เพราะมาหยาไร้ญาติ ไร้คนหนุนหลัง เจ้านายหนุ่มจึงข่มเหงและบีบคั้นเธอเช่นนี้
“หยาไม่ใช่คนดีหรอกค่ะนม หยาแค่รู้ตัว หยาจะเป็นแค่อากาศ หากหยาไม่ยอมหย่า” มาหยารู้ตัวเองดี เธอไม่ใช่คนที่ตะวันต้องการ เธอฝืนไป คนที่เจ็บก็คือตัวเอง
มาหยาถอนใจ “นมผินช่วยหยาสักเรื่องได้มั้ยคะ?”
ผินมองหน้านายสาว พร้อมกับรีบรับปาก “ได้ค่ะ จะกี่เรื่องอิฉันก็ยินดีช่วย”
“เรื่องเดียวก็พอค่ะ”
นมผินถอนใจเฮือก ยื่นมือมากุมมือหญิงสาวตรงหน้า พร้อมกับพูดปลอบใจ “คุณตะวันไม่ใช่คนโง่ค่ะ สักวันเธอจะรู้ อะไรคือเพชร อะไรคือกรวดทราย”
“หยาไมมีค่าในสายตาคุณตะวันหรอกค่ะนม ในสายตาของเขา มีแค่คุณอิงดาวเท่านั้น หยารู้ดีมาตลอด” ตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกัน มาหยารู้ดีแก่ใจ หัวใจของตะวันไม่เคยมีแม้แต่เงาของเธอ ทุกห้องหัวใจเขา เต็มไปด้วยผู้หญิงคนนั้น อิงดาว...
ตอนที่ 3.
น้ำตามาหยาหยดลงบนหลังมือ ความเจ็บปวดแทบฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ ในสายตาตะวัน เธอเป็นเพียงแค่กาฝากที่เข้ามาอาศัยใบบุญมารดาของเขาเพื่อการเจริญเติบโต
มารดาของตะวันคือผู้มอบชีวิตใหม่ให้ตัวเอง แต่เธอกลับเนรคุณท่าน แอบหลงรักบุตรชายของท่าน ตะวันทำให้เธอรู้สึกผิดต่อมารดาผู้ล่วงลับไปแล้วของเขา
“คุณหยาไม่จำเป็นต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้นี่คะ” ผินปราม มาหยาเชือดหัวใจตนเองโยนทิ้ง ทั้งที่ความจริงหากเธอคิดสู้ ก็ไม่แน่ใจนักว่าจะแพ้ ความผูกพันหลายปีระหว่างตะวันกับหญิงตรงหน้า ผินฟันธงไม่ได้ในทันที แต่อย่างน้อยความเอื้ออาทรที่มีให้กัน ผินก็เห็นเต็มตา
ตะวันไม่ใช่คนไร้ความรับผิดชอบและใจร้ายหรอก
หากเขารู้พันธะที่เกิดขึ้น เขาอาจจะฉุกใจ และทบทวนใหม่
“หยาไม่ได้ทำร้ายตัวเองนะคะนม หยาแค่รัก ‘เค้า’ มากกว่าจะปล่อยให้เขาถูกลูกหลงไปด้วย” เธอวางมือเหนือเนินหน้าท้อง พลางส่งยิ้มเซียวๆ ให้นมผิน
“ถ้า...” นมผินพยายามท้วง
มาหยาส่ายหน้ารีบปราม “เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีกนะคะนม” ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เธอกับนมผินจะมาถกเรื่องสำคัญนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรอก เธอตัดสินใจแล้ว ในเมื่อตะวันไม่เผื่อแผ่ความรักให้กับเธอและใครอีกคน ความรักทั้งหมดที่เธอมี จะยกให้เขาแต่เพียงผู้เดียว
