Chapter 12

1343 คำ
สารวัตรมาวินพาหญิงสาวมาที่ร้านโอมากาเสะชื่อดังของจังหวัด เธอมองอย่างตื่นตาร้านถูกตกแต่งเหมือนไปต่างประเทศเลยอ่ะ เห็นในโซเชียลน่าไปมากซึ่งเธอคงต้องรอให้มีเงินเยอะๆถึงคิดจะไปซึ่งไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน “ตื่นเต้นเหรอเรา” เขาอมยิ้มกุมมือหญิงสาวเอาไว้อย่างเอ็นดู เขาเป็นตำรวจเจออะไรมามากมายไหนจะต้องทานข้าวกับคนใหญ่คนโตบ่อยก็เลยมีโอกาสกินของแพงและไปเปิดหูเปิดตาหลายที่ เชื่อเถอะถ้าวันหนึ่งนับดาวได้ทำงานเธอจะรู้ว่าที่เขาพาเธอมามันคือเรื่องปกติธรรมดาที่มนุษย์เงินเดือนเค้ามากัน และถ้าเธอเรียนจบมีงานทำเธอจะต้องปรับตัวเข้ากับสังคมวัยทำงาน “นิดหน่อยค่ะไม่เคยมานี่นา” “หนูฝึกไว้นะคะ เมื่อก่อนพี่ก็ไม่รู้จักของพวกนี้เท่าไหร่แต่พอวันหนึ่งเราได้ทำงานได้เข้าสังคมบางครั้งเราต้องปรับตัวนะ” เธอพยักหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่ชายหนุ่มกำลังแนะนำ เธอก็พอรู้ว่าสังคมคนวัยทำงานมันประมาณไหนฟังจากรุ่นพี่เล่ามาและอาจารย์แนะนำในชั้นเรียนอีกทีก็เข้าใจว่าเธอยังอ่อนต่อโลกมากนัก และจะใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้เข้าสังคมก่อนที่จะเจอสถานการณ์จริงๆ “หนูจะลองดูค่ะเผื่อต้องใช้ในตอนทำงาน” “ดีมากค่ะฝึกไว้ ว่าแต่พี่ไม่เคยถามเลยว่าหนูจะไปฝึกงานที่ไหน” เธอนั่งลงที่โต๊ะข้างชายหนุ่ม เขาก็ชวยคุยเรื่องทั่วไประหว่างรอเชฟรังสรรค์เมนูให้กิน “ถ้าหนูจะไปฝึกงานที่กรุงเทพคุณว่ายังไงคะ เค้าบอกว่าที่นั่นทำงานหนักมากแต่ว่าเงินคุ้มค่าค่ะ เดือนหนึ่งหลายแสนหนูอยากไปทำงานเก็บเงินค่ะ” ชายหนุ่มหุบยิ้มทันทีไม่รู้ว่าจะให้คำตอบเรื่องนี้ยังไงดี พูดถึงอนาคตของหญิงสาวเธอสามารถก้าวหน้าไปไกลได้อีกเยอะ และถ้าเขารั้งเธอไว้คงดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย “ก็แล้วแต่หนูสิคะ มันคืออนาคตเรานี่เนาะพี่ควรจะสนับสนุนและส่งเสริมไม่ใช่ขัดขวางจริงมั้ย” เธอพยักหน้ายิ้มๆก่อนจะหันไปสนใจสิ่งตรงหน้า ใจก็ห่วงแม่มากแต่ท่านก็บอกว่าไปเถอะแม่ยังแข็งแรงอยู่ได้สบายมาก ไปทำงานเก็บเงินให้เยอะๆถึงตอนนั้นค่อยกลับมาอยู่ด้วยกันก็ไม่สาย “อันนี้เมนูแรกค่ะลองชิมสิ” เธอตักชิมทำตามที่เขาบอกก่อนจะพยักหน้ายิ้มๆเมื่อรสชาติอร่อยถูกปากมาก แต่ว่าคำเล็กนิดเดียวยังกินไม่อิ่มเลยอ่ะ “อร่อยมั้ยคะ” “อร่อยค่ะแต่ว่าให้น้อยจัง” “มีสิบกว่าคำหนูจะรีบอิ่มไปทำไมล่ะ” เขายื่นมือไปลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะแนะนำให้เธอลองชิมจานต่อไปอีก ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ด้วยกันเธอดูตื่นเต้นกับเมนูตรงหน้ามาก ไม่เคยเห็นมาก่อนและรสชาติแปลกใหม่เปิดโลกเธอมาก “อร่อยจังเลย” “กินเยอะๆไม่พอกินของพี่ก็ได้” เขาส่งจานของตัวเองไปให้ไม่ซีเรียสว่าจะได้กินหรือเปล่าเพราะเขาก็ค่อนข้างกินบ่อยถ้ามากับคนใหญ่คนโต แต่ทั่วไปก็กินข้าวแกงธรรมดาเนี่ยแหละรู้สึกเป็นตัวเองมากกว่า “ขอบคุณนะคะที่พามากินของอร่อย ชอบมากเลยค่ะ” “พี่บอกแล้วว่าหนูต้องชอบกินแน่นอน” ทั้งสองคนนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยใช้เวลานานกว่าจะอิ่มท้องและเรียกพนักงานเช็คบิล เขารับใบเสร็จมาดูก่อนจะแสกนจ่ายเงินเรียบร้อย “เท่าไหร่เหรอคะ” “ไม่ต้องรู้หรอกเราอ่ะ” เขาซ่อนใบไว้ไม่ให้เธอเห็นเพราะไม่งั้นจะบ่นไม่เลิกเขาขี้เกียจทะเลาะด้วย