EP.7 ข้อเสนอชดใชหนี้
“นั่นสิคะ กานต์นี่แย่จัง ไม่น่าลดตัวลงไปแข่งกับผู้หญิงแบบนี้เลย ถ้าเป็นแม่คนที่นอนอยู่บนเตียงนั่นก็ว่าไปอย่าง”
นรีกานต์กัดฟันกรอด แม้จะหึงหวงชญานนท์สักเพียงไรเธอก็ไม่สามารถแสดงออกได้ กฎของการเป็นผู้หญิงของชญานนท์ก็คือต้องไม่วุ่นวาย และต้องไม่ระรานผู้หญิงคนอื่นๆ ของเขา โดยเฉพาะคนที่มาก่อนเธอ นรีกานต์จึงต้องยิ้มสู้ได้แต่หวังว่าชายหนุ่มจะมองเห็นเพชรแท้ และเลื่อนตำแหน่งเธอจากคู่ขาชั่วคราวขึ้นเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมายเข้าสักวัน
“กานต์ไปก่อนนะคะ”
นรีกานต์ยกสองแขนขึ้นโอบรัดรอบคอของชายหนุ่ม ก่อนจะเขย่งปลายเท้าแล้วปิดเรียวปากอิ่มลงบนริมฝีปากหยักหนาได้รูปของเขา ชญานนท์จูบตอบอย่างไม่เกี่ยงงอน มีเพียงนับดาวที่ยืนอ้าปากค้างเบือนหน้าหนีด้วยความกระดากอายที่จะจ้องมอง เมื่อได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบพื้นดังไกลออกไปแล้วนั่นล่ะเธอถึงหันกลับมา
“ฉันมีข้อเสนอ”
หญิงสาวรีบพูดธุระของตนทันที ก่อนที่ยายผมทองนมโตบนเตียงนั่นจะตื่นขึ้นมาแล้วเล่นฉากรักต่อหน้าเธออีกรอบ
“ว่ามา”
ชายหนุ่มเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ก่อนจะส่งแก้วไวน์ให้ลูกน้องรินให้ แล้วหันมากอดอกมองหญิงสาวอย่างประเมิน ดวงตาคมมองใบหน้ามนรูปไข่รวบผมหางม้าไว้ด้านหลัง ไล่เรื่อยมายังริมฝีปากอิ่มสีชาดไร้การปรุงแต่ง ก่อนจะมาสะดุดที่อกอิ่ม ผ่านผู้หญิงมาก็มากแค่มองแวบเดียวก็สามารถบอกได้เลยว่าเจ้าหล่อนใส่ชุดชั้นในไซส์อะไร ทว่ากับผู้หญิงตรงหน้าเขากลับเดาไม่ออกว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งนั้นจะซ่อนรูปหรือจะแบนราบไปกับเรือนกายผอมบางของเธอ
“ฉันจะทำงานใช้หนี้ให้คุณ แม้มันจะยากมันจะต้องใช้เวลาอีกสักกี่ปีฉันก็จะทำ ขอเพียงคุณช่วยถอนฟ้องคุณพ่อของฉัน”
ชญานนท์เลิกคิ้วขึ้นสูง สาวเท้าเข้าหาร่างบางในมาดทอมบอย จับปลายคางของหญิงสาวดันให้เธอเชิดหน้าขึ้น แล้วพิศมองใบหน้าหวานเต็มตา
“เธอคิดว่าเธอเป็นใครจึงมาต่อรองกับฉันแบบนี้”
“ฉันไม่ได้ต่อรองแต่ฉันกำลังร้องขอต่างหาก คุณพ่อฉันทำงานให้กับคุณมาร่วมยี่สิบห้าปี ท่านจงรักภักดีมาตลอด คุณน่าจะเห็นแก่ความดีของท่านบ้าง”
หญิงสาวปัดมือของชายหนุ่มออก ก่อนจะถอยหนี เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา มีบางสิ่งบางอย่างกระซิบบอกเธอข้างหูว่าควรอยู่ให้ห่าง ยิ่งห่างเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีต่อตัวเธอ
“นี่คือกิริยาที่เธอใช้ขอร้องฉันงั้นหรือ ฉันนึกว่าเธอกำลังข่มขู่ฉันเสียอีก แล้วแบบนี้เธอคิดว่าฉันควรจะยอมรับคำขอร้องจากเธออยู่หรือเปล่า”
ชญานนท์ยังคงกอดอกนิ่ง มีเพียงแววตาเท่านั้นที่ยังคงมองไล่สำรวจลงมาจนถึงสะโพกผาย นับดาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันเป็นเส้นตรง รับรู้ได้ถึงสายตากักขฬะจากอีกฝ่ายแต่ก็เลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็นมัน
“ฉันรู้ว่าเงินจำนวนยี่สิบล้านมันมากมายเกินกว่าที่ฉันจะหามาชดใช้ให้คุณได้ แต่ฉันตั้งใจจะขายบ้านมันคงจะได้ราวๆ สักสามล้าน ส่วนอีกสิบเจ็ดล้านฉันจะผ่อนใช้ให้คุณ”
เพียงเท่านั้นเองชญานนท์ก็หัวเราะราวกับว่าเรื่องที่นับดาวพูดนั้นช่างน่าขบขันเสียเหลือเกิน นับดาวยืนนิ่งกำมือเข้าหากันแน่น เธอกำลังพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วเพื่อที่จะเจรจาต่อรองกับเขา แต่ดูสิ่งที่เขาทำกับเธอสิ... หญิงสาวอยากกระโจนเข้าไปข่วนหน้าหล่อเหลานั่นให้เป็นริ้วๆ ทำไมถึงได้ใจดำเห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องตลกไปเสียหมด มันจะเกินไปแล้วนะ! นับดาวหายใจแรงพยายามข่มความโกรธเอาไว้สุดกำลัง
“มันตลกมากนักหรือคะ”
เมื่อความอดทนสิ้นสุด เธอจึงเอ่ยถามออกไป
“ตลกมาก ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องตลกอะไรจี้เส้นเท่านี้มาก่อนเลย คิดดูสิเธอจะหาเงินยี่สิบล้านมาใช้ฉันด้วยวิธีไหนไม่ทราบ นับดาวนี่เธอกำลังละเมออยู่หรือเปล่า ฉันไม่ต้องรอเธอจนแก่ตายหรือไงกว่าเธอจะหาเงินมาใช้ฉันครบยี่สิบล้าน”
“แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง”
หญิงสาวเอ่ยถามออกไปด้วยความโมโห เสียงของเธอดังจนเกือบเป็นตะโกน
“บอกฉันมาสิว่าไผทไปหลบอยู่ที่ไหน ฉันเชื่อว่าเงินยี่สิบล้านยังอยู่กับพ่อของเธอ เอามาคืนฉัน ฉันอาจจะยกโทษให้”
“ฉันไม่รู้ว่าพ่ออยู่ที่ไหน”
หญิงสาวเบือนหน้าหนี จำต้องโกหก เธอยังจำใบหน้าของบิดาครั้งสุดท้ายที่ได้พบท่านได้ไม่ลืม เธอไม่เคยเห็นใบหน้าของบิดาหม่นเศร้าทรุดโทรมไม่มีราศีเท่านี้มาก่อน
“ฉันจะเชื่อเธอได้ยังไง เธอเป็นพ่อลูกกัน”
มือที่กอดอกไว้เลื่อนมาเท้าคาง เอียงคอเล็กน้อยด้วยท่าทางยียวนราวกับต้องการจะยั่วให้หญิงสาวโกรธ คนอย่างชญานนท์มีแต่คนคอยห้อมล้อมเอาอกเอาใจ นับดาวจึงเป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าตะคอกใส่เขา ทั้งยังถีบเขาเต็มแรงอีกด้วย จากผู้หญิงหน้าตาจืดๆ ที่เขาไม่เคยคิดชายตาแล จึงทำให้เขาหันมาสนใจเธอ เพราะความแปลกที่เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนจึงทำให้เขามีความคิดอยากได้เธอมาเป็นของเล่นชิ้นใหม่
“ตอนนี้คุณแม่ของฉันอาการหนักมาก ท่านเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว อีกไม่กี่วันท่านจะเข้ารับการผ่าตัด ขอร้องเถอะนะคะ ช่วยถอนแจ้งความแล้วฉันจะพยายามหาเงินมาใช้คืนให้คุณ”
นับดาวเสียงเครือจนคล้ายเสียงสะอื้น น้ำตาตกในจนรู้สึกได้ถึงรสชาติปะแล่มที่ไหลผ่านลำคอ ดวงตาของเธอแดงก่ำ ชญานนท์ถอนหายใจ
“เธอต้องบอกฉันก่อนว่าเธอจะหาเงินมาใช้คืนฉันด้วยวิธีไหน”
ชญานนท์ไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ กับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่พยายามช่วยบิดาไม่ให้ติดคุก และพยายามช่วยมารดาให้คลายความโศกเศร้า เธอเป็นผู้หญิงที่น่านับถือคนหนึ่งเลยทีเดียว
“ฉันเป็นนักวาดรูปประกอบนิทานค่ะ หลังจากนี้ฉันจะหางานพิเศษเพิ่ม จะพยายามเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ที่หาได้คืนให้กับคุณ”
หญิงสาวรีบบอกเขาด้วยท่าทางกระตือรือร้น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง ชญานนท์หรี่ตามองหญิงสาว อาชีพนักวาดภาพประกอบนิทานทำให้เขาสนใจ หลายๆ อย่างในตัวเธอ อาจสรุปง่ายๆ ได้ว่าเขากำลังสนใจทุกอย่างที่เกี่ยวกับนับดาว เพราะเธอแปลก ไม่เหมือนผู้หญิงคนก่อนๆ ของเขา