“อะ เอ่อ...ความจริงหนูไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วนะคะ”
“เจ้ากฤตให้อาดูแลอาจะไม่ดูแลได้ยังไง” ชายหนุ่มเปิดน้ำอุณหภูมิปกติใส่ฝ่ามือของหญิงสาวเบาๆ จากนั้นก็ซับด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง การกระทำของเขานั้นอ่อนโยนกับเธอมากๆจนเธอรู้สึกดีขึ้นมาในหัวใจ ชอบเวลาที่เขาดูแลเอาใจใส่ถึงแม้เขาจะบอกว่าหลานชายสั่งให้ทำก็เถอะ
“ยังแสบอยู่ไหม” เขายังไม่ปล่อยมือบอบบางที่ยังมีรอยแดงเป็นอิสระ
“นิดนึงค่ะ”
“รออาแปบนึงนะ ขอไปเอากล่องยามาให้ก่อน” ชายหนุ่มปล่อยมือบางนุ่มนิ่มแล้วผละออกไปหยิบกล่องยา อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอเขาคิดว่าเธอควรจะระวังตัวเองให้มากกว่านี้
“ค่ะ” หญิงสาวได้แต่ตอบกลับเสียงอ่อนไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตาคนตัวโตเพราะความอบอุ่นจากเขายังคงอยู่ที่ฝ่ามือของเธอ รอไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกล่องยาขนาดเล็ก คุณอาอธิบายให้หล่อนฟังว่าความจริงแล้วไม่ควรทาตัวยาหรือสารใดๆลงบนแผลหากยังไม่แน่ใจในสรรพคุณของตัวยานั้นๆ โดยเฉพาะที่คนบอกเล่ากันมาว่าดีเช่น ยาสีฟัน น้ำปลา เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดการระคายเคืองและเพิ่มโอกาสให้แผลติดเชื้อได้ซึ่งส่งผลให้การรักษาทำได้ยากขึ้น เธอมองใบหน้าของเขานิดนึงเขาเลยตอบกลับมาว่า
“แต่ยาตัวนี้ใส่ได้อาอ่านสรรพคุณมาดีแล้ว” ก่อนจะเลือกซื้อยามาใส่ไว้ในกล่องชายหนุ่มจะศึกษายาชนิดนั้นๆก่อนซื้ออยู่เสมอจึงไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นอันตรายหรือเกิดอาการแพ้ใดๆ
“ค่ะ” เขาบอกอย่างไรเธอก็พร้อมจะเชื่อ ชายหนุ่มบรรจงทายาลงบนมือบอบบางที่ขึ้นรอยแดงของหญิงสาว เขาคิดว่าเธอคงจะเจ็บไม่น้อยเลย แต่ความจริงตรงกันข้ามเลยถ้าเจ็บแล้วมีเขามาดูแลดีแบบนี้เธอก็อยากจะเจ็บเพราะมันคุ้มค่า
“เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวก็หายนะ” ชายหนุ่มบอกออกไปน้ำเสียงอบอุ่นแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือบางเป็นอิสระ
“อะ เอ่อ...ขอบคุณค่ะ ชิชาดีขึ้นมากแล้วขอไปช่วยเพื่อนๆก่อนนะคะ” เธอก้มมองมือตนเองนิดนึงเขามองตามถึงได้รู้ตนว่ายังไม่ได้ปล่อยมือของเธอ
“นั่งนิ่งๆอยู่ที่นี่นี่แหละดีแล้ว อย่าไปเป็นภาระเลย” คุณอาหนุ่มเอ่ยห้ามแทบจะทันที มือเจ็บอย่างนี้จะไปช่วยอะไรได้จะไปเป็นภาระเพื่อนเสียมากกว่า
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่”
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวหน้างอเขาเป็นคนเผด็จการด้วยสินะ ภาระอะไรกันเธอน่ะลงแรงมากกว่าใครเลยแต่เขาคงไม่รู้ กันย์ดนัยลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก็เดินขึ้นไปยังชั้นสองของตัวบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดทำงานออกเป็นชุดลำลองแทน หญิงสาวพอเห็นว่าคนเผด็จการไปแล้วก็รีบเข้าครัวไปช่วยเพื่อนๆ แม้จะถูกห้ามแต่เธอก็ยังดื้อดึงจะช่วยให้ได้
“หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย ขอบคุณนะชิชาที่ทำให้วันเกิดปีนี้ของกฤตพิเศษกว่าทุกปี”
“ต้องขอบคุณทำไมเล่า เอาของขวัญไปด้วย สุขสันต์วันเกิดแก่ขึ้นอีกปีแล้วนะ” หญิงสาวคว้ากล่องของขวัญมามอบให้เจ้าของวันเกิด
“จะไม่แฮปปี้ก็เพราะประโยคหลังนี่แหละ” ชายหนุ่มตอบกลับหน้างอ วันเกิดแต่ละปีหมายถึงว่าเขานั้นโตขึ้นจริงๆนั่นแหละ
“ด้าก็มีของขวัญให้นะ” ดาด้าหยิบของขวัญมอบให้กฤตภัทรเช่นกัน ปีนี้เขาได้ของขวัญถึงสามชิ้นแหนะ ชิ้นใหญ่คงจะเป็นคอนโดที่ผู้เป็นอายกให้ฟรีๆ
“ขอบคุณนะขอบคุณจริงๆ ชิชาไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม” ท่าทางเหนื่อยๆของหญิงสาว กฤตภัทรจึงอยากให้เธอไปเปลี่ยนชุดใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ให้สบายตัว
“แหะๆ ตัวชิชาเหม็นแล้วจริงๆด้วย” หญิงสาวก้มลงดมกลิ่นตัวเองแล้วก็หย่นหน้า ร่างกายของเธอมีกลิ่นอาหารติดอยู่ทุกอณู
“ไปเถอะเดี๋ยวกฤตกับดาด้าจะรออยู่ข้างล่าง ฝากไปตามคุณอาที่ห้องใหญ่ด้านขวามือด้วยนะ”
“โอเคจ้ะ” ปรีณาภาผละออกไปแล้วกฤตภัทรจึงทำการเปิดกล่องของขวัญออกดูระหว่างรอ ปรีณาภาซื้อนาฬิกายี่ห้อดังให้กับเขา อาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทำให้ดาด้ารู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่หัวใจ หลังจากนั้นเขาก็มาเปิดกล่องของขวัญที่ดาด้ามอบให้บ้าง ของขวัญที่เธอมอบให้เขาไม่ได้มีมูลค่าอะไรมากมายแต่เธอตั้งใจทำให้เขาโดยเฉพาะ
“ทำเองหรอด้า ขอบคุณนะ นี่มันรูปสมัยกฤตสักสามสี่ขวบ ฮั่นแน่ไปแอบส่องเฟสกฤตมาใช่เปล่า” ชายหนุ่มถามออกไปยิ้มๆ
“อะ เอ่อ...ก็นั่นแหละ”
“ชอบไหม” ชอบดาด้าไหมเธอได้แต่ถามเขาต่อในใจ ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเธอแอบรักเพื่อนโดยที่เขาไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเธอชอบ
“ชอบสิ ขอบคุณนะเดี๋ยวจะเอาไปตั้งที่หัวเตียงเลย”
ปรีณาภาเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องนอนแขก เธอเปลี่ยนมาสวมเดรสสีสันสดใสดูอ่อนหวานแทนเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ดูทะมัดทะแมงเพราะเธอต้องหยิบจับสิ่งต่างๆในครัว หญิงสาวมองตัวเองในกระจกแล้วก็รู้สึกรักตัวเองมากๆ เธอสวยเหมือนมารดาจึงโดยคุณพ่อห้ามนู้นห้ามนี่มาตั้งแต่เด็กเพราะท่านกลัวว่าจะมีคนไม่หวังดีเข้ามาหาเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของเธอ มารดาของเธอสอนเสมอว่าก่อนที่เราจะไปรักใครก็ควรจะรักและดูแลตัวเองให้ได้ก่อนซึ่งเธอก็บอกได้เลยว่าเธอดูแลตัวเองได้ดีมาก อะไรที่เสี่ยงเธอก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว