(Talk คริสเตียน)
ผมสะดุ้มตื่นเพราะนาฬิกาปลุก 6.30 น.
ผมควานหาไม่เจอเธอ ไม่อยากเชื่อว่ายัยนั่นจะหนีผมไปงั้นหรอ ปกติจะเจอแต่พวกไล่ไม่ยอมกลับ ไม่อยากจะเชื่อ ยัยนั่น กล้าดียังไงวะ ใจผมกระสับกระส่าย ไม่รู้จะไปตามหาเธอยังไง ไม่ได้ขออะไรไว้เลย เพราะผมมัวแต่เมามันส์ กับตัวเธอ ทุกอย่างที่เป็นเธอ มันทำให้ผมเสียวซ่าน ขนาดตอนนี้แค่นึกถึงเธอ ผมยังตื่นตัวไม่หยุด
ใช่ เมื่อคืนเธอมากับยัยคนนั้นที่ชื่อมะปรางนี่หน่า ลองถามจากไอ้พวกนั้นดูก่อนก็ได้ แต่ก่อนอื่นผมต้องเข้าไปเรียนก่อน ผมเป็น นศ.แพทย์ปี 5 อายุ 23 ปีแล้ว จริงๆผมต้องเข้าวอร์ดก่อน 7 โมง แต่ตอนนี้ไม่น่าทันแล้วแหละ แต่ชั่งเถอะใครสน พ่อผมเป็นเจ้าของ โรงพยาบาล พวกเขายัดเยียดให้ผมเรียนเอง เรียนให้ขนาดนี้ก็บุญแล้ว
ผมขับรถสปอร์ตหรูเข้ามา มหาลัย จอดรถหน้าคณะแพทย์ แล้วเดินลงมาอย่างหล่อ เอาจริงๆผมก็พอรู้ตัวอยู่นะว่าผมเป็นคนหน้าตาดี ไม่งั้นสาวๆคงไม่เข้าหาขนาดนี้ หนึ่งในนั้นก็ยัยนี่ ที่กำลังวิ่งมาหาผม แอนนา
“พี่คริสคะ วันนี้มาสายนะคะ ทานอะไรมาหรือยังคะ” เธอเรียนอยู่ ปี 4 คณะเดียวกัน
“อืม ไม่หิว” ผมเหลือบมองเธอนิดหน่อยแววตาไร้อารมณ์
“กาแฟมั้ยคะ หนูไปซื้อให้” ท่าทีของเธอกระตือรือร้นเกินเหตุมาก
“ไม่ล่ะ เห็นไอ้โชนมั้ย” ผมถามออกไปนิ่งๆ
“หนูเห็น พึ่งออกมาจากวอร์ดค่ะ”
“อืม”
“พี่คริสสส เดี๋ยวก่อนค่ะ เอ่อ คืนนี้”
“แอนนา ช่วงนี้พี่ไม่ว่าง ไว้พี่อยากเอาเธอเดี๋ยวพี่เรียกเอง ไม่ต้องมาเสนอตัวขนาดนี้มันดูไม่น่ารัก”
“อะ เอ่อ ค่ะๆ หนูไปก่อนนะคะ ถ้าพี่.. ไปก็ได้ค่ะ”
ผมส่งสายตารำคาญใส่เธอ จนเธอยังพูดไม่จบแล้ววิ่งหนีไปเลย
.
.
“ไอ้เชี่ยคริส มึงคาบสาวสวยไปแดกแล้วหายหัวไปเลยนะไอ่เวร” เสียงไอ้โชน ดังมาแต่ไกลทำผมหงุดหงิดนิดหน่อย
“เออ กูอยากรู้ว่าเมื่อคืนใครเอายัยมะปรางนั่นกลับ”
“เชี่ยวันนี้มาแปลก มาถามหาสาว”
“ตอบมา”
“มะปรางไปกับไอ่เซน”
“เออ เดี๋ยวกูโทรหามัน”
“มึงสนยัยนั่นหรอ กูว่าไม่เห็นสเป็กมึงเลย”
“เปล่า”
“แล้วถามหาเธอทำไม เอ๊ะ หรือว่า ไม่ได้ตามหายัยมะปรางแต่ตามหาเพื่อนเธอหรอ” ไอ้เชี่ยนี่เซนส์ดีจัด
“เออ แล้วมึงจะทำไม”
“คุณพระ ไอ้คริส คุณชายแบบมึงมาตามหาคู่นอนที่เคยนอนด้วยกันไปแล้วเนี่ยนะ ยัยนั่นเด็ดขนาดให้มึงอยากเอาซ้ำเลยหรอวะ”
ผมไม่ตอบ
“ไอ้เชี่ยไม่ตอบแสดงว่าเด็ดจริง วันหลังกูต้องให้มะปรางแนะนำละ”
“ถ้ายุ่งกับเธอมึงโดนส้นตีนกูก่อนแน่ไอ้โชน”
“เชี่ยไอ้คริส ผีอะไรเข้ามึงวะ”
“เสือก”
“เออๆ ถ้าเบอร์มะปรางกูก็มี เดี๋ยวกูนัดให้”
“เออ ขอบใจ”
“ไอ่สาส ทีงี้มาทำพูดดี”
.
.
(Talk ยูมิ)
ฉันนั่งแต่งนิยายทั้งๆที่ยังอยู่ในชุดเดรสสีดำ และยังไม่ได้อาบน้ำ แล้วก็คลิ๊ก พระเจ้า ฉันอัพไปแล้ว ฉันอัพไปแล้ว ฉันดีใจจบแทบสลบ และเหนื่อยมากๆ อยากจะไปอาบน้ำแล้วเข้านอนเดี๋ยวนี้เลย งื้อ แต่วันนี้แม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดนี่
งั้นอาบน้ำแล้วแต่งตัวไปหาเสบียงมาตุนหน่อยดีกว่า แล้วค่อยมานอน
ฉันอาบน้ำเสร็จ เดินมาหน้ากระจก รวบผมขึ้นลวกๆ ใส่เสื้อยืดที่คอมันย้วยมาถึงไหล่ ทำให้เปิดไหล่ไปข้างหนึ่ง คอเสื้อก็มีแต่รอยแมลงสาบแทะ หยิบกางเกงยีนส์ขาสั้นรับรูปเข้ามาใส่ หยิบกระเป๋าตัง ใส่รองเท้าเตะ ใส่แว่นตาหนาเตอะ แล้วเดินออกไปที่รถ เพื่อขับออกไป ซุปเปอร์ฯ
ระหว่างที่ฉันกำลังเดินไปหยิบรถเข็นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่ง มือของเราชนกันเพราะเราตั้งใจจะหยิบรถเข็นคันเดียวกัน แล้วฉันก้หันไปเจอ เขา
เขาคนนั้นจริงๆนะ “คริสเตียน” ฉันอุทานอย่างตกใจ แต่จะว่าไปทำไมมีบางอย่างแปลกๆ บรรยากาศไม่เหมือนหมอนั่นแฮะ อันนี้ทำไมดูอบอุ่นใจดีแถมดวงตายัง…
“ผม เดวิด ครับ”
“ขะ ขอโทษค่ะ ฉันทักคนผิด ใช่ดวงตาของคนนี้เป็นสีฟ้าสุกสว่าง” เขายิ้มมุมปากให้ฉันแล้วพูดนิ่งๆ
“เธอเป็นคู่นอนของน้องชายใช่มั้ย” ฉันสะตั้นไป 10 วิ
“หะ ห๊าาา อะไรนะคะ”
“ผมถามว่าคุณเป็นคู่นอนของไอ้คริส น้องชายฝาแฝดของผมใช่มั้ย” หน้าฉันร้อนผ่าว ลมหายใจติดขัด
“นะ น้องชาย”
“ครับ มีคนทักพวกผม ผิดแบบนี้บ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผู้หญิงของมัน แต่ว่าคุณดูไม่เหมือนสเป็กของมันเลย”
ฮะ ฮะ สภาพฉันตอนนี้ หน้ามันแผลบ แว่นหนาเตอะ ผมยุ่งเหยิง รองเท้าขาดๆ เสื้อที่โดนแมลงสาบแทะ
“ฮ่าๆๆ ฉะ ฉันขอตัวก่อนนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ คุณเดวิด”
“คิกๆ เธอพูดติดอ่างหรอนั่น”
“เปล่าค่ะ ฉันชอบประหม่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนจริงๆ”
“หมายความว่าไงคนจริงๆ”
“อะ เอ่อ ปกติฉันทำงานเป็นนักเขียนค่ะ เลยไม่ค่อยได้พบป่ะผู้คน เวลาอยู่ต่อหน้าคนฉันจะประหม่า”
“คิกๆ น่ารักจัง แล้วไปเจอไอ้คริสได้ยังไงล่ะ”
“ฉันขอไม่เล่านะคะ ขะ ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยว นามปากกาเธอคืออะไร” ห๊ะ หมอนี่ถามทำไม แต่ฉันก็ยังตอบเขาไปโดยดี ทั้งๆที่ไม่ควรบอก
“ซะ ซ่อนกลิ่นร่านสวาท ค่ะ”
“พระเจ้า เธอคือนักเขียนนิยายคนดังคนนั้นงั้นหรอ”
“คุณรู้จักนิยายของฉัน??”
“รู้จักสิ แซบซี๊ด ถึงทรวงเลยล่ะ ผมเป็นแฟนคลับเธอ ตามอ่านทุกเรื่อง หมดไปหลายหมื่นแล้ว”
“คิกๆ ใช่มั้ยล่ะ ขอบคุณมากค่ะ แต่ช่วยเก็บเป็นความลับด้วยนะคะ”
“ได้สิ แลกกับไลน์เธอ”
“อะ เอ่ออ”
“ไม่ต้องคิดมาก ผมไม่เอาไปทำมิดีมิร้ายหรอก”
“คะ ค่ะๆ ได้ค่ะ”
“เธอชื่ออะไรนะ”
“ยูมิ ค่ะ”
“โอเคครับ” เขายิ้มให้ฉันแบบอบอุ่น
ฉันให้ไลน์เขาไปอย่างว่าง่าย ไม่รู้สิฉันรู้สึกว่าเขาเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยน แถมเขายังเป็นแฟนคลับฉันอีก ฉันเป็นคนที่แคร์แฟนคลับด้วย ฉันจึงคิดว่าไม่น่าจะเสียหายอะไร ใครจะไปรู้ว่ามันจะนำพาไปสู่ เรื่องยุ่งเหยิงทั้งหลาย