“คุยอะไรกันครับ ท่าทางพิลึก” ตะวันเปรย เขาเดินเข้ามาในห้องครัว สถานที่ที่น้อยครั้งที่เขาจะย่างกรายเข้ามา
นมผินฝืนยิ้มกร่อยๆ ให้ บรรยากาศอึมครึมก่อนหน้า ถูกกดดันมากขึ้น หลังจากตะวันปรากฏตัว
“คุยเรื่องทั่วไปนั่นแหละคะ คุณตะวันมีธุระอะไรกับหยาหรือเปล่าคะ?” มาหยาตัดสินใจแทรกถาม เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“เราตกลงกันแล้วนี่หยา ผมแค่หาเธอไม่เจอเลยเดินมาตาม”
มาหยาก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้าย เธอแค่นยิ้ม ยังเช้าเกินไป หากตั้งใจจะไปทำธุระเรื่องที่ตะวันต้องการ ชายตรงหน้าเธอคงร้อนใจไม่น้อย เขาถึงขั้นควานหาตัวเธอ ทันทีที่ลืมตาตื่น
“ไม่ทานอะไรสักนิดก่อนเหรอคะ” มาหยาไม่ได้ทักท้วงเรื่องเวลา เธอลุกขึ้นยืน เตรียมจัดโต๊ะอาหาร อย่างน้อยเขาควรกินอะไรสักนิดก่อนออกจากบ้าน
ตะวันนิ่วหน้าแต่ก็ยอมตามใจมาหยา เขาคุ้นกับการบริการของเธอ รสมือมาหยาก็ถูกปาก เขาไม่เคยเจอใครรู้ใจเขา เรื่องอาหารการกินเท่าเธอเลย “หลังหย่ากัน ผมคงหาคนทำอาหารถูกปากไม่ได้อีกแล้ว”
มาหยาชะงักมือ แล้วก็รีบปรับความรู้สึกเจ็บแปลบๆ ทิ้ง เธอในสายตาของตะวัน คงไม่ต่างอะไรกับคนรับใช้ถูกใจ
“กลับมาบ้านนี้บ่อยๆ สิคะคุณตะวัน หากอยากกินของอร่อย” ผินพูดแทรก น้ำเสียงเต็มไปด้วยการประชดประชัน
ตะวันชะงักเงยหน้ามองคนสนิทมารดาตาค้าง เขาเหลือบมองมาหยาที่มีอาการเฉยสนิท “เธอบอกเรื่องของเราสองคนกับนมว่าไงบ้างหะหยา!!”
“คุณหยายังไม่ได้บอกอะไรอิฉันเลยค่ะคุณตะวัน อิฉันสอดรู้เอง” นมผินรีบแก้ตัวแทน และบางอย่างในแววตาของผู้สูงวัย ตะวันเลยไม่กล้าซักไซ้ไล่เรียง
“หยาขอเวลาสักครู่นะคะ” หลังจัดเตรียมอาหารมื้อนี้ให้ตะวันเสร็จ มาหยาก็เอ่ยปากขอตัว เธอควรดูดีกว่านี้ หากต้องออกไปนอกบ้านพร้อมเขา ถึงตะวันจะไม่เคยสนใจ แต่ก็น่าจะช่วยให้เขาไม่ต้องแก้ตัวแทนเธอทุกครั้งไป ผินยิ้มจนมุมปากยกโค้งขึ้น
“ให้อิฉันไปช่วยแต่งตัวนะคะ คุณหยา”
ไม่มีใครรู้ความคิดในใจของหญิงสูงวัยผู้นี้ ซึ่งตะวันเองก็พยายามไม่ใส่ใจ เขาควรโฟกัสความสนใจของตัวเองทั้งหมดไปที่อิงดาว เขาจะได้ไม่ว่อกแว่กมากไปกว่านี้
นมผินใช้เทคนิคที่เรียนรู้มาทั้งชีวิต เนรมิตมาหยาให้สวยชวนตะลึ่ง แม้เจ้าตัวจะพยายามคัดค้าน แต่ผินไม่สนใจ เธอบรรเลงสุดฝีมือ ทิ้งทวนครั้งสุดท้าย วัดใจเจ้านายหนุ่ม ตะวันจะไม่อาลัยอาวรณ์มาหยาสักนิดเชียวเหรอ?
“เชื่ออิฉันสักครั้งนะคะคุณหยา” ผินยิ้มให้กำลังใจ หลังพินิจมาหยาจนพอใจ
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะนม หยาไม่เคยอยู่ในสายตาของคุณตะวันมาตั้งแต่ต้นค่ะ” มาหยาตอบเสียงแฝงความเศร้า เธอรู้อยู่แก่ใจดี ในสายตาของตะวัน ไม่มีใครดีกว่าอิงดาว ผู้หญิงที่ครอบครองหัวใจของเขาทั้งดวง
“มันก็ไม่แน่หรอกค่ะ เวลาหลายปีระหว่างคุณหยากับเจ้านายของอิฉัน ไม่มีความหมายสักนิดเชียวเหรอคะ”
มาหยาส่ายหน้า แล้วก็จะเดินจากไป
“หยา” ตะวันครางเสียงแห้ง
มองมาหยาตาไม่กะพริบ ทุกวันมาหยาแต่งตัวเรียบๆ สวมเสื้อผ้าสบายๆ ขมวดผมทั้งหมดไว้หลังท้ายทอย รัดไว้ด้วยหนังยางเส้นเล็ก หรือไม่ก็กิ๊บตัวใหญ่ นี่เป็นครั้งแรก ยกเว้นการอยู่บนเตียง ผมสีดำสนิททิ้งตัวคลอเคลียกรอบหน้า สะบัดปลิวตามแรงลมทุกจังหวะการเดิน ‘สวย’ ตะวันรู้มานานแล้วว่ามาหยาสวย หากเธอแต่งตัวแบบนี้ในทุกๆ วัน
ตอนที่ 4.
ตะวันกลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ ลดสายตาลงต่ำ พร้อมกับรีบกำหนดลมหายใจตัวเองให้ช้าลง แล้วก็ฝืนยิ้มให้มาหยา ที่เดินมาทรุดนั่งฝั่งตรงข้าม หลังจากนั้นไม่นาน สาวใช้ก็ยกอาหารเช้ามาเสิร์ฟ มาหยาเบิกตาโต เธอรีบกลั้นลมหายใจแล้วก็โบกมือแรงๆ
นมผินถลันเข้ามายกโถใส่ข้าวต้มควันกรุ่น ไปวางไว้อีกมุมหนึ่งของห้อง ท่ามกลางความแปลกใจของตะวัน เขาขมวดคิ้ว มองตามนมผินที่เดินเร็วๆ ไปยังจุดนั้น
“เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” ตะวันถาม เมื่อผินเดินมาใกล้
ผินแก้ตัวเสียงสั่น เธอเกือบตวาดสาวใช้คนนั้น ดีทว่ายั้งปากไว้ทัน “มีมดในข้าวต้มน่ะค่ะ อิฉันเลยให้แป้นไปเปลี่ยน”
ตะวันพยักหน้า มองมาหยาที่จิบแค่ชาร้อน โดยไม่แตะต้องอาหารเช้าอย่างอื่นเลย
“ไม่หิวเหรอไง?” ตะวันยั้งปากไม่ทัน เขาโพล่งถามหลังมองมาหยาอยู่นาน
มาหยาส่ายหน้า “ไม่หิวค่ะ คือ...ชุดนี้คับนิดๆ หยาเลยไม่อยากกินอะไรเข้าไป เดี๋ยวจะอึดอัดค่ะ”
“คับก็ไปเปลี่ยนสิ ยอมทรมานเพื่อความสวย มันไม่ใช่เธอเลยนะ” ตะวันท้วง มาหยาที่เขาเคยรู้จักไม่เคยห่วงสวยแบบนี้ สำหรับมาหยาแล้ว เธอชอบแต่งตัวมอซอ หน้ามันวับ ผมยุ่งไม่เป็นทรง แต่มารดาเขาสะอาดสดชื่น ร่าเริงเพราะหญิงผู้นี้
“อิฉันบังคับคุณหยาเองแหละค่ะ คุณหยาควรแต่งตัวสวยแบบนี้ ไม่ใช่ปล่อยตัวโทรมจนถูกสามีทิ้ง” ผินพูดใส่หน้า แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับสายตาตำหนิของเจ้านายหนุ่ม
“นมคะ ขอน้ำอุ่นให้หยาหน่อยค่ะ” มาหยาเบี่ยงแบนความสนใจของผิน แล้วก็ยิ้มกร่อยๆ ให้ตะวัน “หยาขอโทษแทนนมผินนะคะ คุณคงได้ยินบ่อยๆ ช่วงนี้ อย่าโกรธนมผินเลยค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจความรู้สึกนม นมคงผิดหวัง หากแม่ยังอยู่ ผมคงทำแบบนี้ไม่ได้” ตะวันเปรย เขายกผ้าซับมุมปาก แค่นยิ้มสมเพชตัวเอง หากมารดายังมีชีวิตอยู่ เขาคงไม่ได้อิสระเหมือนที่ต้องการ มารดาคงคัดค้านเต็มที่