และนี่ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่านับดาวนั่งอยู่บนเตียงในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของชายหนุ่ม หญิงสาวเขย่าชายหนุ่มให้ตื่นเพื่อไปส่งเธอกลับบ้าน
“คุณ… ไปส่งหนูกลับบ้านหน่อยค่ะ”
เธอเขย่าแขนเขาไม่หยุดเพื่อปลุกให้ตื่น ทำเนียนหลับไปเลยไม่ยอมไปส่งเธอกลับบ้านสักทีทั้งที่ก่อนหน้านี้รับปากว่าจะพาไปส่ง สารวัตรมาวินบิดตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมองหญิงสาว
“ว่าไงคะ”
“ส่งหนูกลับบ้านหน่อยค่ะมันเที่ยงคืนแล้วหนูต้องกลับบ้านแล้วค่ะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า”
หญิงสาวเอ่ยออกมาเสียงอ้อนเขย่าแขนเขาอยู่ข้างๆเพื่อปลุกให้เขาตื่น ชายหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะดึงหญิงสาวมาสวมกอดไว้หลวมๆ
“รีบกลับทำไมคะนอนค้างด้วยกันก่อนสิ พี่ยังไม่ได้นอนกอดหนูเลยนะจะรีบไปไหน ทุกทียังกลับดึกได้เลยกลับเช้าก็กลับมาแล้วไม่เห็นเป็นไรเลย”
“แต่หนูลาออกจากงานแล้วนะคะไม่มีข้ออ้างกลับบ้านดึกดื่นแล้ว อีกอย่างคุณทำให้หนูไม่ได้อ่านหนังสือเรียน”
เธอพยายามบอกชายหนุ่มว่าการที่เขาให้เธอออกจากงานมาไม่ใช่ว่าจะให้มานอนด้วยทุกวันแบบนี้ได้ ถ้าไม่ทำงานก็ต้องกลับบ้านให้ตรงเวลา
“พรุ่งนี้ก็เอามาอ่านที่นี่สิ หนูก็ไม่ต้องบอกว่าลาออกจากงานสิง่ายจะตาย”
“หนูไม่โกหกพ่อแม่ค่ะ”
“ไม่โกหกงั้นทำไมไม่บอกเรื่องของเราสองคน นั่นก็แสดงว่าหนูกำลังโกหกอยู่ดีพี่พูดถูกใช่มั้ย”
เธอยังเถียงเขาไม่ยอมแพ้แถมยังหาข้ออ้างสารพัดมาทำให้เธอผิดอีก และคนอย่างนับดาวไม่มีทางจนมุมแน่นอน
“หนูไม่ได้โกหกแค่ไม่เล่าความจริงบางเรื่องเอง”
“แถเก่งสุดยอดเลยหนูน้อย”
เขาถึงกับเถียงต่อไม่ออกและคิดว่าเถียงไปแล้วได้อะไรขึ้นมา รวบรัดไปเลยดีกว่าไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงเยอะ
“ส่งหนูกลับบ้านค่ะ”
“นอนกับพี่ก่อนนะพรุ่งนี้ค่อยกลับเดี๋ยวไปส่งที่มหาวิทยาลัยแล้วก็เย็นไปรับด้วย น้าๆอยู่กับพี่นะคืนนี้”
เขากอดเธอแน่นขึ้นไม่ยอมปล่อยนับดาวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจก่อนจะนอนลงบนเตียงคว่ำหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างตามเดิม ถ้าเขาพูดขนาดนี้ก็คงไม่ปล่อยให้เธอกลับบ้านคืนนี้แน่ งั้นก็นอนดีกว่าเสียเวลาพักผ่อนไปเปล่าๆ สารวัตรมาวินเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะนอนลงข้างๆเธอสวมกอดหญิงสาวไว้หลวมๆริมฝีปากจูบที่แก้มนวลอย่างหลงไหล
“ฝันดีนะคะ”
หญิงสาวไม่ตอบอะไรเธอนอนกระพริบตาปริบๆอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่ม เขาลูบผมเธออย่างแผ่วเบาไม่รู้ว่านานขนาดไหนจนเธอเคลิ้มหลับไปในที่สุด สารวัตรมาวินยิ้มออกมากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นก่อนจะหลับตาลงอย่างอารมณ์ดีสุดๆ
เช้าวันต่อมา…
