“คุณบ้านแบบนี้มันแพงโคตรเลยนะ...ทำไมคุณไม่บอกก่อนว่าคุณรวยขนาดนี้ ขวัญถอนตัวทันไหมอะ? ส่วนเงินที่เอาไปขวัญจะทยอยคืนทุกบาททุกสตางค์” เสียงอ่อนอ่อยรีบวอนขอ เธอกลัวว่าจะทำความลับแตกตั้งแต่วันแรกๆ
“บ้านคุณย่าผม แพงหรือเปล่าไม่รู้สิ ไม่เคยสอบถามราคาเสียด้วยสิ อีกอย่างนะขวัญ.. ผมไม่ได้รวย ผมเป็นตำรวจที่ถูกพักราชการ เรื่องนี้สำคัญมาก ห้ามเธอบอกให้คุณย่าผมรู้เด็ดขาด” ชายหนุ่มไหวไหล่เขาย้ำให้จอมขวัญรู้ถึงความสำคัญของเรื่องที่ตกลงกันไว้
“แต่...”
“เรื่องเงินก็เหมือนกัน ผมมั่นใจว่าเธออ่านสัญญาก่อนลงมือเซ็นรับรู้ เธอน่าจะรู้นะขวัญว่ายกเลิกเธอจะโดนปรับ3 เท่า”
จอมขวัญคอตก ใบหน้าเธอสลดซีดลงแบบฉับพลัน ความจริงในเนื้อข้อสัญญาทำให้เธอไม่กล้าที่จะบิดพลิ้ว ที่สำคัญแค่ที่เอาไป เธอยังไม่รู้เลยจะหาที่ไหนมาคืนเลยหากยกเลิกสัญญาว่าจ้าง แล้วมันคูณ3 ในโทษฐานที่เธอเบี้ยว เธอจะไปเอาเงินที่ไหนมากมายขนาดนั้นมาคืนวิลเลี่ยมเล่า
ชายหนุ่มกระตุกยิ้ม เขาซ่อนรอยยิ้มร้ายกาจไว้ใต้วงหน้าเงียบขรึม ประตูสวรรค์กำลังจะเปิดรับเขาเข้าไป และเธอจะต้องตกอยู่ใต้อุ้งมือของเขา จะสอนให้เธอรู้จักกับความร้อนแรงของอารมณ์พิศวาส ชักชวนเธอท่องเที่ยวบนทุ่งเสน่หาจนกว่าจะเบื่อ!!
รถยนต์คันหรูจอดบริเวณด้านหน้าตัวตึก สาวใช้รีบกุลีกุจอออกมาช่วยถือของ เมื่อมองเห็นผู้มาเยือนว่าคือใคร วิลเลี่ยมรีบเปิดประตูด้านตัวเองลงไป เขาวิ่งอ้อมมาเปิดประด้านตรงข้าม อำนวยความสะดวกให้จอมขวัญ
“คุณย่ามองมาจากที่ระเบียงนะขวัญ เริ่มแผนเลยแล้วกัน” ชายหนุ่มโน้มใบหน้าเข้าหาหญิงสาว เขากระซิบเสียงแหบๆ แล้วจึงแนบเรียวปากทาบทับกลีบปากนุ่มนิ่ม จอมขวัญชะงักกึก เธอตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เกือบจะผลักชายหนุ่มให้กระเด็นออกไปแล้ว หากแต่คำพูดของเขา...หยุดทุกอย่างลงไว้ทัน
เธอพริ้มเปลือกตาลง ปล่อยให้ชายหนุ่มทำอย่างที่เขาต้องการ โดยไม่ต่อต้านเหมือนเดิม...รส ‘จูบ’ ครั้งนี้แตกต่างกับสองครั้งแรกลิบลับ ประสบการณ์ครั้งแรกทำให้เธอขยาดที่จะถูกจูบ เพราะมันขยะแขยงและเหม็น ครั้งที่สองเป็นเพราะความอ่อนแอของร่างกาย เธอยอมรับจูบจากวิลเลี่ยมก่อนจะหมดสติ เลยไม่ได้รับรู้ความรู้สึกเต็มที่ ในครั้งนี้... ปัจจุบันนี่ ริมฝีปากอุ่นจัดนาบลงมาบนริมฝีปากของเธอ แล้วริมฝีปากนั้นเริ่มซอกซอนและชอนไช เรียวลิ้นร้อนระอุสอดเข้ามาในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดลุกไล่ ลิ้นนุ่มนิ่มของเธอเอง ความร้อนในร่างกายเริ่มระอุเดือด หญิงสาวรู้สึกวูบวาบยามปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นของตัวเอง เขาสูบพลังในร่างกายเธอ เมื่อรู้สึกว่าปลายนิ้วชาจนยากที่จะขยับ ได้แต่เกี่ยวเกาะร่างหนาหนักของเขาเป็นหลัก กว่าที่วิลเลี่ยมจะยอมปล่อยเธอถูกชายหนุ่มสูบพลังไปเกือบหมด เรี่ยวแรงที่มีทดถอย ต้องอาศัยอกอุ่นๆ ของเขาเป็นที่พักพิง
“คะ...คุณย่าคุณไปแล้วหรือยังคะ?” เสียงอ่อนเบาถามเสียงแผ่วหวิว
วิลเลี่ยมเกือบหลุดหัวเราะร่า แต่ยังยั้งไว้ทัน มีที่ไหนคุณย่าเขา เขาก็แค่แกล้งเธอเพื่อขโมย ‘จูบ’ อีกครั้งแค่นั้นเอง
“ไปแล้ว คงสบายใจที่เห็นเรารักกันดี” เขาแสร้งตอบแบบขอไปที จอมขวัญจึงพยายามถอยออกห่าง แม้จะมีแรงเหลือน้อยนิดก็ตาม
หญิงชราวัยใกล้ฝั่งนอนอยู่บนที่นอนขนาดใหญ่ เธอดูอิดโรยเพราะพิษไข้ แต่ก็ไม่ได้ป่วยมากอย่างที่จอมขวัญคาดคะเนไว้
แบตตี้เปิดยิ้ม สายตาฝ้าฟางพินิจพิเคราะห์หญิงสาวข้างกายหลานรัก เธอไม่ได้สวยโฉบเฉี่ยวอย่างที่กลัว แต่งตัวแสนธรรมดาไม่ได้หวือหวาเหมือนคู่ควงคนเก่าก่อนของวิลเลี่ยม ใบหน้ารูปไข่มีเครื่องสำอางน้อยมาก เท่าที่เห็นก็คงจะมีแค่ริมฝีปากสีแดงจัดแค่นั้น ส่วนอื่นเป็นเนื้อแท้ของเธอล้วนๆ นางจึงค่อยๆ ผ่อนลมหายใจด้วยความโล่งใจ ที่หลานชายไม่ได้คว้าแม่พวกแปดสาแหรกมาเป็นคู่รัก
“เป็นยังไงบ้างครับ ผมรักคุณย่านะครับ พอรู้เรื่องก็ร้อนใจรีบกลับมาทันที” เสียงออดอ้อนของชายหนุ่มมันเป็นสิ่งที่จอมขวัญไม่อยากเชื่อว่าชายหนุ่มจะอ่อนโยนได้ถึงเพียงนี้
“ย่ะ!! ย่าไม่ได้เป็นอะไรมาก โรคคนแก่นะวิล”
“ผมตกใจไม่ทันฟังให้ชัด ผมนึกว่าคุณย่าป่วยหนักนี่ครับ”
“เดี๋ยววิล!! ใจคอจะไม่แนะนำแม่หนูนั่นให้ย่ารู้จักรึ? ใครกันล่ะ”
“อ๋อ...จอมขวัญแฟนผมเอง...ขวัญๆ มากราบคุณย่าผมสิ คนนี้คนสำคัญของผมเชียวนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกจอมขวัญ เขาโบกมือเรียกหล่อนเข้ามาใกล้เตียง
แบตตี้มองหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานและอ่อนน้อม เธอก้มกราบเป็นแบบที่เธอไม่เคยเห็นแต่กิริยาน่ารักน่าเอ็นดู
“ไม่ใช่สาวในเมืองใช่ไหม เธอดูไม่เหมือนคนที่นี่”
“ค่ะ...คุณย่าขวัญอยู่ในประเทศเล็กๆ โซนเอเชีย ประเทศไทยค่ะคุณย่ารู้จักไหมคะ” จอมขวัญเงยหน้าขึ้นเธอส่งยิ้มแป้นแล่นให้กับหญิงชรา
“รู้จักสิ ฉันเคยไปเที่ยวตอนที่ยังแข็งแรงดี...สวย...อบอุ่น และคนที่นั่นนิสัยดี ผิดกับคนในเมืองใหญ่ๆ ที่ค่อนไปทางแล้งน้ำใจ”
สองสาวต่างวัยคุยกันอย่างถูกคอ เป็นเพราะจอมขวัญอ่อนหวานและคล้อยตาม เธอเป็นผู้ฟังที่ดีและแย้งในสิ่งที่คิดต่างในแบบที่ไม่แสร้งทำ วิลเลี่ยมอมยิ้ม จอมขวัญเข้ากับแบตตี้ได้ดี จนเขาหายห่วง ย่าคงไม่เคี่ยวเข็ญเขาอีกนานเรื่องคู่ชีวิต เมื่อเขามีกันชนชั้นดี
“พาหนูขวัญไปพักได้แล้วมั่งวิล มาเหนื่อยๆ จะได้พักผ่อน ย่าขอเอนหลังหน่อย นั่งนานชักจะเมื่อย” เวลาผ่านไปนานพอดู เมื่อร่างกายล้าเกินกว่าจะฝืน แบตตี้จึงอนุญาตให้ทั้งสองคนไปพักได้ จอมขวัญเอื้อมมือพยุงร่างผอมบางของแบตตี้ไว้ เธอค่อยๆ ผ่อนร่างผอมๆ นั่นลงนอนบนที่นอน โดยซ้อนหมอนใบใหญ่รองใต้ศีรษะของท่านไว้ มันเป็นกลไกที่ทำจนคุ้นชิน มันออกมาจากภายในใจไร้สิ่งเคลือบแคลง
แบตตี้พริ้มเปลือกตาหลับลง วิลเลี่ยมจึงพาจอมขวัญออกไปด้านนอก
“มาเรีย ว่าไง...” เปลือกตาเปิดขึ้นเสียงแหบแห้งเอ่ยถามเบาๆ เพราะนางรู้ว่า ต้นห้องของนางกำลังรออยู่
“ค่ะคุณแบตตี้ ทั้งสองคงแนบแน่นลึกซึ้งกันพอดู อิฉันเปิดกระเป๋าคุณวิล เจอชั้นในคุณผู้หญิงหลายชิ้นอยู่ค่ะ”
“ฉันไม่ไว้ใจ จอมเจ้าเล่ห์อย่างวิลเลี่ยมหรอก มาเรีย... มันคงคิดว่าฉันโง่ ถึงเชื่อมันง่ายๆ จัดห้องให้เขายังไงล่ะ แยกกันอยู่หรือห้องเดียวกัน”
“คุณวิลเธอสั่งไว้แล้วค่ะ ว่าเธอขอห้องเดียว ไม่ต้องจัดห้องรับรองแขก”
“อืม...จับตาดูให้ดี ผู้หญิงน่ะดูซื่อๆ ไม่มีพิษสง คนของเรานั่นแหละที่ต้องระวัง ฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดมีหรือจะไม่รู้ ลื่นยิ่งกว่าปลาไหลแบบวิลเลี่ยมหรือจะยอมมีห่วงผูกคอ มันต้องมีอะไรซุกอยู่แน่ๆ”
“เอ่อ...”
“มีอะไรมีเรีย? มีความเห็นต่างจากฉันรึ”
“คุณผู้หญิงดูไร้มารยา เรียบร้อย และหากเป็นความจริงก็ดีนะคะคุณแบตตี้”
“อืม...ฉันเห็นด้วย แต่กลัวว่าคนของเราจะหลอกล่อเขามานะสิ”
“เราก็หาทางช่วยคุณเธอสิค่ะคุณแบตตี้ ตลบหลังคุณวิล ทำให้เขาสองคนรักกันจริงๆ”
มันคงเป็นเรื่องน่ายินดีนะ หากนางสามารถทำให้วิลเลี่ยมหยุดนิสัยเสเพล เสียที หันมาตั้งใจทำงานของตระกูล เพื่อโอบอุ้มครอบครัวเล็กๆ ของตัวเอง มีหลานให้เธอได้อุ้มชู วัยใกล้ฝั่งอย่างตัวเอง จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ ความหวังของเธอคือการส่งหลานชายถึงฝั่ง มีครอบครัวที่เหมาะสม และมีคนที่รักจริงยืนเคียงข้าง ประคับประคองจับจูงกันเดินไปข้างหน้า โดยที่ไม่อับปางลงเพราะความไม่แน่นอนเป็นพื้นฐาน ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่เป็นคู่ควง คู่นอนของหลานชาย นางเห็นแล้วเพลียจิต แต่ละคนเหลือรับ นิสัยใจคอเสี่ยงเกินกว่าจะเอามาทำหลานสะใภ้ได้ เมื่อเจ้าหล่อนเข้ามาเพราะวิลเลี่ยม เป็น ‘เนลสัน’ มีทรัพย์สมบัติให้พวกหล่อนถลุง หล่อนพวกนั้นจึงไม่ผ่านคุณสมบัติการเป็นหลานสะใภ้ แต่แม่หนูจอมขวัญนี่พอใช้ได้ ที่เหลือก็แค่ดูคุณสมบัติแบบใกล้ชิด ว่าแสร้งทำกับจริงใจมันดูได้ไม่ยาก...
“น่าสน...ลองดูก็ได้นี่มีเรีย...เธอก็รู้ฉันอยากอุ้มเหลนก่อนจะตาย”