“จะบ้าหรือไง ฉันบอกคุณแล้ว ไปหาผู้หญิงคนอื่น” เธอใช้กำลังที่เหลืออยู่น้อยเต็มทีทุบไปยังร่างใหญ่ แต่ก็สู้เขาไม่ได้ อุมาริการ์ตกอยู่เบื้องล่างแล้ว เธอถูกใบหน้าคมของเขา ริมฝีปากร้อนรัก และปลายลิ้นเรียว ๆ สำรวจไปทั่วร่างกาย
ร่างบางเหนื่อยที่จะต้องร้องห้าม ตอนนี้นัยน์ตาพร่า ความรัญจวนที่เขาจงใจสร้างขึ้น ทำให้เธอต้องยอมรับมันโดยดุษณี
ตัวของดอกไม้อ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟ ครั้งที่สองเขาดูอ่อนโยน และทำอย่างเบามือ เธอถึงกับผวาเฮือกตอนเขาประชิดใบหน้าจูบรับขวัญสาวเจ้ากลางกลีบงาม กระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของเธอให้กระเจิดกระเจิง
เสียงดนตรีที่กระหึ่มไม่มีทีท่าจะหยุดลง กับเพิ่มจังหวะเมามัน เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่บนเตียงนุ่ม ๆ กำลังบรรเลงเพลงรักเพลงกามอย่างหนักหน่วง
ดอกไม้แตะขอบสวรรค์ไปครั้งแล้วครั้งเล่า ส่วนชายหนุ่มผู้เจนจัดได้แต่ยกยิ้มพอใจที่ส่งสาวสวยไปสวรรค์ได้บ่อย ๆ ส่วนตัวเขากว่าค่ำคืนนี้จะจบลง คงได้กินน้ำหวาน และลิ้มเกสรกลีบงามจนพอใจ
ดอกไม้หยุกหยิกอยู่ในอ้อมแขนของตรินัย เธอลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าของเขาอยู่ใกล้ ๆ เมื่อคืนกว่าจะได้นอน เขาก็ชำเราเธอจนเสียงดนตรีภายนอกเงียบไป เธอหลับลงไปด้วยความอ่อนเพลีย
เขายังคงหลับตาสนิท หน้าตายังฉาบรอยยิ้มจาง ๆ
‘คนทุเรศ นอนหลับยังมีหน้ามายิ้ม’ เธอต่อว่าเขาอยู่ในใจ
ดอกไม้ยกแขนที่ก่ายกอดตัวเธอออกไปให้พ้นตัว พยุงตัวลุกขึ้นนั่ง ทำท่ายกมือขึ้นมาจะทุบไปที่ตัวของเขา แต่ก็ชะงักมือเอาไว้ เพราะหากเขาตื่น เธอก็คงทำหน้าไม่ถูก อีกอย่างกลัวเขาจะทำอะไรกับเธอต่ออีกด้วย
หญิงสาวขยับตัวและก้าวลงจากเตียงอย่างช้า ๆ รู้สึกเมื่อยขบและปวดร้าวไปทั้งตัว แค่ขยับก็เจ็บเสียดเสียวตรงใจกลางเรือนร่างแปล๊บ ๆ เธอไม่วายหันไปทำตาขวางใส่ผู้ชายตัวใหญ่ที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ตรงหน้า
แค่นึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอก็หน้าออกร้อนผ่าว ๆ รีบก้มเก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่หล่นอยู่ใกล้ ๆ รวบขึ้นมา ส่ายสายตาหาห้องน้ำ ก่อนจะเร่งฝีเท้าอย่างเบาเร่งตรงไปจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อย
กระเป๋าเป้ของเธอยังวางอยู่ที่เดิม เธอหาเสื้อผ้าที่รัดกุมในกระเป๋าออกมาใส่แทนเสื้อผ้าที่ยั่วยวนชุดที่เธอใส่จนได้เรื่อง
อุมาริการ์มองหากระเป๋าของทับทิม แต่มันก็ไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว
‘ยายทับทิม แกทิ้งฉันได้ลงคอนะ’ เธอต่อว่าเพื่อนอยู่ในใจ รีบเดินออกจากห้องทำงานของตรินัย มุ่งตรงไปยังด้านล่าง เธอพบเพียงพนักงานหญิงที่แต่งตัวเป็นแม่บ้านสองคน ที่กำลังเก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณในผับอยู่ แม่บ้านทั้งสองมองตรงมายังเธอ ที่เดินลิ่ว ๆ เข้ามาหา
ทุกคนเห็นจนชินตา ผู้หญิงของคุณตรินัย หรือไม่ก็คงเป็นผู้หญิงของคุณดรูว์ ที่มักจะค้างกันที่นี่แทบจะทุกคืน และงานอดิเรกกลางคืนของเจ้านาย คือการสำเร็จโทษสาว ๆ ที่เขาหมายปอง หรือไม่ก็ผู้หญิงที่วิ่งหาความสำราญรักสนุกแต่ไม่ผูกพัน บางคนก็ทำเพื่อแลกเงิน
