ตอนที่ 2

1085 คำ
กานต์พิชาตื่นขึ้นมาในเช้าของวันใหม่ ดวงตาของหล่อนบวมช้ำเล็กน้อย เพราะเมื่อคืนนอนร้องไห้มานั่นเอง หล่อนเลื่อนสายตามองไปยังบานหน้าต่างของคอนโดหรู คอนโดที่พิริยะใช้เป็นสถานที่ซ่อนเร้นนางบำเรอไร้ค่าอย่างหล่อน แสงสว่างที่สาดส่องเข้ามาจนแสบตา ทำให้รู้ว่าตอนนี้สายมากแล้ว หล่อนรีบคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางเอาไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงขึ้นมามอง ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาสิบโมงสิบห้านาทีแล้ว ร่างอรชรที่ทั้งเนื้อทั้งตัวยังคงเปลือยเปล่าดีดลุกขึ้นนั่ง ผ้าห่มเลื่อนลงไปกองที่บริเวณเอวคอด หล่อนขยับตัวก้าวลงจากเตียงอย่างรีบร้อน พาเนื้อตัวไร้อาภรณ์เดินเข้าไปภายในห้องน้ำ หล่อนใช้เวลาในการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเพียงไม่ถึงสิบนาที ก็ก้าวออกมา ร่างกายมีเพียงผ้าขนหนูห่อหุ้มเอาไว้เท่านั้น หญิงสาวรีบแต่งตัวและแต่งหน้าอ่อนๆ จากนั้นก็หย่อนโทรศัพท์มือถือลงกระเป๋าสะพาย ก่อนจะออกไปจากห้องพักหรูด้วยความรีบร้อน รถญี่ปุ่นคันเล็กที่มีหล่อนเป็นคนขับ มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเพื่อนสนิท ที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ในวันนี้ ใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงในการขับรถฝ่าดงรถติด จนกระทั่งถึงบ้านของเพื่อนรัก กานต์พิชาลงไปกดกริ่งที่หน้ารั้วสีขาวหน้าบ้านไม้หลังกะทัดรัดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ร่างอรชรของ ญานิดา ผู้เป็นเพื่อนสนิทก็วิ่งมาเปิดประตูรั้วให้ “ฉันมาช้าไปเกือบยี่สิบนาที ขอโทษนะนิด” “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องทำหน้าสำนึกผิดขนาดนั้นเลย มาๆ เข้าบ้านเถอะ แม่ฉันรออยู่” กานต์พิชายิ้มโล่งอกอย่างขอบคุณเพื่อนรัก “ขอบใจมากนะนิดที่ไม่โกรธฉันน่ะ” “แค่เรื่องมาสาย ฉันโกรธแกไม่ลงหรอก มาๆ รีบตามมาเลย” ญานิดายกมือขึ้นโอบบ่าของเพื่อนสนิทซึ่งทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกันเอาไว้ และก็พาเข้าไปในบ้านไม้หลังเล็กของตัวเอง “นี่แม่ฉันเตรียมวัตถุดิบเอาไว้หมดแล้วนะ แกแค่ตั้งหน้าตั้งตาเรียน และทำให้อร่อยพอ” “ฉันเกรงใจแม่แกจังเลยนิด ต้องมาสอนแล้วยังต้องซื้อวัตถุดิบให้ด้วย งั้นฉันขอจ่ายเงินนะ ไม่งั้นฉันไม่สบายใจน่ะ” “พิชา... ไม่เอา ไม่เอาเงิน บอกแล้วไงว่าแม่ฉันชอบสอนคนทำอาหารน่ะ” “แต่ว่าฉันเกรงใจจริงๆ นะนิด” “ไม่ต้องเกรงใจหรอก นู่นห้องครัว เข้าไปเลย แม่ฉันรออยู่” ญานิดารั้งร่างอรชรของกานต์พิชาให้เดินเข้ามาภายในห้องครัวเล็กๆ ของตัวเอง “อ้าว มาแล้วเหรอหนูพิชา” มารดาของญานิดาทักทายหล่อนด้วยน้ำเสียงและรอยยิ้มที่เป็นมิตร “สวัสดีค่ะคุณแม่” กานต์พิชายกมือไหว้อย่างนอบน้อม ขณะกวาดตามองไปรอบๆ ห้องครัวที่ค่อนข้างเล็ก แต่อุปกรณ์เครื่องครัวถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบและสะอาดสะอ้านจนน่าทึ่ง “หนูขอโทษนะคะที่มาช้ากว่าเวลานัดน่ะค่ะ” “ไม่เป็นไรหรอกหนูพิชา แม่ก็เพิ่งทำอะไรๆ ในบ้านเสร็จเหมือนกัน” “งั้นนิดฝากเพื่อนเอาไว้ด้วยนะแม่ เอาไว้ตอนเย็นๆ นิดกลับมาแล้วจะมาชิมแกงพะแนงเนื้อสุดแสนอร่อยฝีมือของเพื่อนเลิฟ” ญานิดาพูดด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง “ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะทำอร่อยไหม แต่จะพยายามให้สุดความสามารถเลยล่ะ” “แกทำได้อยู่แล้ว และต้องทำอร่อยมากๆ ด้วย เพราะมีแม่ฉันเป็นคนสอน จริงไหมคะแม่” “จริงจ้ะ แม่รับรองว่าต่อจากนี้ไป คนที่ได้กินแกงพะแนงเนื้อที่หนูพิชาทำจะต้องติดอกติดใจ ไปกินพะแนงเนื้อที่ไหนไม่ได้อีกเลย” สามสาวหัวเราะอย่างมีความสุข โดยเฉพาะกานต์พิชารู้สึกตื่นเต้นไม่น้อย หล่อนอดนึกไปไกลถึงตอนที่ตัวเองทำแกงพะแนงซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของพิริยะให้เขาทานไม่ได้ ‘อร่อยมากเลยครับพิชา... ผมจะมากินแกงพะแนงฝีมือคุณทุกวันเลยนะครับ’ ภาพที่ผุดขึ้นมาในสมอง ทำให้กานต์พิชาเผลอระบายยิ้มออกมา จนญานิดาที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ต้องแซวเลยทีเดียว “กำลังนึกถึงรอยยิ้มของคุณหมอพีทอยู่ใช่ไหมเนี่ย” “ปะ เปล่าสักหน่อย” กานต์พิชาก้มหน้าหลบตาเพื่อนอย่างเอียงอาย แต่ญานิดารู้ทัน เพราะหล่อนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของสองคนนี้เป็นอย่างดี หล่อนไม่เคยสนับสนุน แต่ก็ไม่สามารถห้ามปรามเพื่อนรักได้ กานต์พิชารักพิริยะมาก รักมากจนยอมเป็นแค่นางบำเรอของเขาเลยทีเดียว “โอเค ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ งั้นฉันขอตัวออกไปทำงานก่อนนะ เอาไว้ฉันว่างจากการดูแลคุณภัทรแล้วจะส่งข้อความหา” ญานิดามีงานพิเศษทุกเสาร์อาทิตย์ซึ่งเป็นงานดูแลคนป่วยติดเตียง “ขอบใจมากนะนิด” “ไม่เป็นไร แม่.. นิดฝากเพื่อนด้วยนะคะ” “ไม่ต้องห่วงหรอก แม่จะสอนทุกเคล็ดลับให้หนูพิชาไม่มีกั๊กเลยล่ะ” “งั้นนิดไปนะคะ ฉันไปทำงานก่อนนะพิชา” “เดินทางปลอดภัยนะนิด” “ขอบใจจ้า” หลังจากญานิดากล่าวขอบคุณเสร็จแล้ว ร่างอรชรในชุดนางพยาบาลสีขาวก็เดินออกไปจากห้องครัว “งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยนะจ๊ะหนูพิชา” มารดาของญานิดาเอ่ยขึ้น “ได้ค่ะคุณแม่” หลังจากคำตอบของหล่อนดังขึ้น มารดาของเพื่อนรักก็เริ่มต้นอธิบายเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ต้องใช้ในการทำพะแนงเนื้อทีละอย่าง “สิ่งแรกที่เราขาดไม่ได้เลย สำหรับการทำพะแนงเนื้อก็คือเนื้อวัวนะหนูพิชา” หล่อนมองเนื้อวัวสีแดงเข้มในถ้วยที่คุณแม่ของเพื่อนรักเตรียมเอาไว้ และฟังทุกคำพูดของท่านอย่างตั้งใจ “และอันนี้คือพริกแกงพะแนงนะหนูพิชา ส่วนอันนี้คือกะทินะจ๊ะ จะมีหัวกะทิกับหางกะทิ แล้วถ้วยนี้คือมะเขือพวง...” หญิงวัยกลางคนยังคงอธิบายวัตถุดิบตรงหน้าต่อไปเรื่อยๆ จนครบ จากนั้นก็เริ่มต้นอธิบายวิธีการปรุงอาหารอย่างละเอียด กานต์พิชาจดจำวิธีการปรุงอาหาร รวมถึงเคล็ดลับที่มารดาของเพื่อนรักได้พรั่งพรูออกมาเอาไว้ทั้งหมด หล่อนหวังว่าพิริยะจะชอบแกงพะแนงเนื้อของหล่อน จนต้องแวะมารับประทานมื้อค่ำด้วยกันทุกวัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม