พันดาวถึงกับกะพริบตาปริบ ๆ และอ้าปากค้างอีกครั้ง ด้วยเธอพอจะรู้มาว่า ห้องพักของแดนเหนือนั้น ผู้ที่จะเข้าไปได้นอกจากคุณย่าก็คือเพื่อนที่เขาสนิทเท่านั้น ไม่เคยมีผู้หญิงที่ไม่ใช่เพื่อนเข้าไป จะมียกเว้นก็เพื่อนสาวคนสนิทอย่างเพชรลดาที่เธอยังไม่กล้าคาดเดาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ เพราะกลัวว่าความหวังที่ตนเองมีอยู่จะพังทะลายลงไป ถึงแดนเหนือจะไม่รักไม่ชอบ แต่เธอก็อยากที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไปให้นานอีกหน่อยละกัน แต่ค่ำคืนนี้เขากลับจะพาเธอเข้าไป มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน หรือแดนเหนือกินอะไรผิดสำแดงมา
“ใช่...ใช่ค่ะ” พันดาวตอบเสียงแผ่วเบา
“ผมเชื่อใจคุณคนน่ารักนะครับ คุณจะไม่พาผมไปเป็นอันตรายแน่นอน...น่ารักขนาดนี้ ต้องพาผมไปพบความสุขสิ...ใช่ไหมครับ”
“ใช่...ใช่ค่ะ” พันดาวตอบกลับไปอย่างกับคนละเมอ เธอทอดสายตามองใบหน้าคมเข้มที่โน้มมาหา แต่เมื่อริมฝีปากของเธอกับแดนเหนือกำลังจะสัมผัสกัน ชายหนุ่มกลับหยุดไปเสียเฉย ๆ ทำเอาเธอใจเสีย เพราะคิดว่าตอนนี้แดนเหนือคงจะเริ่มมีสติขึ้นมาแล้ว เรื่องระหว่างเธอกับเขาก็คงจะจบลงตรงนี้ แต่...
“ถ้าจูบคุณตอนนี้ ผมคงจะหยุดไม่ได้ ถ้าหากว่าผมได้กอด ได้หอมคุณ ผมก็อยากให้เป็นห้องหับที่มิดชิด ไม่ใช่ในรถที่คับแคบแบบนี้” แดนเหนือรีบบอกเมื่อเห็นใบหน้านวลผุดผาดหมองเศร้า
“ฉัน...แค่คิดว่าไปทำอะไรให้คุณไม่พอใจเสียอีก” พันดาวรีบบอกออกอย่างโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นเรามาเปลี่ยนที่กันดีกว่าค่ะ ฉันจะได้ขับรถพาคุณกลับห้อง”
“คุณรู้ว่าห้องผมอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
“เปล่านะคะ เราเพิ่งเจอกัน ฉันจะรู้ได้ยังไงกันละคะ คุณอยู่ที่ไหน คุณถามแปลกจัง” ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ ก็คอยไปแอบมองชายหนุ่มอยู่บ่อยครั้งนี่นา “ต้องเป็นคุณคอยบอกเส้นทางฉันสิคะ”
“นั่นสิ” แดนเหนือพยักหน้ารับ “คุณอย่าเพิ่งลงจากรถนะครับ”
“ทำไมละคะ” พันดาวถามอย่างไม่เข้าใจแต่แดนเหนือกลับยืนมา ปลายนิ้วยาวแนบที่ริมฝีปากของเธอ อีกทั้งศีรษะทุยก็ส่ายไปมาเล็กน้อยห้ามมิให้พูด ก่อนเขาจะก้าวลงจากรถแล้วเดินมาเปิดประตูฝั่งที่เธอนั่งอยู่จากนั้นก็...
พันดาวได้แต่อ้าปากค้าง ดวงตากลมโตเบิกกว้าง เมื่อแดนเหนืออุ้มเธอพาไปวางตรงที่นั่งของคนขับ ก่อนจะพาตนเองไปนั่งประจำที่พร้อมกับบอกเส้นทางให้เธอ
ความจริงเธออยากรู้นะ ห้องของแดนเหนือเป็นแบบไหน มีอะไรวางอยู่ตรงไหน ผนังห้องทาสีอะไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเขาพาเธอเข้าไปในห้องแล้วก็คือ...
แดนเหนืออุ้มเธอขึ้นให้สองขาเรียวยาวโอบรัดรอบกายเขา สองแขนยกขึ้นพาดบนไหล่กว้าง ก่อนที่เขาจะดันจนแผ่นหลังของเธอแนบไปกับประตูห้องแล้วเขาก็...
“รู้ไหมว่าผมอยากทำอย่างนี้ตั้งแต่แรกเห็นคุณเลย” เมื่อพูดจบแดนเหนือก็กดริมฝีปากลงไปบนปากอิ่มนุ่ม ขบกัดสลับบดคลึงด้วยแรงอารมณ์อันรุนแรงที่มันรุมเร้า ขณะที่มือหนาก็ดึงเอาชายเสื้อที่หญิงสาวใส่ออกจากตัวกางเกงผ้าเนื้อนิ่ม แล้วสอดเข้าไปสัมผัสกับผิวเนื้อนุ่มลื่นมือ
ผลที่เกิดขึ้นไม่ได้เหนือความคาดหมายที่เธอคิดไว้ แต่ที่คิดไม่ถึงก็คือการกระทำของแดนเหนือที่พอเข้าห้องได้ก็ยิ้มใส่ดวงตาเธอก่อนเขาจะแนบปากลงมา...จูบจนเธอหายใจหายคอไม่ทัน จูบที่ทำให้เธอได้แต่มึนงงจนไม่รู้จะรับมือกับธารอารมณ์ที่มันพุ่งพล่านไปทั่วร่างได้ยังไง ยิ่งเมื่อจูบของแดนเหนือเต็มไปด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน ก็ยิ่งทำให้เธอทำตัวไม่ถูก ได้แต่ส่งเสียงร้องแผ่วเบาออกไปเท่านั้น
แดนเหนือเคลื่อนปากไปขบกัดใบหูเล็ก ก่อนจะย้ายไปคลอเคลียกับลำคอระหง แล้วเคลื่อนกลับขึ้นมาจูบปากอิ่ม บดคลึงสลับขบกัดก่อนจะสอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปภายในโพรงปากเล็ก กวาดไล้ไปจนทั่วก่อนจะเกี่ยวรัดกับลิ้นเล็กที่ไม่รู้ว่าควรจะถอยหนีหรือให้ความร่วมมือดี มันทำให้เขาร้อนรุ่มด้วยความต้องการอย่างที่สุด
สองมือหนาแนบบนใบหน้านุ่ม มองกลีบปากอิ่มที่ตอนนี้บวมช้ำก่อนจะมองสบสายตากับคนในอ้อมแขนที่สองแก้มแดงเรื่อ ในดวงตากลมใสแจ๋วมองมาด้วยความอยากรู้...อยากลอง แต่ขณะเดียวกันก็มีท่าทางเขินอายที่มันทำให้เขาอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
นิ้วยาวลากไล้บนแก้มใสซับสีเลือด “ถ้าตอนนี้ ฉันอยากจะเห็น...อยากจะสัมผัสกับผิวนุ่ม ๆ โดยไม่มีอะไรขวาง คนน่ารักจะให้ฉันเอาเสื้อออก...ได้ไหม”
มาถึงขนาดนี้แล้ว มีหรือที่เธอจะเล่นตัวให้แดนเหนือหงุดหงิดรำคาญใจนะ ก็เธออยากถูกแดนเหนือจับโยนลงบนเตียงแล้วคลุกเคล้าคลอเคลียแนบชิด ฝังกายในความอบอุ่นฉ่ำนุ่มจะแย่แล้ว ความอยากมีมากล้นจนตัวสั่นไปหมดแล้ว พันดาวรีบพยักหน้า แต่...
“ได้ไหมครับ...คนน่ารัก”
ตอนแรกพันดาวก็งุนงงว่าแดนเหนือยังจะขออนุญาตทำไม ในเมื่อเธอพร้อมที่จะให้เขาในทุกอย่างอยู่แล้ว แต่เมื่อได้มองสบสายตาและได้เห็นชายหนุ่มยิ้มพลางส่งปลายนิ้วมาสัมผัสกับกลีบปากอิ่มนุ่มก็พอจะเข้าใจว่าเขาอยากให้เธออนุญาติ “ได้ค่ะ”
“ได้อะไรครับ”
“ก็...ยอมให้คุณเอาเสื้อฉันออกไปไงคะ” พูอออกไปแล้วก็อื้อ...ถึงจะอาย แต่ก็มีความสุขมาก ถ้ามันจะเป็นความฝันที่ดีขนาดนี้ ถ้าหากเป็นไปได้ เธอจะขอนอนไม่ต้องตื่นมาเลย ยิ่งชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะเสียงแหบพร่าก็ทำให้พันดาวรู้สึกเหมือนกับว่ามีดวงดาวรายล้อมรอบตัว ทั้งเขินจนสองแก้มร้อนผ่าวไปหมดและสุขจนตัวจะแตกด้วย
“ถ้าอย่างนั้น...”
ถึงจะอนุญาตไปแล้ว หากเมื่อตัวเสื้อที่ใส่เริ่มเคลื่อนลงจากบ่า หัวใจพันดาวก็เต้นระรัวราวกับจะทะลุออกมาจากอก เขินอาย...ใช่อยู่ แต่เธอก็กลัวอย่างหนักเลยล่ะ กลัวว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะไม่ชอบรูปร่างของเธอ แล้วมันจะทำให้เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากนี้...หายไป! หากเมื่อได้ยินคำพูดจากปากของแดนเหนือ...
“รู้ไหม...ผิวเธอสวยมากเลยนะ”
พันดาวได้แต่มองหน้าคนพูดที่สองมือลูบไล้ต้นคอระหงไล่ลงมาถึงหัวไหล่
“เนียนแล้วก็นุ่มมือมากด้วย”
ตอนแรกเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กังวลว่าแดนเหนือจะรังเกียจ หากตอนนี้พันดาวได้แต่เฝ้ารอด้วยใจที่เต้นระทึกตามติดมือใหญ่ที่ลูบไล้ผิวเนื้อนุ่มลื่นอย่างเชื่องช้า ยิ่งเมื่อปากของแดนเหนือแนบลงบนไหปลาร้า สองขาของพันดาวก็อ่อนแรงจนทรุดลงไป แต่ดีว่าได้แขนแข็งแกร่งรีบตวัดโอบกายเล็กไว้ได้ทัน