แม่บ้านสองคนมองหน้ากัน ก่อนที่จะยิ้มที่มุมปาก ไม่พูดไม่จา แต่ยกนิ้วชี้ไปทางช่องทางเดินเล็ก และมีประตูด้านหลังร้านที่เปิดอ้าค้างไว้อยู่ สายตาที่สองแม่บ้านมองมายังดอกไม้ เธอถึงกับหน้าร้อนด้วยความไม่พอใจ และรู้สึกกระดากอาย
‘คงจะพาสาว ๆ มานอนทุกคืนซินะ ฉันไม่ได้เป็นเหมือนผู้หญิงพวกนั้นนะ ไอ้บ้าเทมป์’
เธอได้แค่คิด แต่ทำอะไรไม่ได้ รีบเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ดอกไม้รีบโบกแท็กซี่ก่อนจะบอกให้คนขับมุ่งตรงไปยังที่พักของเธอ
ตรินัยตื่นแล้วแต่ยังไม่ได้ลืมตา ใช้มือควานหาร่างของดอกไม้ แต่ก็พบแต่ความว่างเปล่า เขายกมือขึ้นขยี้ตา ก่อนจะลืมตามองส่ายหาร่างของเธอ
“ดอกไม้ คุณ... คุณดอกไม้” เขาเรียกชื่อเธอออกไปสองสามครั้ง แต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ
เขารีบลุกออกจากที่นอนทั้ง ๆ ที่ร่างกายเปลือยเปล่าเดินโทง ๆ ออกมาหาหญิงสาวไปทั่วทั้งห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา พบเพียงกระดาษโน้ตที่ติดอยู่ตรงหน้ากระจกในห้องน้ำ
(‘คนเลว’) ข้อความสั้น ๆ แต่กินความหมายได้ลึกซึ้งจริง ๆ
เทมป์หยิบมันออกมาจากกระจก เห็นหน้าตัวเองที่เด่นชัดอยู่ในกระจกตรงหน้า ก็หัวเราะออกมาแบบขำ ๆ นึกไปถึงหน้าตาของแม่หญิงงามนามว่าดอกไม้ ก็ยิ้มละไม
ร่างบางที่ร้องไห้กระซิก ๆ ทุบหน้าอกของเขาเบา ๆ ตอนที่เขาเสร็จกิจครั้งสุดท้าย ทำให้ตรินัย ยิ่งกอดรัดเธอเอาไว้แน่น
“อย่าร้องนะ เดี๋ยวตาบวมนะ” คำพูดปลอบใจที่ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย เขายิ้มอย่างมีความสุข พอใจมากมายกับเกมรักที่สนุกในค่ำคืนนี้ แต่เธอคงไม่ได้สนุกด้วยอย่างที่เขาเป็น เขาก็รู้ว่าเธอไม่ได้ยินยอม แต่ขัดขืนเขาไม่ได้นั่นเอง และนี่ก็เป็นครั้งแรกของเขาเหมือนกันที่ฝืนใจคู่นอนของตัวเอง
เทมป์เดินหยิบมือถือของตัวเอง ก่อนจะรีบกดเข้าไปหาหญิงสาว(“ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก”) นี่เป็นคำตอบจากปลายสาย
เขาถอนหายใจออกมาเบา ๆ นึกพะวงไปถึงใบหน้านวลป่านนี้ไม่ร้องไห้ขี้มูกโป่งไปแล้วหรือ
อีกห้อง วีไอพี สีชมพู ฮาเร็มร้อนรักของมิสเตอร์ดรูว์
หนุ่มสาวสองคนที่นอนก่ายกอดกันอยู่บนเตียงทั้งเสื้อผ้า สรุปทั้งดรูว์และทับทิมต่างเมามายมากทั้งคู่ จนไม่ได้ทำอะไร ๆ เหมือนที่ดรูว์ตั้งใจ เขาเมาปลิ้นเลยก็ว่าได้ สนุกเหมือนได้เพื่อนที่รู้ใจ สองคนกอดคอกันร้องเพลงของพี่ตูน บอดี้สแลมได้เกือบทุกเพลง ทั้งกระโดดเหยง ๆ ไปตามจังหวะเสียงเพลงด้วยความสนุก
“โครม...โป๊ก” เสียงของที่มีน้ำหนักมากหล่นลงไปจากเตียง และเสียงเหมือนของแข็งที่กระแทกไปกับบางสิ่ง
“โอ๊ย” ตามมาด้วยเสียงร้องที่บอกว่าเจ็บของผู้ชายที่หล่นลงไปกระแทกกับพื้นห้อง และหัวที่กระแทกกับข้างฝาเสียงดัง
ฝ่าเท้าน้อย ๆ ที่ยันเข้าไปอย่างตั้งใจ ตอนเธอตื่นขึ้นมา แล้วมีลมหายใจปนแอลกอฮอล์เหม็นคลุ้งอยู่ใกล้ ๆ กลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวเธอก็พอทำเนาแล้ว ยังมาผสมกับกลิ่นที่มาจากชายหนุ่มอีก ทำให้เธอแทบอ้วก
“ทำอะไรน่ะ อะไรของคุณ” เสียงดรูว์พูดขึ้นน้ำเสียงยังอ้อแอ้ พยายามยันตัวเองที่ยังโคลงเคลงเต็มที่ ขึ้นมาอยู่บนเตียง
“คุณไม่ได้ทำอะไรฉันใช่ไหมเมื่อคืนนี้” คำถามที่เธอถามออกไป พร้อมกับยกมือขึ้นมากุมหน้าอก และลูบเปะปะเพื่อสำรวจว่าเสื้อผ้าของตัวเองยังอยู่ไหม และสายตาที่จ้องมองเขาสำรวจด้วยว่า เขาได้ถอดเสื้อผ้าออกไปบ้างหรือเปล่า