กรรณญาวีร์ ตื่นแต่เช้า รีบอาบน้ำแต่งตัว โรงแรมที่นี่สมราคา สะอาดใช้ได้ หญิงสาว แวะไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม เสร็จแล้วขึ้นมาเข้าห้องน้ำ ขนของลงไปเช็คเอาท์ข้างล่าง เธอนัดให้รถตู้มารับที่หน้าโรงแรม อยากถึงบ้านย่าเร็วๆ แล้ว พ่อกับแม่ยังไม่โทรมา อาจจะยังยุ่งอยู่กับหลานคนแรก ดีเหมือนกัน ถ้าพ่อกับแม่โทรมาถาม ว่าทำไมยังไม่ถึงบ้านย่า เธอก็ไม่แน่ใจว่า พ่อกับแม่จะเชื่อสิ่งที่เธอจะเล่าให้ฟังไหม หญิงสาวเดาได้เลยว่า พ่อกับแม่ต้องว่าเธอเหลวไหลแน่ๆ
กรรณญาวีร์ รู้สึกกังวลใจยังไงชอบกล เธอไม่ชอบอาการแบบนี้เลย มันเหมือนกับจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา และก็ไม่เคยพลาด เป็นอย่างที่เธอสังหรณ์ใจทุกครั้ง สาธุ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ขอให้เป็นเรื่องดีด้วยเถิด หญิงสาวยกมือท่วมหัว อย่าให้เกิดเรื่องร้ายเลย ไม่ว่ากับใครก็ตาม
รถตู้มาตรงเวลามาก ดีเธออยากถึงบ้านย่าเร็วๆ
“คุณครับ กระเป๋าวางเบาะหลังสุดนะครับ เบาะข้างหลังมันค่อนข้างเด้ง วางกระเป๋าดีกว่า ส่วนเก้าอี้ข้าง ๆ ก็ให้ผู้โดยสารนั่งนะครับ ผมคืนค่าที่นั่ง 1 ที่ ไม่เก็บค่าวางกระเป๋า “
คนขับรถมารับกระเป๋าของเธอไปวางไว้ที่เบาะหลังสุด ซึ่งก็มีกระเป๋าของผู้โดยสารคนอื่นวางอยู่ก่อนแล้ว บนรถมีที่นั่งว่างเหลืออยู่ 2 ที่ แสดงว่ามีผู้โดยสารอีกคน หญิงสาวเลือกที่จะนั่งติดหน้าต่าง เอาเถอะถึงรถจะคันเล็กกว่ารถทัวร์ ก็ยังดีเสียกว่านั่งไปกับผู้ชายคนนั้นตลอดทาง
ฝนเริ่มลงเม็ดแล้ว ฤดูฝนซินะ ภาคใต้นี่ฝนตกดีจริงๆ คิดๆแล้วก็เป็นห่วงย่า ไม่เกินบ่ายๆ เธอคงจะถึง หญิงสาวหลับตา เมื่อคืนหลับก็จริง แต่ก็ไม่สนิทนัก เพราะแปลกที่ อีกอย่างเธอนอนคนเดียวด้วย คิดว่าปลอดภัยแค่ไหน ก็ยังระแวงอยู่ดี เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมถึงทำแบบนี้ ถ้าเธออดทนนั่งรถไปจนถึงที่หมาย คงไม่เกิดเหตุการณ์หลายอย่างตามมา
กรรณญาวีร์กำลังเคลิ้มๆ ก็รู้สึกว่าเบาะข้างๆ มีคนมานั่ง สักพักรถก็เคลื่อนตัวออก แต่เธอไม่ไหวแล้ว อยู่ๆ ก็ง่วงขึ้นมาซะงั้น เธอเอียงหัวไปพิงกับฝั่งหน้าต่าง เธอมีหมอนรองคอ ไม่นานก็หลับ ลืมไปเลยว่าจะลืมตาดูคนข้างๆ ว่าเป็นผู้หญิงผู้ชาย ช่างเถอะจะเป็นใครก็ช่าง เธอสบายใจแล้ว หลับต่อดีกว่า
เกือบหนึ่งชั่วโมง บนรถตู้ กรรณญาวีร์สะดุ้งตื่น เมื่อรู้สึกว่ารถจอดเติมน้ำมัน ไม่นานก็หลับต่อ มาตื่นอีกครั้ง เมื่อรถจอดที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารลงทำธุระส่วนตัว หญิงสาวค่อยๆ ลืมตา ตรงหน้าเธอคือแขนของผู้โดยสารคนที่นั่งข้างๆเธอ เสื้อยีนต์แขนยาวทำไมคุ้นจัง หญิงสาวหลับตาอีกครั้งและลืมตา รู้สึกแปลกๆ กรรณญาวีร์ หันมามองคนที่นั่งข้างๆ เต็มตา เธอกระพริบตาถี่ๆ อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ทำไมผู้โดยสารคนนี้ ช่างมีลักษณะท่าทางคล้ายกับผู้ชายคนที่อยู่รถทัวร์โดยสารเมื่อคืน
เขาหันมาจ้องมองเธอ สายตาคมกริบและดุหลังแว่นสีชานั่น เห็นแว๊บเดียว หญิงสาวต้องรีบหลบ เธอยังไม่ได้ดูด้วยซ้ำว่า เขาหน้าตาเป็นยังไง แต่ดูจากเสื้อและกางเกงที่เขาสวมใส่ แว่นนั่น หมวก รองเท้า ใช่แน่ๆ หญิงสาวใจเต้นแรง นี่อย่าบอกนะว่าเป็นเขาที่มานั่งข้างๆ เธอตั้งแต่รถตู้ออกเดินทาง จนอีกไม่กี่กิโลเมตร ก็จะถึงบ้านย่าของเธอแล้ว
กรรณญาวีร์ นั่งตัวลีบ เธอขยับร่างเข้าติดฝั่งหน้าต่าง ถึงรู้ว่าขยับไม่ได้แล้ว แต่เธอก็ยังอุตสาห์ขยับ รถตู้ไม่มีที่รองแขน เหมือนรถทัวร์ ถ้ามีที่รองแขน เธอยังรู้สึกว่ามีสิ่งกั้นขวางไว้ แต่นี่โล่งมาก เหมือนคนตัวใหญ่จะรู้ เหมือนแกล้ง เขาขยับขามาเกือบชิดกับขาของเธอ นั่นทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว กรรณญาวีร์จำต้องหลับตาลงอีกครั้ง จะได้ไม่เห็นเขา รถตู้เรื่มเคลื่อนออกเดินทางอีกครั้ง หญิงสาวเภาวนาอยากให้ถึงบ้านย่าเร็วๆ อีกไม่ถึง 50 กิโลเมตร แต่สำหรับเธอ ทำไมมันช่างยาวนานจังเลย ถึงหลับตาอยู่เธอก็ยังรู้สึกว่า ผู้ชายคนข้าง ๆ มองเธออยู่ โรคจิตรึเปล่านะ อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้
เธอลืมตาขึ้นมาดูจีพีเอส จากโทรศัพท์ของตัวเอง และหลับตาลงอีกครั้ง ใจยังเต้นแรง เขามาได้ยังไง แล้วเขาจะไปไหน เธอบอกพนักงานรถทัวร์อย่างเงียบๆ แล้วนี่นา หรืออาจจะเป็นการบังเอิญ หญิงสาวคิดวนไปวนมา รู้สึกปวดหัวตึ๊บขึ้นมาทันที
การันต์ สะใจไม่น้อย เมื่อเห็นหน้าตาของเด็กนั่น คงไม่คิดซินะว่า เขาจะโผล่มานั่งใกล้ๆ แถมได้นั่งติดกันอีกต่างหาก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมเขาถึงอยากจะเอาชนะเด็กนี่นัก หน้าตาก็ดูสวยดี ถึงจะไม่ได้แต่งหน้าก็ตาม ดูก็รู้ว่ารูปร่างดีมาก เขานั่งมองหญิงสาวตลอดเวลาที่อยู่ในห้องอาหารของโรงแรม เสน่ห์ก็ไม่มี จริตจก้านก็ไม่มี ดูทื่อๆ ท่าทางจะชอบสันโดษ ยังไงเขาก็รู้สึกหมั่นไส้อยู่ดี เห็นหน้าสวยนั่นแล้วรำคาญตา รำคาญใจจริงๆ
ไหนจะท่าทางระวังตัว ที่ขยับหนีเขาอีก มีแต่คนอยากจะเข้าหาเขา เด็กนี่เป็นใครกัน กล้าแสดงท่าทางรังเกียจเขา อย่างออกนอกหน้า อาการที่มองเลยเขาไป เหมือนเขาไม่มีตัวตน ขัดใจกับท่าทางแบบนี้นัก เสียมารยาท เขากับเด็กนี่ก็ไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย แค่นั่งใกล้แค่นี้ ถึงกับออกอาการรังเกียจ ย้ายรถหนีเขา คิดเหรอว่าจะหนีเขาพ้น
คนอื่นอาจจะปล่อยเลยตามเลย แต่ไม่ใช่เขาแน่ๆ เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ มาแสดงอาการแบบนี้กับเขาได้ยังไงกัน มันไม่จบแค่นี้หรอก การันต์รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอีก เมื่อเห็นคนข้าง ๆ นั่งหลับตา หันหน้าออกไปข้างทาง เขาเพิ่งสังเกตว่า ผมของเธอยาวและหนามาก เขาจะคอยดูว่าหล่อนจะลงตรงไหน ทั้งๆ ที่เลยบ้านเขาแล้ว แต่การันต์ไม่ยอมลง จนคนขับรถขับต่อไปเรื่อยๆ ไปต่ออีก 10 กิโลเมตร รถตู้ก็จอดเพื่อส่งผู้โดยสารอีกครั้ง คนข้าง ๆ เขาขยับตัว เตรียมกระเป๋าเป้
“ขอโทษนะคะ ขอทางหน่อยค่ะ” กรรณญาวีร์ ลุกขึ้นยืนเพื่อเตรียมตัวลง แต่ขาของคนที่นั่งข้างๆ ไม่ยอมหลบให้เธอ เขานั่งเหยียดขาแบบสบายใจ หรือว่าเขาหลับ ไม่นะ หญิงสาวไม่กล้ามองหน้าเขา
“คุณคะ ขอทางหน่อยค่ะ ฉันจะลง” เงียบ กรรณญาวีร์หันไปทางคนขับรถ
“คุณครับ คุณหลับรึเปล่าครับ ช่วยหลีกทางให้คุณผู้หญิงหน่อยครับ” เสียงคนขับรถตะโกนมาจากด้านหลัง เขาเดินมาเปิดท้ายรถ ยกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ให้หญิงสาว
“คุณคะ หลับหรือเปล่าคะ ฉันขอทางหน่อยค่ะ” กรรณญาวีร์ตัดสินใจ ใช้มือแตะที่แขนของเขาเผื่อเขาหลับ ได้ผลเขาหลีกทางให้เธอ
“ขอบคุณมากค่ะ” เสียงหญิงสาวถอนหายใจเสียงดัง ก่อนที่จะก้าวขาลงไปจากรถตู้
การันต์หันไปมองกรรณญาวีร์ จนลับตา นี่เด็กนั่นเป็นอะไรกับบ้านหลังนั้น เขารู้มาว่า ลูกของพ่อเฒ่ากับแม่เฒ่า ไปอยู่กรุงเทพฯ นี่นา อีกคนน่าจะไปอยู่ที่นราธิวาส และเด็กนั่นเป็นลูกของใครกัน ต้องเป็นลูกหลานบ้านนั้นแน่ ไม่งั้นจะมาที่บ้านนั้นได้ยังไง เขาเหยียดยิ้มที่มุมปาก สนุกแน่ อย่าให้เขาได้เจอล่ะกัน เจอดีอีกแน่ๆ หน้าสวยนั่นลอยมาในหัวเขา ยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดใจ นี่ถ้าเป็นผู้ชาย เขาไม่รอหรอก ชวนตีแน่นอน โทษฐานทำให้เขาหงุดหงิดใจ
การันต์โทรหาลูกน้อง ให้มารับเขา ตามที่นัดไว้ เขาต้องนั่งรถย้อนกลับบ้าน ผ่านบ้านหลังใหญ่ ที่ปลูกอยู่ในร่มไม้หลากหลายอย่าง ดูร่มรื่น เขารู้ว่าบ้านนี้อยู่กันเพียงลำพังสองคน เคยคิดเหมือนกันว่าลูกหลานไปอยู่ที่ไหนกันเสียหมด ไม่มาอยู่ดูแลคนแก่ทั้งสอง แม่เฒ่า เขาเคยเห็นที่วัดบ่อยครั้ง รู้จักมักคุ้นกับแม่ของเขา แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก พ่อเฒ่ากับแม่เฒ่าเป็นข้าราชการเกษียณ อยู่กันแบบสมถะ เรียบง่าย ทำสวนพอให้ได้ออกกำลังกาย รู้สึกว่ามีที่ทางมากพอสมควร แมเฒ่าชอบไปวัด บางครั้งพ่อเฒ่าก็จะขับรถไปส่ง บางทีแม่เฒ่าก็ไปคนเดียว ตักบาตรพระทุกเช้า เขาเห็นบ่อยๆ เวลาขับรถผ่านหน้าบ้าน
ไม่ยากเลย ได้เจอกันแน่แม่สาวน้อย การันต์ยิ้มที่มุมปาก นึกหมั่นไส้และสนุกขี้นมาทันที