นับดาวนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงนอนโดยมีสารวัตรมาวินนอนกดโทรศัพท์อยู่ข้างหญิงสาว ตอนนี้หญิงสาวกำลังใจจดใจจ่อกับสิ่งตรงหน้า และเวลาที่เธอตั้งใจทำอะไรมันดูมีเสน่ห์น่ามองไปหมด
“จ้องหน้าหนูทำไมคะ”
เธอเอ่ยถามแต่สายตายังจ้องมองหนังสือเรียนอยู่ ชายหนุ่มยื่นใบหน้าไปจุ๊บไหล่หญิงสาวก่อนจะขยับเข้าไปใกล้สวมกอดเธออย่างออดอ้อน
“ยังไม่เสร็จอีกเหรอคะ พี่อยากกอดหนูแล้วนะ”
“คุณนี่นะทำแบบนี้บ่อยๆหนูจะสอบตกเอา ไม่มาค้างด้วยบ่อยๆนะคะเสียการเรียนหมด”
เธอเหลือบสายตามองชายหนุ่มก่อนจะส่ายหน้ายิ้มๆ เธอปิดหนังสือเรียนเก็บใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยจากนั้นก็เดินมานั่งลงข้างชายหนุ่ม
“จะนอนหรือยังคะ”
“ไม่อยากนอนอยากทำอย่างอื่น”
เขายิ้มมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะโน้มตัวหญิงสาวลงบนเตียงจากนั้นก็ทำตามใจตัวเองปรารถนา ช่วงนี้เธอใจดีเขาต้องกอบโกยเยอะหน่อยอีกหน่อยหญิงสาวต้องไปฝึกงาน จะต้องทำงานและเราสองคนอาจจะอยู่ห่างกันถึงตอนนั้นเขาต้องอดทนและผ่านมันไปให้ได้
“เจ้าเล่ห์ที่สุดเลยคุณเนี่ย”
วันต่อมา…
หญิงสาวตื่นนอนแต่เช้าเธอลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เรียบร้อยจากนั้นก็เรียกชายหนุ่มให้พาไปส่งที่บ้านเพราะเธอต้องไปอ่านหนังสือที่บ้านต่อ ส่วนเขาก็คงไปทำงานตามปกติและวันนี้เธอคงจะค้างที่บ้านมาที่นี่บ่อยเกรงว่าจะไม่ค่อยเหมาะสม
“คุณคะไปส่งหนูกลับบ้านหน่อยค่ะ”
“พี่ขอแต่งตัวแป๊บหนึ่งจะแวะไปกินข้าวแล้วก็ทำงานเลย”
“ได้ค่ะงั้นหนูนั่งรอนะคะ”
เธอปล่อยมือจากชายหนุ่มเดินไปนั่งรอที่โซฟาตรงกลางบ้านและไม่นานเขาก็เดินออกมาพร้อมกับยื่นมือมาตรงหน้าเธอ
“ไปค่ะ”
“ค่ะ”
หญิงสาวกุมมือชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเดินเคียงข้างกันไปขึ้นรถจากนั้นก็ขับมายังบ้านของหญิงสาว และเมื่อมาถึงเธอก็ลงจากรถวิ่งไปหาคุณแม่ทันที ท่านบังเอิญเห็นทั้งสองคนลงมาจากรถด้วยกันและที่สำคัญเลยคือเมื่อคืนไม่กลับบ้านด้วย สงสัยต้องถามสักหน่อยแล้ว ปกตินับดาวเป็นเด็กที่น่ารักมากไม่มีเรื่องเสื่อมเสียเลยแต่ครั้งนี้เธอคงต้องตักเตือนสักหน่อย
“แม่จ๋ากลับมาแล้วจ้ะ”
“เอ็งมากับสารวัตรได้ยังไง แล้วเมื่อคืนนอนที่ไหนบอกแม่มาตามตรงเลย”
ป้ารับเงินเอ่ยถามลูกสาวอย่างจับผิด เธออ้ำอึ้งไม่กล้าตอบอะไรเพราะกลัวว่าจะโดนด่า สารวัตรมาวินรีบวิ่งเข้ามาอธิบายทุกอย่าง เขากลัวว่าป้านับเงินจะด่าลูกสาวทั้งที่จริงเป็นความผิดของเขาเอง
“ใจเย็นนะครับป้านับเงินเรื่องนี้ผมอธิบายเอง”
“ว่ามาสิคะคุณสารวัตร มันเป็นยังไงทำไมถึงมาด้วยกัน”
เขากลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆเพื่อเรียกสติ
“ผมกับนับดาวเราสองคนกำลังคุยกันอยู่ครับ และผมยินดีรับผิดชอบทุกอย่างที่ป้านับเงินต้องการบอกมาได้เลยนะครับ”
เขาสารภาพออกมาตามตรงแต่เรื่องบนเตียงขอไม่พูดและคิดว่าป้านับเงินคงเดาได้ไม่ยากว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเราสองคน
“ไปถึงไหนกันแล้ว”
“คือว่า…”
เขาอ้ำอึ้งไม่กล้าพูดเพราะนับดาวเป็นผู้หญิงเขาไม่อยากจะพูดอะไรให้หญิงสาวเสียหาย ป้านับเงินพอจะเดาออกก็ถอนหายใจออกมาทันที
“เฮ้อ! เอ็งมันดีมาตลอดไม่ว่าจะกลับบ้านดึกดื่นแค่ไหนยังไงก็ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย เป็นลูกที่ดีมาตลอดไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง”
ท่านหันไปมองหน้าลูกสาวก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงจริงจัง และมันเป็นเรื่องจริงทุกอย่างที่ผ่านมาเธอทำให้พ่อแม่ภูมิใจมาตลอด แต่ครั้งนี้เธอจะไม่ถือโทษโกรธลูกเพราะคิดว่าเธอคงตัดสินใจมาดีแล้วถึงได้ทำแบบนี้
“ครั้งนี้เอ็งคิดดีใช่มั้ย…”
“จ้ะแม่ หนูคิดว่าสารวัตรเค้าก็ดีกับหนูมากแต่ว่ามันก็ยังไม่นานพอยังมีเวลาดูกันอีกนานจ้ะ แม่ไม่โกรธใช่มั้ย”
“ผมขอโทษนะครับที่ทำอะไรไม่คิดถึงผลที่ตามมา แต่ผมสัญญาว่าผมจะรับผิดชอบน้องทุกอย่างเลย และหลังจากนี้ผมจะดูแลนับดาวแทนป้านับเงินเอง”
ป้านับเงินมองทั้งสองคนสลับกันก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ลูกสาวก็โตเป็นผู้ใหญ่ใกล้จะเรียนจบเธอคงไม่ต้องห่วงอะไรแล้วล่ะมั่ง
“ป้าไม่ได้ว่าอะไรจ้ะสารวัตร นับดาวมันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วจะทำอะไรก็รู้อยู่แล้วว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ป้าขออะไรสารวัตรอย่างหนึ่งขอให้น้องเรียนจบก่อน ถ้ารักกันจริงต้องสนับสนุนกันไปในทางที่ดี”
ท่านเอ่ยออกมาอย่างห่วงใยลูกสาว เห็นปากร้ายแบบนี้แต่เธอรักลูกมากนะและถ้าเจอคนดีๆก็ดีไป แต่ถ้าเสียใจขึ้นมาเธอก็คงทำได้เพียงแค่ปลอบใจและให้กำลังใจอยู่ข้างๆเท่านั้น สารวัตรมาวินยิ้มออกมาอย่างโล่งอกอย่างน้อยท่านก็ไม่ขัดขวางและยังให้เราสองคนคบกันต่อ แต่เขาอาจจะต้องผลักดันนับดาวให้มีอนาคตที่สดใสและไม่ขัดขวางหญิงสาวถ้าเธอมีทางเดินที่ดีกว่า
“ผมสัญญาครับว่าจะสนับสนุนและพาน้องไปในทางที่ดี”
“เอาเถอะโตๆกันแล้วป้าขี้เกียจพูดเยอะ จะทำอะไรก็คิดเยอะๆอะไรป้องกันได้ก็ป้องกันซะล่ะเอ็งนะ”
“แม่! พูดอะไรเนี่ย”
นับดาวใบหน้าแดงก่ำเมื่อถูกแม่แซวแบบนั้น สารวัตรมาวินถึงกับพูดไม่ออกกระแอมออกมาเล็กน้อยก่อนจะสั่งอาหารกิน
“งั้นผมทานข้าวได้มั้ยครับ”
“เลือกสิป้าตักให้ เอ็งก็ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปเรียนได้แล้ว ไม่ใช่มีแฟนแล้วการเรียนเสียล่ะ”
“ไม่มีทางหรอกจ้ะแม่ หนูรู้ว่าเรื่องเรียนจบต้องมาก่อนแม่จะได้ภูมิใจในตัวหนูไงจ๊ะ”
เธอสวมกอดผู้เป็นแม่ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาอย่างเอาใจ ท่านส่ายหน้าอย่างปลงๆเลี้ยงลูกก็ได้แค่ตัวเท่านั้นส่วนจิตใจมันเป็นของใครจองมันเราไปคิดหรือตัดสินใจแทนไม่ได้หรอก
“สารวัตรเอาอะไรล่ะ”
“เอาสามอย่างนี่ครับ”
“กินเยอะๆจะได้มีแรงไปรับใช้ประชาชน เป็นตำรวจงานราชการเยอะอดทนหน่อยนะ”
ป้านับเงินส่งจานให้ไปชายหนุ่ม เขายกมือไหว้ขอบคุณก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวด้วยใบหน้ามีความสุข เขาเหลือบสายตามองนับดาวที่ตอนนี้ยืนยิ้มให้เขาอยู่ ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปไม่นานแต่คนเราถ้ามันลงตัวกันไม่จำเป็นต้องดูกันนานขนาดนั้นหรอก และเขาเชื่อว่าเราสองคนจะอยู่เป็นคู่ชีวิตกันได้…