หญิงสาวรู้สึกคาใจมากแย่งมาดูให้ได้ก่อนจะตาโตอย่างตกใจเมื่อโอมากาเสะที่เธอกินไปราคาเกือบหมื่น “โห! แพงมาก” เธอบ่นออกมาเสียงเบารีบดึงเขาออกมาจากร้านและคิดว่าคงไม่มากินอีกต่อให้มันจะอร่อยแค่ไหนก็เถอะ “ทำไมมันแพงขนาดนี้คะราคาเกือบหมื่น กินมื้อเดียวเราต้องกินแพงขนาดนี้เลยเหรอคะ” “ก็นานๆกินทีนึ่งคิดมากทำไมคะ” เขาอมยิ้มมองหญิงสาวอย่างเอ็นดู เธอหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาอยากจะช่วยค่าอาหารชายหนุ่มจะได้ช่วยกันออก “หนูช่วยจ่ายค่ะ” “ไม่ต้องค่ะไม่ต้องช่วยจ่ายอะไรทั้งนั้น พี่เลี้ยงเองให้รู้ไว้แค่นี่พอค่ะ ขอแค่หนูมากินข้าวด้วยกันพี่ก็พอใจแล้ว” เขากุมมือคนรักก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงหวาน เธอรู้สึกได้เลยว่าเขาจริงใจกับเธอมากและการที่มีเขาในทุกวันก็ไม่ได้แย่เลย “คราวหลังไม่กินแพงขนาดนี้แล้วนะคะ” “ได้ค่ะพี่รับปากว่าจะไม่พาไปกินของแพงขนาดนี้อีก งั้นไปเที่ยวกันดีกว่าหนูจะได้เดินย่อยด้วย” “ได้ค่ะงั้นไปกันเถอะ” เธอยิ้มกว้างออกมาก่อนจะกุมมือกันเดินออกไปจากตรงนั้น วันนี้เขาทำให้เธอประทับใจมากถึงแม้ว่าความประทับใจมันจะใช้เงินเยอะมากก็เถอะ แต่มันทำให้เธอได้เห็นมุมมองใหม่ๆซึ่งคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อเธอในอนาคตแน่นอน ใช้เวลาทั้งวันในการอยู่กับเขาไปเที่ยวคาเฟ่หลายที่ได้ถ่ายรูปโดยมีเขาเป็นช่างกล้องให้ด้วย รู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวแบบเมื่อก่อนอีกแล้วและมันมีความสุขมากขึ้นแปลกมากจริงๆ หลังจากที่เที่ยวจนเหนื่อยเขาก็พาหญิงสาวไปนอนพักที่บ้านพักของเขา หลอกล่อมาด้วยแหละเพราะเธอให้เขาไปส่งที่บ้านแต่มีหรือที่เขาจะยอม “นอนพักมั้ยเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว” “หนูต้องอ่านหนังสือก่อนค่ะถึงจะนอนได้ คุณนอนก่อนก็ได้นะคะ” “ไม่เอาอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า พี่ว่าพรุ่งนี้จะบอกแม่นับเงินว่าพี่กับเรากำลังคุยกันอยู่” นับดาวหันขวับไปมองชายหนุ่มอย่างตกใจ ทำไสถึงคิดอยากจะบอกแม่เธอแบบนั้นทั้งที่เราคุยกันแล้วว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร “ไหนบอกว่าจะไม่บอกแม่ไงคะทำไมถึง…” “พี่พาหนูมานอนค้างด้วยแบบนี้ มันคงไม่ดีถ้าท่านรู้จากปากของคนอื่น เราสารภาพไปตามตรงให้ท่านรู้จากปากเราเองไม่ดีกว่าเหรอ แม่หนูท่านดูมีเหตุผลนะพี่คิดว่าท่านน่าจะเข้าใจ” เขาไม่อยากให้ใครก็ตามที่มาเห็นเราสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆเอาไปนินทาให้ท่านฟัง คงจะเสียความรู้สึกมากถ้ามารู้ว่าลูกโกหก นับดาวเงียบไปอย่างคิดหนักมันก็จริงอย่างที่เขาพูดถ้าบอกไปให้รู้จะได้ไม่ต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง “งั้นบอกแค่เรากำลังคุยกันอยู่พอนะคะ” “ทำไม… กลัวโดนจับแต่งงานกับพี่เหรอไง” เขายิ้มออกมาขำๆเอ็นดูในความระแวงของหญิงสาวในอ้อมกอด เธอยิ้มแห้งออกมาพยักหน้ายอมรับตามตรง ถ้าให้แต่งงานตอนนี้เธอไม่พร้อมและยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ถ้าเขารักเธอจริงต้องอดทนรอให้ได้ “หนูต้องทำงานหาเงินก่อน คุณเข้าใจนะคะ” “อื้มเข้าใจค่ะ งั้นตกลงตามนี่พรุ่งนี้เช้าพี่จะบอกความจริงกับแม่นับเงิน..” “ค่ะ ตกลงตามนี้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม