ตอนที่9 เขาแค่ยิ้มเองนะ
“อะไรนะคะ”
“ผมล้อเล่นน่า ดูคุณทำหน้าเข้าสิ”
เขาเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อแกล้งว่าเธอจนหญิงสาวหน้าเหลอหลา แต่เขาจะรู้ไหมว่ารอยยิ้มของเขานั้นราวกับแช่แข็งหัวใจของเธอไว้ เขาแค่ยิ้มเองนะ
“คุณจะพาผมไปเที่ยวที่ไหนอีกหรือเปล่า ผมยังไม่อยากกลับกรุงเทพเลย”
“ไปเดินเล่นที่ตลาดไหมคะ”
“น่าสนใจ ไปสิวันนี้ผมเลี้ยงคุณเอง”
“พายจะปอกลอกให้คุณเหมหมดตัวเลยค่ะ”
เธอพาเขามาตลาดที่คนเยอะจนต้องเดินเบียดกันแทนที่จะไปเดินที่ห้างอากาศเย็นสบาย เขากังวลว่าจะพลัดหลงกับเธอจึงได้คว้ามือนุ่มนิ่มมาจับไว้แน่น
“คุณเหม...”
“ผมปิดมือถือไว้ ถ้าเราหลงกันผมคงแย่”
พิยดาก้มมองมือที่ถูกเขากุมด้วยใจที่สั่นหวิว อย่าเต้นแรงไปกว่านี้นะหัวใจเดี๋ยวเขาก็จับได้หรอก
“สร้อยข้อมือไหมคะ น่ารักดี”
“น่ารักยังไงผมเห็นมันเป็นแค่เชือก”
“ก็มันเขียนชื่อเราลงไปได้ด้วยนี่คะ ตอนเรียนม.ปลายพายมาซื้อบ่อย”
“คุณเขียนชื่อใครลงไปบ้าง หรือชื่อคุณทุกอันเลย”
“คนที่เราชอบสิคะ”
เหมันต์ปล่อยมือหญิงสาวแทบจะทันทีที่เธอบอกแบบนั้น จนเธอต้องหันมามองที่เขาว่าปล่อยมือเธอด้วยเหตุใด
“คุณมีคนที่ชอบด้วยเหรอ”
“เยอะแยะค่ะ ชอบตั้งแต่เด็กจนตอนนี้ก็ยังชอบอยู่”
พิยดาหันไปเลือกสร้อยข้อมือที่วางขายเรียงรายบนโต๊ะที่ปูด้วยผ้าสีขาว โดยมีเจ้าของร้านรอเขียนข้อความให้กับลูกค้า
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“ใครเหรอคะ”
“ไอ้คนที่คุณชอบน่ะ”
“อยู่เกาหลีค่ะ ตอนนี้เห็นว่าละครกำลังจะออนแอร์เดือนหน้าแล้ว ตื่นเต้นที่สุดเลยค่ะ”
พิยดายิ้มจนตาหยีเมื่อพูดถึงดาราหนุ่มที่เธอชื่นชอบก่อนจะหันไปเลือกสร้อยข้อมือต่อ เหมันต์มองคนที่ทำตัวเหมือนเด็กสาววัยสิบต้นๆที่บอกให้เจ้าของร้านใส่ชื่อของเธอและชื่อของดาราคนนั้นไว้ในสร้อยข้อมือเชือกถัก
“คุณมากับผม ทำไมไม่ใส่ชื่อผมบ้างล่ะ”
“คะ?”
“เลือกมาอีกสองเส้นสิ แล้วใส่ชื่อผมกับคุณลงไป ไหน ๆ วันนี้คุณก็พาผมมาที่นี่ด้วยหนิ”
“คุณเหมอนุญาตเหรอคะ”
“ครับ คุณกับผมคนละเส้น”
พาย เหม
.....
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา
“เหม แม่ฝากน้องลินเอาข้าวไปส่งที่ออฟฟิศนะ"
“ลินไหนอีกครับ”
เหมันต์ถอนหายใจออกมาอย่างนึกรำคาญใจ แม่เขายังไม่หยุดหาลูกสาวของใครต่อใครมาเดทกับเขา และที่ผ่านมาเขาก็ปัดทิ้งหมด
“นลินไงตาเหม ที่เคยเป็นเพื่อนเล่นกับหนูปิ่น จำได้ไหม?”
“นลิน... คุณแม่ไปคว้าน้องมาจากที่ไหนครับ ยังอยู่ไทยอยู่อีกเหรอ”
“น้องกลับมาอยู่ไทยถาวรแล้ว สวยน่ารักมากเลยนะ อีกครึ่งชั่วโมงน้องน่าจะถึง เหมดูแลน้องด้วยนะ”
มารดาชิงตัดสาย ผู้ชายอย่างเขาคงมีหน้าที่ต้อนรับแขกที่แม่ขยันส่งมา นลิน? เขาจำหน้าเธอไม่ได้เสียแล้วสิ
“คุณ! มาหาใครคะ”
“เอ่อ... คุณป้าอุษาให้ฉันเอาปิ่นโตมาให้พี่เหมน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าเข้าไปได้ไหมคะ”
“รอสักครู่นะคะ”
“นลินหรือเปล่า”
มือที่กำลังยกโทรศัพท์ชะงักค้างเมื่อเขาเปิดประตูออกคุยกับผู้หญิงคนนั้น
“ค่ะ นลินเอง”
“เชิญครับ”
พิยดามองตามทั้งสองคนแววตาเศร้า แน่ชัดแล้วว่าเธอน่าจะเอาใจลงเล่น ทั้งที่เรื่องทั้งหมดมันควรจบแต่บนเตียง
“เวลาของเธอคงใกล้หมดแล้วสินะ”
“อะไรคะ”
“ไม่ต้องทำเป็นใสซื่อหรอกจ้ะ เขารู้กันทั้งบริษัทแล้วว่าเธอน่ะ อยากจับคุณเหม”
“พายไม่ได้คิดแบบนั้นนะคะ”
“จ้า...”
