ฉันมาทำอะไรตรงนี้?
เป็นครั้งที่สองที่ตั้งคำถามกับตัวเองตั้งแต่มาอยู่ผับบรรยากาศมันก็ดีมั้งพี่เพทายแนะนำฉันและพี่คนอื่นให้รู้จักพี่สาขาของฉันห้าคนและอีกสองคนเป็นพี่สาขาหนึ่งในนั้นก็แฟนซินเซีย
เนี่ยเดาไว้ไม่มีผิดว่าต้องเป็นแฟนกันแต่ในเพจเขาก็คาดเดากันไปเพราะทั้งคู่ไม่ได้ทำตัวหวือหวาบางคนก็บอกว่าไม่ใช่โดยที่ไม่รู้ความจริงแต่พักหลังเห็นแท็กกันบ่อยพอมาวันนี้พวกพี่เขาแซวก็ฟันธงได้แล้วแหละว่าคบกัน
พี่ทุกคนดูเป็นมิตรกับฉันดีโดยเฉพาะพี่เพทายที่เทคแคร์ดีมากยกเว้นก็แต่พี่โซ่ตอนที่ฉันยกมือไหว้พี่ทุกคนมีแค่เขาที่ไม่รับไหว้ฉันมิหนำซ้ำยังเมินหน้าหนีจนต้องรีบลดมือลงแก้เก้อ
อยากเคารพตายแหละ!
“มิกิเบื่อหรือยังอยากกลับโต๊ะไหมพี่พากลับ?”พี่เพทายเดินเข้ามาถามหลังจากที่ออกไปสูบบุหรี่ฉันพยักหน้าให้เพราะอยากกลับแล้วคิดว่าที่โต๊ะคงมีคนกลับมาบ้างอีกอย่างฉันหายมาเกือบชั่วโมง
“เฮ้ย! เดี๋ยวกูไปส่งน้องก่อนนะ”
“อ้าว น้องมิกิกลับแล้วเหรอ”พี่ไฟหันหน้ามาถามฉัน
“ค่ะ งั้นลาแล้วนะคะพี่ๆ ..สวัสดีค่ะ”
“ครับ”
เมื่อบอกลาทุกคนแล้วพี่เพทายก็พาเดินกลับเมื่อมาถึงก็อย่างที่คิดไว้พวกเจ้แบมกลับโต๊ะมาแล้วแต่ละคนดูสภาพยับเยินเกันราวกับไปทำสงครามยิ่งพวกรุ่นพี่หันมาเห็นพี่เพทายยิ่งทำตาเป็นประกายเหมือนเห็นดาราไอดอลอย่างไรอย่างนั้น
ยังไม่ทันที่จะทักทายอะไรพี่เพทายก็ขอตัวกลับไปก่อนโดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำทั้งที่เมื่อกี้พึ่งไปมาฉันเลยเดินกลับเข้าไปที่นั่งคนเดียวโดยมีสายตาตั้งคำถามจากทุกคนในโต๊ะ
“อะไรยังไงเนี่ย”เจ้แบมแซวขึ้นมาก่อนเพื่อน
“พี่สาขาค่ะ ฮ่า ฮ่า”
“จริงไหมทำไมเพทายดูแลดีเว่อร์”พี่มะเหมี่ยวแทรกขึ้นมาเจ้แกเป็นเพื่อนในทีมเจ้แบม
“จริงค่าพอดีเจอกันพี่เขาเลยพาไปไหว้พี่คนอื่น”
“อุ๊ย!ไม่ใช่ว่าไปโต๊ะของแก๊งหนุ่มฮอตมานะ”ฉันพยักหน้าให้เจ้แบมจากนั้นสาวแท้สาวเทียมในโต๊ะก็กรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่
“อยากย้ายไปเรียนวิศวะบ้างจะทันไหม”
“ไม่ทันแล้วเจ้เหมี่ยวเรียนจนจะจบแล้ว”พี่ลี่เอ่ยขัดเจ้มะเหมี่ยวจนฉันอดยิ้มไม่ได้พอทุกคนกลับมาที่โต๊ะฉันก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นไม่อยากอยู่กับพี่ภีมสองต่อสอง
เวลาเที่ยงคืน
สภาพแต่ละคนตอนนี้คือไม่ไหวแล้วจ้ายิ่งมีแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้สนุกขึ้นจากตอนแรกฉันเกร็งกับพี่ทุกคนตอนนี้คือม่วนจอยมากเพราะพี่ภีมกลับไปแล้วเลยเหลือแค่เหล่าสาวๆทั้งโต๊ะ
“เอ้า ชน!!!”
เจ้แบมเจ้าภาพงานเอ่ยชนพร้อมชูแก้วขึ้นมากลางวงไม่รู้ว่าชนกันไปกี่แก้วแล้วรู้แค่แอลกอฮอล์ในร่างกายกำลังทำงานเพราะสมองและร่างกายดูเชื่องช้าไปหมดแสงสีในผับยิ่งทำให้ตาลายมากขึ้นกว่าเดิมก่อนจะหลุดจากภวังค์เมื่อมีคนมาสะกิดแขนของฉันเมื่อเพ่งมองอีกฝ่ายชัดๆถึงรู้ว่าเธอเป็นใคร
เป็นเหมย รูมเมทของฉันเอง!!
“หวัดดีมิกิมาเที่ยวด้วยเหรอ”
“อืม”ฉันขานรับในลำคอ
“มากับใคร” เธอถามพร้อมกับสอดส่ายสายตามองเข้ามาในโต๊ะที่มีพวกรุ่นพี่นั่งอยู่
“มากับรุ่นพี่น่ะ”
“อ๋อ งั้นไม่กวนแล้วไว้เจอกันที่หอนะ”
“อะเค”
ฉันฉีกยิ้มแห้งให้อีกฝ่ายเพราะแปลกใจที่เธอเข้ามาทักตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันเราก็ยังไม่ได้คุยกันอีกเลยยิ่งเธอทำตัวแปลกเหมือนมองหาใครบางคนฉันก็ยิ่งมั่นใจว่าเธอคงไม่ได้อยากมาทักหรอก
“เพื่อนเหรอมิกิ”เจ้มะเหมี่ยวถามพลางปรายตามองเหมยที่เดินออกไปไม่ไกล
“รูมเมทค่ะ”
เจ้พยักหน้าแล้วชวนพวกเรายกแก้วกันต่อตอนนี้พี่ลี่คือไปแล้วจ้าล้มฟุบลงกับโต๊ะเลยแต่สงครามยังไม่จบยังเหลือเจ้แบมเจ้มะเหมี่ยวและฉัน
ครั้งแรกที่ดื่มก็คือตอนรับน้องสายรหัสที่พี่เขาบังคับให้กินไม่งั้นจะไม่รับเข้าสายจากตอนแรกที่ปฏิเสธเสียงแข็งว่าจะไม่กินถึงขนาดคิดในใจเลยว่าถ้าไม่รับเข้าสายก็ไม่เป็นไรแต่ครีมก็เตือนสติฉันว่าชีวิตเราเป็นสัตว์สังคมไม่ว่าเราจะหลีกหนียังไงเราก็ต้องมีสังคมอยู่ดีคิดซะว่าฝึกไว้ก็ไม่เสียหายหลังจากนั้นไปเลี้ยงสายก็เลยยอมดื่ม
วันนี้เลยพอประคองสติตัวเองได้บ้างไม่ถึงขนาดคอพับคออ่อนไปกับโต๊ะแบบพี่ลี่
ฉันขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำเพราะปวดฉีโชคดีที่ห้องน้ำคนไม่เยอะรอแค่แป๊บเดียวก็ได้เข้าแล้วตอนยกไม่เมาแต่ตอนไม่ยกกลับรู้สึกเมาซะแล้ว
ปวดหัวชะมัด
มือที่กำลังจะปลดล็อกประตูชะงักเมื่อได้ยินเสียงภายนอกห้องน้ำคุยกันถ้าไม่ใช่ว่าเธอคือหัวข้อสนทนาของคนด้านนอกเธอคงจะเปิดประตูออกไปแล้ว
“ไหนแกบอกว่าเห็นพี่เพทายไง”
“ก็ฉันเห็นจริงๆ”
“แกอาจตาฝาดก็ได้คนแบบเขาเนี่ยนะ”
“ฉันยังไม่เมานะพี่เพทายหล่อขนาดนั้นอีกอย่างรูมเมทเธอก็หน้าตาดีฉันจำได้แม่นเลย”
“หน้าตาแอ๊บแบ๊วแบบนั้นเหรอที่แกบอกว่าหน้าตาดี”เสียงเยาะเย้ยแบบนี้มีคนเดียว…เหมย!!
“ขอโทษๆ ก็หน้าตาดีน้อยกว่าแก”
“ไม่แน่มันอาจจะรู้จักกับพี่เพทายจริงๆ ก็ได้ทำตัวแอ๊บใสเหมือนตัวเองบริสุทธิ์ผุดผ่องที่แท้ก็กลวงนี่เอง!!”
“อุ๊ย..แกว่าแรงไปแล้วนะเหมย”
“ผู้หญิงคนไหนรู้จักกับพี่เพทายแกคิดว่าจะเหลือเหรอ”
“ก็จริงของแก”
“รีบเติมปากก่อนเผื่อออกไปเจอพวกพี่เขา”
“แกต้องเดินแถวโซนวีไอพีเลยนะถึงจะเจอพวกหนุ่มฮอตของมหาลัยน่ะ”
“เออน่ะ…เผื่อเจอแกก็รีบเติมหน้าได้แล้ว”
“อือ”
แกร็ก!
เมื่อสองคนนั้นออกไปแล้วฉันถึงได้เปิดประตูออกมาไม่คิดว่าเหมยจะคิดกับฉันแบบนี้อย่างน้อยเราก็เป็นรูมเมทกันมาครึ่งเทอมมีอะไรก็แบ่งปันเธอตลอดถึงจะทะเลาะกันบ่อยก็เถอะ
รู้สึกไม่ดีเลย ไม่อยากกลับไปอยู่ห้องด้วยอึดอัด
ฉันเดินกลับมาดื่มที่โต๊ะพยายามทำตัวให้สนุกที่สุดหลังจากเจอเรื่องที่ห้องน้ำมา
อึก อึก!
ร่างบางกลืนน้ำสีอำพันลงไปอย่างต่อเนื่องบรรยากาศเริ่มอยู่ตัวต่างคนต่างยกและมีคุยบ้างอาจจะไม่คึกคักเท่าช่วงแรกเพราะเริ่มเมากันมากแล้วโดยเฉพาะสาวน้อยตัวเล็กอย่างมิกิที่เมาจนพูดไม่รู้เรื่อง
วันนี้แบมและมะเหมี่ยวอาสาไปส่งมิกิที่หอพักถึงทางกลับจะคนละทางกันแต่พวกเธอก็ไม่อยากให้รุ่นน้องสาวลำบากนั่งแท็กกลับคนเดียวส่วนลี่แฟนมารับกลับไปแล้ว
หน้าผับ
แบมและมะเหมี่ยวพยุงรุ่นน้องสาวออกมาอย่างยากลำบากถึงเธอจะตัวเล็กแต่พอต้องมาอุ้มก็แอบลำบากเหมือนกันไหนจะชุดเดรสของทั้งสามคนอีกที่ค่อยข้างขยับตัวลำบาก
“เจ้จะพาหนูไปหน่ายยย” เสียงยานค้างจากริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้มเอ่ยเสียงดังเมื่อโดนพยุงมาถึงหน้าผับ
“เจ้จะพากลับหอ อยู่นิ่งๆอย่าดิ้น”
“ชนนน”
“อิแบมมึงเอากลับถูกคนไหมเนี่ยทำไมตอนมาไม่เป็นแบบนี้”มะเหมี่ยวกรีดร้องเมื่อเห็นสภาพรุ่นน้องสาวเมาหนักและยับมาก
“อ้าว มิกินี่”
แบมและมะเหมี่ยวกำลังพยุงคนตัวเล็กไปที่รถแต่บังเอิญเจอผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยทักรุ่นน้องสาวอย่างมิกิซึ่งพอมะเหมี่ยวเพ่งมองชัดๆก็พอจำได้เลือนรางว่าเป็นรูมเมทมิกิ
“น้องที่เป็นรูมเมทมิกิใช่ไหม”มะเหมี่ยวถามเหมยที่เดินเข้ามาหาพวกเธอ
“ค่ะ พี่กำลังจะพามิกิกลับหอใช่ไหม?”
“ใช่ๆ ว่าแต่หอน้องเขาไม่มีเวลาปิดใช่ไหมเพราะถ้าหอปิดพี่จะพามิกิกลับไปพักกับพี่ด้วยเลย”
“ไม่มีเวลาปิดค่ะแต่ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าหอพวกเรากำลังจะกลับเหมือนกันพี่ฝากมิกิกลับกับหนูก็ได้นะคะ”เหมยยิ้มหวานให้กับรุ่นพี่ทั้งสอง
มะเหมี่ยวเองก็จำเหมยได้เพราะตอนที่รุ่นน้องคนนี้มาที่โต๊ะเธอได้ถามมิกิไปแล้วเลยหันไปมองหน้าแบมอย่างขอความคิดเห็นเพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้วที่พักอยู่คนละทางพวกเธอเป็นห่วงมิกิแต่ดูเหมือนว่ารูมเมทของมิกิก็ดูไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร
“ก็ได้ งั้นเจ้ฝากมิกิด้วยนะ”แบมตอบตกลงก่อนจะช่วยเหมยและเพื่อนอีกคนมาพยุงมิกิไปที่รถของดาวเพื่อนเหมย
“พวกเจ้ไปก่อนนะขอบใจมากจ้ะ”
“ค่า…เดินทางปลอดภัยนะคะ”เหมยยิ้มหวานส่งท้ายรอจนเห็นว่าสองสาวรุ่นพี่มิกิขับรถออกไปจากบริเวณผับแล้วเธอถึงเผยสีหน้าร้ายกาจ
“ไหนว่าไม่ชอบมิกิทำไมอาสาเอากลับด้วยล่ะ”ดาวถามอย่างไม่เข้าใจเมื่อชั่วโมงก่อนเพื่อนเธอยังนินทารูมเมทอย่างมิกิอยู่เลย
“ใครบอกว่าฉันจะเอากลับ”
“เธอ..หมายความว่ายังไง?”
“ข้างบนผับมีห้องอยู่ไม่ใช่เหรอก็เอายัยนี่ไปพักข้างบนสักคืนสิ”
“นี่อย่าบอกนะว่าเธอจะ…”
“อืม”
“จะดีเหรอเหมย..ฉะฉันกลัวนะคือมัน”
“กลัวอะไรยัยนี่เมาไม่มีสติไม่รู้หรอกว่าเราทำ”
“ตะแต่ว่า”
“ไม่มีแต่รีบมาช่วยกันแบกได้แล้ว”
“อือ”
ผู้หญิงสองคนพยุงร่างบางกะทัดรัดเข้าไปด้านหลังผับเพราะมีทางขึ้นอีกทางเพื่อไปยังโซนที่พักข้างบนเหมยมองซ้ายมองขวาเธอคิดไว้แล้วว่าจะเอารูมเมทไปทิ้งไว้ที่ไหนเมื่อมาถึงชั้นหกเธอก็พามิกิไปยังห้อง609ทันทีห้องนี้เป็นห้องประจำของคู่ขาของเธอ
หนุ่มต่างสถาบันที่ชอบเอาผู้หญิงมากินหลังผับปิดและห้องนี้คือห้องประจำของเขาเธอส่งข้อความไปบอกเขาไว้แล้วว่าวันนี้จะเอาเหยื่อมาให้
ปึก!
“เหมยเอาจริงดิ”ดาวกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากพลางเอ่ยปากถามย้ำอีกครั้ง
“อย่าถามมากได้ไหมดาว”เหมยชักสีหน้าไม่พอใจ
“ก็ฉันกลัว”
“ป่ะ รีบไปได้แล้วก่อนจะมีคนมาเห็น”
เหมยรีบลากแขนดาวออกจากห้องไปทั้งกลัวคนเห็นและกลัวดาวจะปอดแหกล้มเลิกแผนการของเธอวันนี้ยังไงมิกิมันต้องโดนบ้าง
เหมยเกลียดมิกิเธอไม่ชอบคนที่ทำตัวเงียบๆ ใสๆ ท่าทางดูน่ารักและใจดีแบบมิกิเห็นแล้วขัดหูขัดตาที่ทำดีด้วยเพราะแค่ต้องการหารูมเมทอยู่เท่านั้นอีกอย่างอยู่กับมิกิก็ดีตรงที่ของใช้ต่างๆ เธอไม่ต้องเสียเงินซื้อเอง
เหตุผลสำคัญอีกอย่างคืออิจฉานั่นเองมิกิน่ารักแล้วไงเธอก็สวยเหมือนกันเรียนเก่งเหมือนกันทำไมทุกคนเอาแต่สนใจมิกิรวมถึงบรรดาผู้ชายของเธอด้วยยิ่งเห็นมีแต่คนเฟอร์เฟครายล้อมรอบตัวรูมเมทคนนี้เธอยิ่งอิจฉา!!!