ถ้าพูดถึงรุ่นพี่ปีสี่เขามาจีบฉันก็จริง แต่ว่าก่อนจะตกลงคบกันฉันได้รู้มาว่าเขามีคนรักอยู่แล้วฉันเลยตีตัวออกหาก และไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก อีกทั้งคนรักของรุ่นพี่คนนั้นยังเกลียดขี้หน้าฉันด้วยแต่ฉันก็เข้าใจดีก็ใครมันจะไปรู้สึกดีกับคนที่แฟนตัวเองมาชอบกันเล่า ฉันถึงได้อยู่ตัวคนเดียวมาจนถึงตอนนี้เพราะเพื่อนที่มหาวิทยาลัยก็ตีตัวออกหากจากฉันหลังจากที่รู้ข่าวนั้นเหมือนกัน ฉันจึงเหลือเพื่อนแค่คนเดียวที่เรียนอยู่คนละมหาวิทยาลัยกัน และในวันอาทิตย์นี้เราก็นัดกันไปกินหมูกระทะด้วย เพื่อนฉันจะแนะนำเพื่อนของตัวเองให้ฉันรู้จักด้วยอีกต่างหาก
“อย่าคิดมากเลยครับ พวกมันปากพล่อยน่ะ”
“เอ้า ไอ้เวรนี่ ที่พี่พูดจริงนะครับคนอื่นก็รู้กันหมดว่าไอ้ลมเพื่อนพี่ชอบน้องฝันมากขนาดไหน” เพื่อนพี่สายลมทั้งห้าคนนั่งลงที่โต๊ะ ก่อนจะหันไปรับถ้วยโจ๊กจากลุงเจ้าของร้านที่ยังยิ้มมาอย่างใจดี
“กินกันให้อร่อยนะหนุ่ม ๆ”
“คร้าบ~”
ใช้เวลาสิบนาทีกว่าจะออกมาจากตรงนั้นได้ และไม่ได้ออกมาคนเดียวแต่มากับผู้ชายถึงหกคนในตอนที่ยังนั่งกินข้าวกันอยู่ฉันได้รู้จักกับเพื่อนของพี่สายลมจนครบทุกคนแล้ว ทั้งพี่ขั้นเทพ พี่เคน พี่จีน พี่โชน และพี่เซฟ รวมพี่สายลมเข้าไปก็เป็นหกหนุ่มหล่อแห่งคณะบริหารเลยก็ว่าได้ ฉันรู้สึกเขินอายนิดหน่อยที่เป็นผู้หญิงคนเดียวเดินเข้ามาในมหาวิทยาลัยพร้อม ๆ กับผู้ชายทั้งหกคน แถมยังเป็นเป้าสายตาอีกด้วย อาจเพราะก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้สนใจอะไรก็เลยทำให้ฉันไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วทุกคนเป็นที่สนใจของคนในคณะ และมหาวิทยาลัยเทียบเท่ากับเดือนของมหาวิทยาลัยเลย
“น้องฝันเลิกเรียนตอนเที่ยงใช่มั้ยครับ”
“ค่ะ”
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งที่หอพักนะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฝันกลับเองได้”
“ไม่เอาน่าน้องฝันไหน ๆ ก็ชื่อเหมือนฝันแล้ว ก็สานฝันให้เพื่อนพี่มันหน่อยนะ กว่ามันจะกล้ามาคุยกับเรามันใช้เวลารวบรวมความกล้ามาสองปีเลยนะ” พี่จีนแซวขึ้นก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่ได้แซวพี่สายลม
“ฝันต้องรีบกลับไปนอนน่ะค่ะ กว่าจะถึงที่พักก็น่าจะเกือบบ่าย ไหนจะต้องอาบน้ำนอนอีก เดี๋ยวทุ่มสองทุ่มก็ต้องตื่นแล้วด้วย”
“ถ้าให้พี่ไปส่ง จะได้นอนเยอะขึ้นไงครับ”
ฉันเม้มปากแน่นอย่างลังเลเพราะว่ารู้สึกเหมือนถูกกดดันทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้กดดันอะไรฉัน แต่สุดท้ายแล้วฉันก็พยักหน้าให้เขาไปส่งอย่างยอมรับจนได้
“ก็ได้ค่ะ”
“น้องเปิดทางขนาดนี้แล้ว มึงต้องสู้ให้สุดความสามารถนะเว้ยไอ้ลม” พี่เซฟตบบ่าของพี่สายลมราวกับกำลังให้กำลังใจพี่สายลม กับอีแค่ไปส่งฉันที่หอพักมันถึงกับต้องให้กำลังใจเหมือนไปแข่งโอลิมปิกขนาดนี้เลยหรือไงนะ
“หาผู้ชายคนใหม่จับได้แล้วเหรอ หรือว่าจับทั้งหมดเลยล่ะ ฉลาดดีนะ วันละคนเลย” ใครอีกละเนี่ย ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้นะ
“คุณพูดกับฉันเหรอคะ?”
“ตรงนี้มีเธอคนเดียวที่เดินกับผู้ชายหกคน เธอคิดว่าฉันจะพูดถึงใครล่ะ อ้อ ก่อนหน้านี้ก็คบกับคนที่มีแฟนแล้วนี่ หึ ไม่น่าล่ะ เดินผ่านเธอแล้วฉันรู้สึกเหม็นเน่ายังไงไม่รู้” นี่มันอะไรกันเนี่ย?
“ระวังปากหน่อยก็ดีนะน้อง คนเขาอยู่เฉย ๆ จะขยันแกว่งปากมาหาเท้าทำไม” ฉันสะดุ้งกับน้ำเสียงของพี่สายลมที่ยืนอยู่ข้างฉัน อีกทั้งสายตาที่จ้องมองผู้หญิงคนนั้นก็ทำเอาฉันขนลุกด้วย ไม่แค่นั้นเพื่อนของเขาอีกห้าคนก็มีสายตาราวกับรังเกียจผู้หญิงคนนั้นแสดงออกมาอย่างไม่คิดปิดบังเลย
“ไปเข้าเรียนเถอะครับ พี่จะไปส่งที่ห้อง”
พี่สายลมหันมาพูดกับฉัน ก่อนจะหันไปบอกเพื่อน และเพื่อนของเขาก็รู้ดี นั่นทำให้เราแยกกัน โดยที่เพื่อนของพี่สายลมเดินไปทางอื่นส่วนเขาก็มาส่งฉันที่ห้องเรียนอย่างที่พูดจริง ๆ
ถึงเวลาเลิกเรียนตอนสิบเอ็ดโมงครึ่งวันนี้อาจารย์ปล่อยเร็วทำให้ฉันเลิกเร็วในระหว่างที่กำลังเรียนพี่สายลมก็เพิ่มเพื่อนมาในแชตของฉัน เขาส่งสติ๊กเกอร์น่ารักมาทักทาย เราพิมพ์ข้อความคุยกันนิดหน่อย ก่อนจะเลิกเรียนพี่เขาบอกฉันว่าเขารออยู่ที่หน้าตึกคณะ
ฉันเดินลงมาก็เห็นว่าพี่สายลมกำลังนั่งคุยกับเพื่อน ๆ กลุ่มเดิม ฉันไม่ค่อยกล้าเดินเข้าไปเท่าไหร่เพราะมีแต่ผู้ชายทั้งนั้นแต่พี่จีนเพื่อนของเขาหันมาเห็นฉันเลยเรียกฉันเสียงดังฟังชัดเลยทีเดียวเชียว
“น้องสะใภ้มาแล้ว” สะใภ้บ้า สะใภ้บออะไรล่ะ ฉันยังไม่ได้มีสถานะกับพี่สายลมเลยนะ
ตึก
พี่สายลมกระโดดลงมาจากโต๊ะที่เขาขึ้นไปนั่งคุยกับเพื่อน เดินตรงมาหาฉันพร้อมกับรอยยิ้มที่ยังคงอวดลักยิ้มบุ๋มที่แก้มด้านซ้ายเมื่อเดินถึงฉันก็ก้มศีรษะทักทาย
“พี่ถือกระเป๋าให้ครับ” ฉันไม่ค่อยคุ้นเคยกับอะไรแบบนี้มาก่อนเลยจริง ๆ แต่พอพี่สายลมยื่นมือมาทางฉัน ฉันกลับปฏิเสธเขาไม่ลงเลยจริง ฉันยื่นกระเป๋าผ้าให้เขาในกระเป๋ามีเครื่องใช้พร้อมหนังสือเรียนของฉันอยู่ในนั้น
“พวกมึง เดี๋ยวกูไปส่งน้องฝันก่อนนะ”
“เออ เจอกันที่สนามบอลนะ” พี่เคยพูดพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างน่ารัก
“เจอกันตอนดึก ๆ ครับน้องฝัน” พี่ขั้นเทพยิ้มให้ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนคนอื่นต่อ ส่วนฉันก็เดินเคียงข้างไปกับพี่สายลม เขาล้วงมือลงไปในกระเป๋าผ้าของเขาหยิบเอาน้ำเปล่าขวดเล็กยื่นมาให้ฉัน มันยังเย็นอยู่เพราะมีหยดน้ำเกาะเต็มขวด อีกทั้งในตอนที่สัมผัสฉันก็รับรู้ได้เลยว่าเขาน่าจะซื้อมาก่อนที่ฉันจะเลิกเรียนไม่นานด้วยซ้ำ
“เหนื่อยมั้ยครับ ดื่มน้ำก่อนนะ”
“ขอบคุณค่ะ” ฉันไม่เคยถูกเอาใจใส่แบบนี้มาก่อนเลย มันทำให้ฉันใจเต้น และมองเขามากขึ้นกว่าเดิม ฉันเปิดขวดน้ำ ใส่หลอดแล้วดูดมันจนหนำใจ มันทำให้ฉันหายเหนื่อย หายกระหาย แถมยังรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย
ปึก!
พี่สายลมปิดประตูให้หลังจากที่ฉันขึ้นไปนั่งบนรถคันหรูของเขาแล้ว จากนั้นเขาก็วิ่งมาขึ้นในฝั่งคนขับ
“ไปกันเลยนะครับ”
“ค่ะ” ภายในรถเปิดแอร์เย็นฉ่ำเรียกได้ว่าความร้อนจากแสงอาทิตย์ด้านนอกทำอะไรฉันกับพี่สายลมไม่ได้เลย แต่ขณะที่ขับรถกลับมาก็ไม่มีการพูดคุยกันเลยแม้แต่น้อย กระทั่งขับมาถึงที่พักของฉัน ฉันปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกำลังจะลงรถ พี่สายลมก็พูดขึ้นมา
“พี่อยากชัดเจนว่าพี่จีบน้องฝันได้ใช่มั้ยครับ” ฉันเองก็ใจเต้นแรงกับคำพูดของเขาเหมือนกัน อันที่จริงถ้าฉันปล่อยเบลอไปแบบนี้มันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น
“ประวัติพี่ขาวสะอาดมากนะครับ น้องฝันถามใครดูก็ได้ พี่ไม่เที่ยวคลับ พี่ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า พี่ไม่เจ้าชู้ และพี่ก็โสดมาสามปีแล้วครับ” เขาขายตัวเองน่าดู ฉันเม้มปากแน่นแล้วหันไปพูดกับเขาอย่างชัดเจนเหมือนกัน
“ฝันไม่รู้ว่าฝันจะชอบพี่ได้มั้ยนะคะ แต่ฝันไม่ได้ปิดกั้นว่าพี่ห้ามจีบ” ฉันก็อายนะแต่เหมือนกับว่าพี่สายลมจะรู้สึกดีกับคำพูดฉันเพราะเขายิ้มกว้างมากเลยล่ะ
“งั้นพี่ขอจีบน้องฝันนะครับ ติดหรือไม่ติดค่อยว่ากันในตอนนั้นแล้วกันนะครับ”
“ค่ะ”