พนักงานบัญชีที่แก่กว่าถึงสิบปีมองเธอด้วยสายตาหยามเหยียดเต็มกลืน แต่คนที่ผ่านการถูกมองว่าทำแบบนั้นมานับครั้งไม่ถ้วนไม่ได้รู้สึกบั่นทอนเท่าการที่เขากำลังจะเปิดใจให้ผู้หญิงคนนั้นอีกหรือเปล่า
“ลินมากวนพี่เหมหรือเปล่าคะ"
“นลินจริง ๆ ด้วย แม่พี่ไปเจอลินได้ยังไงครับ”
“ลินกับแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรแล้วน่ะค่ะ คุณแม่กับคุณป้าเลยได้นัดเจอกัน”
“แม่พี่ไม่น่าไปรบกวนลินเลยครับ”
“ลินอาสาคุณป้ามาเองค่ะ อยากลองขับรถด้วยค่ะจะได้ชินเส้นทาง”
“ลินขับรถมาเองเลยเหรอครับ เก่งมากเลยนะ”
“ขอบคุณค่ะ นี่ค่ะปิ่นโตที่ป้าอุษาฝากมา”
“อยู่ทานด้วยกันสิครับ เราจะได้คุยกันด้วย”
“ค่ะ”
.....
คุณอุษา
แม่ของเจ้านายโทรมาทำให้หญิงสาวนึกหวั่นอยู่ไม่น้อย หากท่านรู้ว่าเธอขึ้นเตียงกับลูกชายของเขาคงไม่พอใจเป็นแน่ แต่คงไม่ได้โทรมาเพราะเรื่องนี้หรอกมั้ง
“สวัสดีค่ะคุณอุษา”
“วันศุกร์ตอนสี่โมงเย็นตาเหมมีนัดที่ไหนหรือเปล่า”
“สักครู่นะคะ... ไม่มีค่ะคุณอุษา”
“งั้นเธอลงว่านัดกับหนูนลินทานข้าวที่ดาดฟ้าของโรงแรมลักซ์ชัวรี่ด้วยแล้วกัน”
“ท่านคะ พายคงต้องถามบอสก่อน”
“ไม่ต้องถามหรอก ตาเหมเขาชอบผู้หญิงแบบหนูนลิน ยังไงก็ไม่ปฏิเสธ”
น้ำเสียงแปลกๆมารดาของเจ้านายไม่ได้เป็นที่สนใจเท่ากับคำว่าเขาชอบแบบคุณนลิน เธออยากให้เป็นเรื่องที่แม่ของเขาคิดไปเอง
“บอสคะ สี่โมงเย็นวันศุกร์คุณอุษานัดบอสกับคุณนลินทานข้าว บอสตกลงไหมคะ"
“นลินเหรอ.. ครับ คุณลงตารางนัดไว้ให้ผมเลย"
เหมันต์ก้มหน้ามองหน้าจอไอแพดดังเดิมจึงไม่ได้เห็นสายตาที่มองเขาอย่างอาวรณ์
.....
นลิน คือผู้หญิงเพียบพร้อมกับเขาทุกกระเบียดนิ้ว เธอแทบจะไม่ผิดไปจากปาลิตามากนัก อีกไม่นานเขาคงหลงรักผู้หญิงที่ชื่อนลินอย่างแน่นอน
“คุณไปรอผมที่คอนโดก็ได้นะ เอาคีย์การ์ดไปสิ"
พิยดามองคีย์การ์ดสีเงินที่เขายื่นมันให้เธอก่อนจะส่งยิ้มให้เขาอย่างเคย
“พายเพลียๆน่ะค่ะ คืนนี้ขอพักนะคะ"
“คุณเพลียจริงๆเหรอ"
“ค่ะ"
เธอตอบกลับเขาทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง หากว่าคืนนี้เขาจะหาผู้หญิงคนอื่นมานอนก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
“ไปตรวจสุขภาพหน่อยไหมคุณ ผมว่าคุณดูซีดๆอยู่เหมือนกัน"
“ค่ะ"
เป็นครั้งแรกที่เลขาสาวไม่ได้รอให้เขาเดินขึ้นหน้าอย่างทุกครั้ง เหมันต์ได้แต่ขมวดคิ้วเมื่อเธอเดินห่างเขาออกไปเรื่อยๆ
“หมดโปรแล้วมั้ง"
“สม ไม่เจียมตัว คุณเหมเขาแค่เล่น ๆ สะเออะคิดว่าเขาจะเอาจริง"
“ระวังคุณอุษารู้เถอะ ได้หาเลขาใหม่กันให้วุ่นอีก"
คำพูดเหล่านี้ไม่ใช่ว่ามันจะไม่ถึงหูของหญิงสาว เธอได้ยินมันบ่อยครั้งเพราะคนเหล่านั้นตั้งใจให้เธอได้ยิน