สารวัตรมาวินในชุดไปรเวทสบายๆเดินออกมาจากห้องนอนสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังเมื่อเจอเธอกำลังทำอาหารเช้าอยู่ในครัว
“ทำอะไรคะ”
“ทำข้าวต้มค่ะ ห้องคุณมีแค่ข้าวสารหมูผักไม่กี่อย่างทำอะไรไม่ได้เยอะค่ะ กินข้าวต้มหมูสับไปแล้วกันเนาะ”
“ทำอาหารเป็นด้วยเหรอเรา”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงหวาน นับดาวเหลือบสายตามองชายหนุ่มก่อนจะร้องออกมาเสียงเล็ก
“หนูเป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงนะคะคุณนี่ถามแปลกๆ”
“ก็บางคนก็ไม่ได้ทำเป็นเหมือนแม่นี่นา”
“ก็หนูเก่งนี่คะ”
เธออมยิ้มก่อนจะปิดเตาแล้วตักใส่ชามทั้งสองก่อนจะดันตัวให้นั่งลงแล้วลองชิมฝีมือของตัวเอง ถึงแม้จะเป็นข้าวต้มธรรมดาแต่รับรองว่าอร่อยอย่าบอกใครเชียว
“ลองชิมสิคะ”
“รู้สึกเหมือนมีภรรยาทำกับข้าวให้กินทุกวันเลยอ่ะ หนูมาทำให้พี่กินทุกเช้าได้มั้ย”
เขาหยอกหญิงสาวตั้งแต่เช้าตรู่ นับดาวยิ้มเขินก่อนจะทำเป็นบ่นกลบเกลื่อนไม่ยอมรับอะไรทั้งนั้น
“หนูยังไม่มีสามีนะ”
“พี่นี่ไงสามีหนู”
เขามองหน้าหญิงสาวติดน้อยใจก่อนจะตักชิมข้าวต้มตรงหน้า นอนด้วยกันขนาดนี้ให้เรียกว่าคู่ขาเหรอไง เขาไม่ใช่ผู้ชายที่นอนมั่วซั่วเสียหน่อยถ้าไม่จริงจังด้วยเขาไม่ยุ่งด้วยเด็ดขาด
“ยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อยจะเรียกสามีได้ยังไงคะ”
เธอบ่นออกมาก่อนจะนั่งลงแล้วกินข้าวต้มที่ตัวเองทำอย่างเอร็ดอร่อย สารวัตรมาวินลองชิมดูก็รู้สึกว้าวมากไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงที่เพอร์เฟคมากขนาดนี้บนโลก ทั้งสวย ขยันทำงาน เรียนเก่ง ทำอาหารเป็นและไม่รู้ว่ายังมีความสามารถอะไรอีกทำเอาเขาทึ่งไม่น้อยเลย
“อร่อยนะอร่อยมากเลยด้วย”
“อร่อยก็กินเยอะๆนะ”
“เอาไว้ว่างพี่ซื้อของมาทิ้งไว้ดีมั้ย เผื่อหนูอยากทำเมนูอื่นไง”
นับดาวมองชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ในหัวคงมีแผนการล่อลวงเธอมาที่นี่ตลอดเวลาเลยล่ะสิ พอยอมครั้งหนึ่งก็เอาใหญ่เลยนะหาเรื่องราวให้เธอมานอนค้างด้วยตลอด
“คุณกำลังหลอกหนูมาค้างด้วยอีกนะคะ ทำไมคุณถึงอยากให้หนูมาค้างด้วยล่ะคะ”
“ก็อยากนอนกอดเมียไม่ได้เหรอ…”
“คุณสัญญาแล้วนะคะว่าจะไม่เอาเรื่องนี้มาข่มขู่กันอีก อย่าให้ได้ยินแล้วกันอย่าหาว่าหนูไม่เตือนนะ”
เธอขู่ชายหนุ่มเสียงดุและนี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอพอจะขู่เขาได้เพราะคิดว่าเขาคงไม่เสี่ยงทะเลาะกับเธอหรอก ไม่รู้สิหรือความรู้สึกส่วนตัวมันบอกว่าเขาใจดีกับเธอมากกว่าจะทำแบบนั้น ชายหนุ่มอึ้งไปไม่คิดว่าเธอจะขู่เขาทั้งที่ปกติจะทำตามเขาซะมากกว่า แต่สัญญาไปแล้วลูกผู้ชายต้องไม่คืนคำสิ
“เพิ่งเคยเห็นหนูขู่พี่นะเนี่ย”
“แล้วกลัวมั้ยคะ”
“ไม่อ่ะ…”
นับดาวจิ๊ปากออกมาอย่างขัดใจทั้งสองคนนั่งกินข้าวต้มจนหมด จากนั้นสารวัตรมาวินก็มาส่งเธอที่บ้านตามที่ตกลงกัน
“หนูไปก่อนนะคะ”
“พี่จะไปส่งที่มหาวิทยาลัยเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะหนูไปเองได้ เรียนสักสองชั่วโมงเดี๋ยวก็กลับบ้านแล้วค่ะ คุณไปทำงานเถอะ”
