Chapter 5
“ไม่ปล่อย เมื่อคืนฉันเมา ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไปบ้าง เช้าวันนี้เลยต้องทวนความจำกันหน่อย”
“ลินขนลุกไปหมดแล้วนะคะ อื้อ... อย่าไซ้ค่ะ” เธอเอ่ยบอกเขาเสียงสั่นรัว วริศยิ่งซุกไซ้ไปที่ซอกคอหอมกรุ่น
“ขนลุกเพราะเสียวเหรอ มาเถอะปาลิน ฉันจะทำให้เธอฟินกว่าเมื่อคืนอีก”
“ลินไม่ได้ขนลุกเพราะเสียวหรืออะไรหรอกค่ะ ลินอั้นมาตั้งแต่ตื่นนอนแล้ว ปวดทั้งฉี่ปวดทั้งขี้ งั้นลินขี้บนเตียงนี้เลยนะคะ” แล้วเธอก็ตดปู๊ดป๊าดออกมา กลิ่นโชยไปทั่วเตียง
“เฮ้ย!” วริศร้องอย่างตกใจ ปล่อยร่างของเด็กสาวในทันที อารามตกใจทำให้เขากลิ้งตกเตียงไม่เป็นท่า
“โอ๊ย!” เขาร้องเสียงหลง ในขณะที่ร่างน้อยห่อตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว เธอยังทิ้งกลิ่นอบอวลไปทั่วห้อง ทำให้เขาต้องรีบยกมือขึ้นปิดจมูก
“ลำไส้เน่าหรือไงนี่ กลิ่นถึงได้รุนแรงขนาดนี้” ชายหนุ่มบ่นอุบก่อนจะควานหาเสื้อผ้าของตัวเองและเนรเทศตัวเองกลับไปยังห้องนอนของตนเสีย
วริศกลับห้องได้ก็อาบน้ำแต่งตัวอย่างอารมณ์ดี เขามีเสื้อผ้าทิ้งเอาไว้ที่บ้านของมารดาหลายชุด ห้องนอนของเขายังสะอาดสะอ้านเหมือนเดิม เพราะมารดาได้ให้คนทำความสะอาดเอาไว้เสมอ
ร่างสูงเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง แม้จะรู้สึกสดชื่นจากการอาบน้ำ แต่ก็ยังรู้สึกปวดหัวอยู่พอประมาณ เมื่อคืนเขาเมาหนักจริง ๆ เพราะโดนคะยั้นคะยอให้ดื่มไม่หยุด ดีที่สามารถพาตัวเองขับรถกลับมาถึงที่นี่ได้ ไม่ประสบอุบัติเหตุตายเสียก่อน อาจเพราะระยะทางจากร้านอาหารนอกเมืองกับบ้านของมารดาไม่ห่างกันมากนัก
กลิ่นหอมของอาหารทำให้วริศรู้สึกหิวเป็นอันมาก เขาเห็นเด็กสาวกำลังง่วนอยู่หน้าเตาไฟในห้องครัว คงจะกำลังทำอาหารอยู่
มารดาเคยบอกว่าปาลินชอบทำอาหารและทำอาหารเก่ง มาทุกครั้งก็ชมให้เขาฟังทุกครั้งจนเขาจำขึ้นใจ
“ขออะไรแก้แฮ้งหน่อยสิ”
“อุ๊ย!” ประโยคของเขาทำให้ปาลินอุทาน หันมามองคนที่กำลังยืนมองเธออยู่
ร่างสูงของวริสกำลังพิงอยู่ที่กรอบประตูห้องครัวมองเธอไม่วางตา เธอหน้าแดง ร้อนผ่าว นึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อเช้าก็อยากจะเอาหัวมุดพื้นห้องครัวหนีเสียเหลือเกิน
“ค่ะ” ปาลินได้สติก็รีบรับคำในทันที ใบหน้าสะอาดสะอ้านหล่อเหลาของเขาทำให้เธอต้องรีบหันหลังให้ เพราะหัวใจดันสั่นไหว สะท้านอย่างรุนแรง
“ทำเป็นเหรอ เครื่องดื่มแก้แฮ้งน่ะ” เขาเดินเข้าไปกอดรัดร่างน้อยจากทางเบื้องหลัง ทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว เผลอเอาตวักตีเขาเต็มแรง
“โอ๊ย! จะฆ่าฉันหรือไงปาลิน” เขารวบข้อมือของเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอตีเขา
“ก็คุณวริศมากอดลินทำไมคะ ลินตกใจ”
“เธอเป็นเมียฉัน ฉันจะกอดไม่ได้หรือไง” ประโยคของเขาทำให้เธอตาโต ก่อนจะหน้าแดง
“หน้าแดงเหมือนเมื่อเช้า เธอคงไม่ใช่จะขี้แตกอีกนะ”
“บ้าเหรอคะ” เธอหน้างอใส่เขา
“ทำอะไรกินเหรอ” เขาเอ่ยถามหลังจากที่ได้แหย่เธอจนพอใจ
“ข้าวต้มไก่ค่ะ”
“อืม... ของโปรดฉันเลย กลิ่นหอมแบบนี้ สูตรคุณแม่ใช่ไหม”
“ค่ะ”
“แล้วคุณแม่ไปไหน”
“คุณป้าไปงานศพต่างจังหวัดค่ะ ไปกับป้าแสนและลุงมั่นค่ะ”
“แสดงว่าที่บ้านไม่มีใครเลยล่ะสิ”
“มีค่ะ”
“ใคร”
“ลินไงคะ”
“กวนเหมือนกันนะ”
“เปล่านะคะ ก็คุณบอกว่าไม่มีใคร ลินก็บอกว่ามีลินนี่ไง”
“รู้แล้วว่ามีเธอ เมื่อเช้ากอดเต็มอ้อมแขนเลย” ประโยคนั้นของเขาทำให้เธอหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู
“คุณหิวหรือยังคะ” เธอรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ไม่อยากให้เขาพูดเรื่องเมื่อเช้าอีกเพราะเธออาย
“แล้วทำไมเธอไม่ไปกับคุณแม่ด้วย”
“ลินติดสอบน่ะค่ะ เพิ่งสอบเสร็จเมื่อวานนี่เอง”
“ก็เลยต้องอยู่โยงเฝ้าบ้านคนเดียว”
“ค่ะ”
“คุณแม่ไปหลายวันแล้วเหรอ”
“หลายวันแล้วค่ะ เห็นว่าจะไปช่วยงานด้วยค่ะ เพราะทางโน้นไม่มีใคร ลินเลยต้องเป็นคนเฝ้าบ้านค่ะ”
“งั้นแสดงว่าเราก็อยู่กันแค่สองคนน่ะสิ” เขาถามย้ำอีกครั้ง
“คุณวริศไปนั่งรอก่อนนะคะ เดี๋ยวลินทำเครื่องดื่มให้” เธอรีบบอกเขา แก้มสาวเผลอร้อนผ่าวทุกครั้งที่โดนเขาพูดเป็นนัยเช่นนี้
วริศเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่ระเบียงหน้าบ้าน อากาศยามเช้าสดใส มีแสงแดดอ่อน ๆ กระทบผิวกาย มุมนี้วิวดี ต้นไม้ร่มรื่น นั่งมองพระอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจากขอบฟ้าได้อย่างชัดเจน เสียงนกร้องดังระงม และยังเห็นนกมากมายบินผ่านหน้าของเขาไปด้วย
บรรยากาศดี ๆ เช่นนี้ทำให้วริศเผลอยิ้มกว้างออกมาในทันที
“เครื่องดื่มค่ะ” เสียงของเธอปลุกภวังค์ความคิดมากมายของเขา ชายหนุ่มเหลือบไปมองเด็กสาว ก่อนจะยกเครื่องดื่มขึ้นมาดื่ม
เขาร้องออกมาเบา ๆ เพราะเครื่องดื่มรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เย็นฉ่ำทำให้เขาตื่นเต็มตาและพ่วงมาด้วยความสดชื่น
“ขอชิมฝีมือข้าวต้มไก่เธอหน่อยสิ กลิ่นหอมเชียว” ประโยคของเขาทำให้เธอรีบไปยกข้าวต้มมาเสิร์ฟให้เขาในทันที
“ทำไมมีแค่ที่เดียวล่ะ”
“ลินยังไม่หิวค่ะ คุณวริศทานก่อนเถอะค่ะ ลินขอไปทำงานบ้านก่อน วะ! ว้าย!” เธอพูดแล้วหมุนกายเตรียมหนี จะให้เธอมานั่งกินข้าวกับเขา แล้วมานั่งจ้องกันนี่นะ เธอทำไม่ได้หรอกนะ แต่มือหนาของเขาก็คว้าข้อมือของเธอเอาไว้ได้ทัน ก่อนจะรั้งให้เธอมานั่งตักด้วยกัน