนแบบหนึ่ง ซึ่งเธอทำได้แค่นั้นเอง เพราะอย่างไร เธอก็รักตะวันมาหลายปี เขาเป็นรักแรก รักเดียว รักครั้งสุดท้ายสำหรับเธอ “ซันไม่กล้าทำร้ายจิตใจแม่ของเขา เขาเลยเป็นฝ่ายทำร้ายฉันแทน เธอใช้ความเอ็นดูจากแม่ของซัน บีบบังคับให้เขาแต่งงาน แต่เธอลืมไปนะ ซันรักฉัน เขาไม่มีทางทอดทิ้งฉัน หากเขามีโอกาสอีกครั้ง” อิงดาวพูดเสียดสี พร้อมกับยิ้มเยาะ เธอกอดอกแค่นยิ้ม พลางมองมาหยาด้วยแววตาท้าทาย “คุณแน่ใจเหรอคะ เวลาหลายปีที่ผ่านมา คุณตะวันไม่เคยมีใจให้กับหยาเลย?” อิงดาวอึ้ง พยายามไม่สนใจท่าทางฮึดฮัดของตะวันในบางเวลาที่เธอแอบแดกดันมาหยา เขาดูไม่พอใจเล็กน้อย และพยายามพูดปัดหลายหน “หยาอวยพรให้คุณล่วงหน้าเลยค่ะ ขอให้ความรักครั้งนี้ของคุณสมหวัง ไม่มีอุปสรรคอะไรมาขัดขวางเหมือนครั้งก่อน” มาหยาอวรพรเสียงเย็นเยียบ อิงดาวตัวสั่นระริก เธอรู้ดี คำอวยพรของมาหยาไม่ต่างอะไรกับการแช่งชักหักกระดูก ชีวิตสมรสของเธอกับตะวันไม่มีทางไปได้ตลอดรอดฝัง หากเงาในแววตาของตะวัน ยังมีมาหยาแอบแฝงอยู่ “ฉันจะมีความสุข ชดเชยวันเวลาที่เคยเสียไป” อิงดาวกล่าวประชดประชัน มาหยาแค่นยิ้ม “คงเป็นเช่นนั่นแหละค่ะ คุณต้องการบอกอะไรหยาอีกมั้ยคะ หยาชักหิวแล้ว หยาคงต้องขอตัวก่อน” ความอ่อนแอของเธอ หญิงตรงหน้าจะไม่มีวันได้เห็น ต่อให้ร้องไห้จนน้ำตาแห้งเหือด ไม่ว่าตะวันหรืออิงดาว จะไม่เห็นช่วงเวลาที่เธอเป็นเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกเยาะเย้ยจนวันตาย อิงดาวจ้องมาหยาแบบไร้ความอบอุ่น “หวังว่าเธอ จะไม่แทรกเข้ามาทำลายการเริ่มต้นใหม่ของซันอีกครั้งหรอกนะ” อะไรไม่รู้ทำให้อิงดาวย้ำถามแบบนั้น หญิงตรงหน้าคือตัวอันตรายที่เธอต้องกำจัดอย่างเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นความหวังของเธอก็คงพังทลายลงด้วย “คิกๆ” มาหยาฝืนหัวเราะ เสียงหัวเราะเธอบาดหูอิงดาวอย่างยิ่ง “หยาไม่มีความสำคัญขนาดนั้นหรอกค่ะ คนแบบหยาจะไปทำอะไรได้” อิงดาวมองมาหยานิ่งๆ “หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้เจอกับเธอนะ” “ค่ะ” มาหยากัดฟันตอบ “หยาก็หวังแบบนั้นเหมือนกันค่ะ” “ต่อให้เธอทำแบบที่ฉันกลัว เธอก็ไม่มีทางทำสำเร็จหรอกมาหยา” อิงดาวพูดทิ้งท้ายก่อนจะหันหลังเดินจากไป มาหยายิ้มเศร้า รอยน้ำตารื่นขึ้นมาจ่อที่หัวตา จนต้องรีบยกหลังมือปาดทิ้ง ในวันที่ฟ้าถล่มตรงหน้าเธอ ความตายกวักมือเรียก เธออยากจมหายไปกับพื้นดิน ลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่บางสิ่งรั้งเธอไว้ และตะโกนกรอกหูเธอเสมอ ความตายไม่ใช่สิ่งที่เธอควรทำ การมีชีวิตอยู่เหมาะกับเธอมากกว่า เพราะเธอ ไม่ได้ตัวคนเดียว ในร่างกายเธอ มีสิ่งสำคัญกำลังเจริญเติบโต และรอวันที่จะออกมาเผชิญโลก เธอต้องเข้มแข็ง เพื่อเป็นต้นแบบให้ ‘ลูก’ ของเธอไม่อ่อนแอ “คุณหายไปไหนมาครับ ผมมารอตั้งนาน” ตะวันบ่นเสียงแข็ง เขารีบมาหาอิงดาวหลังหย่า แต่กลับไม่เจอเธออย่างที่คิดไว้ เขาต้องทนฟังบิดา มารดาของอิงดาวรบเร้าเกือบหนึ่งชั่วโมง อิงดาวทิ้งตัวนั่ง “ดาวออกไปเดินช็อปปิ้งคลายเครียดค่ะ” “คุณเครียดอะไรครับดาว จากนี้ไป ผมจะทำให้คุณมีความสุขที่สุด “ตะวันแสร้งปั้นหน้าร่าเริง เพื่อกลบความไม่สบายใจที่ยังติดค้างอยู่ในใจ “จริงนะคะซัน เราสองคนแต่งงานกันเลยดีไหมคะ?” อิงดาวถามเสียงกระตือรืนร้นสุดขีด ตะวันส่ายหน้า “ผมเพิ่งหย่านะดาว รออีกสักพักเถอะครับ คุณจะได้ไม่ถูกนินทาอีก” อิงดาวถอยหลัง เอนตัวพิงพนักโซฟา สีหน้าบึ้งจนปิดไม่มิด เธอถูกคนรอบตัวกระแหนะกระแหนมาเกือบหนึ่งปีเต็ม ข่าวแย่ๆ เหล่านี้ไม่ระคายผิวเธอเลย ตราบใดที่ตะวันยังเชื่อฟังคำพูดของเธอ เขาประเคนทุกอย่างที่เธอต้องการให้ นับตั้งแต่วันที่เขาเผลอตัว มีอะไรกับเธอครั้งแรก หลังจากย้อนมาเจอกันอีกครั้ง เธอไม่ได้ทุกข์ใจเลยตอนที่เลิกกับตะวัน ช่วงนั้นเธอหาวิธีสลัดตะวันแทบตาย เหตุผลที่เธอคิดจะใช้อ้างมีร้อยแปด เธอกำลังก้าวหน้ามีอนาคต อิงดาวไม่เคยคิดจะจมปรักกับตะวัน ที่มีสมบัติไม่ได้มากมายเหมือนที่เธอต้องการ การที่มารดาของเขาพยายามให้เธอกับตะวันห่างกัน มันสะกิดต่อมถือดีของเธอ อิงดาวเลยพยายามยื้อความสัมพันธ์ที่ร่อแร่ของตัวเองไว้ เพื่อเย้ยหยันมาดาของฝ่ายชาย เธอมีค่ามากกว่าผู้ชายอย่างตะวันหลายร้อยเท่า เธอต้องเป็นฝ่ายสลัดเขาทิ้ง ไม่ใช่เพราะผู้ใหญ่ฝ่ายชายไม่ต้องการเธอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม