ชายหนุ่มแสร้งผลักหัวญาติผู้น้องเบาๆ เขาส่ายหน้าไปมา แล้วหันไปหยิบของบนโต๊ะเดินออกไปหน้าห้องก็เจอผู้ชายมาดสำอางยืนรออยู่ เขาขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ปนัดดาเดาความหมายจากญาติผู้พี่ได้ไม่ยาก เธอเดินไปคล้องแขนชายคนนั้นแล้วกดหน้าแนบไหล่แสดงความสนิทสนม
“พี่คิงนี่แฟนน้องครีมค่ะ ชื่อวิภพ”
“สวัสดีครับ คุณครีมพูดถึงคุณศิวนาถบ่อยๆ” วิภพยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
“ครับ” ศิวนาถยกมือรับไหว้ ประเมินผู้ชายที่น้องสาวแนะนำแล้วก็ถอนหายใจหนักๆ
“ไม่เอาน่าพี่คิง คนนี้น้องครีมจริงจัง” หญิงสาวหัวเราะคิกคัก “ไปเถอะค่ะ เราไปหาอะไรอร่อยๆกินกัน”
ศิวนาถได้แต่พยักหน้ารับ ไอ้ประโยคที่ว่า ‘คนนี้จริงจัง’ ของปนัดดานี่เขาได้ยินมาจนนับไม่ถ้วน แต่มองแวบเดียวเขาก็รู้สึกไม่ชอบผู้ชายคนนี้เอาเสียเลย แต่ก็นั้นแหละ นิสัยของปนัดดายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ปล่อยให้คบๆกันไปเบื่อก็เลิก เหมือนเด็กเล่นขายของนั้นแหละ
ปนัดดาบอกพิกัดร้านอาหารแล้วแยกไปกับวิภพ ศิวนาถขับตามไป ระหว่างทางเขาอดคิดถึงผู้หญิงแปลกๆ ที่เขาเพิ่งเจอเมื่อสามสี่วันก่อนไม่ได้ เขาไปพบลูกค้าอ**บริษัท การประชุมที่ยืดเยื้อทำให้เขาเคร่งเครียดจนต้องแอบลงมาหาที่สูบบุหรี่ ปกติเขาไม่ใช่คนสูบบุหรี่นักหรอก แต่มันก็มีบ้างนั้นแหละ ที่มันพอช่วยได้
ผู้หญิงแปลกๆ คนนั้น ดูเหงาๆ แถมผอมบางเหมือนเด็กขาดสารอาหารเสียด้วยซ้ำ แต่เธอคงไม่ได้ลดความอ้วนจนผอมขนาดนั้นหรอก เขาเพียงแค่มองเธอด้วยสายตาของเพื่อนมนุษย์ เข้าใจอารมณ์มนุษย์เงินเดือนดี หลายคนมองว่าเขาร่ำรวย ไม่ต้องทำงานหนักก็มีเงินใช้จ่ายสบายๆ แต่เปล่าเลยมันตรงกันข้าม เมื่อมีภาระมากยิ่งขึ้น ความรับผิดชอบก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย
เขาทำงานหนักนั้นเป็นเรื่องที่ใครก็มองไม่เห็น แน่นอนว่าการทำงานหนักไม่ใช่การแบกหาม แต่การใช้สมองกับการแบกรับความรับผิดชอบชีวิตคนอื่นมันยิ่งหนักหนากว่า
เขาอาจเกิดบนกองเงินกองทองก็จริง แต่ครอบครัวเขาเลี้ยงเขาให้รู้จักรับผิดชอบ ผิดกับปนัดดาที่เป็นลูกรักหัวแก้วหัวแหวน ตามอกตามใจเสียทุกเรื่อง งานในส่วนของคุณอาจึงเป็นความจำเป็นที่เขาต้องยื่นมือเข้ามาดูแลด้วย
ไม่นานนักศิวนาถก็ขับรถมาร้านไทยที่ตบแต่งโล่งโปร่งสบายราวกับอยู่ในสวน เขาออกจะแปลกใจเล็กน้อย เพราะทุกครั้งน้องสาวคนนี้เป็นสาวสังคม ชื่นชอบร้านอาหารหรูหรามากกว่าร้านสไตล์นี้ แต่...มันเข้าทางเขามากกว่า
“ร้านนี้บรรยกาศดีนะคะพี่คิง”
“ฮืม”
“ร้านนี้วิภพเป็นคนแนะนำครีมมาค่ะ ครีมว่าน่าจะเหมาะกับพี่คิงนะ”
หญิงสาวทำคะแนนให้คนรัก วิภพนั่งเงียบๆ แลดูเป็นคนพูดน้อยไม่เรื่องมาก เมื่อนั่งร่วมโต๊ะกันแล้ว วิภพก็สั่งอาหารให้ ศิวนาถคอยสังเกตทั้งคู่ ท่าทางของเขาเปิดเผยตรงไปตรงมา ผู้ชายหลายคนที่ปนัดดาพามาเจอหวาดกลัวเขาจนเผ่นหนีไปหลายราย ส่วนใหญ่ที่มาเกาะแกะก็เพราะปนัดดารวยนั้นแหละ
“คบกันนานแล้วเหรอ ไม่เห็นเคยเล่าให้พี่ฟังเลย” ศิวนาถเปิดฉากก่อน
“สามเดือนแล้วค่ะ” ปนัดดาตอบเสียงใสอย่างภูมิ
“สามเดือน?” ศิวนาถพยักหน้ารับ แหม!คบกันสองอาทิตย์เลิก ร้องห่มร้องไห้เป็นหมาตายก็เคยเห็นมาแล้ว แต่นี่ก็ถือว่านานไม่ใช่เล่น แสดงว่าอดทนกับนิสัยเอาแต่ใจของปนัดดาได้ในระดับหนึ่ง
“ทำงานอะไร”
“ตอนนี้เป็นรองผู้จัดการสาขาค่ะ” ปนัดดาตอบแทนให้
“บริษัทของคุณอานะเหรอ” เขาขมวดคิ้วเพราะยังไม่ได้เจอลูกน้องของบริษัทคุณอา ตั้งแต่กลับมาวิ่งวุ่นกับแผนฟื้นฟูฉบับใหม่อยู่
“ค่ะ พี่ภพคอยดูแลน้องครีมอย่างดีเลย”
“เจอกันที่ทำงาน?”
“ค่ะ”
“เค้าพูดเองไม่ได้หรือไง” ศิวนาถจ้องเขม็งไปยังชายคนรักของน้องสาว
“ได้ครับ แต่ผมไม่อยากพูดแทรกน้องครีม” วิภพพูดน้ำเสียงปกติไม่ได้มีแววประชดประชัน มีรอยยิ้มนิดๆ
ฮืม คนนี้มาแปลก เห็นทุกทีเจอในผับหรืองานสังสรรค์อื่นๆ แต่เขาก็งไม่วางใจนัก วิภพเพียงเงยหน้าแล้วยิ้มน้อยๆ เหมือยคนพูดไม่เก่ง ไม่มีอาการเกรงกลัวเขาแต่อย่างใด แน่นอนว่าบุคลิกของเขาน่าเกรงขามทำให้หลายคนไม่กล้าสบตาด้วย ไอ้ที่คบกันมาได้นานคงเพราะเป็นช่วงที่เขาไม่อยู่เมืองไทยด้วย
ศิวนาถดูสถานการณ์แล้ว คาดเดาไปว่าทั้งสองคงยังไม่ผูกพันอะไรกันมากนัก ยังพอมีเวลาให้เขาได้สืบประวัติว่าผู้ชายคนนี้ มาดีหรือมาร้าย เขาไม่ใช่คนดูถูกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหนไม่ใช่ปัญหา อยู่ที่เป็นคนดี คนขยัน รักจริง แค่นี้ก็พอแล้ว
“กินมากแน่นท้อง พี่ไปย่อยเดี๋ยวมานะ”
“อย่าไปแอบสูบบุหรี่ล่ะ” ปนัดดาดักคอพี่ชายไว้ก่อน
ศิวนาถได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วลุกขึ้นเดินดูรอบๆ ร้านที่ตบแต่งได้สวยงาม ต้นไม้หลากชนิด เขาชอบต้นไม้ แต่ไม่มีเวลาดูแล เขามีแคคตัสอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำงาน มันเป็นพืชชนิดเดียวที่ทนคนอย่างเขาได้ ‘รักแต่ไม่มีเวลาให้’ อย่าว่าแต่ต้นไม้เลย คนรักเขาก็ยังไม่มี เพราะทุมเทเวลากับการงานมากไป
หญิงสาวร่างผอมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโรคจิตยังไงไม่รู้ เป็นบ้าอะไรหนอ ไหนบอกว่าจะตัดใจ แต่ทำได้ยากจัง ผีบ้าอะไรเข้าสิง เลิกรากันไปแล้วแต่เธอยังแอบ ‘ส่อง’ วิภพจากเฟซบุ๊กหรือไอจี อยากรู้ว่าเขากับผู้หญิงคนใหม่เป็นยังไง เธอบอกตัวเองว่า ได้เห็นกับตาจะได้ตัดใจง่ายขึ้น ไม่ต้องทำใจ ‘รอ’ กับคำว่า ‘ห่างกันสักพัก’
เธอแอบติดตามเขาและบังเอิญรู้ว่าเช็คอินในร้านอาหารแห่งนี้ ศลิษาลองนั่งแท็กซี่ตามมา ได้เห็นกับตา หัวใจมันก็รู้สึกแปลกๆ จะเจ็บก็ไม่ใช่ โกรธก็ไม่เชิง เกลียดหรือก็ไม่แน่ใจ
“ไอติมนี่อร่อยดีจัง”