เธอเกรงใจเขาและไม่อยากเป็นภาระให้ใครด้วย ปกติทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอดพอมีคนมาทำให้มันแค่รู้สึกไม่ชิน สารวัตรมาวินโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะหอมแก้มเธออย่างอ่อนโยน
“พี่จะไปส่งและจะรอรับกลับด้วย เราไปเที่ยวกันดีกว่าวันนี้พี่หยุดงานพอดี”
“แต่ว่า…”
“ลงไปแต่งตัวสิ”
เธอพยักหน้าตอบรับก่อนจะลงจากรถและรีบวิ่งออกไปเพื่อไม่ให้ใครสงสัย สารวัตรมาวินมองตามไปจนลับสายตาก่อนจะเดินตามลงไปและเนียนไปกินข้าวเช้าเหมือนปกติ
“สวัสดีครับป้านับเงิน”
“สารวัตร… มาแต่เช้าเลยกินข้าวเหรอ”
“ครับ มีอะไรให้ผมกินบ้าง”
เขาเดินไปสั่งเมนูสักสองสามอย่างราดข้าวมานั่งทานระหว่างที่รอนับดาวแต่งตัวอยู่ และไม่นานเธอก็เดินออกมาในชุดนักศึกษาสะพายกระเป๋าข้างหลังด้วย
“ไอ้นับดาวเอ็งไม่ทักมาบอกแม่อีกแล้วนะว่าจะไม่กลับบ้านนะ ข้าบอกว่าไง”
“ขอโทษจ้ะแม่มันลืมอ่ะ”
“เอ็งนี่มันจริงๆเลยนะ พ่อเอ็งมันเหนื่อยขี้เกียจพูดละสงสัยตัดหางปล่อยวัดแล้ว”
“แม่ก็…”
เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างเซ็งๆก่อนจะเหลือบสายตามองสารวัตรมาวินที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ สงสัยกินข้าวต้มไม่อิ่มล่ะมั่งถึงมานั่งกินข้าวร้านแม่เธอออีก
“นับดาวไปเรียนเหรอ”
“ค่ะ”
เธอตอบรับเขาไปทำเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นเพื่อไม่ให้แม่สงสัย เขาลุกขึ้นจากโต๊ะเดินมาจ่ายเงินให้คุณแม่ของเธอก่อนจะยิ้มกว้างออกมา
“ไปด้วยกันสิพี่จะเข้าในเมืองพอดี”
“เอ่อ… คือว่า”
“ไปกับสารวัตรสิเอ็งจะได้ไม่เหนื่อยนั่งรถไง แม่จะซื้อรถให้ขับเอ็งก็ไม่เอา ไม่เข้าใจเลยว่าลูกสาวบ้านนี้มันเป็นยังไงให้อะไรก็ไม่เอาสักอย่าง”
“หนูไม่อยากให้แม่เหนื่อยนี่จ้ะ”
เธอสวมกอดแม่นับเงินอย่างออดอ้อน เธอแค่คิดว่าตัวเองโตพอที่จะหาเงินได้เองและไม่รบกวนที่บ้านให้เหนื่อย พี่ชายของเธอก็ทำงานตั้งแต่เด็กเธอคงเห็นพี่เป็นตัวอย่างก็เลยกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว
“ฝากด้วยนะจ้ะสารวัตร”
“ผมจะดูแลให้เองครับรับรองว่าถึงมหาวิทยาลัยอย่างปลอดภัย ไปกันเถอะนับดาว”
เขาผายมือให้เธอเดินไปพร้อมกัน หญิงสาวยกมือไหว้ลาแม่ก่อนจะเดินไปพร้อมกับชายหนุ่ม ป้านับเงินมองตามลูกสาวไปก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“เมื่อไหร่เอ็งจะโชคดีได้ผัวรวยกับเค้าบ้างจะได้สบายไม่ต้องลำบากทำงานงกๆ แต่ก็ช่างเถอะชีวิตของเอ็งเลือกเองแล้วกัน”
นับดาวเป็นเด็กดีมาตลอดไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้ที่บ้านเดือดเนื้อร้อนใจ เธอควรจะมีชีวิตและอนาคตที่ดี เธออายุก็มากแล้วมีลูกตอนอายุเยอะไม่รู้ว่าจะอยู่ได้อีกกี่ปีแค่อยากเห็นลูกมีคนที่รักเธอมากอย่างน้อยให้ได้ครึ่งหนึ่งที่คนเป็นแม่รักแค่นี้ก็ตายตาหลับแล้ว…