เมื่อเหมยลี่อิน กลับมาถึงยังตำหนักของตน นางก็ให้รีบเข้าไปเปลี่ยนอาภรณ์เสียใหม่ เมื่อเข้ามายังด้านในตำหนักก็พบว่าสาวใช้ของตนกำลังรอคอยนางด้วยท่าทีกระวนกระ วาย
"คุณหนูในที่สุดท่านก็กลับมาแล้วรู้หรือไม่ว่าถิงถิง ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับอยู่แล้ว นี่มันยามไหนแล้วเจ้าคะ เหตุใดถึงได้ไปนานนักเล่า"
"ช่วงที่ข้าไม่อยู่มีเหตุอันใดเช่นนั้นหรือ"
"มีสิเจ้าค่ะ เมื่อครึ่งชั่วยามก่อนลู่ลู่ออกไปดูอาหารว่างมาไว้ให้คุณหนู เผื่อคุณหนูกลับมาจะหิวเอาได้ แต่จนกระทั่งถึงตอนนี้ ลู่ลู่ยังไม่กลับมาเลย ถิงถิงให้ร้อนใจยิ่งนักเจ้าค่ะคุณหนูไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับนางหรือไม่"
"งั้นเจ้ารีบมาเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับข้าโดยไว ข้าจะไปดูเสียหน่อย"
เมื่อเป็นเช่นนั้นทั้งนายทั้งบ่าวก็รีบเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับเหมยลี่อินอย่างรวดเร็ว และรีบออกไปค้นหาลู่ลู่ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับนางหรือไม่ โดยปกติแล้วนางไม่ควรที่จะไปนานถึงเพียงนี้ เหมยลี่อินมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะต้องเกิดเหตุอันใดขึ้นกับสาวใช้คนสนิทของนางเป็นแน่ ทำให้ในใจของนางในตอนนี้ร้อนรุ่มดังไฟเผา หากเกิดอะไรขึ้นกับลู่ลู่ นางจะไม่ปล่อยพวกมันไปโดยง่ายเป็นอันขาด
เมื่อเดินมาถึงยังห้องครัว ภาพที่เห็นเบื้องหน้าก็เป็นไปอย่างที่เหมยลี่อินได้คาดคิดเอาไว้ ลู่ลู่ถูกแม่นมของหยุนฟางเซียนจับกุมเอาไว้ ยังมีรอยเลือดที่มุมปากนั้นอีก เมื่อเหมยลี่อินเห็นเช่นนั้น ก็พยายามกลั้นโทสะของตนเองเอาไว้ ไม่ให้ระเบิดออกมาเสียก่อน
"พวกเจ้ากำลังทำอะไรคนของข้า"
เสียงเยียบเย็นที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกนาง ถึงกับทำให้ขนลุกขนชันขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
"หม่อมฉันก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็เป็นพระชายาลี่อินนี่เอง สาวใช้ของพระชายาทำน้ำร้อนลวกใส่ขาของหม่อมฉัน ก็เลยต้องมีการลงโทษเสียหน่อย"
พร้อมกับใช้สายตาเย้ยหยันจ้องมาที่เหมยลี่อินอย่างดูถูก ในสายตาที่จ้องมานั้น ไม่ได้มีความยำเกรงในตําแหน่งพระชายาอีกคนของจวิ้นอ๋องเลยแม้แต่น้อย
"พวกเจ้ามีความขวัญกล้าอันใด ถึงได้กล้ามาลงโทษคนของข้ากัน มีการสืบความกันเรียบร้อยแล้วหรือก็หามีไม่ ในเมื่อพวกเจ้าใช้กฎคนหมู่มาก มาลงโทษคนของข้าเช่นนี้ ข้าก็ไม่ขอเกรงใจเช่นกัน ที่นี่คือตำหนักอ๋องคิดจะเหยียบหางของผู้ใด ก็ต้องดูเจ้าของของมันด้วย ในเมื่อพวกเจ้าไม่มีความยำเกรงข้าถึงเพียงนี้ ก็อย่ามาโทษที่ข้าใจดำก็แล้วกัน"
"พระชายาจะหาว่าหม่อมฉันเป็นพวกหมาหมู่ใช้คนหมู่มากรังแกคนของพระองค์เช่นนั้นหรือ หลักฐานก็มีให้เห็น พวกนางสามารถเป็นพยานให้กับหม่อมฉันได้ สาวใช้ของพระองค์ตั้งใจที่จะสาดน้ำร้อนมาถูกขาของหม่อมฉัน หาได้เกิดจากอุบัติเหตุไม่"
"คนที่เป็นพยานก็มีแต่คนของเจ้า หาได้มีความยุติธรรมอันใดมาตัดสินคดี เป็นเช่นนี้แล้วจะให้ข้าเชื่อในหลักฐานอีกเช่นนั้นหรือ ที่พวกเจ้าทำเช่นนี้ มิใช่ว่าทำเพื่อต้องการที่จะลบหลู่ข้าเช่นนั้นหรือ เป็นเพียงแม่นมขององค์หญิงต่างแคว้น ที่เป็นเพียงแค่สตรีบรรณาการ ไยถึงได้มีความหาญกล้าถึงเพียงนี้กัน"
"หุบปากของพระองค์บัดเดี๋ยวนี้ เป็นเพียงแค่ชายาที่ไม่ได้รับความเหลียวแล มีความกล้าอันใด ถึงได้มาพูดจาหมิ่นเกียรติขององค์หญิงเช่นนี้"
เพียงแค่แม่นมหลิวกล่าวจบก็เกิดเสียงดังเหมือนเสียงเนื้อกระทบกันดังสนั่น ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนไม่มีใครทันได้สังเกต ว่ามันคือสิ่งใด จนเมื่อมีเสียงกรีดร้องของแม่นมหลิวดังขึ้น
เหมยลี่อิน ใช้ฝ่ามือของตนตบลงไปที่ใบหน้าของแม่นมหลิวอย่างแรง ทันทีที่นางกล่าวจบ ในตอนนี้นางเพียงยืนลูบมือตนเองไปมาอย่างสาแก่ใจ
"เป็นเพียงแค่สุนัขรับใช้ เจ้ามีความกล้าอันใดมาเอ่ยกับข้าเช่นนี้ หากไม่ลงโทษให้หลาบจำเสียบ้าง ก็คงจะลืมไปแล้วกระมังว่าข้ามีตำแหน่งใดในตำหนักนี้ คนขององค์หญิงต่างแคว้นอบรมกันมาให้เป็นเช่นนี้หรือ ช่างต่ำเหมือนกับนายของมันไม่มีผิด"
"เจ้าหยุดกล่าววาจาสามหาวของเจ้าเดี๋ยวนี้"
เมื่อได้ยินคำของแม่นมหลิวกล่าวออกมาเช่นนั้นอีกครั้ง เหมยลี่อินก็ไม่รอช้าตบไปที่ใบหน้าของนางอีกสองครั้ง ถึงกับทำให้แม่นมหลิวล้มลงกับพื้นอย่างไม่เป็นท่าเสียยิ่งกว่าในคราแรก
"ในเมื่อเจ้ายังไม่มีความยำเกรงต่อข้าผู้ซึ่งเป็นนายในตำหนักนี้ เช่นนั้นก็อย่าได้มาหาว่าข้าใจดำก็แล้วกัน"
กล่าวเสร็จเหมยลี่อิน ก็ให้ถิงถิงไปเรียกองครักษ์ที่เฝ้ายามอยู่บริเวณใกล้เคียงมาพบนาง
"พวกเจ้าสองคนจับแม่นมหลิวตรึงเอาไว้กับพื้น ข้าจะตัดลิ้นของนางเสียโทษฐานที่กล่าววาจาดูหมิ่นข้าผู้เป็นนาย โดยไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง"
เมื่อองครักษ์มาถึง เหมยลี่อินก็รีบออกคำสั่งของตนแทบจะในทันที เมื่อองครักษ์ได้ยินคำสั่งนั้นออกมาจากปากของพระชายาเอกเหมยลี่อินก็ได้แต่ลอบมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ
เมื่อแม่นมหลิวได้ยินคำสั่งนั้นก็ให้แทบเข่าทรุดลงไปกับพื้นด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับจ้องมองไปที่เหมยลี่อินอย่างเกลียดชัง
"เจ้าจะมาทำกับข้าผู้ซึ่งเป็นถึงแม่นมของพระชายาหยุนฟางเซียนได้เช่นไร ถึงอย่างไรเรื่องนี้เจ้าก็ต้องแจ้งให้กับผู้เป็นนายของข้าให้ทราบ เจ้าจะมาใช้กฎคนหมู่มากมาลงโทษข้าเช่นนี้มิได้"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า แล้วตอนที่เจ้าลงโทษคนของข้า เจ้าได้ถามความกับข้าหรือยัง ข้าก็ใช้กฎเช่นเดียวกันมาลงโทษเจ้าเช่นไรเล่า"
เมื่อนางกำนัลที่เป็นคนของแม่นมหลิว เห็นท่าว่าทุกอย่างจะบานปลายไปในทางที่แย่ลง ก็รีบออกไปแจ้งให้กับพระชายาหยุนฟางเซียนได้ทรงทราบแทบจะในทันที ในตอนแรกนั้น แม่นมหลิวและพวกนางต้องการเพียงแค่จะกลั่นแกล้งสาวใช้ของเหมยลี่อินเพียงเท่านั้น ด้วยความที่สบโอกาสจึงใช้โอกาสนี้ทันที โดยไม่ได้คาดคิดว่าเรื่องราวจะเลวร้ายมาถึงขั้นนี้ได้
"ยังไม่รีบมาทำตามคำสั่งของข้าอีก หรือพวกเจ้าอยากเป็นฝ่ายถูกลงโทษเสียเอง"
เมื่อเหมยลี่อินเห็นว่าทหารองครักษ์ไม่มีทีท่าว่าจะทำตามคำสั่งของตน จึงได้กล่าวข่มขู่ออกไปอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา นางได้เห็นแล้วว่านางกำนัลอีกคนที่มากับแม่นมหลิวนั้น ได้ออกไปจากที่ตรงนี้เพื่อไปแจ้งให้กับนายของมันให้ได้รับทราบแล้ว ครั้งนี้นางจะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อเป็นตัวอย่าง พวกมันจะได้หลาบจำไม่มาเหิมเกริมกับนางอีก
เมื่อแม่นมหลิวถูกตรึงไว้กับพื้นที่เรียบร้อยแล้ว เหมยลี่อินก็เดินเข้าไปเบื้องหน้าแม่นมหลิวอย่างช้าๆ พร้อมกับลงมือตัดลิ้นของนางออกมาอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะกล่าวบางประโยคกับนางข้างใบหูได้ยินกันเพียงสองคน
"นี่แค่การเตือนเล็กๆ น้อยๆ จากข้า ที่เจ้าขวัญกล้ามารังแกคนของข้า หากเจ้ายังทำเช้นนี้อีก ข้ามีวิธีเป็นร้อยเป็นพันวิธีที่จะจัดการกับเจ้าอย่างสาสม จำใส่กะโหลกอันน้อยๆ ของเจ้าเอาไว้ให้ดี"
ทุกถ้อยคำที่เหมยลี่อินกล่าวออกมานั้น ล้วนแล้วแต่เชือดเฉือนจิตใจของคนฟังให้เจ็บแค้นเป็นอย่างมาก
"สายตาเช่นนี้คงจะมิยอมโดยง่ายสิน่ะ หึ! ข้าจะรอก็แล้วกัน"
"เหมยลี่อิน นั่นเจ้ากำลังทำเรื่องบ้าอันใดอยู่"
เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครนางก็ทำเพียงเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยเพียงเท่านั้นโดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะตอบคำถามใด ของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
"แม่นมหลิวนี่ท่านเป็นเช่นไรบ้างเหตุใดจึงได้มีสภาพเช่นนี้เล่า มันผู้ใดที่กล้าถึงขนาดทำร้ายท่านได้ลงคอ"
"อือ อือ"
เมื่อแม่นมหลิวเห็นว่าเป็นเจ้านายของตน ก็ให้ดีใจจนน้ำตาไหลพรากออกมาเหมือนกับทำนบแตก ในตอนนี้นางไม่สามารถจะกล่าวคำใดออกมาได้อีกแล้ว นางต้องการที่จะเอ่ยบอกเจ้านายของตนเป็นพันเป็นหมื่นคำถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เสียให้ได้ ความแค้นแค้นชิงชังที่มันปรากฏออกมาในดวงตาคู่นั้นของแม่นมหลิว เหตุใดหยุนฟางเซียนจะดูไม่ออกเล่า นางจึงใช้โอกาสนี้หันไปกล่าวกับจวิ้นอ๋องหยางจิวฮุ่ยในทันที
"เสด็จพี่ต้องทวงความเป็นธรรมคืนให้กับคนของน้องด้วย เกิดเรื่องเกิดราวถึงเพียงนี้ น้องจะไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปโดยเด็ดขาด"
หยุนฟางเซียนจ้องมองไปที่เหมยลี่อินอย่างชิงชังอย่างที่ไม่เคยแสดงออกเช่นนั้นมาก่อน เพราะโดยปกติแล้วในสายตาของนางจะมีเพียงความอ่อนหวานอ่อนโยนเพียงเท่านั้นที่แสดงให้กับผู้อื่นได้เห็น